1 พงศาวดาร 16:37-43
ก่อนที่ราชาดาวิดจะเสด็จกลับพระราชวังเพื่อไปอวยพรแก่ครอบครัวของพระองค์นั้นเอง
พระองค์ทรงจัดการเรื่องของนักร้องให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปทุก ๆ วัน
ทรงเห็นว่า การร้องเพลงสรรเสริญ ยกย่ององค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นเรื่องที่ควรทำทุก ๆ วัน ไม่ใช่เฉพาะวันสำคัญเท่านั้น
พระเจ้าสถิตในสวรรค์ และพระองค์ทอดพระเนตรลงมาที่โลกมนุษย์อยู่ตลอดเวลา อย่างหนึ่งที่ราชาดาวิดปรารถนาคือ พระเจ้าจะทรงพอพระทัยในสิ่งที่พระองค์ได้ยินและได้เห็น ราชาดาวิดปรารถนาที่จะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าทุกเวลา
มีข้อกำหนดที่อาสาฟ และคนของเขาจะต้องทำทุก ๆ วัน
เป็นเหมือนงานประจำวัน แต่มันเป็นงานที่ต้องทำออกมาจากหัวใจ จากวิญญาณ ไม่ใช่แค่ปากร้องแล้วใจลอย.. ทำอย่างนั้นคือไม่สมบูรณ์แบบ
ท่านโอเบดเอโดม กับเพื่อนอีก 68 คน ได้เข้ามาทำงานด้วย
มีคนที่ทำหน้าที่ยามเฝ้าประตู … คือ โอเบดเอโดมบุตรชายเยดูธูน และโฮสาห์
ส่วนผู้ที่ประจำอยู่ในพลับพลาเพื่อถวายเครื่องบูชาทุกเช้าเย็นนั้นคือ ปุโรหิตศาโดก และปุโรหิตผู้ช่วยท่านอื่น ๆ โดยจะต้องทำตามที่พระเจ้าได้ทรงสั่งคนอิสราเอลไว้ตั้งแต่สมัยท่านโมเสส
มีคนที่จะถวายคำขอบพระคุณพระเจ้าว่า “เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์” คือเฮมาน เยดูธูน และคนอื่นอีกหลายคน ทั้งเฮมานและเยดูธูนรับหน้าที่เป่าแตร ตีฉาบ บรรเลงเครื่องดนตรีอื่น ๆ เพื่อคลอไปกับบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า
ทุกคนรับหน้าที่ของตนมาอย่างเต็มใจ นักร้อง นักดนตรีก็มีการซ้อม ฝึกอย่างแข็งขัน
และทุกอย่างก็ถูกจัดไว้อย่างลงตัว