11 ตุลาคม 2013 ถุงใหม่ ถุงเก่า

 ไม่มีใครเอาน้ำองุ่นหมักใหม่ ๆ มาใส่ถุงหนังเก่า
หากทำอย่างนั้น ถุงหนังเก่าจะขาดไป…

ถอดความจากลูกา 5:37

Daily2013_10_11-1

เผื่อว่าธรรมาจารย์จะยังไม่เข้าใจเรื่องการอดอาหารนี้
พระเยซูทรงเล่าคำอุปมาสั้น ๆ ให้เขาฟังว่า
“ไม่มีใครที่จะเอาผ้าใหม่จากเสื้อใหม่มาปะเสื้อผ้าเก่า..
ทำอย่างนั้น เสื้อเก่าจะยิ่งขาด ทำให้เสียเสื้อทั้งสองตัว
ผ้าชิ้นที่ใหม่กว่าก็ไม่เหมาะกับเสื้อเก่า”

ไม่มีใครเอาน้ำองุ่นหมักใหม่ ๆ มาใส่ถุงหนังเก่า
หากทำอย่างนั้น ถุงหนังเก่าจะขาดไป…
น้ำองุ่นจะรั่วออกมา เสียน้ำองุ่นไป
ส่วนถุงหนังก็พังไปด้วย
น้ำองุ่นใหม่ก็ต้องใส่ถุงหนังใหม่

Daily2013_10_11-2
ใครก็ตามที่ดื่มเหล้าเก่าก็ไม่อยากจะได้น้ำองุ่นหมักใหม่
เพราะว่า “ของเก่านั้นดีอยู่แล้ว”

โห… หมายความว่าอย่างไรหรือ?…
พระเยซูมิได้ต้องการให้เขาเอาบัญญัติเดิม ที่เน้นการทำตามกฎของพวกเขามาเป็นแนวทาง
แต่พระเยซูจะประทานบัญญัติใหม่ เป็นเรื่องของความรัก
ถ้าธรรมาจารย์ถือกฎแห่งความรัก   พวกเขาจะไม่โวยวายว่าใครจะทำผิดบัญญัติข้อโน้นข้อนี้
ความคิดเก่าของธรรมาจารย์เอามาปรับใหม่ไม่ได้
ต้องใช้ของใหม่ของพระเยซูไปเลย!
เวลาเรามาพบพระเจ้าแล้ว เราต้องทิ้งสิ่งเก่า ๆ ในชีวิตไป
ให้กลายเป็นของใหม่ในพระเยซูคริสต์เท่านั้นจึงจะเดินไปได้อย่างสวยงาม

10 ตุลาคม 2013 ปัญหาอดอาหาร

จะให้เพื่อนของเจ้าบ่าวอดอาหาร ตอนที่เจ้าบ่าวยังอยู่ด้วยหรือ?

ถอดความจาก ลูกา 5:34

Daily2013_10_10-1

เรื่องของการไปกินเลี้ยงในบ้านเลวียังไม่ทันสร่างซา
พวกธรรมาจารย์ทั้งหลายก็มีเรื่องไม่พอใจพระเยซูอีก
พวกนี้ก็แปลก คอยจับผิดไม่เลิกรา
“ดูซิ  ศิษย์ของท่านยอห์นถืออดอาหารบ่อย ๆ
ศิษย์ของฟาริสี ก็ทำเหมือนกัน
แต่ทำไมศิษย์ของท่านนี่
กิน ดื่มตามสบาย ไม่มีการทำตัวให้เคร่งครัดเลย?”
พวกเขาถามพระเยซู

อืม… น่าคิดนะ …อย่างนี้แสดงว่า ศิษย์ของพระเยซูนะไม่ได้ความ
พวกเขาอยากจะบอกพระองค์ว่า ทำตัวให้ดูน่าเคารพกว่านี้หน่อย..
Daily2013_10_10-2

พระเยซูทรงตอบเขาว่า
“ท่านจะให้เพื่อน ๆของเจ้าบ่าวอดอาหารตอนที่เจ้าบ่าวยังอยู่กับเขาหรือ?”
แล้วใครเป็นเจ้าบ่าวล่ะนี่ ทำไมพระเยซูตรัสเช่นนี้??
“แต่วันหนึ่งในอนาคต  เจ้าบ่าวก็จะต้องจากเพื่อน ๆ ไป
วันเหล่านั้นแหละพวกเขาจะถืออดอาหาร”
พระเยซูทรงบอกเขาว่า
พระองค์เปรียบเหมือนเจ้าบ่าว ที่ยังอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงาน
ถ้าเพื่อน ๆ ไปอดอาหารในเวลานั้น มันไม่เหมาะสมแน่
แต่วันหนึ่ง พระองค์จะไม่อยู่ …
วันนั้นเพื่อน ๆ ของพระองค์จะอดอาหารอย่างแน่นอน
อย่า… อย่ามาบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ต้องทำ…
ถึงเวลาทุกอย่างจะมาอย่างเหมาะสมนะ ท่านธรรมาจารย์

9 ตุลาคม 2013 งานเลี้ยงของเลวี

เราไม่ได้มาเรียกคนที่เห็นว่าตัวเองดี
แต่มาเรียกคนที่ท่านคิดว่านอกลู่นอกทางให้กลับใจใหม่

ถอดความจาก ลูกา 5:32

Daily2013_10_9-1

ความที่เลวีดีใจมาก เขาจึงจัดงานเลี้ยง
เลี้ยงที่บ้านอันหรูหราของเขา
แหม.. เป็นคนเก็บภาษี ก็ต้องมีเพื่อนเป็นคนเก็บภาษี
มีเพื่อนเป็นชนชั้นสูง  มีพ่อค้า  และคนรวย ๆ มากมาย
แต่คนเหล่านั้น เป็นคนที่รวยจริงแต่ไม่มีใครรัก
เป็นคนรวยที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้
อาชีพคนเก็บภาษีเป็นอาชีพที่สังคมรังเกียจ
ถือว่าเป็นคนทรยศ เพราะมาเก็บภาษีส่งโรมซึ่งครองแผ่นดินอยู่

ดังนั้น ฟาริสีและธรรมาจารย์จึงกระแนะกระแหนพระเยซูกับผู้ที่ติดตามพระองค์
“โห… ทำไมอาจารย์ของพวกเจ้าจึงมากินดื่มกับคนเก็บภาษีที่น่าชัง ทั้งกับคนบาปอย่างนี้?”

Daily2013_10_9-2

แต่พวกเขาไม่ได้พูดกระซิบ… เขาพูดดัง ๆ เพื่อหลายคนจะได้ยิน และเห็นด้วยกับพวกเขา

พระเยซูทรงได้ยิน
หันมา ตรัสกับพวกเขาว่า
“ท่านก็รู้ว่า คนเจ็บเท่านั้นต้องการหมอ  แต่คนที่ปกติ สุขภาพดีก็ไม่ต้องการหมอ”
พวกเขาสงสัย…. นี่ท่านเยซูจะบอกอะไรอีก?
“เราไม่ได้มาเรียกคนที่เห็นว่าตัวเองดี
แต่มาเรียกคนที่ท่านคิดว่านอกลู่นอกทางให้กลับใจใหม่”

รู้ไว้ซะ…ท่านธรรมาจารย์!

8 ตุลาคม 2013 ตามเรามาเถิด

“เจ้าจงตามเรามาเถิด”

ถอดความจาก ลูกา 5:27

Daily2013_10_8-1

 

หลังจากการรักษาชายอัมพาตไม่นาน
พระเยซูเสด็จออกไปในเมือง
มีคนเก็บภาษีคนหนึ่งกำลังง่วนทำงานของเขา
คอยเก็บภาษีจากประชาชนที่ยืนเข้าแถวรออยู่
พระเยซูเห็นเขา
ทรงรู้ว่า เขาคนนี้แหละที่จะทรงเลือกให้เป็นผู้ติดตามใกล้ชิด
ดังนั้น พระองค์ทรงเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขาตรัสว่า
“เจ้าจงตามเรามาเถิด”

 Daily2013_10_8-2

เลวีได้ยินดังนั้น ก็แปลกใจไม่ใช่น้อย
อะไรกัน เขาก็เป็นคนเก็บภาษี มีหน้าที่การงานดี ๆ อยู่แล้ว
ทำไม ท่านเยซูผู้นี้ จึงมาชวนเราให้ติดตามพระองค์ไป?
แต่ก็ดีเหมือนกันนะ..
พระองค์ทรงเป็นผู้ทำการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่
เราเองก็เคยเห็นพระองค์รักษาโรค
เราเองก็เคยได้ยินพระองค์สอน
แต่เราไม่คิดจะตามพระองค์
วันนี้ พระองค์กลับทรงชวนเรา
ไปดีกว่า … ไปกับพระองค์ น่าจะดีกว่าอาชีพนี้
แล้วเลวีก็ตัดสินใจทันทีว่า เขาจะตามพระองค์ไป

7 ตุลาคม 2013 อำนาจของพระเยซู

เราสั่งเจ้าว่า จงลุกขึ้น
แบกที่นอนของเจ้าไป และกลับบ้านเถิด

ถอดความจากลูกา 5:24

Daily2013_10_7-1

พระเยซูทรงหันมาหาฟาริสีและธรรมาจารย์
ทรงมองหน้าเขาตรัสว่า
“เหตุใดท่านจึงคิดในใจอย่างนั้น?”
พวกเขาตกใจ… ท่านเยซูรู้หรือว่าเราคิดอะไรอยู่?
พระองค์ตรัสต่อไปว่า
“ที่จะบอกว่า เราอภัยบาปให้ กับจะบอกว่า ให้ลุกขึ้นเดินไป
พวกท่านคิดว่า อย่างไหนจะง่ายกว่ากัน?…”
พวกเขามองพระเยซู งุนงง ไม่รู้จะตอบอย่างไร

Daily2013_10_7-2

“แต่..” พระเยซูตรัสต่อไป
“เพื่อให้พวกท่านรู้ว่า เรา..มีสิทธิอำนาจที่จะอภัยบาปได้”
พระเยซูทรงหันไปหาชายอัมพาต
“เราสั่งเจ้าว่า จงลุกขึ้น แบกที่นอนของเจ้าไป และกลับบ้านเถิด”
พอเขาได้ยินดังนั้น เขาก็ลุกขึ้นทันที
“อู.. ขอบคุณพระเจ้า” เขามองขาตัวเอง
ไม่มีร่องรอยของการโขยกเขยกขา … แถมยังยกที่นอน
เขาขอทาง…”ขอทางหน่อยขอรับ ข้าจะกลับบ้านแล้ว”
“ฮาเลลูยา ข้าหายโรคแล้ว พระเจ้าทรงดีกับข้าเหลือเกิน”
เขาพูดเสียงดัง

ทุกคนในบ้าน หันมองหน้ากัน…
“วันนี้ พวกเราได้เห็นการอัศจรรย์ที่เหลือเชื่อ”

4 ตุลาคม 2013 รู้นะ..ว่าคิดอะไร

พระเยซูทรงทราบว่า พวกเขาคิดอะไรอยู่

ถอดความจากลูกา 5:22

Daily2013_10_4-1

ใคร ๆ ก็อยากหายโรค และคน ๆ นี้มีเพื่อนดี มีความตั้งใจจริงที่จะพบพระเยซูให้ได้ พวกเขาและคนป่วยเองเชื่อว่า

พระเยซูทรงรักษาโรคของเขาให้หายได้แน่นอน

พระเยซูทรงมองเขาด้วยเมตตา สงสาร ตรัสว่า “เพื่อนเอ๋ย  เรายกบาปของเจ้าแล้ว !”

Daily2013_10_3-2 Daily2013_10_4-2

“ฮ้า!!”  พวกฟาริสีและธรรมาจารย์ตาโต ต่างคิดในใจพร้อมกันอย่างไม่นัดหมายว่า “พูดอย่างนี้ได้อย่างไร  ท่านเยซูสอนพระคำของพระเจ้าก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า จะยกโทษบาปให้ใครได้ พระเจ้าเท่านั้นที่ยกโทษให้มนุษย์ได้ พูดอย่างนี้เท่ากับหมิ่นประมาทพระเจ้านี่นา”

พวกเขาไม่รู้ว่า พระองค์คือพระบุตรของพระเจ้าที่มาในโลกนี้ แม้คิดในใจ ไม่ได้พูดออกมา แต่พระเยซูทรงรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่!!

3 ตุลาคม 2013 หย่อนลงตรงเป้าหมาย

พวกเขาหาทางที่จะหย่อนคนง่อยมาวางตรงพระพักตร์พระเยซู

ถอดความจากลูกา 5:18Daily2013_10_3-1

ชายคนนี้เป็นอัมพาต เดินไม่ได้
เขามีเพื่อนช่วยหามเขามาจากบ้าน
พอมาถึงบ้านที่พระเยซูทรงยืนสอนอยู่
พวกเขาก็ตกใจ เพราะคนแน่นบ้าน
ไม่มีทางที่พวกเขาจะเข้าประตูไปหาพระเยซูได้เลย

แต่เพื่อนทั้งสี่ไม่ได้ท้อใจ
เขาหามเพื่อนขึ้นไปบนหลังคา
และค่อย ๆ รื้อหลังคาออกเดี๋ยวนั้น!

Daily2013_10_3-2

คนในบ้านตกใจ  .. เอ๊ะ มีฝุ่นตกลงมาจากเพดาน
พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นชาย 4 คนกำลังรื้อหลังคา

“เจ้าทำอะไรกันนะ?”  คนหนึ่งตะโกน
แต่พวกเขาบอกว่า
“เดี๋ยวกระผมจะเรียงหลังคากลับอย่างเดิมนะขอรับ
เมื่อได้ความกว้างที่ต้องการ

บ้านก็สว่าง

เขาก็หย่อนเพื่อนลงมา ตรงหน้าพระเยซูพอดี!

2 ตุลาคม 2013 ฤทธิ์แห่งการรักษา

ฤทธิ์อำนาจแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับพระเยซู เพื่อรักษาคนป่วย

ถอดความจาก ลูกา 5:19

Daily2013_10_2-1 (1)

วันหนึ่ง เหล่าฟาริสีและธรรมาจารย์ที่มาจากหมู่บ้านรอบ ๆ แคว้นกาลิลี แคว้นยูเดีย
รวมทั้งจากนครเยรูซาเล็ม
รวมตัวกันมาฟังพระเยซูสอนในบ้านแห่งหนึ่ง
พระเยซูทรงมีฤทธิ์อำนาจจากพระเจ้า
จึงทรงรักษาคนป่วยหลาย ๆ คนที่มาขอให้พระองค์รักษา

บ้านนั้นเต็มด้วยผู้คน แน่นจนล้นออกมา
แต่ผู้คนก็ไม่ได้ย่อท้อ
เขารู้ว่า ถ้าได้พบพระเยซู ต้องหายโรคแน่…
และมีชายคนหนึ่งมาหาพระองค์ด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร

Daily2013_10_2-2 (1)
เขาไม่ได้เบียดคนเข้ามา
เขาไม่ตะโกน
ไม่เรียกร้อง
เขาเดินไม่ได้เสียด้วย
เขามาอย่างไรนะ?

1 ตุลาคม 2013 อธิษฐานในที่สงบ

แต่พระเยซูมักจะทรงออกไปอยู่ที่สงบ
เพื่อจะอธิษฐาน 

ถอดความจากลูกา 15:16

Daily2013_10_1-1

ชายโรคเรื้อน ดีใจที่สุดในโลก
เขาใจกล้ามาขอพระเยซูช่วย และพระองค์ก็ทรงให้ตามที่เขาขอ

มหัศจรรย์!!  ยอดเยี่ยม!!

แต่พระเยซูตรัสกับเขาว่า
“เจ้าไม่ต้องเที่ยวไปบอกใคร ๆ ว่าเจ้าหายโรค”
“ทำไมล่ะขอรับ  นี่เป็นสิ่งดีที่สุดในชีวิตของกระผม?”

“เจ้าต้องไปหาปุโรหิต เพื่อไปแสดงตัวกับปุโรหิต ให้ตรวจเจ้า
ทำตามที่ท่านโมเสสสั่งเอาไว้
แล้วก็ถวายเครื่องบูชา เพราะเจ้าได้รับการชำระ …
คราวนี้ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าเจ้าหายโรคแล้ว ”
“ขอรับ”  เสียงของเขาอ่อยลง
เขาดีใจมาก อยากบอกให้โลกรู้ แต่พระเยซูกลับทรงห้าม

Daily2013_10_1-2ต่..กลับกลายเป็นว่า
ข่าวการหายจากโรคเรื้อนนั้น แพร่กระจายไปทั่วเมือง
คนมากมายตามหาพระเยซู อยากทั้งฟังคำสอน
ทั้งจะได้รับการรักษาโรค..

แต่

พระเยวูมักจะทรงออกไปอยู่ในที่สงบ เพื่ออธิษฐาน……