ล้ำเส้น ๒๖-๓

2 พงศาวดาร 26:16-18

บ้านเมืองเจริญมั่งคั่ง

การทหารเข้มแข็ง มีการป้องกันประเทศรอบด้าน

การประดิษฐ์อาวุธแบบใหม่ขึ้นมา ทำให้ประชาชาติทั้งหลายต่างเกรงขาม

เมืองใหม่ ๆ  เกิดขึ้นในถิ่นกันดาร

การค้าระหว่างเมืองก็อยู่ในขั้นที่ดี ประชาชนอยู่ดีมีสุข

….ดี  ดีจริงที่ประเทศนี้เจริญได้ขนาดนี้ในมือของเรา… ราชาอุสซียาห์เริ่มคิดเป็นอื่นไปจากพระเจ้า    ทรงคิดว่า  “ฉันนี่ยอดจริง ๆ “

 

ในพระวิหาร พระเจ้าทรงกำหนดให้ปุโรหิตทำหน้าที่เผาเครื่องหอม  ปุโรหิตยังคงเป็นตัวกลางระหว่างพระเจ้ากับประชาชน และองค์กษัตริย์   ไม่มีอะไรเปลี่ยน

แต่ด้วยความที่ราชาอุสซียาห์ทรงคิดว่า พระองค์ทำได้ทุกอย่าง

 

จึงก้าวล้ำเข้าไปในหน้าที่ของปุโรหิต   ทรงคิดว่า ทำอย่างอื่นได้  ก็ทำอะไรในพระวิหารได้เหมือนกัน  ทรงเดินเข้าไปในพระวิหาร และเริ่มต้นที่จะเผาเครื่องหอม!

พวกเราอาจไม่เข้าใจว่า ทำไมมันเป็นเรื่องใหญ่โต… เรื่องใหญ่ซิ  .. พระเจ้าทรงสั่งอะไร เราต้องทำตามพระเจ้า ไม่ใช่นึกจะทำอะไรก็ได้

“ท่านปุโรหิตขอรับ   พระราชาเสด็จเข้าไปเผาเครื่องหอมขอรับ”  มีคนหนึ่งรีบเข้าไปแจ้งกับปุโรหิต

ดังนั้นปุโรหิตอาซาริยาห์จึงเรียกปุโรหิตอีก 80 คนเข้าไปในพระวิหารด้วยกัน พวกเขาขัดขวางพระราชา

“ขอพระราชาโปรดหยุดที่จะทำสิ่งต้องห้ามนี้พะยะค่ะ”   อาซาริยาห์กราบทูล
“พระราชาไม่ทรงมีหน้าที่เผาเครื่องหอมถวายพระเจ้า  แต่มันเป็นหน้าที่ของปุโรหิต ลูกหลานท่านอาโรน  พวกเขาถูกชำระตัวให้บริสุทธิ์แล้ว จึงมาเผาเครื่องหอม”

ภาพจาก jesusfootprints.wordpress.com

“อะไรนะ  เจ้าว่าอะไร”  ราชาอุสซียาห์ทรงกริ้ว

“ขอประทานอภัยด้วยพะยะค่ะ   ขอเสด็จออกจากสถานบริสุทธิ์    เพราะบัดนี้ พระองค์ทรงล่วงเกินพระเจ้า  และพระองค์จะไม่ได้ทรงรับเกียรติยศจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเลย”

ราชาอุสซียาห์จะฟังพวกเขาไหม?