9 พฤษภาคม 2013 อย่าซ้ำเติม

เออ เจ้าไม่ควรยิ้มเมื่อเขาพบกับภัยพิบัติ
ในวันที่เขาถูกทำลาย 

เจ้าไม่ควรเข้าริบทรัพย์สินของเขา
ในวันที่เขาถูกทำลาย

ถอดความจาก โอบาดีห์ 13

Daily2013_5_9-1

 

 

อิสอัคกับราเชล มีลูกชายแฝดสองคน พ่อรักพี่เอซาว  แม่รักน้องยาโคบ

ชาวเอโดม เป็นลูกหลานของเอซาว  ขณะที่อิสราเอลเป็นลูกหลานของยาโคบ

ในวันที่อิสราเอลแสนลำบาก  ขอเพียงเดินผ่านทาง

เอโดม ไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น

ไม่ช่วย ไม่สนใจ แถมเยาะหยัน
Daily2013_5_9-3

ท่านโอบาดีห์ ได้รับคำของพระเจ้ามา เพื่อเตือนเอโดมว่า

เขาอาจคิดว่า ไม่มีใครทำให้เขาล้มลงได้ เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในถ้ำสูง ๆ

แต่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย

พระองค์ให้ท่านโอบาดีห์มาเตือนพวกเขา

อ่านเรื่องของพวกเขาได้ที่นี่

8 พฤษภาคม 2013 ยูดาน้องชาย…

ยูดา ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ และเป็นน้องชายของยากอบ
เรียน… คนทั้งหลายที่พระเจ้าได้ทรงเรียกไว้ …

ถอดความจาก ยูดา 1

Daily2013_5_8-1เมื่อพระเยซูทรงเริ่มราชกิจของพระองค์แรก ๆ นั้น

น้อง ๆ ของพระองค์ก็แปลกใจ  และไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นกับตา

พวกเขาเติบโตมากับพระองค์  เรียกพี่เยซูมาโดยตลอด

คนที่ตระหนักในใจ และรู้ชัดว่า พระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าคือ มารีย์

แต่น้อง ๆ  หาได้รู้เรื่องนี้อย่างชัดเจนเหมือนมารีย์ไม่ ….

ในเวลาต่อมา พวกเขาจึงได้รับพระองค์

และพระเยซูเองก็ทรงปรากฏกับพวกเขาหลังจากที่พระองค์คืนพระชนม์แล้ว

Daily2013_5_8-2

 

ยากอบได้เขียนหนังสือยากอบ  และยูดาน้องชายอีกคนได้เขียนหนังสือยูดา

เขาบอกชัดว่า ตนเองเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์

คำอวยพรตอนจบจดหมาย ทำให้เรารู้ว่า เขาคิดอย่างไรกับพระเยซู

 พระผู้ช่วยให้รอดของเรา…พระเยซูคริสต์  องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

ทั้งในอดีต  ปัจจุบัน และในอนาคตต่อไปเป็นนิตย์

 

 

7 พฤษภาคม 2013 จดหมายท่านยากอบ

ท่านทั้งหลายจงสารภาพบาปต่อกันและกัน 

จงอธิษฐานเผื่อกันและกัน  เพื่อว่าท่านจะได้หายจากโรคต่าง ๆ 

คำอธิษฐานของคนชอบธรรมนั้น มีพลังมาก ทำให้เกิดผล

ถอดความจาก ยากอบ 5:16

Daily2013_5_7-1จดหมายที่ท่านยากอบส่งมาให้พี่น้องที่กระจัดกระจายอยู่นั้น

ได้ทั้งให้กำลังใจ  เตือนสติ  สั่งสอน เพื่อให้พวกเขารักกัน และกัน ห่วงใยกัน

จดหมายของท่านเป็นกำลังให้พวกเขารู้แนวทางที่จะเดินต่อไป

ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตาม

 เขาได้ช่วยกันและอธิษฐานเผื่อกันเสมอ
Daily2013_5_7-2พวกเขาจะอ่านจดหมายกันเมื่อมารวมตัวกัน

คนที่อ่านออก ก็จะอ่านให้คนที่อ่านไม่ออกฟัง

แม้กระทั่งเด็ก ๆ  ก็ได้ฟังจดหมายนั้นด้วย

พวกเขาต่างรับกำลังใจ

รับความสุขกันถ้วนหน้า เมื่อมีผู้ใหญ่เอาใจใส่พวกเขา

3 พฤษภาคม 2013 จดหมายให้พลัง

คนที่ทนต่อการทดสอบใจก็เป็นสุข  เพราะว่า เมื่อเขาทนได้
เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาไว้
แก่คนทั้งหลายที่รักพระองค์ 

ถอดความจาก ยากอบ 1:12

imageเมื่อรู้ว่า พี่น้องที่เชื่อในพระเจ้า กำลังพบการข่มเหง การทดลองต่าง ๆ

ยากอบมิได้นิ่งนอนใจ   แต่เขาไม่อาจจะช่วยเหลือทุกคนได้

พี่น้องเหล่านั้น กระจัดกระจายกันไปทั่วดินแดนแถบนั้น

เขาอธิษฐานเผื่อ  ช่วยคนที่ช่วยได้  และ…. เขียนจดหมายเพื่อให้กำลังใจ

image

จาก… ยากอบ ผู้รับใช้ของพระเจ้า และพระเยซูคริสต์

ถึง.. คนสิบสองเผ่าที่กระจัดกระจายอยู่นั้น

จดหมายฉบับที่ยากอบเขียนเมื่อสองพันปีก่อน

ยังคงสืบทอดมาให้เราอ่านจนทุกวันนี้

ไม่ได้เป็นพลัง และกำลังใจของคริสเตียนที่ถูกข่มเหงในเวลาโบราณนั้น

แต่ยังคงเป็นจดหมายแห่งชีวิตสำหรับพวกเราทุกคนวันนี้ด้วย!

2 พฤษภาคม 2013 การทนทุกข์

 

ท่านทั้งหลายชื่นชมยินดีในความรอด  แม้ว่าเดี๋ยวนี้

จำเป็นที่ท่านจะต้องทนทุกข์ชั่วขณะ ในการถูกทดลองต่าง ๆ

ถอดความจาก 1 เปโตร 1:6

image

ตั้งแต่ชาวยิว  ฟาริสี  เหล่าธรรมาจารย์ รวมไปถึงโรม ซึ่งกำลังครองดินแดนยูเดียอยู่นั้น

ต่างก็ไม่พอใจที่มีคนกลับใจมาเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์

เริ่มจากพวกเขาสมคบกันหาเหตุตรึงพระเยซูบนไม้กางเขนจนสำเร็จ

พวกเขาคิดว่า จะทำให้คนกลัว และยอมให้กับคำสั่งของพวกเขา

แต่คนที่เชื่อวางใจพระเยซูนั้น กลับเพิ่มมากขึ้น

มีอยู่ครั้งหนึ่งเพิ่มในวันเดียวถึง 3000 คน

คริสเตียนไม่ยอมทำตามสิ่งที่พวกเขาต้องการ คือเลิกเชื่อพระองค์เสีย

image

 

ไม่ว่าพวกเขาจะถูกเผา  ถูกขว้างจนตาย  หรือถูกเข่นฆ่าด้วยวิธีต่าง ๆ

คนของพระองค์ก็ยังสัตย์ซื่อต่อพระองค์ แม้พวกเขาถูกกระทำอย่างทารุณ

จักรพรรดิเนโรเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า ทำร้ายคริสเตียนมากที่สุด

ถึงกระนั้น เปโตร เปาโล ยากอบ และคนที่เชื่อ ต่างยังหนุนใจกันและกัน

ยังประกาศพระนามยิ่งใหญ่ที่นำสู่ความรอด….

ในประวัติศาสตร์เราพบว่า เหล่าคนที่ประกาศพระนามของพระองค์

มักถูกประหาร

แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดที่จะกล่าวถึงพระนามเยซู

1 พฤษภาคม 2013 คริสเตียนกับความทุกข์

เมื่อเรามาถึงเยรูซาเล็ม พี่น้องต่างรับรองเราด้วยความยินดี

วันรุ่งขึ้น เปาโลกับเราทั้งหลาย

จึงเข้าไปหายากอบ และเหล่าผู้ปกครองก็อยู่กันพร้อมหน้า

ถอดความจาก กิจการ 21:17-18
 Daily2013_5_1-1

เมื่อคริสเตียนไปที่ไหน ก็มักจะต้องตามหากัน พบกัน และคุยกันเรื่องของพระเจ้า

วันนั้นที่เปาโลพบกับยากอบ ต่างได้คุยกันถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ

ระหว่างทางที่เปาโลกับกลุ่มของท่านได้ออกไปประกาศพระนามพระเยซู

Daily2013_5_1-2

ที่ ๆ เปาโลเดินทางไปนั้น ท่านได้เจอกับทั้งคนที่ต้อนรับ และคนที่เกลียดชัง

ที่แน่ ๆ คือ มีคนมากมายที่พยายามกำจัดท่านเปาโล

มีการก่อความวุ่นวายตามเมืองต่าง ๆ ที่ท่านเดินทางไป

แค่ท่านเปาโลที่เดินทางไปแล้วไม่นานก็ออกมายังถูกข่มเหง

บางครั้งท่านถูกคนเอาหินขว้าง

และที่แน่ ๆ คือ พี่น้องคริสเตียนท้องถิ่นยิ่งถูกข่มเหงยิ่งกว่านั้นอีก

30 เมษายน 2013 พระเจ้าทรงตอบ

เปโตรจึงถูกจำไว้ในคุก  

แต่ว่า ทุกคนในคริสตจักรได้อธิษฐาน

ขอพระเจ้าเพื่อเปโตรอย่างร้อนใจ

ถอดความจาก กิจการ 12:5

Daily2013_4_30-1ยากอบอีกท่านซึ่งเป็นพี่ชายของยอห์นถูกประหาร

และเปโตรก็ถูกจับเข้าคุกด้วย

เพื่อน ๆ ของท่านในคริสตจักรก็พากันร่วมใจกันอธิษฐานอย่างร้อนอกร้อนใจ

ท่านยากอบ น้องของพระเยซูก็อธิษฐานอยู่อีกที่หนึ่ง

เท่ากับมีการอธิษฐานขอพระเจ้าเรื่องเดียวกันหลายแห่งในเมืองนั้น

Daily2013_4_30-2

และพระเจ้าก็ตอบคำอธิษฐานอย่างอัศจรรย์

ทูตสวรรค์ได้พาเปโตรเดินออกมาจากคุกทั้ง ๆ ที่มีทหารเฝ้าอยู่ !

เมื่อท่านมาถึงบ้านหนึ่งจึงส่งคนไปบอกข่าวให้ท่านยากอบทราบ

แน่นอน คืนนั้น มีแต่ความยินดีกันทั่วบ้านทั่วเมือง

ถ้าเราอธิษฐานเพื่อเพื่อนของเราด้วยใจร้อนรน… พระเจ้าทรงตอบ….

 

26 เมษายน 2013 ยากอบกับเปโตร

วันที่สาม พระเยซูทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมา….

ภายหลัง  พระองค์ปรากฏแก่ยากอบ และแก่อัครทูตทั้งหมด 

ถอดความจาก  1 โครินธ์ 15:4,7

Daily2013_4_26-2

 

สามปีสุดท้ายของพระเยซูในโลกนี้พร้อมกับอัครสาวก และเพื่อนคนอื่น ๆ นั้น

พระเยซูทรงออกไปประกาศให้คนกลับใจจากความบาป

และหันเข้ามาให้พระเจ้าทรงครอบครองใจ

ทรงรักษาคนป่วยให้หายจากสารพัดโรคร้าย

เปโตรสาวกคนหนึ่ง และ ยากอบ..น้องชายของพระองค์  ก็ได้เห็นเหตุการณ์เหล่านั้นกับตาของตัวเอง

Daily2013_4_26-1เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  ถูกเก็บไว้ในถ้ำ และวันที่สามทรงฟื้นขึ้นมา

พระองค์ก็ทรงมาพบกับอัครทูต เพื่อน ๆ ของพระองค์

น่าแปลกที่มีบันทึกชัดเจนว่า

พระองค์มาพบยากอบด้วย…   พระองค์ทรงรักเขา และให้ความรู้สึกที่พิเศษกับเขา

ขณะที่ทรงเป็นมนุษย์ ก็ทรงใช้ชีวิตกับพวกเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ

ย่อมมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยาวนานกว่าสาวกอื่น ๆ

 

25 เมษายน 2013 ยากอบเป็นใครกัน?

โยเซฟ อย่ากังวลที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของเจ้าเลย

เพราะว่าผู้ที่ปฏิสนธิ์ในครรภ์ของเธอ 

เป็นไปโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์

ถอดความจาก มัทธิว 1:20

Daily2013_4_25-1.2

 

 เมื่อโยเซฟรับรู้จากทูตสวรรค์ว่า มารีย์ตั้งครรภ์ด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า

ผู้ที่มาเกิดในครรภ์ของเธอเป็นพระบุตรของพระเจ้า   เขาเป็นผู้ที่จะต้องดูแลเธอ

เขาจึงรับเธอไว้  และมิได้เกี่ยวข้องกับเธอเลยจนกระทั่ง พระเยซูประสูติมาแล้ว

หลังจากนั้น โยเซฟและมารีย์จึงมีลูกชาย ลูกสาวมาอีกหลายคน

สองคนในลูก ๆ ของเขาคือ ยากอบ และยูดาห์

ยากอบจึงได้ชื่อว่า เป็นน้องชายของพระเยซู

 

Daily2013_4_25-1

พระคัมภีร์เล่าว่า ครอบครัวนี้ อาศัยอยู่ในเมืองนาซาเร็ธ

ใคร ๆ ในท้องที่รู้จักพระเยซูว่าเป็นลูกของโยเซฟ

พวกเขาจึงไม่ยอมรับว่า พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า

อย่างที่พระองค์ตรัส

แต่คนที่รู้ดีสองคนคือ มารีย์ และโยเซฟ …

ทั้งสองได้ดูแลพระเยซูอย่างดีที่สุดตามฐานะและกำลังของเขาทั้งสอง

 

24 เมษายน 13 คนเก็บภาษีนักเขียน

พระเยซูทรงเห็นคนหนึ่งชื่อเลวี   นั่งอยู่ที่ด่านภาษี 

จึงตรัสกับเขาว่า “จงตามเรามาเถิด”

เขาก็สละสารพัดสิ่ง  ลุกขึ้นตามพระองค์ไป 

ถอดความจาก ลูกา 5:27 

(เลวีคนนี้ เป็นคนเดียวกับมัทธิว)

Daily2013_4_24ท่านมัทธิว เคยเป็นคนเก็บภาษีมาก่อนที่พระเยซูจะทรงเรียกเขาไปเป็นสาวก

ดังนั้น จึงมีความสามารถในการเขียนเป็นอย่างดี

พระเจ้าทรงใช้ให้เขาเขียนเรื่องราวที่ยาวกว่าท่านมาระโกเสียอีก

เขาเคยจัดงานเลี้ยงที่บ้านให้กับพระเยซู และสาวกของพระองค์ด้วย

หลังจากที่พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์แล้ว  ท่านมัทธิวได้ประกาศพระนามของพระองค์

ในเยรูซาเล็ม และอีกหลาย ๆ แห่ง เช่น  เปอร์เซีย  เอธิโอเปีย ซีเรีย และกรีซ

(Warren W. Wiersbe, The Bible Exposition Commentary, 1:13.)

 

23 เมษายน 2013 แพทย์นักเขียน

ท่านเธโอฟีลัสที่เคารพยิ่ง…
ข้าพเจ้าเองได้สืบเสาะค้นคว้าอย่างถี่ถ้วนตั้งแต่ต้น
จึงเรียบเรียงเรื่องตามลำดับเวลา
เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ท่าน

ถอดความจาก ลูกา 1:1,3

Daily2013_4_23

หมอลูกา เป็นแพทย์ที่ได้รับรู้เรื่องราวของพระเยซู

เขาแปลกใจกับสิ่งที่หลายคนได้ประสบ… หายโรคอย่างมหัศจรรย์!

เขากลายมาเป็นเพื่อนรักของท่านเปาโล มาระโก

และได้ทำงานในการประกาศเรื่องราวของพระเยซูด้วยกัน

ในแถบตุรกี และบางส่วนของตะวันออกกลาง

เขาได้บันทึกเรื่องราวของพระองค์ไว้สองเล่ม

คือลูกา และกิจการ

ขอบคุณนะครับท่านลูกา ที่ท่านได้ทำให้พวกเราได้รับรู้

เหตุการณ์อัศจรรย์ ความรักของพระเจ้า และเรื่องราวที่พระเยซูทรงเล่า

ดีจริงครับ!

 

19 เมษายน 2013

ดังนั้น พระเจ้าจะประทานหมายสำคัญให้ท่าน!

คือหญิงสาวพรหมจารีคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชาย 

และเขาจะเรียกนามบุตรชายนั้นว่า อิมมานูเอล 

ถอดความจาก อิสยาห์ 7:14

 

Daily2013_4_19

 

 

อิสยาห์ได้ทูลบอกราชาอาหัสว่า  จะถามอะไรก็ถามมา  จะขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าก็ได้เลย

แต่ราชาอาหัส ทรงต้องการทำตามใจของพระองค์เอง

ไม่สนใจที่จะฟังพระคำของพระเจ้า อ้างอย่างนั้นอย่างนี้

พระเจ้าจึงทรงให้อิสยาห์บอกสิ่งสำคัญแก่พระราชา

อิสยาห์กล่าวถึงการมาบังเกิดของบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นเชื้อสายของราชาอาหัสด้วย

แต่ผู้นั้นจะเกิดอย่างมหัศจรรย์ คือเกิดจากหญิงสาวพรหมจารี!

….ท่านอิสยาห์เอง คงไม่ทราบว่า เป็นเมื่อไร

แต่หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้วประมาณ  600 ปี

พระเจ้าได้ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาบังเิกิดจากหญิงพรหมจารีจริง ๆ

ถ้าท่านอิสยาห์ไม่ได้บันทึกเอาไว้ล่วงหน้า  เราก็จะไม่รู้เรื่องนี้เลย

ดีจริง…ที่ท่านได้บันทึกเอาไว้  

ดีใจ .. ที่พระเจ้าทรงดลใจให้อิสยาห์บันทึกอะไรที่สำคัญ ๆ ไว้มากมาย

 

18 เมษายน 2013 โปรดส่งข้าไป

และข้าก็ได้ยินเสียงของพระเจ้าตรัสว่า

“เราจะส่งใครไป  และใครจะไปแทนเรา?”   

แล้วข้าตอบว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่

โปรดส่งข้าพระองค์ไปเถิด พระเจ้าข้า”  

ถอดความจากอิสยาห์ 6:8
Daily2013_4_16_3

อิสยาห์พร้อมที่จะไปตามคำสั่งของพระเจ้า

แต่ที่สำคัญคือ พระเจ้าได้บอกเขาว่า คนที่เขาไปพูดด้วยนั้น จะไม่ฟังเขา

หรือพยายามฟังเท่าไร ก็จะไม่เข้าใจ

ดูแล้วดูอีก  ก็มองไม่เห็น

นานเท่าไรที่จะต้องกล่าวคำของพระเจ้าทั้ง ๆ ที่คนไม่เข้าใจ….

พระองค์ตรัสว่า “จนกว่าเมืองจะร้างเปล่า ไม่มีคนอาศัย และบ้านไม่มีคนอยู่ แผ่นดินกลายเป็นที่รกร้าง
และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงส่งทุกคนไปยังแดนไกล แผ่นดินถูกทิ้งร้างจนหมดสิ้น    

พระเจ้าทรงบอกอิสยาห์ว่า ยากที่จะมีคนเห็น ได้ยิน และเข้าใจสิ่งที่อิสยาห์เตือนสติ

จนกระทั่งพวกเขาต้องรับผลแห่งการกระทำของตนเอง 

เพื่อน ๆ ครับ พวกเราอย่าเป็นอย่างนั้นเลย  เมื่อพระเจ้าตรัสอะไรกับเราก็หูผึ่งฟัง  และเชื่อฟัง จะปลอดภัยที่สุด

17 เมษายน 2013 ถ่านจากเสราฟิม

“ข้าต้องวิบัติแน่  ข้าพินาศแน่  เพราะข้าเป็นคนปากไม่สะอาด!”

อิสยาห์ร้อง

ถอดความจาก อิสยาห์ 6:5

Daily2013_4_16_2

 

วันที่อิสยาห์เห็นพระเจ้าประทับบนบัลลังก์ในพระวิหารนั้น

ที่ ๆ นั่นก็สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว… ควันเต็มวิหารนั้น

เขาจึงรู้สึกท่วมท้น ร้องออกมาว่า “ข้าต้องวิบัติแน่  ข้าพินาศแน่  เพราะข้าเป็นคนปากไม่สะอาด!”

ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาได้เห็นพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์

และพระเจ้าทรงกรุณาต่อเขามากที่เขาไม่ตายไปตรงนั้น

เพราะคนบาปกับพระเจ้าจะอยู่กันอย่างนั้นไม่ได้เลย….

แต่…เสราฟิม*   ตนหนึ่ง ได้บินมา และเอาถ่านแตะปากของเขา

“ดูซิ  สิ่งนี้ แตะต้องปากของเจ้า   กรรมชั่วของเจ้าพระเจ้ายกโทษให้ และเจ้าได้รับการลบบาปแล้ว”

 

“ขอพระเจ้าทรงช่วยเราที่จะรักษาใจและปากให้สะอาด  ไม่พูดในสิ่งที่สกปรก ชั่วร้าย  

เมตตาด้วยพระเจ้าข้า…”

 

*เสราฟิม… คือสิ่งที่มีชีวิตซึ่งมีปีก 6 ปีก มีเสียงเป็นคน มือและเท้าเหมือนคน ตามที่อิสยาห์เห็นในวิหารนั้น  พวกเขาเป็นผู้ที่อยู่ใกล้พระเจ้าและนมัสการพระองค์ไม่หยุดหย่อน   ดังนั้น หลายคนจึงคิดว่า เขาเป็นทูตสวรรค์อีกแบบหนึ่ง  พระคัมภีร์กล่าวถึงเขาในหนังสืออิสยาห์ 

ชื่อของเขาบ่งบอกถึงไฟ และรูปร่างยาว และเขาจึงมีไฟที่จะชำระอิสยาห์ให้สะอาด

16 เมษายน 2013 อิสยาห์เห็นพระเจ้า

บริสุทธิ์  บริสุทธิ์   บริสุทธิ์  คือพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

ทั้งแผ่นดินเต็มด้วยพระสิริของพระองค์ 

ถอดความจาก อิสยาห์ 6:3

Daily2013_4_16_1
อิสยาห์ เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกให้มากล่าวคำของพระองค์ในหลายรัชกาล

ช่วงเวลานั้น ราชาอุสซิยาห์สิ้นพระชนม์

เขาได้เข้าไปในพระวิหารของพระเจ้า

น่าแปลกที่สุด สิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่ที่รู้จักพระเจ้ามา ก็ปรากฏให้เขาเห็น

เขาเห็นพระเจ้าประทับบนพระที่นั่ง สูง และเทิดทูนและชายฉลองพระองค์ก็เต็มพระวิหาร

เสราฟิม ยืนอยู่ และร้องสรรเสริญว่า พระเจ้าทรงบริสุทธิ์

เขาคนนี้เป็นผู้เขียนหนังสืออิสยาห์ที่เรากำลังอ่านประจำวันอยู่

เพื่อน ๆ พอจะนึกออกไหมว่า

เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น  เขารู้สึกอย่างไรกับตัวเอง?

12 เมษายน 2013 นักเขียนหนุ่มน้อย

ไปตามมาระโกมา  และพาเขามาด้วย

เพราะเขาช่วยปรนนิบัติข้าพเจ้าเป็นอย่างดี 

ถอดความจาก  2 ทิโมธี 4:11

Daily2013_4_12

 

ยอห์นมาร์ก  หรือที่เราเรียกภาษาไทยว่า มาระโก    เป็นชายหนุ่มที่รู้อย่างน้อยสองภาษา

คือภาษากรีก และ ภาษาที่ใช้กันทั่วไปในปาเลสไตน์

มาระโกได้บันทึกเรื่องราวของพระเยซูตั้งแต่ที่พระองค์ทรงเริ่มราชกิจ

จนกระทั่งพระองค์สิ้นพระชนม์และเสด็จสู่สวรรค์

เขาไปไหนมาไหนกับเปโตรบ่อย ๆ  ได้เห็นการทำงานของพระเจ้าผ่านคนของพระองค์

เคยไปกับท่านเปาโล และก็ทำให้ท่านไม่พอใจ

แต่ในที่สุดท่านเปาโลก็เปลี่ยนใจ ยอมรับมาระโกเป็นอย่างดี

มาระโกผู้นี้ ก็ได้รับการบันดาลใจจากพระเจ้าให้เขียนบันทึกเรื่องราวของชีวิตพระเยซู

งานเขียนของมาระโกรวดเร็ว ทันใจ ไม่เยิ่นเย้อเลย

คนที่เริ่มสนใจพระเจ้าใหม่ ๆ มักเริ่มต้นอ่านพระธรรมมาระโกก่อนเล่มอื่น ๆ

เพราะเข้าใจง่าย และเห็นภาพที่รวดเร็วเหมือนกับภาพยนต์…..

10 เมษายน 2013 นักเขียนชาวประมง

จำเป็นที่เพื่อน ๆ ต้องทุกข์ทนชั่วระยะหนึ่ง ….

เพื่อเป็นการทดสอบความเชื่อที่ดียิ่งกว่าทองคำ

ถอดความจาก 1 เปโตร 1:6-7

Daily2013_4_10

เปโตร เป็นชาวประมงที่พระเยซูทรงเรียกให้เป็นสาวก

เขาตามพระองค์ตั้งแต่วันแรกที่พระองค์ทรงชักชวนเขา  และหลังจากนั้น

เขาก็ได้ประสบกับความมหัศจรรย์มากมายในชีวิต

พระเยซูทรงรักเขา และทรงรู้จักเขายิ่งกว่าที่เขารู้จักตัวเองเสียอีก

เขารักพระเยซูมาก ถวายชีวิตให้พระองค์ได้ เคยปกป้องพระองค์จนไปฟันหูทาสคนหนึ่งขาด

 แต่แล้ว… ไม่นานนักจากการปกป้องพระองค์   เขากลับกล่าวว่า

“ผมไม่รู้จักพระเยซูคนนั้น”   เพียงเขากลัวว่าจะถูกจับไปลงโทษ …..

เปโตรได้เขียนจดหมายฝากไปยังเพื่อน ๆ ที่เชื่อพระเยซู ซึ่งกระจัดกระจายกันอยู่ตามที่ต่าง  ๆ

และจดหมายที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้านั้น

ยังคงอยู่ให้เราอ่านในทุกวันนี้  แม้เวลาจะผ่านมากว่า 2000 ปี!

9 เมษายน 2013 ผู้เลี้ยงแกะ..นักเขียน

ฉันจะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระเจ้าเป็นนิตย์

และด้วยปากของฉัน

ฉันจะประกาศความซื่อตรงสุจริตของพระเจ้าตลอดทุกชาติพันธุ์ 

 

ถอดความจาก สดุดี 89:1

Daily2013_4_9

คนที่กล่าวคำข้างบนนี้ คือราชาดาวิด กษัตริย์องค์ที่สองของอิสราเอล

เป็นกษัตริย์ที่เขียนคำสดุดีพระเจ้าไว้มากมาย

สามพันกว่าปีมาแล้ว เรื่องราวที่ทรงเขียนไว้ ยังเป็นกำลังใจของเราทุกคน

แต่ราชาดาวิดไม่ได้เขียนจากความรู้สึกของตนเองเท่านั้น

แต่เป็นความรู้สึก พร้อมแรงบันดาลใจ  พร้อมคำอันงามยิ่ง ที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

จากเด็กเลี้ยงแกะ กลายเป็นนักรบ  และเป็นกษัตริย์ที่กล้าหาญ

พร้อมกับความกล้าหาญ ยังเป็นผู้เดียวที่พระเจ้าตรัสว่า

ชายผู้ซึ่งติดตามหัวใจของเรา…..

5 เมษายน 2013 ราชานักเขียน

นี่คือสุภาษิตของซาโลมอน พระราชาแห่งอิสราเอล  

โอรสของดาวิด ทรงเขียนไว้…

เพื่อให้มีปัญญาและวินัย เข้าใจคำแห่งความรู้ 

ถอดความจากสุภาษิต 1:1-2

Daily2013_4_5

 

ราชาซาโลมอนเป็นโอรสที่ราชาดาวิดทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้ครองอิสราเอลต่อจากพระองค์

สิ่งที่ราชาซาโลมอนแตกต่างจากคนอื่น ๆ ก็คือ

พระเจ้าได้อวยพระพรให้ทรงปัญญา รอบรู้เหนือกษัตริย์องค์ใดในโลก

ไม่ว่าจะเป็นการปกครอง  วิศวกรรม  การพัฒนาเศรษฐกิจ  หรือแม้กระทั่งการสอน

พระเจ้าทรงอวยพรให้พระองค์เขียนบันทึกสิ่งต่าง ๆ ไว้มากมาย ในสดุดี  สุภาษิต ปัญญาจารย์

และเรื่องของความรัก ในบทเพลงของซาโลมอน

น่าเสียดาย ในวัยชราของพระองค์  ทรงเบี่ยงเบนไปจากสิ่งที่พระองค์เองสอนผู้อื่น

ทำให้เราเห็นว่า

ใครก็ตาม ที่ไม่ระวังตัว  มีโอกาสพลาดได้เสมอ 

4 เมษายน 2013 องคมนตรีนักเขียน

พระเจ้าประทานปัญญาแก่คนฉลาดเฉลียว

และประทานความรู้ ให้แก่คนที่มีความเข้าใจ

ถอดความจาก ดานิเอล 2:21

Daily2013_4_4 (1)

 

ช่วงปีก่อนคริสตศักราช 605 ปี นับถัดจากวันนี้ไปก็เท่ากับ 2013+605=2618 ปีมาแล้ว

ดานิเอลถูกจับไปเป็นเชลยในสมัยราชาเนบูคัดเนสซาร์ที่ยิ่งใหญ่

แล้วคืนหนึ่งพระราชาทรงฝัน  แต่เกิดจำฝันนั้นไม่ได้

จึงไม่มีใครสามารถทำนายฝันให้พระองค์  พระราชากริ้วยิ่งนัก สั่งประหารโหรทุกคนในอาณาจักร

เมื่อดานิเอลรู้เรื่องเข้า  จึงมาอธิษฐานต่อพระเจ้า

และพระเจ้าทรงสำแดงความฝัน และความหมายของฝันนั้นให้ดานิเอล

เขาทูลพระราชาว่า ในอีก 700 ปีข้างหน้า จะมีอาณาจักรมหาอำนาจเกิดขึ้น

แทนบาบิโลน  คือ เปอร์เซีย  กรีก  และ โรม (ซึ่งต่อมาในประวัติศาสตร์ ก็เป็นอย่างนั้นจริง)

เขาทั้งได้ทำให้พระราชาทรงรู้ว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่เพียงใด

และยังช่วยชีวิตของเหล่าข้าราชการอีกมากมายด้วย

ถ้าดานิเอลไม่ได้รับการบันดาลใจเพื่อบันทึกเรื่องนี้ไว้เมื่อสองพันหกร้อยกว่าปีที่แล้ว

พวกเราคงไม่รู้เรื่องนี้เลย….