อิสยาห์ 16:6-13
เราได้ยินเรื่องความเย่อหยิ่งของโมอับ… เขาช่างหยิ่งเสียจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความยะโสของเขา ความอวดตัว ความทรนงของเขา เขาโอ้อวดอย่างไร้ค่า สูญเปล่า
ดังนั้น ปล่อยให้ชนโมอับร่ำไห้เพื่อแผ่นดินโมอับ ให้ทุกคนร้องไห้คร่ำครวญ เจ็บปวดเป็นที่สุด เพื่อเค้กลูกเกตของคีร์หะเรเสท(นั่นก็คือ ผู้คนในแผ่นดินนั้น)
ท้องทุ่งแห่งเฮชโบนก็แห้งเหี่ยวไป และเถาองุ่นของสิบมาห์ก็ถูกขุนศึกจากประเทศต่าง ๆ เข้ามาเหยียบย่ำ ทำลายกิ่งที่เคยแผ่ขยายไปจนถึงยาเซอร์ และแผ่เข้าไปในถิ่นกันดาร หน่อของมันขยายออกไปผลิผลถึงทะเล
ดังนั้นข้าจึงร้องไห้เหมือนที่ยาเซอร์ร่ำไห้ถึงเถาองุ่นแห่งสิบมาห์
ข้าหลั่งน้ำตาให้เจ้าจนชุ่ม… เจ้าเฮชโบนและเอเลอาเลห์ เพราะว่าเสียงโห่ร้องของเจ้ายามที่ผลไม้ฤดูร้อนออกผล และยามที่เก็บเกี่ยวข้าวนั้นเงียบลงไปเสียแล้ว
ความยินดีและความชื่นชมหายไปจากแผ่นดินที่อุดม ไม่มีเสียงร้องเพลงในสวนองุ่นอีก ไม่มีเสียงโห่ร้องอย่างมีความสุข ไม่มีใครย่ำองุ่นในบ่อองุ่นเลย เราเป็นผู้หยุดเสียงร้องเหล่านั้น
ดังนั้น ส่วนภายในใจของเราจึงคร่ำครวญราวกับเสียงพิณเพื่อโมอับ ส่วนลึกที่สุดของเรานั้นเสียใจแทนคีร์-หะเรเสท โมอับเหนื่อยเปล่าเมื่อเขาไปยังที่สูง เมื่อเขาไปยังที่เทวสถานเพื่ออธิษฐานบนบาน เพราะเขาจะไม่ได้รับคำตอบ
นี่เป็นคำของพระเจ้าซึ่งตรัสถึงโมอับในอดีต แต่บัดนี้ พระเจ้าตรัสว่า “ภายในสามปีที่เหมือนกับช่วงปีของการจ้างแรงงาน ศักดิ์ศรีอันตระการของโมอับจะถูกเหยียดหยาม แม้ว่าเขาจะมีประชากรมากมาย แต่คน เหลือจะมีอยู่น้อยมากและยังอ่อนล้าโรยแรงอีกด้วย ..”