ความปรารถนาของราชา ๑๗-๑

หลังจากที่ราชาดาวิดได้ทรงบัญชาทุกอย่างแล้ว  ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตน

แต่ละวันจะมีประชาชนมาถวายเครื่องบูชา   ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้ากันอย่างต่อเนื่อง

อาการที่จะไปหาพระอื่นอย่างที่เคยพลาดพลั้งมา  ก็ไม่เกิดขึ้น

ทั้งนี้เพราะราชาดาวิดได้เป็นตัวอย่างที่ดี    ประชาชนก็รักพระเจ้าด้วยสุดใจของพวกเขาตามอย่างที่ราชาดาวิดทรงรักพระเจ้าอย่างสุดใจ

 

 

วันหนึ่ง ราชาดาวิดทรงมองเห็นอะไรบางอย่างที่พระองค์ไม่สบายพระทัยมาก  จึงทรงเรียกนาธัน ผู้กล่าวคำของพระเจ้าซึ่งเป็นที่ปรึกษาของพระองค์มาเข้าเฝ้า

“ท่านดูซิ  เราเอง อยู่ในวังไม้สนสีดาร์ งดงามมาก  ในขณะที่หีบพันธสัญญาของพระเจ้านั้นกลับอยู่ในพลับพลา  เหมือนกับเป็นแค่บ้านชั่วคราว”

นาธันเข้าใจพระทัยของราชาดาวิดทันที   พอจะเดาออกว่า พระองค์ทรงคิดอะไรอยู่

“ขอพระองค์ทรงทำตามที่พระองค์ดำริเถิดพะยะค่ะ  เพราะพระเจ้าสถิตกับฝ่าพระบาท”

บางครั้งแม้นาธันจะเข้าใจหัวใจมนุษย์

แต่พระทัยพระเจ้านั้นเป็นอย่างไรล่ะ  ?  เหมือนกับราชาดาวิดหรือเปล่า?

 

คืนนั้นเอง  พระเจ้าได้ตรัสกับนาธันชัดเจน เป็นคำตรัสที่ยาวมาก

“นาธัน  เจ้าจงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราอย่างนี้…

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า  เจ้าไม่ใช่คนที่จะสร้างวิหารให้เราอยู่   ไม่เห็นหรือว่า เราไม่เคยอยู่ในวิหารเลย   ตั้งแต่ครั้งที่เรานำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ จนทุกวันนี้”

จริงซิ… นาธันคิด

พระเจ้าทรงอยู่ในสวรรค์  และทรงมาพบโมเสสที่พุ่มไม้ซึ่งไหม้ไฟ  แต่ก็ไม่ได้ถูกเผา

ยามที่คนอิสราเอลเดินทาง พระองค์ทรงอยู่กับเขาชัดเจนที่เสาเมฆ และเสาไฟ

เมื่อคนอิสราเอลเดินทางในถิ่นกันดาร พระเจ้าก็ประทับกับเขาให้เห็นชัดเจน  พระองค์ไม่ทรงจำเป็นต้องอยู่ในวิหารใด ๆ

เมื่อพระองค์ให้สร้างหีบพันธสัญญา  พระองค์ก็ทรงอยู่ในพลับพลาท่ามกลางพวกเขามาโดยตลอด

และบัดนี้ พระองค์ก็ทรงอยู่ในสวรรค์  และทรงอยู่ท่ามกลางคนอิสราเอลเช่นกัน

นาธันน้อมรับคำของพระเจ้า

“เจ้าก็รู้อยู่ว่า  เราไปมากับคนอิสราเอล ไปมากับพลับพลาตลอด  ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม  เราเคยพูดกับผู้รับใช้ของเราไหมว่า … เหตุใดเจ้าจึงไม่สร้างวิหารไม้สนสีดาร์ให้เรา?”

 

จริงซินะ  พระเจ้าไม่เคยบัญชาให้สร้างอะไรนอกเหนือไปจากพลับพลาสมัยท่านโมเสส

แล้วยังไงกันนี่…

พระเจ้าจะตรัสอะไรต่อไป