2 พงศาวดาร 13:1-6
เมื่อราชาเรโหโบอัมมีประเทศที่เข้มแข็ง เศรษฐกิจดี การเมืองมั่งคง ผู้คนอยู่กันอย่างมีสันติสุข …ปีแรก ปีที่สอง ปีที่สาม ยังไม่เป็นไร แต่ปีที่สี่ ราชาเรโหโบอัมก็เริ่มทอดทิ้งพระเจ้า! น่าเสียดาย…. น่าเสียดายมาก
แล้วในปีที่ห้า ราชาแห่งอียิปต์คือ ฟาโรห์ชิชักได้เข้ามาตีกรุงเยรูซาเล็ม ฟาโรห์องค์นี้ไม่ได้นำแค่คนอียิปต์มา แต่ได้ชักชวนประเทศอื่น ๆ เข้ามาด้วย ทรงแน่ใจว่า จะเอาชนะราชาเรโหโบอัมได้อย่างแน่นอน
มีรถรบ 1200 คัน พลม้า 60,000 คน ทหารเดินเท้าจากลิเบีย สุคีอิม เอธิโอเปียมากมายจนนับไม่ถ้วน
ฟาโรห์ชิชัก โจมตีเมืองป้อมชายแดนแล้วค่อย ๆ รุกเข้ามาถึงกรุงเยรูซาเล็ม ทางเปิด โล่ง สะดวกจริง ๆ ตีเมืองไหนก็ราบเป็นหน้ากลอง
ภาพฟาโรห์ชิชักทำลายศัตรู จากปิรามิดอามุน เมืองคาร์นาคในอียิปต์
ราชาเรโหโบอัมตกพระทัยมาก ๆ ไม่สามารถต่อสู้ศัตรูได้เลย อะไรกันนี่ ก็สร้างเมืองป้อมอย่างแข็งแรง ส่งผู้บัญชาการทหารออกไป พวกเขาทำอะไรกันอยู่ นี่ไม่สนใจที่จะป้องกันประเทศกันเลยรึอย่างไร….
ประชุม ! รีบเรียกประชุมผู้ใหญ่ เจ้านายแห่งยูดาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม ด่วน!
ราชาเรโหโบอัม พร้อมกับเจ้านาย ทหาร มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว… และคนสำคัญที่สุดคือ ท่านเชไมอาห์ ผู้กล่าวคำของพระเจ้า
“ทำไมพวกเราจึงพ่ายแพ้น่าอายเช่นนี้?”
“นั่นซิ จริง ๆ เราก็เตรียมตัวพร้อมนี่นา”
แต่ท่านเชไมอาห์กล่าวว่า
“พระเจ้าตรัสดังนี้…. เจ้านะ ได้ละทิ้งเรา เราจึงละทิ้งเจ้าให้อยู่ในกำมือของฟาโรห์ชิชัก”
“โอ… อย่างนี้นี่เอง” เจ้านายคนหนึ่งเข้าใจทันที เขาเห็นที่ราชาเรโหโบอัมหันไปกราบไหว้เทวรูปต่าง ๆ ตามที่สูง มันเป็นเทวรูปที่มเหสี และสนม นางห้ามของราชาซาโลมอนเอาเข้ามาในประเทศ พระเจ้าจึงทรงให้ศัตรูมีชัยชนะเหนือพวกเขา เห็นชัด ๆ ว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงอยู่ฝ่ายเขา
“เราจะปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ไม่ได้…. ”
“ข้าผิดไปแล้ว” ราชาเรโหโบอัมก็เข้าพระทัยเช่นกัน
ทั้งเจ้านาย ทหาร และพระราชาต่างถ่อมตนลงกล่าวว่า
“พระเจ้าทรงทำสิ่งที่เที่ยงธรรมแล้ว”….
แปลก…. พวกเขายอมรับทันทีว่า ที่เขาแพ้เพราะเขาห่างเหินและปฏิบัติต่อพระเจ้าอย่างไม่ถูกต้อง
พระเจ้าทรงเห็นจากเบื้องบน
พระองค์จะทรงทำกับเขาอย่างไรต่อไป?