2 พงศาวดาร 28:12-15
คำเตือนของโอเดดนั้น จำเป็นสำหรับอิสราเอล แผ่นดินทางเหนือมาก พวกเขาไม่ควรที่จะต้องเจอกับหายนะ และตกต่ำไปกว่านี้
ช่วงเวลานั้นเอง ผู้นำของทหารเผ่าเอฟราอิมหลายคนคือ อาซาริยาห์ เบเรคิยาห์ เยอิสคียาห์ อามาสา ได้คุยกันและรู้ว่า พวกเขาต้องทำอะไรจึงจะถูกต้อง
ดังนั้น จึงออกไปรับคนที่กลับมาจากสงคราม และป้องกันไม่ให้เขาทำอย่างที่ตั้งใจ คือการจับคนยูดาห์มาเป็นเชลย…
“พวกเจ้า อย่านำคนยูดาห์เข้ามาเป็นเชลยของเรา เพราะถ้าเจ้าทำอย่างนั้น เท่ากับหาเรื่องใส่ตัว ทำให้พระเจ้าทรงกริ้วยิ่งขึ้น พวกนายก็รู้อยู่แล้วว่า ตอนนี้ พระเจ้าไม่พอพระทัยเราหลายเรื่อง”
ผู้นำทั้งสี่อธิบายให้เห็นว่า การที่พวกเขาได้ชัยชนะ ไม่ได้หมายความว่า เขาจะเอาพี่น้องร่วมบรรพบุรุษเหล่านี้มาบังคับเป็นทาสใช้แรงงานได้
“จริงซิ” ทหารที่คุมเชลย และรู้สึกฮึกเหิมกลับเริ่มเข้าใจสิ่งที่ผู้นำทั้งสี่เตือน “พวกเรา… ให้ปล่อยเชลย และใครถูกมัดเชือกไว้ก็ให้แก้เชือก”
“ท่านผู้นำขอรับ” นายทหารคนหนึ่งกล่าวต่อผู้นำทั้งสี่ “พวกเราจะทิ้งของที่ริบมา และจะปล่อยเชลยกลับไปตามที่ท่านตักเตือน ขอบคุณที่ท่านช่วยให้เราไม่ต้องรับโทษจากพระเจ้าไปกว่านี้”
เสียงดังมาจากกลุ่มเชลยว่า “ขอบคุณพระเจ้า” “ขอบคุณพระเจ้า” “ขอบคุณพระเจ้า” พวกเขาดีใจที่ไม่ต้องเป็นทาสอีกต่อไป แต่ยังมีคนที่เดินเปลือยมาด้วยดังนั้น จึงมีคนเอาเสื้อผ้าจากของที่ริบไปสวมให้เขา
พวกเขาจัดหารองเท้าให้เชลยเหล่านั้น
หาอาหาร และน้ำดื่ม น้ำองุ่นให้พวกเขา
คนไหนมีบาดแผลก็ขโลมด้วยน้ำมันซึ่งเป็นยา
ยิ่งกว่านั้น บางคนถึงกับเดินไม่ได้ พวกเขาก็ช่วยเอาขึ้นลา พากลับมายังเมืองเยรีโคทางใต้อีกด้วย
“ท่านขอรับ เราขอบคุณท่านมาก ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรท่าน” เชลยคนหนึ่งกล่าวแก่ทหารอิสราเอล
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็เสียใจนะ ที่ทำกับพวกเจ้าอย่างนั้น จริง ๆ แล้วอย่างไร เราก็สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรพวกเจ้ามาก ๆ “
จากนั้น พวกเขาก็เดินทางไปทางเหนือ มุ่งสู่เมืองสะมาเรีย