เอสรา 3:7-13
ดังนั้น พวกเขาจึงมอบเงินให้กับช่างก่อปูน และช่างไม้
เขาเตรียมอาหาร น้ำ และนำ้มันให้แก่ชาวซีโดนและไทระ
เพื่อให้พวกเขาช่วยขนส่งลำต้นสีดาร์มาทางทะเล ขึ้นท่ายัฟฟา
จำนวนตามที่พวกเขาได้รับอนุญาตจากราชาไซรัสแห่งเปอร์เซีย
ในปีที่สองหลังจากพวกเขาเดินทางมายังพระวิหารของพระเจ้าในนครเยรูซาเล็ม
เดือนที่สอง เศรุบบาเบล ลูกชายของเชอัลทิเอล และเยชูวา ลูกชายของโยซาดัก
พร้อมกับคนอื่น ๆ ทั้งปุโรหิต และเลวีทั้งหมดที่พ้นจากการเป็นเชลยมานั้น
พวกเขาแต่งตั้งเลวีที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป
เพื่อดูเลงานในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
และเยชูวาพร้อมกับลูกชาย และพี่น้อง
ขัดมีเอล พร้อมกับลูกชาย
ลูกชายของยูดาห์ ช่วยกันดูแลการก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้า
รวมไปถึงลูกชายของเฮนาดัด
กับเหล่าเลวี ลูกชาย และพี่น้องชายของพวกเขา
และเมื่อผู้ก่อสร้างได้วางฐานรากของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ปุโรหิตที่สวมเสื้อเต็มยศ ก็ได้เดินออกมาพร้อมกับแตร
คนเลวีลูกชายของอาสาฟ เดินออกมาพร้อมฉาบเพื่อสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามแบบอย่างของราชาดาวิดแห่งอิสราเอล
พวกเขาร้องเพลง สรรเสริญและโมทนาพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า
“เพราะพระเจ้าทรงดี และความรักมั่นคงของพระองค์ต่ออิสราเอล
ดำรงอยู่ตลอดกาล”
คนทั้งหลายร้องตะโกนเสียงดังมากขณะที่พวกเขาสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะเวลานั้น พวกเขาได้วางรากฐานของพระวิหารแล้ว
แต่ยังมีปุโรหิต และเลวี และหัวหน้าครอบครัวที่สูงอายุ คนที่เคยเห็นพระวิหารแรก
ได้ร้องไห้เสียงดังเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นว่า รากฐานของพระวิหารถูกวางเอาไว้
ถึงแม้มีคนมากมายร้องเสียงดังเพราะความยินดี
ทำให้พวกเขาไม่อาจแยกเสียงแห่งความยินดีออกจากเสียงร้องไห้ได้
เพราะว่า คนตะโกนก็ส่งเสียงดังมาก และเสียงของพวกเขาก็ได้ยินได้จากที่ไกล….