มีคาห์ 7:8-13
ศัตรูของข้าเอ๋ย อย่ายิ้มเยาะข้าไป เมื่อข้าล้มลง ข้าจะลุกขึ้น เมื่อข้านั่งอยู่ในความมืด องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นแสงสว่างของข้า
ข้าจะทนรับพระพิโรธของพระเจ้าเพราะข้าได้ทำบาปต่อพระองค์ จนกว่าพระองค์จะทรงว่าความให้ และรักษาสิทธิ์ของข้าไว้ พระองค์จะทรงนำข้าออกมาสู่ความสว่าง และข้าจะมองดูการช่วยกู้อันชอบธรรมของพระองค์
แล้วศัตรูของข้าพเจ้าจะเห็น คนที่กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “ไหน พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?” จะต้องอับอาย ตาของข้าพเจ้าจะเห็นเขาล้มลง และถูกเหยียบย่ำเหมือนโคลนตมตามถนน
จะถึงวันที่เจ้าจะต้องสร้างกำแพง วันนั้น อาณาเขตของเจ้าจะขยายกว้างออกไป
วันนั้นเขาจะมาหาเจ้าจากอัสซีเรียและเมืองต่าง ๆ ในอียิปต์ และจากเขตแดนอียิปต์ไปจนถึงแม่น้ำยูเฟรตีส จากทะเลถึงทะเล จากภูเขาถึงภูเขา
โลกจะกลายเป็นที่ร้างเพราะชาวโลกเอง มันเป็นผลแห่งการกระทำของเขา
มีคาห์รู้ดีว่า อิสราเอลจะต้องทนรับสภาพเลวร้าย อันเป็นผลจากความผิดของเขา แต่พวกเขาจะยอมรับพระพิโรธของพระเจ้า มันคงไม่หนักหนาสาหัสจนตาย มีคาห์จึงกล่าวว่า อย่ามาเยาะเย้ยข้า เพราะเมื่อรับโทษของพระเจ้าแล้ว พระเจ้าจะทรงนำพวกเขามาถึงความสว่าง จะเป็นบทใหม่ของชีวิตพวกเขา ศัตรูต่างหากที่พระเจ้าจะทรงเหยียบย่ำ
วันหนึ่งพวกเขาจะกลับใจ และพระเจ้าจะทรงว่าความให้กับคนของพระองค์ ในบทที่ผ่านมานั้น เราเห็นว่า พระเจ้าทรงช่วยกู้อิสราเอลเพราะว่า พระองค์ทรงชอบธรรม ในบทนี้ พระองค์จะทรงบันดาลให้เขากลับใจ …
เพราะความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นนั้น ก็เพื่อจะนำพวกเขากลับใจ การรับโทษจะนำมาถึงการกลับใจซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ยิ่งนัก