2 พงศาวดาร 24:17-19
หลังจากที่เยโฮยาดาสิ้นชีวิตไปไม่นานนัก
สิ่งที่อยู่ในใจของกลุ่มราชวงศ์แห่งยูดาห์ก็ปรากฏชัด
พวกเขาเข้ามาเฝ้าราชาโยอาช คุยโน่น คุยนี่กับพระราชา
ใช้เวลาพักหนึ่ง เดี๋ยวเข้ามาทูลขณะที่ทรงราชการ ขณะที่เสวย ขณะที่พระองค์พักผ่อน
พวกเขากล่อมเสียจนราชาโยอาช..มีพระทัยโอนเอนตามเขา
พระองค์ทรงฟังคำทูลทั้งเท็จทั้งจริงผสมกันของพวกเขา ที่พระองค์ทรงฟังเขาก็เพราะ ราชาโยอาชเองไม่ได้ต่อสู้กับเหล่าศัตรูที่น่ากลัวเหมือนกับราชาดาวิดซึ่งทรงรู้ว่า ศัตรูนั้นเจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยมเพียงใด
ราชาโยอาช อยู่ในความดูแลใกล้ชิดของเยโฮยาดา เมื่อไม่มีผู้ดูแล พระราชาก็อ่อนแอลงไป
ราชาโยอาชไม่ทรงทราบว่า พวกเขาเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพระเจ้า
ทรงฟังเขาทุกอย่าง ….
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ
แทนที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้า นมัสการพระองค์ ปรนนิบัติพระองค์ด้วยการรักเพื่อนบ้าน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
พวกเขากลับทอดทิ้งพระวิหารที่ไม่กี่ปีมานี้ พวกเขาช่วยกันซ่อมแซมดูแล และให้พระวิหารเป็นที่รกร้างอีกครั้ง
ประชาชนก็ทำตามพวกเขา
“พวกเราไปกราบไหวเทวรูปบาอัลและอาเช-ราห์กันเถอะ”
“อืม…. พิธีกรรมของทางโน้น มันเร้าอารมณ์มากเลย ข้าชอบ”
“เจ้าคิดอะไรกัน ทำไมเจ้าทอดทิ้งพระเจ้า?” คนหนึ่งเตือน
“ก็ข้าบอกแล้ว พิธีกรรมเร้าใจ ….ไม่ต้องมาสารภาพบาป ถวายเครื่องบูชาไถ่บาป แค่ข้าไปร่วมพิธี จ่ายเงินให้พวกเขาไป แล้วพวกเขาก็ทำให้เราสนุกสุดเหวี่ยง”
พิธีกรรมในการกราบไหว้รูปเหล่านั้น เป็นพิธีที่ประกอบด้วยทั้งเวทมนต์ และโสเภณีทั้งชายหญิงในที่บูชา มีการกินเลี้ยง กินเหล้า การเต้นรำที่ปลุกอารมณ์
ดังนั้น คนที่ไม่ได้รักพระเจ้าจริง ๆ ไม่รู้จักพระองค์ ไม่เกรงกลัวพระเจ้า ก็จะหันไปทางนั้น
และพวกนี้ก็จะชักชวนคนอื่น ๆ ไปด้วย
พระเจ้าทรงพิโรธกับสิ่งที่พวกเขาทำ…
พระองค์ทรงพิโรธทั้งคนในนครเยรูซาเล็ม และคนในแผ่นดินยูดาห์
แต่พระองค์ยังไม่ทรงทำลายเขา
ทรงส่งคนของพระองค์หลายคนมาตักเตือน
พวกเขากลับเยาะเย้ย และไม่ฟังคนของพระเจ้า !