ฮาบากุก 1-2

ฮาบากุก 1:12-17

ฮาบากุกทูลต่อพระเจ้าอีกครั้ง
พระเจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้านิรันดร์มิใช่หรือ?  ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า  พระองค์ผู้ทรงบริสุทธิ์ยิ่งของข้าพเจ้า   เราจะไม่ตาย

ข้าแต่พระเจ้า  พระองค์ทรงตั้งพวกเขาไว้ให้มาลงโทษพวกเรา  และพระเจ้าข้า พระองค์ผู้ทรงเป็นศิลา  พระองค์ทรงตั้งพวกเขามาเพื่อติเตียนเรา  ฮาบากุกเข้าใจว่า พระเจ้าทรงแต่งตั้งบาบิโลนมาจัดการกับยูดาห์


พระองค์ผู้ทรงมีพระเนตรอันบริสุทธิ์เกินกว่าที่จะทอดพระเนตรความชั่วร้าย และพระองค์ไม่อาจมองที่ความผิด  แต่เหตุใดพระองค์ทรงมองคนทรยศเฉย ๆ  และยังทรงเงียบอยู่ในขณะที่คนชั่วร้ายกลืนกินคนที่บริสุทธิ์ชอบธรรมกว่าพวกเขา ?  พระองค์ทรงทำอย่างนั้นได้อย่างไรพระเจ้าข้า ฮาบากุกไม่เข้าใจ   และนี่ก็เป็นปัญหาที่คนปัจจุบันถามเช่นกัน  ทำไมคนดีจึงตายเร็ว?  ทำไมคนชั่วจึงร่ำรวย  รุ่งเรือง?

พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาเหมือนกับเหล่าปลาในทะเล เหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานที่ไม่มีผู้ปกครอง

คนเคลเดียนี้  จะลากพวกเขาขึ้นมาด้วยขอเกี่ยว และลากพวกเขาไปด้วยแห  เขารวบรวมคนเข้ามาด้วยอวนของเขา  เขาไล่ล่าผู้คนอย่างสนุกสนาน  ฮาบากุกเห็นว่า พระเจ้าทรงปล่อยให้คนชั่วลอยนวล

อาณาจักรเคลเดียเรืองอำนาจในช่วงปี  625-539  ปีก่อนคริสตศักราช    เนบูคัดเนสซาร์เป็นผู้บัญชาการกองทัพที่เก่งกล้า  และไม่เท่านั้น เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงตั้งมาให้จัดการกับยูดาห์ด้วย

ภาพจำลองประตูเมืองบาบิโลน อิชตาร์

ดังนั้นเขาจึงถวายเครื่องบูชาต่อแหของเขา และถวายเครื่องหอมให้กับอวนของเขา บาบิโลนเองคิดว่า อาวุธของเขาคือเคล็ดลับของความสำเร็จในการโจมตีผู้อื่น  พวกเขาจึงภูมิใจกับอาวุธเหล่านั้น

เพราะว่า เขาอยู่อย่างหรูหราฟุ่มเฟือยได้ก็เพราะสิ่งเหล่านี้  อาหารของเขามีเหลือเฟือ    เขาจะยังคงฆ่าฟันอยู่เรื่อยไป และสังหารประชาชาติทั้งหลายอย่างไร้เมตตาต่อไปไม่หยุดหย่อนหรือ ?

เนบูคัดเนสซาร์นั้น ทรงสร้างบาบิโลนจนใหญ่โต  เรืองอำนาจ  มีกำแพงเมืองหน้า ยี่สิบกว่าเมตร  แค่ประตูเมืองก็งดงามจนตะลึงลาน  สร้างทั้งซิกกูรัท ซึ่งเป็นอาคารสูง   ราชวังของพระองค์ใหญ่โตยิ่ง  และยังมีสวนลอยเต็มด้วยไม้นา ๆ พันธุ์ ที่สร้างให้มเหสีอีกด้วย