พระสิริก็ลงมา ๗-๑

2 พงศาวดาร 7:1-10

เมื่อราชาซาโลมอนทรงอธิษฐานจบ  ทุกคนในที่นั้นก็ต้องตะลึง  ….. เพราะ

ชิ้วววววว    ซ  ซซซ ซซ !!!!

ไฟจากสวรรค์เบื้องบน  ลงมาเผาเครื่องบูชา และสัตวบูชาทันที!

พระสิริของพระเจ้าแผ่กระจายเต็มพระวิหาร

แม้ปุโรหิต ก็เข้าไปในพระวิหารไม่ได้เลย   มองไม่เห็นอะไร เพราะพระสิริของพระเจ้าแน่นอยู่ในบรรยากาศนั้น !

ไฟจากสวรรค์ลงมาเผาเครื่องบูชา


“เพราะว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าประเสริฐ

ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่นิรันดร์”

 

 

 

เสียงของผู้คนที่อยู่ในพระวิหารร้องออกมาพร้อมกัน  เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  พวกเขากราบซบหน้าลงถึงดินทุกคน

วันนั้น ราชาซาโลมอนถวายสัตวบูชาเป็นวัว 22,000  ตัว   และแกะอีก 102,000 ตัว   โอ… จะมากอะไรปานนั้น  มิน่า  จึงต้องการเลวี และคนทำงานในพระวิหารมากมายเหลือเกิน

การถวายครั้งนี้เป็นเครื่องหมายว่า ทั้งพระราชาและประชากรของพระองค์ ได้ถวายพระวิหารให้เป็นของพระเจ้า

บรรยากาศวันนั้นสง่างาม  ทรงเกียรติ และเต็มด้วยความชื่นชมยินดี

เหล่าปุโรหิต  เลวี  นักร้อง ต่างทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดใจ

เสียงเพลงกระหึ่มทั่วบริเวณ   ดังออกไปทั่วกรุงเยรูซาเล็ม

ชาวเมืองตั้งใจฟังเสียงเพลงสรรเสริญพระเจ้า  และพวกเขาก็น้อมใจลงสรรเสริญพระเจ้าพร้อมไปกับเหล่านักร้อง  นักดนตรีเหล่านั้น

 

กว่าสิบวัน  ที่คนอิสราเอลและพระราชาอยู่ในงานนี้ด้วยกัน เป็นชุมชนใหญ่โตมาก    เมื่อถึงวันสุดท้าย  ประชาชนลาราชาซาโลมอนกลับยังถิ่นฐานของตนเอง

“ขอบคุณพระเจ้า   ขอบคุณพระเจ้า   พระเจ้าทรงดีต่อเรามากเหลือเกิน”

ชนอิสราเอลต่างชื่นบานยินดีสำหรับความดี    ที่พระเจ้าได้ทรงมอบให้แก่ราชาดาวิด  ผู้ที่ตั้งพระทัยจะสร้างพระวิหาร  ทั้งแก่ราชาซาโลมอนและพวกเขาทุกคน