คนที่รอดจากการเป็นเชลยและกลับไปยังเยรูซาเล็มนั้น
พบความลำบากและต้องอับอายมาก
กำแพงนครเยรูซาเล็มปรักหักพัง
ประตูเมืองก็ถูกเผา…
ถอดความจากเนหะมีย์ 1:3
เนหะมีห์ รับราชการ เป็นผู้เชิญจอกเสวยของพระราชาอารทาเซอร์ซีส
เป็นชาวยิวที่ตกเป็นเชลยของบาบิโลน…
ก่อนหน้านี้ เศรุบบาเบลพาเชลยจากบาบิโลนกลับมาเมื่อปี 538 ก่อนคริสตศักราช
ท่านเอสรา ก็ได้นำพวกที่สองกลับมาสร้างพระวิหารในปี 458 ก่อนคริสตศักราช
แต่ข่าวที่เนหะมีห์ ข้าราชการคนสนิทของพระราชาได้รับคือ
คนที่ไปอยู่นั้นลำบากมาก กำแพงเมืองประตูเมืองเสียหาย
พวกเขาตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ ….
เมื่อข่าวร้ายขนาดนี้ เนหะมีห์ไม่ได้อยู่เฉย ท่านกลับที่พัก อธิษฐาน อดอาหาร ร้องไห้ต่อพระเจ้า
ไม่ได้อธิษฐานแค่ชั่วโมงเดียว วันเดียว แต่.. เขาร้องไห้โศกเศร้าอยู่หลายวัน
หลังจากนั้น ก็ไปทำงานตามปกติ แต่หน้าตาของเนหะมีห์ดูเศร้าหมอง
ไม่เบิกบาน สุขุมเหมือนที่พระราชาเคยเห็น
จึงทรงถามสารทุกข์สุกดิบของเนหะมีห์
พระองค์ทรงหนักพระทัยมาก เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“เจ้าต้องการจะทำอะไร เนหะมีห์ บอกข้ามาเถิด…”
นี่เป็นคำตรัสที่เปิดโอกาสให้เนหะมีห์ทูลขอกลับไปยังบ้านเมืองเพื่อสร้างกำแพง
และพระราชาก็ทรงอนุญาตเปิดโอกาส เปิดทาง ให้ความสะดวกทุกอย่าง
เหตุใดพระราชาจึงเมตตาเชลยของพระองค์ขนาดนี้?
มหัศจรรย์ !