รัชกาลแสนสงบ ๑๕-๒

2 พงศาวดาร 15:9-19

พระราชา จะเป็นผู้ตัดสินว่า ทั้งประเทศจะอยู่ภายใต้พระพรของพระเจ้าหรือไม่ …. นี่เป็นความรับผิดชอบของผู้นำ   เขาจะต้องเดินตามที่พระเจ้าทรงพอพระทัย    เมื่อเขาทำเช่นนั้น พระพรจะตามมา….

เมื่อผู้กล่าวคำของพระเจ้าได้ทูลให้กำลังใจ  ราชาอาสาก็มีพระทัยกล้าหาญขึ้นมาก ไม่ทรงกลัวคำต่อต้านของใครทั้งนั้น

 

มีประชาชนเป็นจำนวนมากที่หลบหนีมาจากเอฟราอิม มหัสเสห์ทางเหนือ และสิเมโอน   พวกเขาพูดกันว่า
“ดูซิ  เจ้าเห็นไหม พระเจ้าสถิตอยู่กับราชาอาสา  แล้วดูซิว่า ประเทศที่พระองค์ปกครองนั้น เจริญขึ้นขนาดไหน… เราไปอยู่กับพระองค์ดีกว่า”

 

ปีนั้น ที่รบชนะและมีข้าวของริบมาด้วย   เป็นปีที่ 15  ที่ราชาอาสาครองอิสราเอล

ประชาชนเข้ามาชุมนุมในกรุงเยรูซาเล็ม และถวายเครื่องบูชาเป็นวัวผู้ 700 ตัว และแกะอีก 7000  ตัว  มากมายมหาศาลเหลือเกิน!
ที่ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นที่จดจำเพราะ  ……ประชาชนได้ทำพันธสัญญากันว่า ในชีวิตของพวกเขา  พวกเขาจะแสวงหาพระเจ้าด้วยสุดจิต สุดใจ

หมายความว่าอย่างไรกันหรือ?

เขาจะยกย่องพระเจ้าในชีวิตประจำวันของเขา ทำอะไรก็เกรงกลัวพระเจ้า ไม่ทำบาป พวกเขาจะคอยฟังและดำเนินตามพระบัญญัติของพระเจ้า … และไม่ใช่เดี๋ยวทำ เดี๋ยวเลิก  แต่เขาจะทำสิ่งเหล่านี้ตลอดไป

 

พวกเขายังเสนอว่า ใครไม่แสวงหาพระเจ้า สมควรตาย!

“พวกเราจะติดตามพระเจ้า”   คนหนึ่งตะโกนนำ

“ใช่แล้ว  เราจะติดตามพระเจ้าตลอดไป”  คนอื่น ๆ  ร้องตอบ

อู่    อู๊     อู่  อู๊     เสียงแตรดังตามมา

วันนั้น พวกเขามีความสุขมากที่ได้สัญญากับพระเจ้าอย่างสุดใจ

พวกเขาดีใจที่จะตั้งใจแสวงหาพระเจ้าด้วยสุดกำลังของเขา

และเมื่อเขาทำเช่นนั้น

พระเจ้าก็ทรงพบกับเขา ทุกวัน

เขาได้ยินเสียงของพระเจ้า  เดินตามพระองค์ทุกวัน

เมื่อเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง พระเจ้าก็อวยพรพวกเขาให้สงบรอบด้าน ไม่มีศึกสงครามเข้ามา

 

ส่วนพระราชาทำสิ่งที่มากไปกว่านั้น

พระองค์ทรงถอดตำแหน่งพระราชชนนีออกจากพระมารดาของพระงอค์เอง  เพราะพระมารดามาอาคาห์องค์นี้ สร้างเทวรูปและชักชวนให้คนมากมายไปบูชากราบไหว้เทวรูปเหล่านั้น

พระองค์ทรงทำลายสิ่งที่พระมารดาบูชาทั้งหมด และนำไปเผา ไปบดให้ละเอียดจนไม่เห็นซากเลย

พระองค์นำข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ และของ ๆ พระราชบิดา มาถวายเพื่อให้ใช้ประโยชน์ในพระวิหารอย่างมากมาย

และประเทศปลอดสงครามเป็นเวลานาน

พระราชาก็มีพระทัยดี บริสุทธิ์ติดตามพระเจ้ามาตลอด

จนกระทั่งปีที่ 35 ของรัชกาล