1 พงศาวดาร 19:1-5
เวลาผ่านไป ราชานาหาช แห่งอัมโมนสิ้นพระชนม์ ราชานาหาชนี้ เป็นผู้ที่สัตย์ซื่อต่อราชาดาวิดมาตลอด ดังนั้น ราชาดาวิดจึงทรงคิดว่า ต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้โอรสของราชานาหาชทราบว่า พระองค์ทรงรู้สึกเสียพระทัยต่อการจากไปครั้งนี้ด้วยจริงใจ
พระองค์ทรงส่งทูตเดินทางไปแผ่นดินอัมโมนซึ่งอยู่ทางตะวันออก เพื่อแสดงความเสียใจและสร้างไมตรีกับราชาฮานูน…. พวกเขาเดินทางไปเพื่อการนี้ และเตรียมตัวอย่างดีที่จะกล่าวคำดี ๆ ถวายราชาฮานูน
แต่น่าเสียดายจริง ๆ ข้าราชการของราชาฮานูนไม่ได้เห็นถึงความตั้งใจดีนี้ พวกเขาไม่เชื่อ และกลัวราชาดาวิด
“ฝ่าพระบาททรงคิดว่า ราชาดาวิดจะตรงไปตรงมากับฝ่าพระบาทรึพะยะค่ะ?” คำเริ่มต้นนี้ก็น่ากลัวแล้ว
“ราชาดาวิดทรงนับถือราชบิดาของพระองค์จริง ๆ หรือ? ราชาดาวิดทรงส่งคนมาเพื่อสอดส่องดูพวกเราแน่นอน”
พวกเขาเป็นเมืองขึ้นอยู่แล้ว ไม่น่าจะต้องกลัวขนาดนี้
และเมื่อคณะทูตของราชาดาวิดไปถึง
สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น !!!
ราชาฮานูนบัญชา “จับตัวพวกมันมาให้หมด แล้วโกนเคราพวกเขาเสีย”
ไม่ได้แค่โกนเคราธรรมดา โกนแค่ครึ่งเดียว
นี่เป็นการหยามเหยียดศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายชาวอิสราเอลเป็นอย่างยิ่ง บุรษชาวตะวันออกกลางที่เป็นไทนั้น จะไว้หนวดเครา คนที่เป็นทาสเท่านั้นจะไม่มีเครา หลายคนยอมตายเสียดีกว่าที่จะถูกบังคับโกนหนวดเช่นนี้
ยังไม่หมด
พวกเขาตัดเสื้อผ้าตั้งแต่สะโพกลงไป
มันน่าอายยิ่งกว่า
พวกเขาต้องเดินออกมาเหมือนคนเปลือยกาย
ทูตและผู้ติดตามทุกคนต่างถูกดูหมิ่นให้อับอาย ใคร ๆ เห็นก็หัวเราะเยาะ ขบขัน
แต่มีบางคนรีบไปเยรูซาเล็ม
ข่าวเรื่องนี้ จึงไปถึงราชาดาวิดอย่างรวดเร็ว
ราชาดาวิดเองส่งคนมาบอกว่า ให้ทุกคนพักที่เยรีโคจนกว่าเคราจะขึ้นหมด แล้วจึงกลับมาเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงเห็นใจคนเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่า ราชาดาวิดต้องทรงวางแผนว่า จะจัดการอย่างไรกับชาวอัมโมนที่ดูหมิ่นพระองค์อย่างร้ายแรงเช่นนี้….