2 พงศาวดาร 13:13-22
แต่ขณะที่ราชาอาบียาห์กำลังกล่าวคำเตือนสติทัพอิสราเอลทางเหนือนั่นเอง พวกเขาก็ได้แบ่งกำลังคนเข้ามาโอบทางด้านหลัง
เมื่อราชาอาบียาห์ทรงหันมาอีกครั้ง
อ้าว… อะไรกันนี่?
ปรากฏว่า มีทัพอิสราเอลทั้งข้างหน้า และข้างหลังทัพของยูดาห์
“พระราชาไม่น่ามัวตรัสสอนทหารตอนนี้เล้ย” ทหารยูดาห์คนหนึ่งกล่าว
“นั่นซิ ข้าก็ว่าอย่างนั้น”
“แล้วทีนี่จะทำอย่างไร?”
“ข้าว่ามีทางเดียว”
“อะไรล่ะ?”
“ขอพระเจ้าทรงช่วยเราซิ”
พวกเขาพากันคุกเข่าทูลอธิษฐานต่อพระเจ้า เพราะการศึกครั้งนี้มันเกินกำลังเสียแล้ว
ทัพใหญ่ของอิสราเอลมีกำลังพลมากกว่าเท่าตัว
ราชาอาบียาห์ร้องทูลพระเจ้าพร้อมกันกับอิสราเอล
“พระเจ้าแห่งอิสราเอล…. ขอทรงโปรดช่วยเราด้วยพระเจ้าข้า!”
UUUU UUUUU อู้ อู่
ปุโรหิตเป่าแตรเสียงก้อง
คนยูดาห์ร้องเพลงศึกออกมาพร้อม ๆ กัน และพวกเขาตะโกนร้องขอพระเจ้าทรงช่วย
ทันใดนั้นเอง
ทหารของอิสราเอลทางเหนือก็ตกใจ และแตกตื่นไปตาม ๆ กัน
“อะไรกันนั่น?”
พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่ฟังเสียงของผู้บังคับบัญชา วิ่งหนีออกไปจากที่นั่นกันอย่างรวดเร็ว
ความโกลาหลเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
มีการตามไปสังหาร ทำให้มีทหารทางเหนือตายไปถึง 500,000 คน ! มากมายอะไรเช่นนั้น !
ชนะแล้ว เราชนะแล้ว เสียงของทหารยูดาห์ตะโกนลั่น
ไชโย! สรรเสริญพระเจ้า! ไชโย
ที่ยูดาห์ได้รับชัยชนะในครั้งนั้น เพราะว่าเขาพึ่งพาพระเจ้า เขาไม่ได้พึ่งตนเองว่าเก่งกาจ สามารถแต่ประการใด พวกเขารู้อยู่ว่า ตั้งแต่ต้น ทหารอิสราเอลทางเหนือก็มีมากกว่าเท่าตัว…. ถ้าเขาไม่พึ่งพระเจ้า เขาจะไม่มีวันทำสงครามชนะได้
ราชาอาบียาห์สั่งทหารตามติดทัพอิสราเอลไปทางเหนือ
จนยึด เมืองเบธเอล และเมืองใกล้เคียง รวมทั้งเมืองเยชานาห์และเมืองเล็ก ๆ ใกล้เคียง
ราชาอาบียาห์จึงทรงมีอำนาจมากขึ้น ในขณะที่ราชาเยโรโบอัมตกต่ำลง และสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา
ราชาอาบียาห์ทรงมีมเหสีถึง 14 องค์ มีโอรส 22 องค์ มีธิดา 16 องค์ แต่ครองเพียง 3 ปี ก็สิ้นพระชนม์