อิสยาห์ 6:8-13
และข้าก็ได้ยินเสียงของพระเจ้าตรัสว่า “เราจะส่งใครไป และใครจะไปแทนเรา?” พระเจ้าทรงเป็นผู้ส่งไป และคนของพระองค์เป็นผู้เดินทางออกไปทำสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์
แล้วข้าตอบว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ โปรดส่งข้าพระองค์ไปเถิด พระเจ้าข้า” อิสยาห์พร้อมที่จะไปตามคำสั่งของพระเจ้า เขาพร้อมที่จะเป็นคำตอบซึ่งพระเจ้าทรงใช้ได้
และพระองค์ตรัสว่า “จงไป บอกคนเหล่านี้ว่า … พวกเจ้าฟังเอา ฟังเอา แต่กลับไม่เข้าใจ
พวกเจ้าเห็นแล้วเห็นอีก แต่กลับไม่ดู ทำใจของคนเหล่านี้ให้มึนงงไป ทำให้หูตึง ทำให้ตาบอด มิฉะนั้น พวกเขาจะเห็นได้ด้วยตา ยินด้วยหู และซาบซึ้งจนเข้าใจ ในที่สุดกลับมาและรับการรักษาให้หาย” ตา หู และใจ สามสิ่งนี้สำคัญมาก หากทั้งตา หู และใจได้ซาบซึ้ง ได้รับคำของพระเจ้า… พวกเขาจะได้รับสิ่งดี ๆ แน่นอน นี่เป็นคำมหัศจรรย์จริง ผู้ที่ถูกพระเจ้าส่งไป แม้จะต้องกล่าวคำกับคนที่มองไม่เห็น หูไม่ได้ยิน ไม่เข้าใจ …วันหนึ่งเมื่อพระเจ้าทรงโปรดเขา แน่นอนพวกเขาจะเห็น ได้ยิน ได้เข้าใจ จะได้รับการรักษาจากพระเจ้า …
แล้วข้าจึงกราบทูลว่า “นานเท่าไรพระเจ้าข้า?” นานเท่าไรที่จะต้องกล่าวคำของพระเจ้าทั้ง ๆ ที่คนไม่เข้าใจ….
พระองค์ตรัสว่า “จนกว่าเมืองจะร้างเปล่า ไม่มีคนอาศัย และบ้านไม่มีคนอยู่ แผ่นดินกลายเป็นที่รกร้าง
และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงส่งทุกคนไปยังแดนไกล แผ่นดินถูกทิ้งร้างจนหมดสิ้น โอ้โห … พระเจ้าทรงบอกอิสยาห์ว่า ยากที่จะมีคนเห็น ได้ยิน และเข้าใจ…. จนกระทั่งพวกเขาต้องรับผลแห่งการกระทำของตนเอง
และแม้ว่ายังเหลือคนหนึ่งในสิบ มันจะถูกเผาเหมือนกับต้นเทเรบินธ์และต้นโอ๊คที่ตอของมันยังเหลือเมื่อต้นล้มไป ตอที่เหลือนั้นคือเมล็ดพันธุ์ที่บริสุทธิ์
แม้คนที่ยังเหลือในแผ่นดิน ไม่ถูกจับไปเป็นเชลย ก็ยังจะถูกการพิพากษาของพระเจ้าด้วย กว่าพวกเขาจะได้กลับมาเป็นคนบริสุทธิ์ของพระเจ้าอีกครั้ง….