2 พงศาวดาร 6:26-31
นอกจากว่า ราชาซาโลมอนจะทรงเป็นห่วงว่า อนาคต คนอิสราเอลจะทำบาปต่อพระเจ้า เป็นเหตุให้พวกเขาพ่ายแพ้ต่อศัตรูยังไม่พอ
พระองค์ทรงเป็นห่วงอีกหลายเรื่อง ทรงอธิษฐานต่อไปว่า
“เมื่อประชากรทำบาปต่อพระองค์ ทำให้สวรรค์ปิด ไม่มีฝนตกลงมา พระองค์ทรงให้เขาได้รับความทุกข์ใจซึ่งเป็นผลจากบาปของพวกเขา และพวกเขาได้กลับใจ หันจากความบาปทั้งปวง กลับมารับพระนามของพระองค์ และอธิษฐานจากพระวิหารนี้
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดฟังจากสวรรค์ และอภัยบาปให้กับผู้รับใช้ของพระองค์ และประชากรอิสราเอลทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงสอน แนะนำทางที่ดีให้กับพวกเขาแล้ว ขอประทานฝนรดแผ่นดินที่พระองค์ประทานให้พวกเขา”
คำอธิษฐานของพระราชานั้น ประชาชนก็ฟังอยู่เช่นกัน นี่เป็นทั้งคำอธิษฐานและคำเตือนสติจากพระราชาที่มีต่อประชาชน
ราชาซาโลมอนยังทรงนึกถึงวันเวลายากลำบากที่อาจเกิดอย่างไม่คาดคิด…. แม้ในคำอธิษฐานของพระราชาเรายังเห็นได้ว่า พระองค์ทรงรอบคอบ รอบรู้ ทรงมองการณ์ไกล พระองค์ไม่เชื่อว่า คนอิสราเอลจะเป็นคนดีไปได้ตลอดไป แต่พระองค์ทรงเชื่อในความรักมั่นคงของพระเจ้าที่ทรงมีต่อคนอิสราเอล
“ข้าแต่พระเจ้า
วันหนึ่ง อาจเกิดการกันดารอาหารขึ้น อาจมีโรคระบาด โรคพืช โรคราน้ำค้าง หรือมีตั๊กแตนเข้ามาเขมือบพืชผล อาจมีศัตรูเข้ามาล้อมเมือง และโรคร้ายในหมู่ประชากร
พระเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงโปรดสดับฟังจากสวรรค์ เมื่อพวกเขาร้องทูลพระองค์จากพระวิหารนี้
พระเจ้าข้า พวกเขาแต่ละคน ย่อมเข้าใจถึงความเจ็บปวด ความทรมานที่เกิดขึ้น ดังนั้น ขอพระเจ้าทรงโปรดฟังเขา ขอทรงอภัยบาปให้ และจัดการกับเขาตามการกระทำของเขา พระองค์เท่านั้นที่ทรงรู้จิตใจภายใน ทรงรู้ว่า เขาคิดอะไรอยู่
พระองค์เจ้าข้า ทั้งนี้ เพื่อว่าเขาจะได้ยำเกรงพระองค์ และเดินในหนทางของพระองค์ ตลอดวันเวลาที่พระเจ้าได้ให้เขาได้อยู่ในแผ่นดินที่ประทานแก่บรรพบุรุษของเขา “
ราชาซาโลมอน ทรงมองเห็นว่า ในวันข้างหน้านั้น ยังมีอะไรหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ ในรัชสมัยของราชบิดา ก็มีแต่สงคราม และการต่อสู้มากมาย ส่วน ในสมัยของพระองค์เองมีความสงบ ประชากรอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
แต่ใครจะรู้อนาคตว่า จะดีหรือร้าย?… พระราชาทรงอธิษฐานเพื่อพวกเขาตั้งแต่วันนี้ มันน่าจะปลอดภัยกว่า