เสียดายที่ไม่ฟัง ๓๕-๓

2 พงศาวดาร 35:20-27

หลังจากที่ราชาโยสิยาห์ได้ฟื้นใจให้คนอิสราเอลได้กลับมาหาพระเจ้าแล้ว  พระองค์ก็ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองอีกหลาย ๆ ทางจนรุ่งเรือง

อยู่มา…ฟาโรห์เนโคแห่งอียิปต์ ได้นำทัพไปสู้ศึกที่แม่น้ำยูเฟรตีส  ซึ่งการศึกครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับยูดาห์  แต่ราชาโยสิยาห์กลับทรงนำทัพไปเผชิญกับฟาโรห์เนโค

ฟาโรห์เนโคก็แสนจะดี  พระองค์ไม่ทรงประสงค์ที่จะทำร้ายยูดาห์ในเวลานี้แม้แต่นิดเดียว  จึงส่งคนนำสาส์นมายังราชาโยสิยาห์

สาส์นนั้นมีความว่า    “ราชาแห่งยูดาห์เอ๋ย    เราทั้งสองมีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกัน    วันนี้เรามิได้มาต่อสู้ท่านแต่ต่อสู้กับประเทศซึ่งเราทำสงครามด้วย     เพราะพระเจ้าทรงบัญชาให้เราเร่งรีบทำสงคราม  ดังนั้น ขอท่านหยุดที่จะขัดขวางพระเจ้าผู้สถิตกับเรา เกรงว่าพระองค์จะทรงทำลายท่านเสีย”  เป็นคำเตือนที่นุ่มนวลเสียจริง

เมื่อราชาโยสิยาห์อ่านสาส์น  แทนที่จะทรงโล่งพระทัย  กลับทรงคิดไปอีกอย่างหนึ่ง
ราชาโยสิยาห์มิได้ฟังเลยสักนิด  พระองค์กลับปลอมพระองค์เอง เพื่อไปสู้กับฟาโรห์เนโค

ราชาโยสิยาห์มิได้เฉลียวพระทัยว่า สิ่งที่ฟาโรห์เนโคกล่าวนั้นมาจากพระเจ้าโดยตรง

ทรงเข้าไปสู้ที่หุบเขาเมกิดโด

วันนั้นเอง นักแม่นธนูของฟาโรห์เนโคได้ยิงธนูถูกราชาโยสิยาห์อย่างจัง

ปัก!!

“โอ้ย!   เราถูกยิง… พาเราออกจากพื้นที่เดี๋ยวนี้ !” ราชาโยสิยาห์ทรงสั่งพลขับรถม้า

พวกเขาพาพระราชาออกจากรถรบไปอยู่ในรถอีกคัน  และนำพระองค์กลับมายังนครเยรูซาเล็ม
ราชาโยสิยาห์ได้สิ้นพระชนม์อย่างที่ไม่สมควรเลย     พระองค์ทรงลืมไปว่า ทรงควรที่จะทูลต่อพระเจ้าก่อน หากไม่แน่พระทัย  ถ้าเพียงพระองค์ทรงฟังคำเตือนของฟาโรห์เนโคเสีย  ก็จะไม่เป็นอย่างนี้  ราชาโยสิยาห์ทรงคิดอะไรนะในเวลานั้น?

คนทั้งยูดาห์อาลัยกับการจากไปของราชาโยสิยาห์ และเขาเก็บพระศพของพระองค์ในถ้ำเก็บพระศพของพระราชาองค์ก่อน  ๆ

มีการร้องไห้คร่ำครวญถึงราชาโยสิยาห์  และได้ทำต่อมากันเป็นประเพณีเลยทีเดียว