น้ำพระทัยพระราชา ๓๐-๑

2 พงศาวดาร 30:1-6

ช่วงเวลาก่อนหน้านั้น อิสราเอลถูกพระราชาแห่งอัสซีเรียโจมตี และจับไปเป็นเชลยมากมาย   อิสราเอลจะต้องส่งส่วยให้กับอัสซีเรีย ทำให้ประชาชนทำงานหนัก และผลผลิตที่ได้ ก็ต้องกลายเป็นของประเทศที่เข้ามาครองพวกเขา

มีหลายคนร้องทูลต่อพระเจ้าให้ช่วย

หลายคนไม่สนใจที่จะกลับมาหาพระเจ้าสักนิด

แม้ว่าพระเจ้าจะทรงส่งคนของพระองค์ไปหาพวกเขา  แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็ยังไม่กลับมาหาพระเจ้า

ชนอิสราเอลส่วนหนึ่งถูกกวาดไปเป็นเชลย

คนอิสราเอลทางเหนือกลายเป็นเมืองขึ้นของอัสซีเรีย

แต่ยูดาห์ทางใต้ยังคงเป็นอิสระอยู่

ดังนั้นพระราชาเฮเซคียาห์ทรงเห็นว่า    ควรที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อขอให้พระเจ้าทรงช่วยพวกเขาให้ดีขึ้นอีกครั้ง

เมื่อพระราชาเห็นว่า การนมัสการพระเจ้าเป็นสิ่งที่ดียิ่ง  พระองค์จึงทรงส่งสารไปยังหัวเมืองต่าง ๆ ทั้งแผ่นดินอิสราเอลทางเหนือ และยูดาห์   รวมทั้งไปที่ดินแดนเอฟราอิม และมนัสเสห์  โดยพระองค์ทรงเชิญให้พวกเขาที่ไม่ได้ถูกกวาดไปเป็นเชลย ให้มารวมกันนมัสการพระเจ้าในพิธีปัสกา ที่พระวิหารในนครเยรูซาเล็ม

 

พระราชา ราชโอรส และขุนนางทั้งหลายในเยรูซาเล็มได้ปรึกษากันแล้วว่า พวกเขาจะฉลองเทศกาลปัสกาในเดือนที่สอง  ซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะฉลองกันในเดือนที่หนึ่ง  แต่ทำในเดือนที่หนึ่งไม่ได้เพราะเหล่าปุโรหิตนั้น ไม่สามารถชำระตัวเสร็จทันครบจำนวนที่ต้องการได้   อีกอย่าง ผู้คนก็ยังไม่ได้เข้ามารวมกันพร้อมเพรียง

 

ราชาเฮเซคียาห์ทรงหวังดี จึงออกประกาศตั้งแต่เบเออร์เชบา ไปจรดทางเหนือคือเมืองดาน  เชิญให้ประชาชนที่ยังอยู่ได้เดินทางมาฉลองปัสกาเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งอิสราเอลในนครเยรูซาเล็มกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา    พวกเขาไม่ได้ทำสิ่งนี้มานานแสนนานแล้ว

ตั้งแต่ที่ทางใต้กับเหนือแยกแผ่นดิน  แยกกษัตริย์กันนั้น  คนทางเหนือไม่ได้มีโอกาสเข้ามานมัสการพระเจ้าในนครเยรูซาเล็ม

ดูซิ  พระองค์ทรงเป็นราชาที่ห่วงใยประชาชน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนทางใต้   แต่ไม่ได้ทรงถือเขาถือเรา  แต่พร้อมที่จะให้พวกเขากลับมาหาพระเจ้า โดยพระองค์ตั้งพระทัยที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้พวกเขากลับมาหาพระเจ้า

 

ราชาเฮเซคียาห์ทรงทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย

แต่… จะมีคนร่วมมือไหมนะ?