มีคาห์ 7-1 ไม่เหลือคนไว้ใจได้

มีคาห์ 7:1-7

วิบัติมาถึงข้าพเจ้าแล้ว  เพราะว่า ข้าพเจ้ากลายเป็นเหมือนตอนที่ผลไม้ฤดูร้อนกำลังถูกเก็บเกี่ยว  เหมือนตอนที่องุ่นถูกเก็บเรียบ จึงไม่มีเหลือพวงองุ่นที่จะกิน  ไม่มีมะเดื่อต้นฤดูที่ข้าพเจ้าอยากกิน
คนของพระเจ้าสูญหายไปจากแผ่นดิน  ท่ามกลางมนุษย์นั้นไม่เหลือคนชอบธรรม  ทุกคนรอซุ่มอย่างกระหายเลือด แต่ละคนล่าพี่น้องของตนเองด้วยตาข่ายดัก
มือของพวกเขาเชี่ยวชาญในการร้ายอย่างยิ่ง  เจ้านายและผู้พิพากษาร้องเรียกสินบน  และบุคคลที่ยิ่งใหญ่กล่าวความปรารถนาอันชั่วช้าจากส่วนลึกของตนออกมา  พวกเขาต่างสมคบกันทำอาชญากรรม
แม้คนดีที่สุดในพวกเขาก็ยังเป็นดั่งต้นหนาม คนที่เที่ยงธรรมในหมู่พวกเขาก็เลวร้ายอย่างรั้วหนาม
วันของผู้เฝ้าดูมาถึง  วันแห่งการลงโทษมาถึงแล้ว  ถึงเวลาของความวุ่นวายสับสน
อย่าวางใจเพื่อนบ้าน อย่าไว้ใจเพื่อน ปิดปากให้สนิทแม้กับเธอที่นอนในอ้อมกอดของเจ้า
เพราะลูกชายดูถูกพ่อ และลูกสาวก็ต่อต้านแม่  ลูกสะใภ้โวยวายใส่แม่สามี  ศัตรูของแต่ละคนนั้นคือคนในครอบครัวของตนเอง
แต่สำหรับข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าจะหวังใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า  ข้าพเจ้าจะรอคอย มุ่งหวังในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า  พระเจ้าของข้าพเจ้าจะทรงฟังข้าพเจ้า

มีคาห์กำลังอธิบายถึงช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรเหลือ …. คนดี ๆ ก็ไม่เหลือเลย ซึ่งแม้ทุกวันนี้เราก็มองเห็นในสังคมของเรา มีแต่คนร้ายต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน หรือแม้คนในครอบครัวก็กินเลือดกินเนื้อกัน    แล้วที่ร้ายคือ ผู้นำของสังคมนั้น เป็นคนที่นำความชั่วร้ายเข้ามาแทนที่จะเป็นผู้พิทักษ์สันติ

วันแห่งการลงโทษของพระเจ้ามาถึงอย่างแน่นอน และจะเป็นวันที่คนงุนงงว่า เกิดอะไรขึ้นกันนี่
มีคาห์ได้บอกว่า เขาจะยังหวังในพระเจ้า … และเขาเชื่อว่า พระเจ้าจะทรงฟังคำอธิษฐานของเขา

วันแห่งการลงโทษมาถึงแล้ว  ถึงเวลาของความวุ่นวายสับสน…  พวกเขาเคยทำให้ผิดเป็นถูก  ดำเป็นขาว คราวนี้ การพิพากษาลงโทษจริง ๆ มาถึง พวกเขางุนงงว่า นี่มันอะไรกัน  ทำไมไม่เหมือนที่เคย…

เมื่อเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ในสังคมของเรา ความวุ่นวายทางการเมือง คอรัปชั่น  การทุจริต คดโกง สินบน  พลิกคดี… พวกเราจะทำอย่างไร  จะทำเหมือนมีคาห์ไหมที่บอกว่า ข้าพเจ้าจะหวังใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า  ข้าพเจ้าจะรอคอย มุ่งหวังในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า  พระเจ้าของข้าพเจ้าจะทรงฟังข้าพเจ้า