อิสยาห์ 9:1-7
แต่สำหรับเมืองซึ่งกำลังอยู่ในความเจ็บปวดนั้น จะไม่มีความมืดครื้มเกิดขึ้น
ในเวลาก่อนเก่า พระเจ้าได้นำความเหยียดหยามมาสู่ดินแดนเศบูลุน และดินแดนนัฟทาลี แต่เวลาต่อมา พระองค์ทรงทำทางอันตระการไปสู่ทะเล เป็นดินแดนโพ้นจอร์แดน คือกาลิลีแห่งประชาชาติทั้งหลาย
การบุกของอัสซีเรียจะทำให้พื้นที่ทางเหนือนั้นถูกทำลายมากกว่าที่อื่น ๆ แต่ถึงกระนั้น ดินแดนดังกล่าวซึ่งถูกปล้นอย่างมากมายนั้น กำลังจะได้รับพระพรพิเศษด้วย
เหล่าคนที่เดินอยู่ในความมืด ได้เห็นแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ คนที่อาศัยในดินแดนมืดทึบ แสงสว่างได้ส่องมาเหนือพวกเขา
พระเจ้าทรงเพิ่มจำนวนคนในประเทศนั้น และทรงทำให้เขามีความชื่นชมมากขึ้น เขายินดีต่อพระพักตร์พระองค์ เหมือนกับยินดีเวลาฤดูเกี่ยวเก็บ เหมือนกับคนที่มาแบ่งของที่ปล้นมาให้กันและกัน
เพราะว่า แอกที่เขารับเป็นภาระ และไม้บนไหล่ของเขา กระบองของคนที่กดขี่เขา พระองค์ได้ทรงหักพวกมันในวันของคนชาวมีเดียนแล้ว
เพราะว่ารองเท้าทุกคู่ของนักรบที่ย่ำไปในสนามรบอันวุ่นวาย และเสื้อผ้าทุกตัวต่างโชกเลือดทั้งสิ้น มันจะกลายเป็นเชื้อไฟเผา
เพราะว่า จะมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อพวกเรา พระเจ้าประทานบุตรชายคนหนึ่ง เพื่อพวกเรา การปกครองจะอยู่บนบ่าของเขา นามของเขานั้น จะเรียกกันว่า “ที่ปรึกษาแสนอัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ เจ้าชายแห่งสันติ”
การปกครองของท่านและสันติสุขจะเพิ่มมากขึ้น และไม่มีที่สิ้นสุด บนบัลลังก์ของราชาดาวิด เหนืออาณาจักรของพระองค์ เพื่อจะสถาปนาไว้ ยกย่องเชิดชูไว้ ด้วยความเที่ยงธรรมและความชอบธรรม จากเวลานี้จนนิรันดร์ ความกระตือรือร้นของพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจะทำสิ่งนี้