ทีเด็ดมีคายาห์ ๑๘-๔

2 พงศาวดาร 18:18-27

“ขอพระราชาทั้งสองโปรดสดับฟังพระวจนะจากพระเจ้า พะยะค่ะ”  มีคายาห์น้อมตัวลง
“ข้าพระบาทเห็นพระเจ้าประทับบนพระที่นั่งของพระองค์

และเห็นทูต ….เออ…เห็นบริวารแห่งฟ้าสวรรค์ ยืนข้าง ๆ พระบัลลังก์ ทั้งซ้ายและขวา”   สิ่งที่มีคายาห์กล่าว ทำให้ราชาอาหับอึ้ง  พระองค์ไม่เคยทรงได้ยินอะไรเช่นนี้มาก่อน… อะไรกัน มีคายาห์เห็นสวรรค์เลยหรือนี่ !!

ส่วนราชาเยโฮชาฟัทยิ่งทรงสนใจมากขึ้น   มันมีอะไรเกิดขึ้นในสวรรค์นะ?  มันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในโลกด้วยหรือ?

จากจินตนาการของจิตรกรอีกท่าน

“พระเจ้าตรัสกับพวกเขาเหล่านั้นว่า… ใครจะไปล่อใจให้ราชาอาหับแห่งอิสราเอล ยกทัพไปโจมตีราโมท-กิเลอาด  เพื่อว่าเขาจะล้มลงที่นั่น?”

น่าสนใจ  นี่มันอะไรกัน?… ราชาเยโฮชาฟัททรงตื่นเต้น

“มีบางตนก็ทูลพระเจ้าอย่างนี้  บางตนก็ทูลอย่างนั้น   แต่แล้วก็มีวิญญาณดวงหนึ่งมาเฝ้าต่อพระพักตร์พระเจ้า ทูลว่า … ข้าทาสจะไปเกลี้ยกล่อม ล่อใจพระราชาเอง….  เจ้าจะทำอย่างไรล่ะ  พระเจ้าตรัสถาม  ”

เอ. … นี่แสดงว่า มันมีการทำงานระหว่างโลกและสวรรค์   ราชาเยโฮชาฟัททรงเริ่มเห็นภาพใหญ่..

“วิญญาณนั้น ทูลพระเจ้าว่า  ข้าทาสจะออกไป และเป็นวิญญาณโกหกมุสาในปากผู้กล่าวคำของพระเจ้าทุกคน”

….อา… เข้าใจแล้ว  ที่เราไม่สบายใจและคิดว่า มันแปลก ๆ  ก็อย่างนี้นี่เอง  ถ้ามีคายาห์ไม่มาบอก เราคงไม่เข้าใจอะไรเลย  ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเปิดเผยให้ทราบ…..  ราชาเยโฮชาฟัททรงพยักหน้า…

“แล้วพระเจ้าตรัสว่าอย่างไร?”

มีคายาห์ทูลตอบ  ..”พระเจ้าตรัสว่า จงไปทำอย่างนั้นเถอะ  เจ้าจะทำสำเร็จ   ดูซิ  ขอพระราชาโปรดพิจารณา  พระองค์ทรงอนุญาตวิญญาณมุสาเข้ามาในคนของฝ่าพระบาท   พระเจ้าได้ทรงบอกให้รู้ถึงหายนะของพระองค์”

อึ้ง….

ฉาด!…. เศเดคียาห์เดินเข้ามาตบหน้ามีคายาห์ต่อหน้าพระราชา

“พระวิญญาณของพระเจ้าไปจากข้า  และพูดกับเจ้าทางใดกัน?”    เศเดคียาห์โกรธจัด  ยั้งความโกรธไม่อยู่

“นี่แนะ”  มีคายาห์ไม่ได้ตบหน้าตอบ  “เจ้าจะรู้ในวันนั้นที่เจ้าเข้าไปซ่อนตัวในห้องชั้นใด”    มีคายาห์กลับทำนายเหตุการณ์ในอนาคตให้เศเดคียาห์อีก

ราชาอาหับจึงทรงสั่งให้คนเอามีคายาห์ไปขัง

“เอาเจ้านี่ไปจำคุก   จำกัดน้ำ อาหาร เพียงให้มันอยู่รอด จนกว่าเราจะกลับมาอย่างปลอดภัย”   พระองค์ทรงโกรธไม่แพ้เศเดคียาห์

“ถ้าฝ่าพระบาทเสด็จกลับมาอย่างปลอดภัยจริง ๆ   เท่ากับพระเจ้าไม่ได้ตรัสผ่านข้าพระบาท”   มีคายาห์กล่าวขึ้นมาทันที

“ขอประชาชนฟังเอาไว้แล้วกัน”    ราชาอาหับทรงสรุปห้วน  ๆ

 

 

 

 

มีคายาห์..ของจริง ๑๘-๓

2 พงศาวดาร 18:12-18

คนสื่อสารที่ไปตามมีคายาห์  ไม่ได้ไปตามเปล่า  แต่นำความเห็นของเศเดคียาห์ไปด้วย

หมายความว่าอย่างไรกันล่ะ?

พอเขาพบมีคายาห์  เขาก็เริ่มหว่านล้อมทันที

“ท่านมีคายาห์   ท่านทราบไหมว่า คำจากผู้กล่าวคำเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคำพูดดี ๆ   ทำให้พระราชาเกิดความกล้าหาญที่จะไปตีเมืองราโมท-กิเลอาด  พวกเขาพูดอย่างไร  ขอให้ท่านพูดเหมือนกันกับพวกเขา  มันจะได้เป็นพรสำหรับพระราชา”

ผู้สื่อสารคนนี้ไม่รู้จักมีคายาห์….

“พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด  ข้าจะพูดอย่างที่พระเจ้าตรัสให้ข้าพูด”   มีคายาห์ตอบอย่างไม่กลัวเกรง

ผู้สื่อสารจึงนิ่งอึ้ง  ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อ    จะมามัวต่อล้อต่อเถียง หรือให้สินบนก็ไม่ได้   มีคายาห์ท่านนี้ แม้จะดูเป็นคนธรรมดาที่มีหน้าที่กล่าวคำของรพะเจ้า   แต่ก็มีบารมีของพระเจ้าในตัวจริง ๆ        เขาจึงพามีคายาห์มาพบพระราชาทั้งสอง

อีกภาพที่จิตรกรวาดถึงมีคายาห์ ภาพจาก pitts.emory.edu

เมื่อมาถึง ราชาอาหับทรงถามเขาว่า

“มีคายาห์  บอกเรามาซิว่า เราควรไปโจมตีเมืองราโมท-กิเลอาด  หรือว่าไม่ควรไป”

มีคายาห์ทูลตอบว่า…

“ขอเชิญเสด็จไปพะยะค่ะ  พระองค์จะทรงได้ชัยชนะ   พวกเขาจะถูกมอบไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์”

คำตอบของมีคายาห์ทำให้ทุกคนที่กล่าวคำก่อนหน้านี้ โล่งใจ   พวกเขาหันหนัามามองกัน โธ่เอ๋ย  ไม่เห็นจะมีน้ำยาก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ ไม่น่าเรียกมาถามเลย

แต่… น้ำเสียงของมีคายาห์ทำให้ราชาอาหับทรงรู้ดีว่า     มีคายาห์กำลังประชดพระองค์อยู่

“ก็เราบอกให้เจ้าปฏิญาณไม่ใช่หรือว่า  เจ้าจะพูดความจริงในพระนามของพระเจ้า”   พระองค์ตรัสกับเขา สุรเสียงกร้าว

“อย่างนั้นก็ได้พะยะค่ะ”  มีคายาห์ตอบ

“คือว่า  ข้าพระบาทเห็นคนอิสราเอลกระจัดกระจายบนภูเขา  พวกเขาเป็นเหมือนแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง”

พอได้ยินเช่นนั้น  ราชาอาหับทรงหันมาที่ราชาเยโฮชาฟัท   ตรัสขึ้นมาทันทีว่า

“ข้าพเจ้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือว่า  เขาจะไม่เคยพูดถึงข้าพเจ้าดี ๆ  เลย   มีแต่เรื่องเสียหายทั้งนั้น”

คราวนี้ รู้สึกกริ้วมาก   มีคายาห์ตอนต้นพูดเหมือนว่าจะใช้ได้แล้ว  แต่ในที่สุด ก็เป็นเหมือนเดิม   ราชาอาหับทรงไม่พอใจกับมีคายาห์อย่างยิ่ง

แต่…มีคายาห์ยังมีสิ่งที่จะบอกเล่าอีก  “ขอสดับพระวจนะของพระเจ้า   เป็นเรื่องที่แปลก”

ราชาเยโฮยาฟัททรงสนใจที่จะฟัง  ทรงยิ้มและกล่าวกับมีคายาห์ว่า

“ขอท่านมีคายาห์บอกพวกเรามาเถิดว่า  ท่านเห็นอะไร”

มีคายาห์รู้เห็นอะไรมานะ??