2 พงศาวดาร 32:16-23
ไม่ใช่แค่ขู่พระราชา และขู่ประชาชนเท่านั้น แต่ผู้นำสาส์นของเซนนาเคอริบยังได้กล่าวคำที่หมิ่นประมาทพระเจ้า และดูหมิ่นราชาเฮเซคียาห์อย่างโอหังเหลือที่จะกล่าว
“พระเจ้าของท่านก็เหมือนพระของประชาชาติต่าง ๆ นั่นแหละ ไม่สามารถจะช่วยผู้คนจากเงื้อมมือของเซนนาเคอริบได้ …. พวกท่านไม่เห็นหรือ พวกเขากลายเป็นเชลยของเราไปหมดแล้ว
พวกท่านไม่เห็นหรือว่า พวกเขาลำบากยากเข็ญเพียงไร บังอาจมาสู้กับกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่จากอัสซีเรียเช่นนี้ ….
พระเจ้าของราชาเฮเซคียาห์ ยังไง ๆ ก็ไม่สามารถช่วยประชากรอิสราเอลให้พ้นมือเราไปได้”
“ฮะฮ้า ครั้งนี้พวกเจ้าแพ้แน่นอน ไอ้พวกขี้แพ้!” เขาตะโกนเสียงก้องลานเมือง
… ยิ่งข้าส่งเสียงดังเท่าไร ก็จะทำให้ชาวเมืองกลัวมากเท่านั้น โธ่เอ๋ย ข้าเห็นสีหน้าของพวกเจ้าแล้วก็ขำ แค่นี้ก็กลัวไปได้ ยังไม่ได้ส่งกองทัพมาเสียด้วยซ้ำ…. ผู้ส่งสาส์นคิดในใจ
แล้วเขาก็ร้องตะโกนด่าว่าพระเจ้าแห่งอิสราเอลราวกับว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยมือ… โดยไม่มีความกลัวเกรงพระองค์สักนิดเดียว
แต่ราชาเฮเซคียาห์จะไม่ยอมแพ้เพียงเพราะฟังคำขู่ของพวกเขา และพระองค์ก็ไม่ทรงประมาทด้วยเช่นกัน ราชาเฮเซคียาห์พร้อมกับข้าราชการ ประชาชน และท่านอามอส ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอย่างรีบด่วน อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระองค์
“พระเจ้าข้า โปรดทรงเมตตาข้าพระองค์ทั้งหลายด้วย…. เพราะว่า คนของเราตกใจกลัวกันยิ่งนัก ขอพระเจ้าทรงให้ทุกคนได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์”
พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของเฮเซคียาห์
ด้วยการส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาต่อสู้กับกองทัพของอัสซีเรีย ทำให้กองทัพนั้นต้องยกทัพกลับไปด้วยความอับอายอย่างยิ่ง
สำหรับเซนนาเคอริบเอง ถูกโอรสองค์หนึ่งฆ่าอย่างเลือดเย็นขณะที่พระองค์กำลังถวายเครื่องบูชาให้กับเทวรูปแห่งอัสซีเรีย
พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของพระราชา และประชาชนอิสราเอลมากกว่าที่เขาขอ พระองค์ทรงให้เขารอดพ้นจากศัตรู และยังทำให้คนมากมายได้นำของถวายมาบรรณาการแด่ราชาเฮเซคียาห์ที่นครเยรูซาเล็ม และทำให้ประชาชาติรอบข้างเกรงกลัว ยกย่องพระองค์มากยิ่งนัก