ดาเนียล 4-8 เวลาตกต่ำของพระราชา

ดาเนียล 4:28-33

เหตุการณ์ต่อไปนี้ เกิดขึ้นกับราชาเนบูคัดเนสซาร์

พอหมดเดือนสิบสอง
พระองค์กำลังดำเนินอยู่บนดาดฟ้าของราชวังในบาบิโลน
และพระองค์ทรงตอบความคิดในใจ… ทรงกล่าวว่า

“นี่ไม่ใช่บาบิโลนที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเราได้สร้างขึ้นมาด้วยฤทธิ์ของเรา
ให้เป็นที่ประทับ และเป็นศักดิ์ศรีอันตระการของเรา ?”

ในขณะที่พระราชากำลังกล่าวคำเหล่านั้นเอง ก็มีสุรเสียงมาจากสวรรค์!
“โอ…ราชาเนบูคัดเนสซาร์ เราเคยกล่าวกับเจ้าแล้วนี่นา
ว่าอาณาจักรนี้จะพรากไปจากเจ้า
และเจ้าจะถูกไล่ออกไปจากหมู่ผู้คน
ที่อาศัยของเจ้าคือที่อยู่ของสัตว์ป่าในทุ่ง
และเจ้าจะต้องกินหญ้าเหมือนวัวควาย
เวลาจะผ่านไปเจ็ดวาระ
จนกว่าเจ้าจะรับรู้ว่า องค์พระเจ้าสูงสุด ทรงเป็นผู้ปกครองเหนืออาณาจักรของมนุษย์
และพระองค์จะประทานอาณาจักรให้แก่คนที่พระองค์ทรงประสงค์”

ภาพจาก http://christianimagesource.com
ภาพจาก http://christianimagesource.com

ทันทีที่พระเจ้าตรัส …. ทุกสิ่งก็เกิดขึ้นกับเนบูคัดเนสซาร์
พระองค์ถูกขับไล่ออกจากคนในวัง ในเมือง
และกลายเป็นคนที่ต้องกินหญ้าเหมือนวัว
ร่างของพระองค์เปียกน้ำค้างจากฟ้า
ทั้งผม และขนของพระองค์ก็ยาวขึ้น ยาวขึ้นราวกับขนนกอินทรี
เล็บยาว…งองุ้มเหมือนกับกรงเล็บของนก!

ดาเนียล 4-7 คำแปลความฝัน

ดาเนียล 4:23-27

แต่แล้ว พระราชาทรงเป็นผู้เฝ้า  คือองค์บริสุทธิ์
ลงมาจากสวรรค์ ตรัสว่า

“จงตัดต้นไม้นี้ และทำลายมันเสีย
ปล่อยให้ตอกับรากที่ติดอยู่ เหลือไว้
แล้วมัดมันไว้ด้วยแผ่นเหล็กและแผ่นทองสัมฤทธิ์

ไว้กลางทุ่งหญ้าอ่อน และปล่อยให้เขาเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้า
และให้เขามีส่วนอยู่กับสัตว์ป่า
จนกระทั่งครบ 7 วาระ

Nebuchadnezzar_as_beast_

โอ… พระราชา ต่อไปนี้เป็นคำแปลของความฝันพระเจ้าข้า
องค์พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด
ทรงส่งคำบัญชาลงมายังพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท
พระองค์จะทรงถูกขับไล่ออกไปจากเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย
พระองค์จะต้องไปอยู่กับสัตว์ป่าในทุ่ง
พระวรกายจะเปียกชุ่มด้วยน้ำค้างจากฟ้า
เจ็ดวาระจะผ่านไป
จนพระองค์จะทรงตระหนักว่า
องค์พระเจ้าผู้สูงสูดทรงเป็นผู้ปกครองเหนืออาณาจักรของมนุษย์
และทรงให้กับคนที่พระองค์ทรงประสงค์

 

การที่พระเจ้าทรงบัญชาให้เหลือรากและตอไว้นั้น
หมายความว่า พระองค์จะทรงได้อาณาจักรของพระองค์คืนมา
เมื่อพระองค์ทรงรู้ว่า การปกครองสูงสุดนั้น มาจากเบื้องบน

ดังนั้น พระราชาเจ้าข้า  ขอพระองค์ทรงโปรดฟังคำทูลแนะนำ
ขอพระองค์ทรงเลิกทำบาป ด้วยการทำความชอบธรรม
เลิกการผิดด้วยการแสดงความเมตตาต่อผู้ถูกกดขี่ข่มเหง
บางทีสิ่งนั้นจะช่วยทำให้ความรุ่งเรืองของพระองค์นั้น ต่อยอดยาวนาน….

ดาเนียล 4-6 รีบหน่อยท่านดาเนียล

ดาเนียล 4:

แม้ว่าดาเนียลจะตกใจสักเพียงใด

แต่เขาก็ต้องแปลความหมายของฝันนั้นถวายเดี๋ยวนั้น
พระองค์แทบรอไม่ไหวที่จะได้ยินความหมาย

.. เร็วซิ ดาเนียล รีบพูดมา… พระองค์ทรงคิด
“ข้าแต่พระราชา
ต้นไม้ที่พระองค์ทรงเห็น เติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ที่สูง แข็งแรง
จนกระทั่งยอดของมันแตะฟ้า…
คนทั้งโลกมองเห็นต้นไม้นั้น
ใบของมันก็สวย ผลก็ดก และเป็นอาหารสำหรับสรรพสิ่ง
เหล่าสิงสาราสัตว์ในป่า ก็มาพึ่งร่มเงาของมัน

 

และนกสารพัดชนิดก็มาอาศัยอยู่ตามกิ่งก้านของมัน
ต้นไม้นี้คือพระองค์  พระราชาเจ้าข้า
พระองค์เองได้ทรงเจริญขึ้น และทรงเข้มแข็ง
ความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้นสูงเสียดฟ้า
อาณาจักรของพระองค์ก็แผ่ขยายไปจนสุดอาณาเขตของแผ่นดินโลก

1199110744

ได้ยินมาถึงตรงนี้ ราชาเนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงเริ่มกระสับกระส่าย

เพราะอะไรหรือ ?…

ก็เพราะเรื่องราวที่ต่อมาจากความโอ่อ่าอลังการของพระองค์เอง….

ใช่…พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่เก่งกล้าสามารถ ยิ่งใหญ่

ทรงเก่งทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปกครอง การรบ
ทรงมีพระปรีชาสามารถเกินกว่ากษัตริย์ใด ๆ ในโลก
แต่ดูเหมือนว่า ยังมีใครที่ใหญ่กว่าพระองค์….

ดาเนียล 4-5 ผู้แจ้งบัญชา

ดาเนียล 4:17-19

เหล่าผู้เฝ้า(ทูตสวรรค์)ของพระเจ้าเป็นผู้แจ้งบัญชานี้
เป็นคำตัดสินจากพระดำรัสขององค์ผู้บริสุทธิ์
เพื่อว่า เหล่าผู้มีชีวิตทั้งหลายจะได้รู้ว่า
องค์ผู้สูงสุด ทรงเป็นผู้ครอบครองเหนืออาณาจักรของมนุษย์
และพระองค์ประทานให้แก่คนที่พระองค์พอพระทัย
ทรงแต่งตั้งผู้ต่ำต้อยที่สุดให้ปกครองเหล่าประชาชน”

p237

ข้า..ราชาเนบูคัดเนสซาร์เป็นผู้ฝันความฝันนี้
และเจ้า เบลชัสซาร์ จงบอกเราว่า ความฝันนี้หมายความว่าอย่างไร
เพราะว่า นักปราชญ์ทั้งหลายในอาณาจักรของข้าไม่สามารถ
แปลความหมายของฝันนั้นให้แก่ข้าได้
แต่เจ้าเป็นผู้มีความสามารถ…
เพราะพระวิญญาณของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์สถิตในเจ้า

 

 

เวลานั้น  ดาเนียล ซึ่งมีอีกชื่อว่า เบลชัสซาร์
รู้สึกตกใจ กังวลเป็นอย่างมาก… แต่ก็ชั่วระยะหนึ่ง
ความคิดเรื่องฝัน ทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่น
พอพระราชาเห็นดังนั้น ก็ตรัสว่า
“เบลชัสซาร์ .. อย่ายอมให้ความฝัน
หรือความหมายของฝันทำให้เจ้าตกใจไปเลย”

เบลชัสซาร์จึงทูลตอบว่า
“ข้าแต่พระราชา … ขอให้ฝันนั้น
เกิดขึ้นกับคนที่เกลียดชังพระองค์
ขอให้ความหมายของฝันนั้น เป็นของศัตรูของพระองค์เถิด!”

 

ความหมายของฝันนั้นคืออะไรนะ?

ดาเนียล 4-4 ผู้บริสุทธิ์ในฝัน

ดาเนียล 4:13-16

“ขณะที่ข้านอนอยู่บนเตียง  ข้าก็เห็นภาพนี้ในความคิดของข้า
ดูเถอะ  มีผู้เฝ้า… เป็นผู้บริสุทธิ์ ทรงลงมาจากสวรรค์

พระองค์ทรงประกาศเสียงดังว่า
“จงโค่นต้นไม้นั้น และลิดกิ่งของมันออก  ตัดใบทิ้ง
และโยนผลของมันให้กระจายไปทั่ว
ให้สัตว์ป่าทั้งหลายหนีไป
นกหนีไปจากกิ่งก้านของมัน
แต่ปล่อยให้เหลือตอและรากอยู่บนแผ่นดิน
และเอาแผ่นเหล็กและทองเหลืองผูกติดไว้กับดิน
ทิ้งไว้อย่างนั้นกลางทุ่ง

stump
ให้ร่างของเขาเปียกเพราะน้ำค้างจากฟ้า
ให้ส่วนของเขาอยู่กับสัตว์ป่าในทุ่งแห่งแผ่นดิน
ให้ความคิดของเขาเปลี่ยนจากความคิดแบบคนไป
กลายเป็นความคิดแบบสัตว์
ให้สิ่งนี้เกิดกับเขาเป็นเวลา 7  วาระ

 

 

ดาเนียล 4-3 เนื้อหาความฝัน

ดาเนียล 4:9-12

เราเล่าความฝันให้ดาเนียลฟัง
ดาเนียลที่มีอีกขื่อว่าเบลชัสซาร์
“โอ เบลชัสซาร์เอ๋ย  หัวหน้าเหล่านักปราชญ์แห่งบาบิโลน
เรารู้ว่า พระวิญญาณของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์สถิตอยู่ในเจ้า
ดังนั้น จึงไม่มีสิ่งลี้ลับใดนั้น ยากเกินที่เจ้าจะเข้าใจ
ขอให้บอกเราว่า ความฝันของเรานั้น มีความหมายว่าอย่างไร

มันเป็นอย่างนี้นะ ขณะที่ข้านอนอยู่  ข้าได้เห็นต้นไม้อยู่กลางแผ่นดินโลก
ต้นไม้ต้นนี้ สูงใหญ่มาก
มันเติบโตขึ้น และแข็งแรง จนกระทั่งยอดของมันสูงถึงฟ้า
มันสูงจนกระทั่ง คนทั้งโลกมองเห็นมันได้
ใบของมันก็งดงาม   มีผลดกยิ่งนัก
และเป็นอาหารสำหรับสรรพสิ่ง

images

สัตว์ป่าก็มาพึ่งร่มเงาของมัน
เหล่านกกาบนท้องฟ้าก็มาอาศัยตามกิ่งก้านของมัน
บรรดาสิ่งมีชีวิตก็ได้กินอยู่จากต้นของมัน
ความฝันที่สำคัญเช่นนี้  โหรของบาบิโลนไม่สามารถแปลได้
พวกเขาไม่เข้าใจความหมายอันล้ำลึก
มีแต่คนของพระเจ้าเท่านั้นที่จะเข้าใจว่า พระเจ้าตรัสอะไรแก่เนบูคัดเนสซาร์ …..

 

 

ดาเนียล 4-2 ฝันอีก

ดาเนียล 4:4-8

เรา เนบูคัดเนสซาร์พักอยู่ในวังของเราอย่างสบายใจ
แต่เราเกิดฝันไป ทำให้เรารู้สึกกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่เรานอนอยู่ เราก็นึกถึงภาพต่าง ๆที่ทำให้เราหวาดกลัว
เราจึงสั่งให้ปราชญ์ของบาบิโลนมาเข้าเฝ้า
เพื่อว่าพวกเขาจะได้แปลความฝันให้เรา

ดังนั้น เหล่าคนเล่นอาคม ผู้เล่นเวทมนตร์  ชาวเคลเดีย และโหรได้เข้ามาเฝ้า
เราก็เล่าความฝันให้พวกเขาฟัง
แต่ปรากฏว่า พวกเขาไม่สามารถแปลความหมาย
ของความฝันนั้นเลย

download

ในที่สุด ดาเนียลได้เข้ามาเฝ้าเรา
เขาผู้นี้ มีนามอีกอย่างหนึ่งว่า เบลชัสซาร์
ซึ่งเป็นชื่อของพระที่เราเชื่อองค์หนึ่ง
แต่ในตัวของเบลชัสซาร์ผู้นี้ มีพระวิญญาณของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์สถิตอยู่

 

ดาเนียล 4-1 คำสรรเสริญจากพระราชา

ดาเนียล 4:1-3

ต่อมา ราชาเนบูคัดเนสซาร์ก็ได้ส่งสารมายังประชาชน

จากราชาเนบูคัดเนสซาร์ มายังประชาชนทั้งหลาย ทุกประเทศและทุกภาษา
ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้
ขอให้ท่านจงมีสันติสุขทวีคูณ!
เป็นการดีที่ข้าจะได้แสดงให้ท่านได้เห็นหมายสำคัญและการอัศจรรย์
ที่องค์พระเจ้าสูงสุดได้ทรงทำแก่ข้า

nebu

หมายสำคัญของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่นัก
การอัศจรรย์ของพระองค์ก็ทรงพลัง
อาณาจักรของพระองค์ เป็นอาณาจักรนิรันดร์
และแผ่นดินของพระองค์นั้นก็ดำรงอยู่ชั่วชาติพันธุ์

 พระเจ้าได้ทรงทำการอัศจรรย์ให้ราชาเนบูคัดเนสซาร์เห็นหลายประการ
พระองค์ทรงแจ้งอนาคตให้ด้วย
เนบูคัดเนสซาร์รู้สึกดีต่อพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง
แต่….ต่อไปล่ะ จะเป็นอย่างไร ?

 

ดาเนียล 3-5 ชายคนที่สี่

ดาเนียล 3:20-25

แล้วพระราชาก็บัญชาให้ชายร่างกำยำจากกองทัพของพระองค์​
จับชัครัค เมชาค และอาเบดนาโก เพื่อโยนลงไปในเตาไฟที่ลุกโชติช่วง
ดังนั้น ทั้งสามจึงถูกมัดพร้อมกับเสื้อคลุม เสื้อใน หมวก และเครื่องแต่งกายที่มีอยู่
พวกเขาถูกโยนลงไปในเตาไฟที่ลุกโชน… เสียงไฟแตก เปรี๊ยะ  เปรี๊ยะ

โอ้ย….​ช่วยด้วย  เสียงคนร้องขึ้นมา  เป็นเสียงของคนที่จับทั้งสามโยนเข้าไป
พวกเขารู้สึกร้อนวูบ แล้วไฟที่ร้อนจัดเกินจำเป็นนั้น ก็ผลาญพวกเขาทันทีทันควัน
พวกเขาดิ้นด้วยความเจ็บปวดไม่นานก็กลายเป็นศพที่ถูกไหม้ดำมะเมื่อม

Daniel5-fiery-furnace

ส่วนชัครัค เมชาคและอาเบดนาโกก็กลิ้งเข้าไปในเตาไฟนั้นเอง
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  พระราชาก็ทรงมองเขม็งไปที่เหตุการณ์นั้น

แล้วพระราชาก็ทรงตกพระทัยอย่างไม่คาดฝัน
ทรงหันไปหาที่ปรึกษาข้าง ๆ
“เอ๊ะ … เมื่อสักครู่ เราโยนชายสามคนเข้าไปในกองไฟมิใช่หรือ?”
“ใช่แล้วพะยะค่ะ ”  พวกเขาตอบ

“แต่… เราเห็นชายสี่คนไม่ได้ถูกมัด เดินอยู่ท่ามกลางกองไฟนั้น พวกเขาไม่บาดเจ็บสักนิด
และคนที่สี่นั่น  ก็มีหน้าตาเหมือนบุตรของพระเจ้า!”

ดาเนียล 3-4 คำตอบสุดท้าย

ดาเนียล 3:16-19

ในเมื่อพระราชาให้โอกาสอีกครั้ง ที่จะทำตามพระบัญชา
คนที่อยู่ต่อหน้าพระราชาที่กำลังกริ้ว ก็น่าจะฉวยโอกาสนั้น

แต่ลองมาดูซิครับ ว่า เพื่อนทั้งสามของดาเนียลกล่าวว่าอย่างไร

“โอ พระราชาเนบูคัดเนสซาร์
ข้าพระบาทไม่จำเป็นต้องทูลตอบแก้ตัวต่อพระองค์ในเรื่องนี้เลยพะยะค่ะ
เพราะองค์พระเจ้าผู้ที่เรารับใช้อยู่นั้น ทรงสามารถช่วยให้เราพ้นจากไฟที่ลุกโชนได้
พระองค์จะทรงช่วยเราให้พ้นจากการลงโทษนี้
โอพระราชา  แต่หากพระเจ้าของข้าพระบาทไม่ทรงช่วย
ก็ขอพระราชาทรงทราบว่า
เราจะไม่รับใช้พระของพระองค์ จะไม่นมัสการรูปทองคำที่พระองค์ทรงตั้งขึ้นมา”

เป็นอย่างไรล่ะ  คำตอบนี้ชัดเจน ไม่ต้องอธิบายอะไรอีกเลย!
คำบัญชาของพระราชาไม่มีความหมายสำหรับพวกเขา

burning

ความกริ้วของพระราชาเนบูคัดเนสซาร์ระเบิดตูม….
พระพักตร์ของพระองค์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
โอกาสที่ทรงให้ กลับกลายเป็นโอกาสที่ทำให้คนทั้งหลายได้เห็นว่า
คนทั้งสามไม่ได้เชื่อฟังพระองค์
“เพิ่มความร้อนขึ้นอีกเจ็ดเท่า!   เดี๋ยวนี้!”

 

(Daniel 3:16-19 ESV)

ดาเนียล 3-3 ให้โอกาส

ดาเนียล 3: 13-15

ราชาเนบูคัดเนสซาร์ทรงโกรธมาก…
แน่นอน เป็นพระราชา  และทรงสั่งการออกมาอย่างชัดเจน
แต่เหตุใดมีคนขัดขืนคำสั่ง
เป็นการท้าทายอำนาจของพระองค์เป็นอย่างมาก

1-neb-angry-put-in-furnace1

พระองค์ทรงสั่งให้นำชัครัค เมชาค อาเบดเนโกเข้ามาเฝ้าทันที
เขาจึงนำทั้งสามมาเข้าเฝ้า
พระองค์ตรัสถามพวกเขาว่า
“ชัครัค เมชาค อาเบดเนโก  จริงหรือที่เจ้าไม่ได้ปรนนิบัติ
ไม่ได้นมัสการเทวรูปที่เราจัดตั้งขึ้น ?
เอาล่ะ ตอนนี้ ถ้าเจ้าได้ยินเสียงดนตรีขึ้นเมื่อไร ก็จงกราบลงนมัสการเทวรูปที่เราสร้าง
ทำให้ตามนั้นล่ะ
แต่หากเจ้าไม่นมัสการ เจ้าก็จะถูกทิ้งลงไปในเตาไฟใหญ่ตรงนั้น
แล้วพระเจ้าองค์ไหน จะมานำให้เจ้าพ้นมือเราไปได้ ?”

ทีนี้ ทั้งสามคนจะทำอย่างไร?
ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร  ตอนนี้อยู่ต่อหน้าพระราชา และต่อหน้าคนทั้งหลาย
ไม่ได้อยู่ท่ามกลางผู้คนเหมือนเมื่อสักครู่นี้…

พระราชาอุตส่าห์ให้โอกาสอีกครั้งหนึ่ง
พระองค์จะจับเขาทั้งสามโยนลงไปก็ได้  แต่พระองค์อยากชนะเขา
อยากจะให้ทุกคนได้เห็นอำนาจยิ่งใหญ่ของพระองค์ ….

 

 

 

 

 

ดาเนียล 3-2 คำสั่งจากเสียงเพลง

ดาเนียล 3:7-12

ดังนั้น เมื่อประชาชนทั้งหลายที่อยู่ในนั้น ได้ยินเสียงดนตรีดังขึ้น
เป็นเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหว
ทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษา ต่างก็พากันก้มกราบเทวรูปที่ราชาเนบูคัดเนสซาร์ตั้งขึ้นมา

ในเวลานั้นเอง มีชาวเคลเดียบางคนเดินออกมา
และต่อว่าชาวยิวอย่างโหดร้าย
เขาทูลกษัตริย์ด้วยเสียงอันดัง  เพื่อให้ทุกคนในที่นั้นได้ยิน
“ขอพระราชาจงทรงพระเจริญ
พระองค์เจ้าข้า  พระองค์ทรงออกกฎมาว่า
เมื่อใดที่ได้ยินเสียงดนตรี ทุกคนจะต้องก้มลงกราบนมัสการเทวรูปทองคำ
และหากใครไม่ก้มลงกราบนมัสการแล้วล่ะก็
จะต้องถูกจับโยนลงไปในเตาไฟ

Statue

โอ..พระราชา  มีชาวยิวที่พระองค์ทรงแต่งตั้งให้ดูแลมณฑลบาบโลนสามคน
ที่ไม่ยอมทำตามคำบัญชาของพระองค์
คือ ชัครัค เมชาค และอาเบดเนโค

คนทั้งสามไม่ยอมฟังคำบัญชาของพระองค์
พวกเขาไม่ยอมรับใช้เหล่าพระ
และไม่ยอมที่จะนมัสการเทวรูปทองคำของพระองค์ พะยะค่ะ”

ดาเนียล 3-1 เทวรูปทองคำ

goldstatue
ดาเนียล 3:1-6

ต่อมาไม่นาน  ราชาเนบูคัดเนสซาร์ก็ได้สร้างเทวรูปทองคำขึ้นมา
สูง 60 ศอก กว้างประมาณ 6 ศอก
แล้วนำเทวรูปนี้ไปตั้งไว้ที่ราบแห่งดูรา มลฑลบาบิโลน
แล้วจากนั้น ก็ทรงเรียกให้เหล่าเสนาบดี ข้าหลวง  ผู้ว่า ที่ปรึกษา
ขุนคลังและเหล่าผู้พิพากษา ตุลาการ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของมณฑลต่าง ๆ
เข้ามาร่วมกันในงานสถาปนาเทวรูปนั้น
ดังนั้น เหล่าข้าราชการทั้งหลายจึงเข้ามาร่วมงานสถาปนาเทวรูป
ซึ่งราชาเนบูคัดเนสซาร์ได้ตั้งขึ้นมา
พวกเขายืนอยู่ต่อหน้าเทวรูปนั้น

 

และผู้ประกาศของพระราชาก็ประกาศก้องว่า
“ประชาชนทั้งหลาย ทุกชาติ ทุกภาษา
ท่านทั้งหลายได้รับคำสั่งดังนี้
เมื่อใดที่ท่านทั้งหลายได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์
เสียงขลุ่ย   พิณเขาคู่ พิณใหญ่  ปี่ และเสียงดนตรีทุกชนิด
พวกท่านจะต้องก้มลงกราบนมัสการเทวรูปทองคำ
ที่พระราชาเนบูคัดเนสซาร์ได้จัดทำขึ้นมา
ใครก็ตามที่ไม่ก้มกราบนมัสการเทวรูปนี้
จะถูกโยนลงไปในเตาไฟร้อนแรงทันที

 

เพื่อน ๆ ครับ เทวรูปนี้ สูงประมาณ 10 ชั้น 
แถมเป็นทองทั้งตัว แต่เทวรูปในฝันมีหัวเท่านั้นที่เป็นทอง
เนบูคัดเนสซาร์กำลังคิดอะไรอยู่นะ?
อย่างหนึ่งที่รู้แน่ ๆ ก็คือ ใครขัดขืน ก็ต้องถูกเผาตายทั้งเป็น 
ใครขัดขืนคำสั่ง เท่ากับขัดขืนอาณาจักรบาบิโลนตรง

ดาเนียล 2-12 หัวหน้านักปราชญ์คนใหม่

ดาเนียล 2:36-40

แล้วราชาเนบูคัดเนสซาร์ก็ก้มลงถึงดิน  กราบดาเนียล
และสั่งให้นำของมาให้เขา และจุดเครื่องหอมเป็นการถวายแก่เขา
พระราชาตรัสแก่ดาเนียลว่า
“แน่ทีเดียว พระเจ้าของท่านเป็นพระแห่งพระทั้งหลาย
ทรงเป็นเจ้าแห่งกษัตริย์ทั้งหลาย
พระองค์ทรงเป็นผู้เผยความล้ำลึกทั้งปวง
เพราะท่านดาเนียลสามารถเปิดเผยความล้ำลึกเหล่านี้ได้”

176-1

แล้วพระราชาก็แต่งตั้งให้ดาเนียลดำรงตำแหน่งที่สูง ประทานรางวัลมากมาย
แต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ปกครองมณฑลบาบิโลน
และเป็นหัวหน้าของปราชญ์ทั้งหลายแห่งบาบิโลนด้วย
ดาเนียลได้ทูลขอให้ชัครัค เมชาค และอาเบดเนโก เป็นผู้บริหารมณฑลบาบิโลนด้วย
แต่ตัวดาเนียลนั้น ได้รับราชการอยู่ในราชสำนัก

ที่ราชาเนบูคัดเนสซาร์ได้แต่งตั้งให้ดาเนียลดำรงตำแหน่งสูงสุดนั้น
เป็นเพราะพระองค์ทราบดีว่า พระเจ้าของดาเนียลนั้นสุดยอดจริงๆ
พระราชาทรงปรีชาสามารถที่ทำเช่นนั้น
เพราะว่า ดาเนียลเองได้กั้นไม่ให้พระองค์ต้องประหารข้าราชการมากมาย
และดาเนียลกับเพื่อน ๆ ก็ได้มีโอกาสทำสิ่งดีที่สุดให้กับบาบิโลนด้วย  

ดาเนียล 2-11 รายละเอียดความฝัน

ดาเนียล 2:36-43

“ความฝันเป็นอย่างนี้  บัดนี้ ข้าพระบาทจะทูลถึงความหมายของความฝัน

โอพระราชา  ทรงเป็นมหาราชาแห่งราชาทั้งหลาย
พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ประทานอาณาจักร อำนาจ พลัง และสง่าราศีแก่พระองค์

พระองค์ได้ทรงมอบมนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ป่าในทุ่ง
และนกในอากาศ ทำให้พระองค์ทรงปกครองเหล่านั้นทั้งหมด
พระองค์คือศีรษะที่ทำด้วยทองคำ

ต่อมา จะมีอาณาจักรหนึ่งที่ด้อยกว่าเกิดขึ้นหลังจากพระองค์
และก็มีอาณาจักรที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์
ซึ่งจะปกครองทั่วโลก
และอาณาจักรที่สี่นั้นแข็งแกร่งดังเหล็ก
เพราะว่า เหล็กสามารถทำให้ทุกสิ่งแตกหักเป็นชิ้น ๆ ได้
และอาณาจักรนั้นจะบดขยี้อาณาจักรอื่น ๆ ให้พังทลายไป
tao

และที่พระองค์ทรงเห็นเท้าและนิ้วเท้านั้นเป็นดินเหนียวปนเหล็ก
มันคืออาณาจักรที่แยกออกจากกัน
ในนั้นบางส่วนก็แข็งแกร่งเหมือนเหล็ก
เหมือนกับที่พระองค์ทรงเห็นเหล็กผสมกับดินอ่อน
จากการที่นิ้วนั้น เป็นส่วนผสมของเหล็กและดิน
ก็เปรียบได้กับอาณาจักรที่บางส่วนเข้มแข็ง บางส่วนเปราะบาง
อย่างที่พระองค์ทรงเห็นเหล็กผสมดินอ่อน
พวกเขาก็จะผสมกันด้วยการแต่งงาน
แต่พวกเขาไม่อาจจะประสานกันเป็นหนึ่งเดียวได้
เหมือนกับที่เหล็กไม่สามารถผสมเป็นเนื้อเดียวกับดินได้

 

 

 

ดาเนียล 2-10 ฝันของพระราชา

ดาเนียล 2:31-35

“ข้าแต่พระราชา  สิ่งที่ทรงเห็นคือ รูปปั้นขนาดใหญ่มาก
รูปปั้นนี้มีฤทธิ์ และสุกใส
เป็นรูปที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์
รูปร่างน่ากลัวยิ่งนัก

prophecy_statue

ส่วนหัวของรูปปั้น เป็นทองชั้นดี
อกและแขนเป็นเงิน
ส่วนเอวและโคนขาเป็นทองสัมฤทธิ์
ขาเป็นเหล็ก
ส่วนเท้านั้นเป็นเหล็กปนดิน

ขณะที่พระองค์ทรงมองรูปปั้นนั้น
ก็มีหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ที่มิได้สกัดออกมาด้วยมือมนุษย์
กลิ้งมาชนขาเหล็กปนดินของรูปปั้นนั้น ทำให้รูปปั้นแตกออกเป็นชิ้นๆ
ทั้งเหล็ก ดิน ทองสัมฤทธิ์ เงินและทอง ต่างก็แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
กลายเป็นเหมือนแกลบจากลานนวดข้าวฤดูร้อน
และลมก็พัดมันกระจัดกระจายออกไป
จนหาร่องรอยของมันไม่พบ
แต่หินก้อนที่มาชนรูปปั้นนั้น กลับกลายเป็นภูเขาใหญ่จนเต็มแผ่นดินโลก

 

ดาเนียล 2-9 พระเจ้าผู้ทรงเปิดเผย

ดาเนียล 2:27-30

สิ่งที่ดาเนียลทูลต่อพระราชาเป็นอย่างแรกก็คือ
“ไม่มีนักปราชญ์ หมอดู โหร หรือนักดูดวงดาว สามารถ
บอกสิ่งลี้ลับที่พระราชาทรงถาม ได้เลย
แต่มีองค์พระเจ้าในสวรรค์ผู้ทรงเผยสิ่งลี้ลับ
พระองค์จะทรงแจ้งให้พระราชาเนบูคัดเนสซาร์ทรงทราบว่า
ในยุคสุดท้ายของโลกนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ความฝันและศุภนิมิตในความคิดของพระองค์
นั้นเป็นอย่างนี้พะยะค่ะ

ข้าแต่พระราชา  ขณะที่พระองค์ทรงนอนอยู่นั้น
ก็มีความคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น
พระองค์ผู้ทรงเผยความลี้ลับ ก็ทรงทำให้พระองค์ได้รับทราบถึงอนาคต

Daniel Interprets the Kings Dream

สำหรับข้าพระบาท
พระเจ้าได้ทรงสำแดงความลี้ลับนี้แก่ข้าพระบาท

ไม่ใช่เพราะข้าพระบาทเป็นคนฉลาดกว่าคนอื่น ๆ
แต่พระองค์ทรงสำแดงเพื่อข้าพระบาทจะได้ทูลถวายความหมายให้แก่พระองค์
เพื่อว่าพระองค์จะทรงระลึก รับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในความคิดของพระองค์

ดาเนียล ไม่ได้เอาความดีความชอบเข้าตัวเลย
เขาพูดแต่ความจริง และมีใจถ่อมเป็นอย่างยิ่ง
เขาแจ้งให้พระราชาทราบชัดเจนว่า 

ผู้ที่ทำให้เขารู้ความฝัน และคำแปล คือพระเจ้า 
และพระเจ้าองค์นี้ ทรงประสงค์จะสำแดงให้พระราชาทราบอนาคต 
พระเจ้าองค์นี้ไม่ประสงค์จะให้โหร ผู้ทำนายคนใดมาแตะต้องข่าวสารอันสำคัญนี้  
นอกจากคนของพระองค์ 

 

ดาเนียล 2-8 เข้าเฝ้า…

ดาเนียล 2:24-26

วันต่อมา ดาเนียลเข้าไปหาอาริโอค ผู้ที่ได้รับคำสั่งให้ประหารนักปราชญ์แห่งบาบิโลน
เมื่อพบกันต่อหน้า ดาเนียลกล่าวว่า
“ขอท่านอย่าประหารชีวิตนักปราชญ์ทั้งหลายขอรับ
ให้ท่านนำข้าพเจ้าเข้าเฝ้าพระราชาวันนี้
และข้าพเจ้าจะถวายคำแปลความฝันให้แก่พระราชา”
“จริงรึ … เจ้าแก้ความฝันให้พระราชาได้
แสดงว่า เจ้าก็รู้ซิว่า พระองค์ฝันอะไร”
“ขอรับ พระเจ้าทรงสำแดงให้ข้าพเจ้าทราบ”

2282197

อาริโอคดีใจมากที่เขาไม่ต้องลงมือประหารปราชญ์เหล่านั้น
หลายคนก็เป็นเพื่อนรักของเขาอยู่แล้ว
เขาโล่งใจจริง ๆ  รีบนำตัวดาเนียลเข้าเฝ้าพระราชา
“ข้าแต่พระราชา ข้าพระบาทพบหนึ่งในเชลยที่พระองค์ทรงกวาดมาจากเยรูซาเล็ม
เขาสามารถแปลความหมายของพระสุบินได้พะยะค่ะ”
อาริโอคกล่าวอย่างมั่นใจ

พระราชาเนบูคัดเนสซาร์ทรงมองดานิเอลซึ่งชาวบาบิโลน
เรียกชื่อว่า เบลชัสซาร์ …
“เจ้าบอกเราได้หรือว่า เราฝันอะไร
และเจ้าแปลความหมายของฝันได้ด้วยรึ?”

ดานิเอลน่าจะตอบว่า ได้พะยะค่ะ   แล้วก็รีบบอก
รีบแปลความหมายของฝัน
แต่เขากลับไม่พูดอย่างนั้น
เขาพูดอะไร…..

 

ดาเนียล 2-7 คำสรรเสริญ …

ดาเนียล 2:22-23

ดาเนียลรู้ในใจของเขาว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ที่สุด
ทรงเป็นผู้กำหนดเวลาฤดูกาล
ทรงเป็นผู้ตั้งและถอนผู้ปกครองประเทศ  เมือง หมู่บ้าน
พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ปัญญา
จึงทำให้คนหลายคนมีปัญญา มีความฉลาดเฉลียว

เราคิดอย่างดาเนียลหรือเปล่าครับ
เขายังกล่าวสรรเสริญพระเจ้าต่อไปว่า
“พระองค์ทรงเปิดเผยสิ่งลึกลับที่ซ่อนอยู่
พระองค์ทรงรู้ว่า มีอะไรอยู่ในความมืดมิด
และแสงสว่างก็ดำรงอยู่ในพระองค์

Whirlpool_by_Tr1umph

ข้าพระองค์ถวายคำขอบคุณ และคำสรรเสริญ
แด่พระเจ้าของบรรพบุรุษของข้าพระองค์
เพราะว่า พระองค์ได้ประทานสติปัญญาและกำลังให้แก่ข้าพระองค์
และทรงทำให้ข้าพระองค์ได้รู้ถึงสิ่งที่ทูลถามต่อพระองค์
เพราะพระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์รู้เรื่องขององค์พระราชา ”

ครับ แทนที่ดาเนียลจะรีบไปหาพระราชาทันที
เขากลับหันมาหาพระเจ้า

และกราบนมัสการขอบคุณพระองค์ ​

เพื่อน ๆ ครับ พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของคนที่รักพระองค์
และทรงฟังคำทูลขอของเขาเสมอครับ…

ขอบคุณพระเจ้า

 

 

ดาเนียล 2-6 คำสรรเสริญ

ดาเนียล 2:20-21

เมื่อดาเนียลกับเพื่อน ๆ อธิษฐาน  พระเจ้าก็ทรงตอบเขาทันควัน

คืนนั้นเอง ดาเนียลได้เห็นนิมิต
เขาเห็นว่า พระราชาทรงฝันอะไรบ้าง
เพื่อน ๆ ครับ มันคล้ายกับการเห็นในฝัน แต่ไม่ใช่ฝัน
เหมือนกับเห็นเป็นภาพยนต์มากกว่า แต่ก็ไม่มีจอ เรียกว่า เห็นนิมิต
ยิ่งกว่านั้น พระเจ้ายังทรงให้ดาเนียลได้รู้ว่า
ความฝันนั้น มีความหมายอย่างไรบ้าง

the-statue

เขาดีใจมาก  และสิ่งแรกที่เขาทำเมื่อได้รับคำตอบก็คือ
เขามาหาพระเจ้าอีกครั้ง    ทูลต่อพระองค์ว่า
“สาธุการแด่พระนามของพระเจ้าเป็นนิตย์
ปัญญา และฤทธานุภาพเป็นของพระองค์
พระองค์ทรงเปลี่ยนเวลา และฤดูกาล
ทรงเป็นผู้ถอดถอน และแต่งตั้งกษัตริย์
ทรงให้ปัญญาแก่คนฉลาด
ทรงให้ความรู้แก่ผู้ที่มีความเข้าใจดี