เราไม่ทราบความเป็นมาของฮาบากุกมากนัก ไม่ทราบประวัติส่วนตัว เขาพยากรณ์ถึงการเข้ามาบุกโดยอาณาจักรบาบิโลน และความพินาศของยูดาห์ เขากล่าวว่า พระเจ้าทรงยกบาบิโลนขึ้น บาบิโลนเป็นใหญ่ และพระเจ้าจะทรงใช้บาบิโลนจัดการกับความบาปของยูดาห์ เวลาที่ฮาบากุกกล่าวถึง น่าจะเป็นการที่บาบิโลนโจมตีอาณาจักรอัสซีเรียและเมืองนีนะเวห์ และเวลาที่บาบิโลนเข้ามาตีเยรูซาเล็มด้วย (587 ปีก่อนคริสตศักราช)
ฮาบากุกน่าจะอยู่ในสมัยของกษัตริย์ โยสิยาห์ (640-609 ปีก่อนคริสตศักราช) เขาเห็นการรื้อฟื้นของยูดาห์ เขาเห็นคนทั้งประเทศกลับมาหาพระเจ้า และอยู่อย่างถูกต้องจนกระทั่งโยสิยาห์สิ้นพระชนม์ ทิ้งบัลลังก์ไว้ให้กับโอรส ซึ่งโอรสของพระองค์ก็ได้นำประเทศตกสู่ความงมงาย และการไหว้รูปเคารพอีก ทำให้ฮาบากุกได้เห็นสภาพการตกลงไปในความบาปของยูดาห์อีกครั้ง ….
ฮาบากุกเป็นคนที่คิดแล้วถาม เขาเห็นสิ่งที่ไม่เข้าใจ ก็ไม่เก็บเอาไว้ เขาถาม เขาท้า เขาทูลตรง ๆ ต่อพระเจ้า คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น เขาสงสัยว่า เหตุใดพระเจ้าจึงทรงส่งคนที่ไม่เชื่อในพระองค์มาเป็นผู้ลงโทษพวกเขา
และเขาก็เฝ้ารอคอยคำตอบจากพระเจ้าด้วย แม้จะงุนงงในคำตอบนั้น เขาก็ต้องยอมรับพระองค์
ข้อพระคำที่เป็นกำลังใจของเรามาก ๆ มาจากหนังสือเล่มนี้ คือ
แม้ไม่มีอะไรเหลือในชีวิต แม้พระพรขาดหายไป แต่ก็ยังจะยินดีในพระเจ้าที่เขาวางใจ