เยเรมีย์ 50-5 อย่าให้ใครรอดไปได้!

เยเรมีย์ 50:26-32

จงเข้ามาต่อสู้บาบิโลนจากทุก ๆ ส่วนของแผ่นดินไกล

เปิดยุ้งฉางของเขา และกองมันไว้เหมือนกองเมล็ดข้าว
ทำให้มันหายนะ  อย่าให้มีอะไรเหลือ
จงฆ่าฝูงวัวเสีย  เชือดมันเสียให้หมด
วิบัติมีแก่พวกเขา เพราะเวลาของเขามาถึงแล้ว
เป็นเวลาลงโทษพวกเขา
“เสียงหนึ่ง! พวกเขาหนีและเล็ดลอดออกจากแผ่นดินบาบิโลน
เพื่อประกาศการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราในศิโยน
เป็นการแก้แค้นเพื่อพระวิหารของพระองค์
จงเรียกเหล่านักแม่นธนูเข้ามาสู้บาบิโลน
ทุกคนที่โก่งคันธนู  จงล้อมเมืองไว้ อย่าให้ใครหนีไปได้

 

ภาพจาก  http://en.wikipedia.org/wiki/File:Persepolis_Apadana_noerdliche_Treppe_Detail.jpg
ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/File:Persepolis_Apadana_noerdliche_Treppe_Detail.jpg

จงตอบแทนให้สมกับที่บาบิโลนได้กระทำ
เพราะว่า บาบิโลนได้ท้าทายองค์พระผู้เป็นเจ้า
องค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
ดังนั้น คนหนุ่มจะล้มลงตามสี่แยก
และทาหรก็จะถูกทำลายหมดในวันนั้น
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“ดูเถิด เราสู้กับเจ้า เจ้าผู้หยิ่งยะโส..”
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงประกาศ
“เพราะวันของเจ้ามาถึง… เป็นวันที่เราจะลงโทษเจ้า
เหล่าคนที่เย่อหยิ่งจะสะดุดและล้มลง โดยไม่มีใครจะช่วยพยุงขึ้น
เราจะจุดไฟในหัวเมืองต่าง ๆ  และจะเผาผลาญทุกอย่างที่อยู่รอบเขา”

เยเรมีย์ 50-1 คนหลงทางของพระเจ้า

เยเรมีย์ 50:1-7

พระวจนะของพระเจ้าที่ตรัสถึงบาบิโลน  เกี่ยวข้องกับแผ่นดินเคลเดีย โดยเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ

“จงแจ้งไปทั่วประชาชาติ และป่าวประกาศออกไป
จงตั้งธงและประกาศให้รู้ อย่าปิดเอาไว้ และกล่าวว่า
“บาบิโลนถูกยึดไปแล้ว  เจ้าเบลจะต้องอับอาย
เจ้ามาร์ดุคก็หวาดหวั่น  เทวรูปทั้งหลายของบาบิโลนก็กลายเป็นอัปยศ
รูปเคารพทั้งสิ้นก็หวาดผวา”
เพราะจากทางเหนือ จะมีชาติหนึ่งเข้ามาต่อต้านบาบิโลน
ทำให้แผ่นดินนี้ร้างไป และไม่มีใครอาศัยอยู่
ทั้งมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายจะหนีไป

“ในวันเหล่านั้น ในเวลานั้น “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“ประชากรอิสราเอลและยูดาห์จะต่างร่ำไห้มารวมตัวกัน
พวกเขาจะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา
และจะถามหาทางที่จะกลับไปยังศิโยน หันหน้าไปทิศนั้น กล่าวว่า
มาเถิด ให้เราร่วมใจกันหันหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
โดยพันธสัญญานิรันดร์ซึ่งจะไม่มีใครลืมเลย”


lostsheep

 

ภาพถ่ายโดย Victor M. Vicente Selvas 
public domain http://commons.wikimedia.org/wiki/File:The_lost_sheep.jpg

“ประชากรของเราเป็นแกะที่หลงทางไป
ผู้เลี้ยงของพวกเขานำเขาไปหลง พาออกไปตามภูเขา
เร่ร่อนจากภูเขานี้ไปยังเนินเขานั้น
พวกเขาลืมคอกของตนเอง
ดังนั้นคนที่พบเจอจึงเขมือบพวกเขา
และศัตรูของเขากล่าวว่า
“เราไม่ผิด  เพราะพวกเขานั่นแหละที่ได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์ผู้ทรงเป็นที่พักพิงอันชอบธรรมของพวกเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นความหวังของบรรพบุรุษ”

เยเรมีย์ 40-1 การเลือกของเยเรมีย์

เยเรมีย์ 40:1-6

พระดำรัสของพระเจ้ามายังเยเรมีย์หลังจากที่เนบู-ซาระดานซึ่งเป็นผู้บัญชากองทหารรักษาพระองค์
ยอมให้เขาออกมาจากรามาห์ ตอนที่เขาตรวนเขาด้วยโซ่
พร้อมกับเหล่าเชลยจากนครเยรูซาเล็ม และยูดาห์ ที่ถูกพามายังบาบิโลน

ผู้บัญชากองทหารรักษาพระองค์ นำเยเรมีย์เข้ามาและกล่าวว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้ทรงประกาศความหายนะให้กับที่นี้
พระองค์ทรงให้มันเกิดขึ้นจริง และพระองค์ทรงทำอย่างที่ตรัสไว้่
ทั้งนี้เป็นเพราะพวกท่านได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
และไม่ได้ฟังพระสุรเสียงของพระองค์
สิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้นกับพวกท่าน
บัดนี้ ดูเถอะ  ข้าจะปล่อยไม่ตรวนมือท่านไว้อีกต่อไป
หากท่านคิดว่าควรจะไปบาบิโลนกับข้า  ก็ไปได้
และข้าจะดูแลท่านเป็นอย่างดี
แต่หากท่านเห็นว่าเป็นการผิดที่จะไปบาบิโลน
ก็ไ่ม่ต้องมา
ขอให้ท่านมองแผ่นดินตรงหน้าท่าน
ให้ท่านไปในที่ ๆ ท่านเห็นสมควรว่าดีและถูกต้อง
หากท่านจะอยู่ที่นี่  ก็ขอให้กลับไปหาเกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัมลูกชายชาฟาน
ราชาแห่งบาบิโลนได้แต่ตั้งท่านนี้ให้เป็นผู้ปกครองเมืองต่าง ๆ ในแผ่นดินยูดาห์
ขอให้ท่านไปอยู่กับเขาท่ามกลางประชาชนที่เหลือ
หรือว่า ท่านจะไปไหนก็ได้ตามใจท่าน

 

แล้วผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ก็ได้ให้เสบียงอาหาร และของกำนัลแก่เยเรมีย์
จากนั้น เยเรมีย์จึงกลับไปหาเกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัมที่มิสปาห์
เยเรมีย์พักอยู่ท่ามกลางประชาชนที่เหลืออยู่บนแผ่นดิน

อิสยาห์ 48-2

อิสยาห์ 48:12-16

พระเจ้าทรงเรียกอิสราเอล
จงฟังเสียงของเรา โอ ยาโคบ  และอิสราเอล คนที่เราเรียกมา

เราเป็นผู้นั้น  เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย
มือของเราวางรากฐานของแผ่นดินโลก
มือขวาของเราขึงฟ้าสวรรค์ออกไป  เมื่อเราเรียกมัน มันก็ออกมาอยู่ด้วยกัน

พระเจ้ากำลังทรงบอกคนอิสราเอลว่า พระองค์จะทรงช่วยพวกเขา โดยผ่านไซรัสมหาราช

เจ้าทุกคน จงเข้ามาประชุมกัน และตั้งใจฟัง! มีใครในพวกเขาที่ได้ประกาศสิ่งเหล่านี้บ้าง?
พระเจ้าทรงรักเขา

ไซรัสเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาเพื่อช่วยให้อิสราเอลหลุดพ้นจากบาบิโลน
ไซรัสเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาเพื่อช่วยให้อิสราเอลหลุดพ้นจากบาบิโลน

และพระองค์จะทรงบอกพระประสงค์เรื่องบาบิโลน

พระกรของพระองค์ต่อต้านคนเคลเดีย
เรา เราเอง ได้พูดแล้ว เออ เราเรียกเขา

เขาผู้นี้ก็คือไซรัสนั่นเอง 

เราได้นำเขามา และเขาก็จะรุ่งเรืองในทางของเขา

จงเข้ามาใกล้เรา และฟัง
ตั้งแต่ต้น เราไม่พูดลับๆ เลย ตั้งแต่มีเวลาขึ้นมา เราก็อยู่ที่นั่นแล้ว

อิสยาห์ 39-2

อิสยาห์ 39:3-8

เมื่อได้ข่าวนั้น อิสยาห์จึงเข้ามาเฝ้าราชาเฮเซคียาห์ด้วยความหนักใจ ทูลว่า “คนเหล่านี้พูดอะไรบ้าง?  และพวกเขามาจากไหนกันพะยะค่ะ?”

Is39Hezekiah-Babylonians

พระราชาตรัสตอบว่า “โอ.. พวกเขามาเยี่ยมเราไง  มาจากเมืองบาบิโลนซึ่งอยู่ไกลมาก “

“แล้วพวกเขาเห็นอะไรในราชวังของพระองค์บ้าง?”

“โอย… พวกเขาเห็นทุกอย่างนั่นแหละ  ไม่มีอะไรสักอย่างที่ข้าไม่ได้ให้พวกเขาชม”  พระราชาทรงตอบอย่างภูมิใจ… พระองค์ทรงมีมากมายที่จะอวดได้นี่นา

แล้วอิสยาห์จึงทูลพระองค์ว่า “ขอพระราชาทรงฟังพระดำรัสของพระเจ้า  ดูเถอะ     วันหนึ่ง ทรัพย์สมบัติทุกอย่างในพระคลัง และทุกอย่างที่บรรพบุรุษได้เก็บสะสมไว้จะถูกกวาดไปบาบิโลนจนหมดสิ้น  ไม่มีอะไรเหลือเลย… พระเจ้าตรัสไว้ดังนี้

และโอรสในใส้ของพระองค์หลายคนจะถูกจับไป  และกลายเป็นขันทีในวังของกษัตริย์แห่งบาบิโลน”

เมื่อได้ยินดังนั้น เฮเซคียาห์จึงตรัสแก่อิสยาห์ว่า  “พระดำรัสของพระเจ้าที่ท่านอิสยาห์ว่ามานั้น ก็ดีนะ”

เพราะพระราชาทรงคิดว่า…. อย่างน้อยก็มีสันติสุขและความปลอดภัยในรัชกาลของข้า!

ราชาเฮเซคียาห์ไม่ได้คิดถึงลูกหลานเลย… ขอให้ตัวเองสบายและปลอดภัยเป็นพอ…ยังไงกันนี่?

อิสยาห์ 39-1

อิสยาห์ 39:1-2

ในเวลานั้น เมโรดัค-บาลาดัน โอรสของบาลาดันซึ่งเป็นราชาแห่งบาบิโนทรงส่งราชทูตมาพร้อมกับคำอวยพรและของขวัญมาถวายแด่ราชาเฮเซคียาห์

พระองค์ทรงได้ข่าวว่า ราชาเฮเซคียาห์ทรงล้มป่วยและบัดนี้หายดีแล้ว  การมาของราชทูตครั้งนี้ทำให้ราชาเฮเซคียาห์ทรงรู้สึกดีมาก ๆ

คงเป็นความรู้สึกแปลกมากทีเดียว  หัวหน้าของประเทศที่เป็นศัตรูกลับส่งสารมาอวยพร และยังมีของขวัญมาถวายอีก  ราชาเฮเซคียาห์ทรงรู้สึกอย่างไร  ลองคิดซิ….

ต่อมา พระองค์ได้ทรงนำราชทูตทั้งคณะไปชมท้องพระคลังในราชวัง และท้องพระคลังหลวง  ให้พวกเขาชมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเงิน ทอง เครื่องเทศ น้ำมันมีค่า และอาวุธ …

Is39hezekiah_babylon

และแน่นอนในเวลานั้น เพื่อน ๆ ลองคิดดูว่า ราชทูตจะต้องพูดคำที่ยกยอราชาเฮเซคียาห์อย่างล้น ๆ เกิน ๆ  พระราชาเองก็หลงคำเหล่านั้นไปด้วยปรากฏว่า ไม่มีของใดที่หลุดหูหลุดตาเหล่าราชทูตนี้ไปเลย พระองค์ไม่เก็บความลับไว้สักนิด

เหมาะหรือเปล่าที่พระราชาจะทำสิ่งนี้?

เหตุใดพระองค์จึงทรงให้พวกเขาดูท้องพระคลัง? ลองจินตนาการวันนั้นที่ทั้งสองฝ่ายพบกัน… แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี่?

เวลาที่มีคนชม เวลาที่ถูกชื่นชมมากเกินไป  จะเกิดอะไรในใจของเรา ??

อิสยาห์ 21-2

อิสยาห์ 21:6-10

ดังนั้น พระเจ้าตรัสแก่ข้าว่า “ไป  จงไปและตั้งยามเอาไว้ ให้เขาประกาศสิ่งที่เขาเห็น “  และเขาเห็นรถม้า พร้อมกับพลม้าเป็นคู่   เห็นเหล่าคนขี่ลา   เหล่าคนขี่อูฐ

ให้เขาฟังด้วยความตั้งใจ ฟังอย่างระมัดระวัง

แล้วเขาก็ร้องว่า “สิงโต…เจ้านายของข้า  ข้ายืนอยู่บนป้อมยามแห่งนี้ในเวลากลางวัน  และข้านั่งอยู่ที่นี่ในเวลากลางคืน  และดูซิ  มีรถรบคนหนึ่งขับมาพร้อมกับพลม้าเป็นคู่ !”   คนเฝ้ายามเห็นรถรบมากมาย นี่แสดงว่า กำลังจะมีสงคราม

ภาพจาก http://forums.civfanatics.com
ภาพจาก http://forums.civfanatics.com

เขาตอบและกล่าวว่า “บาบิโลนล่มแล้ว  มันล่มลงแล้ว และบรรดาเทวรูปทั้งหลายก็ล้มลงแตกกระจายบนพื้น”  บาบิโลนได้พ่ายแพ้อัสซีเรียเมื่อปี  689 ก่อนคริสตศักราช   และยังมาแพ้เปอร์เชียอีกในปี 539 ก่อนคริสตศักราช

“โอ… ท่านผู้ถูกนวด  และผู้ถูกฝัดร่อนบนลานนวดของข้า! ข้าประกาศให้พวกท่าน… นี่คือสิ่งที่ข้าได้ยินจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอล    การถูกนวด มันหมายถึงการที่บาบิโลนจะกดขี่ข่มเหงอิสราเอลอย่างโหดร้าย  แต่อิสราเอลจะหนีพ้นได้ด้วยการช่วยเหลือของพระเจ้า ทำให้อิสราเอลยังมีความหวัง

อิสยาห์ 21-1

อิสยาห์ 21:1-5

บาบิโลนล่มแล้ว!

คำของพระเจ้ามาถึงถิ่นกันดารของทะเล   ขณะที่ลมหมุนจากเนเกบพัดกวาดมา มันมาจากถิ่นกันดาร จากดินแดนสยอง

ถิ่นกันดารเนเกบ ภาพจาก kumah.org
ถิ่นกันดารเนเกบ ภาพจาก kumah.org

มีนิมิตอันเข้มงวดมาถึงข้า  ผู้ทรยศก็หักหลัง  ผู้ทำลายก็เข้าทำลาย
เอลามเอ๋ย จงลุกขึ้น  มีเดียเอ๋ย  เข้าล้อมเมืองเลย ทุกการถอนหายใจที่มันทำให้เกิดขึ้นนั้น เราจัดการให้หมดสิ้นไปแล้ว  เอลามกับมีเดีย เป็นอาณาจักรที่เข้ามาทำลายบาบิโลนในปี 539 ก่อนคริสตศักราช

ดังนั้น เอวของข้าจึงมีแต่ความระทมทุกข์  ความเจ็บปวดยึดข้าไว้  เหมือนความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก

ข้าก้มตัวลงเพื่อว่าข้าจะไม่ต้องได้ยิน ข้าท้อแท้มากจนข้าจะไม่ต้องได้เห็น
ใจข้าเต้นไม่เป็นส่ำ ความน่ากลัวทำให้ข้าตกใจมาก  ยามโพล้เพล้ที่ข้าปรารถนากลับทำให้ข้าตัวสั่น   สิ่งที่อิสยาห์เห็นในนิมิตมันน่ากลัวมาก

เขาเตรียมโต๊ะไว้  เขาปูผ้า เขากิน เขาดื่ม  เจ้านายทั้งหลายเอ๋ยลุกขึ้นเถิด
ทาโล่ด้วยน้ำมัน!

อิสยาห์ 14-4

อิสยาห์ 14:18-23

เหล่ากษัตริย์แห่งบรรดาประชาชาติได้นอนลงด้วยศักดิ์ศรีในหลุมศพของแต่ละท่าน    แต่เจ้ากลับถูกไล่ไป  ไกลจากที่ฝังศพของเจ้า เหมือนกับกิ่งที่ใคร ๆ เกลียดชังยิ่ง   เจ้าสวมเสื้อของ่่่่ดดศพซึ่งถูกแทงด้วยดาบ  คนที่ลงไปยังหินของบึงลึกนั้น  เหมือนกับร่างที่ตายแล้วถูกเหยียบย่ำ

ในขณะที่กษัตริย์องค์อื่น ๆ สิ้นชีวิตไปอย่างสงบ   แต่กษัตริย์แห่งบาบิโลนผู้นี้ กลับไม่สามารถนอนในหลุมศพได้!!  จำได้ไหม สองสามวันก่อนเราบอกว่า เขาจะเจอหนอนใต้เตียง และแมลงจะเป็นผ้าห่มของเขา 

ภาพวาดโดยกุสตาฟ ดอเร่
ภาพวาดโดยกุสตาฟ ดอเร่

เจ้าจะไม่ได้เข้าไปสมทบกับพวกเขาในพิธีฝังศพ  เพราะเจ้าได้ทำลายแผ่นดินของตัวเอง เจ้าได้ฆ่าคนของเจ้า…   ขอให้ลูกหลานของคนที่ทำชั่ว  ไม่มีใครเอ่ยชื่อเขาอีกต่อไป !   แม้กระทั่งคนธรรมดา ยังต้องมีพิธีศพ  แต่กษัตริย์องค์นี้หาได้มีพิธีฝังศพอันมีเกียรติไม่ 

เตรียมการสังหารบรรดาลูกชายเพราะบาปของพวกพ่อ มิฉะนั้นพวกเขาจะลุกขึ้นมาครอบครองโลก และสร้างเมืองเต็มไปหมด”

พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพประกาศว่า “เราจะลุกขึ้นต่อสู้พวกเขา และจะตัดชื่อของบาบิโลน รวมทั้งคนที่เหลือ ลูกหลาน และพงศ์พันธุ์ของเขาออกไป”

และเราจะให้แผ่นดินนั้นเป็นที่อยู่ของเม่น  กลายเป็นบ่อน้ำ และเราจะกวาดมันออกไปด้วยไม้กวาดแห่งการทำลาย “พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงประกาศดังนี้

อิสยาห์ 14-3

อิสยาห์ 14:12-17

เจ้าตกลงมาจากสวรรค์  โอ ดวงดาวแห่งกลางวัน (ลูซิเฟอร์)  บุตรชายแห่งรุ่งอรุณ  ท่านถูกตัดร่วงลงมาอยู่บนพื้นดินได้อย่างไร  เจ้าผู้ทำให้ประชาชาติทั้งหลายตกต่ำ  บัดนี้ กษัตริย์แห่งบาบิโลนของโลกฝ่ายวิญญาณ ดาวกลางวันหรือลูซิเฟอร์   กำลังร่วงหล่นลงมาแล้ว ท่านอิสยาห์ได้พยากรณ์ว่า ในอนาคตผู้นี้จะร่วงหล่นลงมาให้ทุกคนได้เห็น เขาเคยรุ่งโรจน์ แต่จะมีวันที่เขาตกลงมา

เจ้าพูดในใจของตนเองว่า “เราจะขึ้นไปบนสวรรค์  เหนือบรรดาดวงดาวของพระเจ้า เราจะตั้งบัลลังก์ของเราไว้ให้สูง  และเราจะนั่งบนภูเขา อยู่กลางที่ประชุมในทางเหนือไกลโพ้น    เราจะขึ้นไปเหนือเมฆ   เราจะทำตัวเทียบเทียมองค์ผู้สูงสุด”  ไม่ได้พูดให้ใครได้ยิน เพียงพูดในใจ  แสดงว่า เขามีความตั้งใจจะทำสิ่งนั้นอย่างแน่นอน  เพื่อน ๆ ลองนับดูซิว่า เขาพูดว่า เราจะ….. กี่ครั้ง  อะไรบ้าง

แต่เจ้านะ ถูกนำลงมาต่ำถึงแดนผู้ตาย  ถึงก้นบึ้งลึกยิ่งของแดนนั้น เขาผู้นี้จะตกลงไปในนรกนั่นเอง 

ภาพโดยกุสตาฟ ดอเร่
ภาพโดยกุสตาฟ ดอเร่

คนที่เห็นเจ้าจะจ้องดูเจ้าและคิดเรื่องของเจ้า   “นี่เป็นคนที่ทำให้โลกหวั่นไหวหรือ   คนที่ทำให้อาณาจักรต่าง ๆ สะเทือน  คนที่ทำให้โลกกลายเป็นเหมือนทะเลทราย  และได้ล้มล้างอำนาจของเจ้าเมืองทั้งหลาย  คนที่ไม่ยอมปล่่อยเชลยกลับบ้านไป ?

คนทั้งหลายจะมองดูการล้มลงของลูซิเฟอร์ผู้นี้  และตระหนักว่า มันไม่มีอำนาจเหลืออยู่เลย…..

 

อิสยาห์ 14-2

อิสยาห์ 14:7-11
มารู้จักกับกษัตริย์แห่งบาบิโลนทางฝ่ายวิญญาณกันบ้าง ในสมัยโบราณนั้น มีกษัตริย์แห่งบาบิโลนที่เป็นมนุษย์ แต่ยังมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น เพราะกษัตริย์แห่งบาบิโลนฝ่ายวิญญาณก็คือ ซาตานซึ่งเป็นศัตรูของพระเจ้านั่นเอง
คราวนี้ ท่านอิสยาห์ได้กล่าวถึงใครคนหนึ่งที่อ่านแล้วอาจจะงง แต่อ่านไป ๆ จะรู้ว่าเขาคือใคร

ทั้งโลกจะพักผ่อน สงบเงียบ เขาออกมาร้องเพลง ต้นไซเปรสก็ยินดีเพราะเจ้า ต้นเสดาร์แห่งเลบานอนกล่าวว่า ตั้งแต่เจ้าถูกทำให้ต่ำลง ก็ไม่มีคนตัดไม้เข้ามาต่อสู้กับเรา”
เมื่อกษัตริย์แห่งบาบิโลนถูกทำลายไป โลกก็สงบ และก็ร้องเพลงด้วยความยินดี ดูซิ แม้ต้นไม้ก็ยังร่าเริง

ดินแดนแห่งความตายข้างใต้นั้นก็ดีใจ เพื่อออกมาพบเจ้าเมื่อเจ้ามา
นี่บอกให้เรารู้ว่า เมื่อเราตายไป มีดินแดนแห่งความตายรอเราอยู่ ในพระคัมภีร์เรียกแดนนี้ว่า แดนคนตาย เชโอล หรือ เฮเดส…. เวลาเราตายไปแล้ว เราจึงไม่ได้ไปเกิดใหม่ วิญญาณไม่ได้มาวนเวียน ในโลกนี้ แต่วิญญาณของเราจะไปรอวันสุดท้ายที่พระเจ้าจะทรงพิพากษามนุษย์ น่ากลัวใช่ไหม…. ยังมีเรื่องราวที่ลึกลับเกี่ยวกับแดนคนตายนี้ที่เราไม่รู้ พระเจ้าทรงเปิดเผยให้เรารู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

มันกระตุ้นเงาของมันให้ทักทายเจ้า มันยกกษัตริย์ทั้งหลายขึ้นจากบัลลังก์ของพวกเขา
ทั้งหมดเหล่านั้นจะตอบ และกล่าวแก่เจ้าว่า “ท่านก็เช่นกัน ท่านกลายเป็นคนอ่อนแอเหมือนกับเรา ท่านกลายเป็นเหมือนเราแล้ว”
ความโอ่อ่าของเจ้าและเสียงพิณที่เจ้าเล่นถูกดึงลงมาถึงแดนผู้ตาย

hnon
ตัวแมลงถูกวางเอาไว้ใต้เตียงนอนของเจ้า และหนอนกลายเป็นผ้าห่มคลุมเจ้า

อิสยาห์ 13-3

อิสยาห์ 13:17-22
ดูเถิด เรากำลังเร้าให้ชาวมีเดียนมาสู้กับเขา ชาวมีเดียนที่ไม่สนใจเงินหรือไม่ได้พอใจกับทอง
ธนูของพวกเขาจะสังหารคนหนุ่ม และพวกเขาจะไม่ปราณีต่อทารกในครรภ์มารดา ตาของพวกเขาไม่มีความสงสารเด็ก ๆ เลย

ชาวมีเดียนโบราณนี้เป็นบรรพบุรุษของชาวเคิร์ดซึ่งอาศัยอยู่ในแนวรอยต่อของอิรัก ตุรกี อิหร่าน ในปัจจุบัน เรื่องที่อิสยาห์กล่าวถึงนั้นได้เกิดขึ้นในเวลาต่อมา คือ บาบิโลนโค่นอำนาจของอัสซีเรียซึ่งเป็นประเทศที่เข้ามาบุกอิสราเอลและยูดาห์ และต่อมามีเดียนก็ได้โค่นอำนาจของบาบิโลน อิสยาห์ได้ทำนายทุกสิ่งตรงตามที่เกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น สิ่งที่อิสยาห์พูดซึ่งยังไม่เกิดขึ้น เราจะได้เห็นสักวันหนึ่งแน่นอน

และบาบิโลน อาณาจักรที่โอ่อ่าตระการ อันเป็นความงดงามและสูงส่งของชาวเคลเดีย
จะกลายเป็นเหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์ในวันที่พระเจ้าทรงเขวี้ยงพวกเขาออกไป
พูดถึงเมืองโสโดม โกโมราห์เมื่อไร ให้คิดไว้เลยว่า พระเจ้ากำลังทรงหมายถึงความเสื่อมศีลธรรมทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเพศ

นิมิตที่อิสยาห์เห็นอนาคตของบาบิโลน  ภาพเขียนโดยกุสตาฟ ดอเร่
นิมิตที่อิสยาห์เห็นอนาคตของบาบิโลน ภาพเขียนโดยกุสตาฟ ดอเร่

จะไม่มีใครพักหรืออาศัยอยู่ในเมืองนี้ตลอดชั่วชาติพันธุ์
บาบิโลนถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่ปี 518 ก่อนคริสตศักราช และหลายร้อยปีต่อมา เมืองนี้ก็ค่อย ๆ พังไปตามกาลเวลา เมื่อไม่นานมานี้ ซัดดัมฮุสเซน พยายามที่จะรื้อฟื้นเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ เขาอ้างว่า เขานี่แหละคือนาบูคัดเนสซาร์ของโลกปัจจุบัน

ชาวอาหรับจะไม่ปักเต้นท์ที่นี่ ไม่มีผู้เลี้ยงแกะให้ฝูงสัตว์ของเขานอนพักที่นั่น
บ้านร้างของพวกเขาจะเต็มด้วยนกฮูกที่ร้องคราง นกกระจอกเทศจะทำรังที่นั่น
แพะป่าจะโลดเต้นในแผ่นดินนั้น หมาป่าฮยีนาจะร้องอยู่ในป้อมสูง และหมาไนจะร้องโหยหวนในวังของพวกเขา

เวลากำลังใกล้เข้ามา และวันเวลาจะไม่ถูกยืดให้ยาวออกไป