2 พงศาวดาร 35:1-9
ครั้งล่าสุดที่ชนอิสราเอลได้อยู่ในเทศกาลปัสกาก็คือ สมัยราชาเฮเซคียาห์ … และครั้งนี้ราชาโยสิยาห์เป็นผู้ทรงบัญชาให้มีการทำเทศกาลปัสกาอีกครั้ง มันมีความหมายยิ่งนัก เพราะจะทำให้ชนอิสราเอลได้ระลึกถึงการที่พระเจ้าทรงนำพวกเขาออกมาจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์
ราชาโยสิยาห์ได้ทรงจัดตั้งคนทำงานอย่างมีระบบ ทรงให้พวกเขาวางหีบพันธสัญญาของพระเจ้าไว้ ณ ที่เดิม เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้าออกไปอยู่นอกพระวิหาร กษัตริย์องค์ก่อนหน้านี้ได้วางหีบพันธสัญญาของพระเจ้ารวมไปกับเทวรูปต่าง ๆ ที่พวกเขาบูชา
พวกปุโรหิตและเลวีต้องทำงานหนักมาก เพราะว่า งานหลักอย่างหนึ่งของเทศกาลปัสกาก็คือ ต้องถวายบูชาแกะหนึ่งตัวต่อหนึ่งครอบครัว ตามที่โมเสสบันทึกไว้ ลองคิดดูซิ แค่ร้อยครอบครัวงานก็หนักหนาแล้ว!! และพวกเขายังต้องชำระตัวให้บริสุทธิ์ก่อนที่จะทำหน้าที่ของพวกเขา กว่าจะได้ทำพิธีจริง ๆ ต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมาย
พระราชายังได้ประทานแกะและลูกแพะส่วนพระองค์ให้กับประชาชนถึง 30,000 ตัว ยังมีวัวผู้อีก 3000 ตัว และยังมีพระญาติของพระราชามอบสัตว์ให้ประชาชน ปุโรหิตและเลวี ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพระวิหารก็ได้ให้ลูกแพะลูกแกะอีก 2,600 ตัว วัวผู้ 300 ตัวแก่ปุโรหิต ยังมีกลุ่มหัวหน้าคนเลวีที่มอบแพะแกะ 5,000 ตัว วัวผู้ 500 ตัวให้กับคนเลวีด้วย
พระราชาทรงมีน้ำใจ ทำให้พวกผู้ใหญ่และคนมั่งคั่งก็พลอยมีน้ำใจตามไปด้วย…มิฉะนั้น ประชาชนมากมายจะต้องไปหาแกะที่จะมาเป็นผู้รับบาปแทนคนในครอบครัวเอง คงเป็นเรื่องที่โกลาหลไม่น้อย
ลองรวมดูซิ เป็นจำนวนเท่าไร เมื่อนับดูจริง ๆ ก็มากมายกว่าครั้งที่กษัตริย์เฮเซคียาห์ได้ชักชวนให้ประชาชนร่วมเทศกาลปัสกามากนัก…