2 พงศาวดาร 6:1-10
เมฆหมอกเต็มอยู่ในพระวิหารจนปุโรหิตไม่สามารถปรนนิบัติหน้าที่ได้ พวกเขาล้มลง ก้มลงกราบพระเจ้าที่เขาไม่เห็น ทุกคนต่างตะลึงกับการประทับอยู่ของพระเจ้า หลายคนรู้สึกเหมือนจะตายเพราะความที่พระเจ้าทรงอยู่ที่นั่น พวกเขาเข้าใจแล้วว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจะเห็นพระองค์ได้ แค่รู้ว่า พระองค์ประทับอยู่ที่ตรงนี้ก็มากเกินกว่าที่จะรับไหว!!!
ราชาซาโลมอนทรงอยู่ข้างนอกพระวิหาร พร้อมกับประชาชนเป็นจำนวนมาก พระองค์ตรัสด้วยสุรเสียงดังก้องว่า
“พระเจ้าตรัสว่า พระองค์จะประทับในความมืดทึบ
ข้าทาสของพระองค์ ได้สร้างพระวิหาร เพื่อเป็นที่ประทับของพระองค์
เพื่อว่าพระองค์จะสถิตอยู่ตลอดไป”
ประชาชนทั้งปวงน้อมลงกราบ…. ทุกคนปรารถนาให้พระวิหารนี้เป็นที่ประทับของพระองค์หรือ?
พวกเขารู้อยู่ในใจว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าวิหารนี้มากมายนัก แม้ฟ้าสวรรค์ยังรองรับพระองค์ไม่หมด….
พวกเขาไม่อาจเอาพระเจ้ามาไว้ในพระวิหาร เหมือนกับที่เอาหีบพันธสัญญาของพระองค์มาไว้ในพระวิหารนั้น
แต่การสร้างพระวิหาร คือการแสดงการถวายเกียรติพระเจ้าด้วยสุดจิต สุดใจ สุดความคิด และสุดกำลัง ของราชาดาวิดและซาโลมอน เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความรักเคารพที่มีต่อพระองค์ ขอถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยทั้งหมดที่มีอยู่ พระราชาและประชาชนพร้อมใจกันที่จะถวายเกียรติสูงสุดแด่พระเจ้า ……
ภาพได้รับความเอื้อเฟื้อจาก lavistachurchofchrist.org
ราชาซาโลมอนตรัสว่า
“สรรเสริญพระเจ้าแห่งอิสราเอล
พระองค์ทรงทำตามคำสัญญาที่ตรัสกับราชบิดาของข้าพเจ้าด้วยพระหัตถ์ของพระองค์
พระองค์ได้ตรัสว่า
…..นับแต่วันที่เรานำประชากรของเราออกมาจากอียิปต์
เรามิได้เลือกเมืองใดเมืองหนึ่ง ในเผ่าใด ๆ เพื่อสร้างวิหารขึ้น
เรามิได้เลือกใครมาครองอิสราเอล
แต่บัดนี้ เราเลือกเยรูซาเล็มเป็นที่สร้างวิหารเพื่อนามของเรา
และเลือกดาวิดให้ปกครองประชากรอิสราเอลของเรา…..
ดาวิด ราชบิดาของข้าพเจ้า ตั้งพระทัยจะสร้างพระวิหารถวายแด่พระนามของพระเจ้าแห่งอิสราเอล
แต่องค์พระเจ้าทรงห้ามไว้ ที่เจ้ามีใจจะสร้างวิหารให้เรานั้นก็ดีแล้ว
แต่เจ้าจะไม่ใช่ผู้ที่สร้างพระวิหาร ผู้ที่จะสร้างคือบุตรชายของเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำตามพระสัญญาคือ
ให้ข้าพเจ้าครองบัลลังก์ต่อจากราชบิดา
และข้าพเจ้าได้สร้างพระวิหารนี้เพื่อพระนามของพระเจ้าแห่งอิสราเอล
วิหารนี้ให้เป็นที่วางหีบพันธสัญญา ซึ่งภายใน มีพันธสัญญาที่พระเจ้าประทานแก่คนอิสราเอล”
สิ่งที่ราชาซาโลมอนตรัส เหล่าคนอิสราเอลต่างก็รับไว้ในใจด้วยความนอบน้อม