กรุงแตกสมบูรณ์แบบ ๓๖-๓

2 พงศาวดาร 36:15-23

แม้ว่าพระเจ้าจะทรงส่งคนของพระองค์มาเตือนพระราชา และเจ้านายแห่งแผ่นดินยูดาห์ครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านอาโมส  ท่านเยเรมีห์ และอีกหลาย ๆ ท่าน แต่… ไม่มีใครฟัง

พระเจ้าทรงสงสารประชาชนที่กำลังจะต้องกลายเป็นทาสในเมืองไกล พระองค์ปรารถนาจะให้พวกเขากลับใจเสียก่อนที่สิ่งร้าย ๆ จะเกิดขึ้น แต่ผู้คนกลับเยาะเย้ยคนของพระเจ้า

“พวกท่านมาพูดอะไรให้เรา  อย่างไรเราก็อยู่สบายแล้ว ถึงจะเป็นเมืองขึ้น ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก   อย่ามาทำให้เราต้องกลับจงกลับใจเสียให้ยาก”

“พวกท่านเอาบอกว่า กล่าวคำของพระเจ้า  ท่านนะ โง่จริง”  พวกเขาดูหมิ่นคนของพระเจ้า  เท่ากับดูหมิ่นพระองค์ผู้ทรงส่งคนเหล่านั้นมา

พระเจ้าทรงโกรธพวกเขา ที่โง่เขลาแต่ยังอวดฉลาด  พระองค์ทรงโกรธจนไม่อาจยับยั้งความโกรธนั้นได้

น่ากลัวจริง ๆ

เรากลัวไหม?   แต่พวกเขาไม่กลัวกันเลย  คิดว่าจะอยู่กันอย่างสบายใจอย่างนี้ตลอดไป

ในที่สุด พระเจ้าทรงใช้เนบูคัดเนสซาร์มาจัดการกับเขาอีกเป็นครั้งที่สอง!

 

เนบูคัดเนสซาร์สังหารผู้ชายจำนวนมากมายที่อยู่ในสถานนมัสการ   พวกเขาถูกแทง ฟันอย่างโหดเหี้ยม และคนที่เหลือคือเด็ก ผู้หญิงและคนชรา  รวมไปถึงข้าราชการทั้งหลาย คนเก่ง ๆ ต้องถูกกวาดไปเป็นเชลยในนครบาบิโลน

ราชาแห่งบาบิโลนได้ปล้นเอาเครื่องใช้ทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่อีกไปหมด ไม่ว่าจะจากในพระวิหารหรือราชวัง

ในที่สุด ก็จุดไฟเผานครเยรูซาเล็ม ทำลายทุกสิ่งที่มีค่าซึ่งเอาไปไม่ได้  คนทั้งหลายต้องไปอยู่ในบาบิโลนนานถึง 70 ปี ตามที่พระเจ้าตรัสผ่านท่านเยเรมีห์  ….

ภาพจาก http://www.preteristarchive.com

แต่…สิ่งที่น่าสนใจมากก็คือ

เกิดอะไรขึ้นบ้างในยุคสมัยก่อนที่พวกเขาจะถูกทำลายจริง ๆ

เราได้ยินถึงข่าวพระราชาองค์นั้นดี องค์นี้ชั่ว

ต่อไปเราจะมาดูว่า พระเจ้าทรงห่วงใยคนที่ดื้อดึงเหล่านี้มากเพียงไร พระองค์ทรงทำอย่างไรบ้างกับพวกเขา  และเหตุการณ์ทั้งหมด มันเป็นเรื่องราวที่จะเป็นตัวอย่างให้เรารู้ว่า  เราจะเดินไปกับพระเจ้าผู้ทรงรักเรา ให้เป็นที่พอน้ำพระทัยที่สุดได้อย่างไร