เยเรมีย์ 50-1 คนหลงทางของพระเจ้า

เยเรมีย์ 50:1-7

พระวจนะของพระเจ้าที่ตรัสถึงบาบิโลน  เกี่ยวข้องกับแผ่นดินเคลเดีย โดยเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ

“จงแจ้งไปทั่วประชาชาติ และป่าวประกาศออกไป
จงตั้งธงและประกาศให้รู้ อย่าปิดเอาไว้ และกล่าวว่า
“บาบิโลนถูกยึดไปแล้ว  เจ้าเบลจะต้องอับอาย
เจ้ามาร์ดุคก็หวาดหวั่น  เทวรูปทั้งหลายของบาบิโลนก็กลายเป็นอัปยศ
รูปเคารพทั้งสิ้นก็หวาดผวา”
เพราะจากทางเหนือ จะมีชาติหนึ่งเข้ามาต่อต้านบาบิโลน
ทำให้แผ่นดินนี้ร้างไป และไม่มีใครอาศัยอยู่
ทั้งมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายจะหนีไป

“ในวันเหล่านั้น ในเวลานั้น “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“ประชากรอิสราเอลและยูดาห์จะต่างร่ำไห้มารวมตัวกัน
พวกเขาจะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา
และจะถามหาทางที่จะกลับไปยังศิโยน หันหน้าไปทิศนั้น กล่าวว่า
มาเถิด ให้เราร่วมใจกันหันหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
โดยพันธสัญญานิรันดร์ซึ่งจะไม่มีใครลืมเลย”


lostsheep

 

ภาพถ่ายโดย Victor M. Vicente Selvas 
public domain http://commons.wikimedia.org/wiki/File:The_lost_sheep.jpg

“ประชากรของเราเป็นแกะที่หลงทางไป
ผู้เลี้ยงของพวกเขานำเขาไปหลง พาออกไปตามภูเขา
เร่ร่อนจากภูเขานี้ไปยังเนินเขานั้น
พวกเขาลืมคอกของตนเอง
ดังนั้นคนที่พบเจอจึงเขมือบพวกเขา
และศัตรูของเขากล่าวว่า
“เราไม่ผิด  เพราะพวกเขานั่นแหละที่ได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์ผู้ทรงเป็นที่พักพิงอันชอบธรรมของพวกเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นความหวังของบรรพบุรุษ”

เยเรมีย์ 49-6 คำพิพากษาเอลาม

เยเรมีย์ 49:34-39

คำพิพากษาเอลาม
พระคำขององค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับเอลามมาถึงเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ
ในสมัยของเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์

องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า
“ดูเถิด เราจะทำลายคันธนูซึ่งเป็นขุมกำลังของเอลาม
และเราจะนำลมทั้งสี่ทิศจากสวรรค์ลงมา
เราจะทำให้เขากระจัดกระจายไปตามลมเหล่านั้น
และจะไม่มีประชาชาติใดที่ไม่ได้เอลามไปเป็นเชลย

bow

เราจะทำให้เอลามกลัวลานต่อหน้าศัตรู
ต่อหน้าคนที่แสวงหาชีวิตของเขา
เราจะนำหายนะ  ความโกรธเกรี้ยวของเรามาสู่เขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เราจะส่งดาบตามพวกเขาไป จนกระทั่งเราทำลายเขาจนหมด
และเราจะตั้งบัลลังก์ของเราไว้ในเอลาม
และทำลายกษัตริย์ ข้าราชการของพวกเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
แต่ในเวลาต่อมา เราจะรื้อฟื้นเอลามขึ้นใหม่
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 49-5 เคดาร์-ฮาโซร์

เยเรมีย์ 49:28-33

คำพิพากษาสำหรับเผ่าเคดาร์ และฮาโซร์

เกี่ยวกับเผ่าเคดาร์ และอาณาจักรฮาโซร์ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์โจมตี
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้

 “จงลุกขึ้น  ลุกไปสู้กับเผ่าเคดาร์!  จงทำลายประชากรทางตะวันออก!

 กระโจมและฝูงสัตว์ของเขาจะถูกกวาดไป

ทั้งผ้าเต้นท์และทรัพย์สมบัติ  อูฐทั้งหลายจะถูกนำออกไปจากเขา
และผู้คนจะร้องว่า “โอ น่ากลัวไปเสียทุกทิศ!”

 หนี  จงหนีออกไปให้ไกล  อาศัยในที่ลึก  โอประชากรแห่งอาณาจักรฮาโซร์
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

 เพราะเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน มีแผนต่อต้านเจ้า

 มีเป้าหมายที่จะสู้กับเจ้า
“จงลุกขึ้น และต่อสู้กับชาติทางตะวันออกที่อยู่อย่างปลอดภัย”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“เขาไม่มีประตูเมือง ไม่มีกลอนประตู  อยู่แต่ลำพัง
อูฐของพวกเขาจะกลายเป็นของที่ปล้น
ฝูงสัตว์ของเขาจะกลายเป็นของที่ริบมา

mapa

 เราจะกระจายเขาให้กระเจิงไปทุกทิศทางลม
คนที่โกนจอนหูของตัวเอง
เราจะนำภัยพิบัติมาจากทุกด้านของเขา
เมืองฮาโซร์จะกลายเป็นที่พักของหมาป่า เป็นที่ร้างตลอดไป

 ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่  ไม่มีคนที่ค้างแรมในนั้น”

เยเรมีย์ 49-4 หายนะของเบนฮาดัด

เยเรมีย์ 49:23-27

คำพิพากษาดามัสกัส

เกี่ยวกับดามัสกัส  “ฮามัทและอารปัดต่างก็สับสน เพราะพวกเขาได้ข่าวร้าย
พวกเขาละลายไปด้วยความกลัว
ปั่นป่วนเหมือนคลื่นในทะเลที่ไม่อาจทำให้สงบได้
ดามัสกัสกลับมาอ่อนแอ เธอหนีไป และความกลัวก็จับใจเธอ
ความระทมและความทุกข์โศกยึดเธอไว้เหมือนกับหญิงที่กำลังคลอดบุตร

เมืองที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ถูกทอดทิ้งได้อย่างไร คือเมืองที่เราชื่นบาน?
ดังนั้น คนหนุ่มของเมืองจะล้มลงตามสี่แยก
ทหารของเมืองจะถูกทำลายสิ้นในวันนั้น
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
และเราจะก่อไฟขึ้นที่กำแพงเมืองดามัสกัส
และไฟนั้นจะเผาไหม้ป้อมเข้มแข็งของราชาเบนฮาดัดเสีย

 

เยเรมีย์ 49-3 หายนะของเอโดม

เยเรมีย์ 49:14-22

ข้าได้ยินข่าวสารจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
มีทูตคนหนึ่งถูกส่งไปยังประเทศต่าง ๆ
“จงรวบรวมพวกเจ้าเข้าด้วยกัน และมาต่อต้านเมืองนั้น
ลุกขึ้นทำสงคราม!

 เพราะดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเล็กน้อยท่ามกลางประชาชาติ
เป็นที่ดูหมิ่นในหมู่มนุษยชาติ
ความสยดสยองที่เจ้าสร้างขึ้นนั้นได้มาลวงเจ้า
และยังมีความเย่อหยิ่งในใจของเจ้าอีก
เจ้าผู้อาศัยท่ามกลางซอกตามภูเขา
แม้เจ้าจะอยู่สูงราวกับนกอินทรี เราจะนำเจ้าลงมาจากที่นั่น
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เอโดมจะกลายเป็นความสยดสยอง
ทุกคนที่ผ่านไปจะหวาดหวั่นและเยาะหยันกับหายนะที่เกิดขึ้น
ก็เหมือนกับตอนที่โสโดม และโกโมราห์และเมืองใกล้เคียงถูกทำลาย
จะไม่มีใครอาศัยในนั้น  แม้พักชั่วคราวก็ยังไม่มีใครไปพัก

ดูเถิด เราจะทำให้พวกเขาหนีไปจากมันอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับสิงโตจากป่าลุ่มน้ำจอร์แดนกระโจนหาทุ่งเขียวสด
และเราจะแต่งตั้งคนที่เราเลือกให้ปกครองเหนือมัน
เพราะว่า มีใครเหมือนอย่างเรา?
ใครจะมาเรียกเรา?
มีผู้เลี้ยงคนไหนบ้างที่จะยืนอยู่ต่อหน้าเราได้?
ดังนั้น จงฟังแผนการขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงทำเพื่อต่อต้านเอโดม
และเป้าหมายที่พระองค์ทรงทำขึ้นมาเพื่อต่อต้านคนที่อาศัยในเทมาน

ตัวเล็กที่สุดในฝูงยังต้องถูกลากไป
ดังนั้นคอกสัตว์ของพวกเขาก็จะต้องกลัวลานกับหายนะของตนเอง

เมื่อเขาล้มลง แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือน
เสียงร้องของพวกเขาได้ยินไปถึงทะเลแดง
ดูเถิด   จะมีผู้หนึ่งบินขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เหมือนนกอินทรี และกางปีกของเขาออกสู้โบสราห์
ในวันนั้น จิตใจของนักรบผู้กล้าแห่งเอโดม
จะกลายเป็นเหมือนใจของหญิงที่กำลังเจ็บครรภ์เพื่อคลอดบุตร

 

เยเรมีย์ 49-2 คำพิพากษาเอโดม

เยเรมีย์ 49:7-13

(ชาวเอโดมเป็นเชื้อสายของเอซาว คู่แฝดพี่ของยาโคบซึ่งเป็นต้นตระกูลของอิสราเอล)

เกี่ยวข้องกับเอโดม .. องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้ว่า
“ไม่มีปัญญาเหลือในเทมานแล้วหรือ?
คำปรึกษาไม่เหลืออยู่ในคนที่ฉลาดเฉลียวใช่ไหม?
สติปัญญาของเขาหายไปแล้วหรือ

จงหนี… หันไป อาศัยอยู่ในที่ลึก
โอ เหล่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเดดาน
เพราะเราจะนำความหายนะของเอซาวมาเหนือเขา
เวลาที่เราจะลงโทษเขา
หากคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า พวกเขาจะไม่ทิ้งไว้สักหน่อยหรือ?
หากขโมยมากลางคืน พวกเขาจะไม่ทำลายไปเท่าที่เขาต้องการจนพอหรือ?
แต่เราทำให้เอซาวโล่งเตียนไปหมด เราเปิดเผยที่ซ่อนของพวกเขา
และเขาก็ไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกต่อไป
ลูกหลานของเขาถูกทำลาย และพี่น้องของเขา เพื่อนบ้านของเขาไม่มีอีกต่อไป
ตัวเขาก็สิ้นไปด้วย

จงทิ้งลูกกำพร้าของเจ้าไว้เถิด เราจะให้เขามีชีวิตอยู่
แม่ม่ายของเขาก็ให้วางใจในเรา

 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“หากคนที่ไม่สมควรจะต้องดื่มจากถ้วยแห่งการลงโทษนี้ ยังต้องดื่ม
แล้วอย่างเจ้าจะลอยนวลไปได้หรือ?
เจ้าไม่มีทางหลุดพ้นการลงโทษ  แต่เจ้าจะต้องดื่มมันลงไป
เพราะเราได้ปฏิญาณโดยอ้างตัวเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ว่าโบสราห์จะกลายเป็นความสยดสยอง เป็นที่รังเกียจ เป็นที่ร้างเปล่าและเป็นคำสาปแช่ง
เมืองต่าง ๆ ของโบสราห์จะกลายเป็นที่ร้างปรักหักพังตลอดไป….

เยเรมีย์ 49-1 คำพิพากษาเหนืออัมโมน

เยเรมีย์ 49:1-6

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “อิสราเอลไม่มีลูกชายหรือ?
เขาไม่มีผู้รับมรดกหรือ?
เหตุใดพระมิลโคม (โมเลค) จึงเข้ามายึดแผ่นดินกาด?
เหตุใดชนชาติของเขาจึงเข้ามาอาศัยในถิ่นของเขา?

ดังนั้น ดูเถอะ วันหนึ่งจะมาถึง… องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เมื่อเราจะทำให้เสียงร้องออกสงครามเป็นที่ได้ยิน
ต่อสู้รับบาห์ของชาวอัมโมน
มันจะกลายเป็นซากกองปรักหักพัง
หมู่บ้านทั้งหลายจะถูกเผาด้วยไฟ  แล้วอิสราเอลก็จะยึดครองผู้ที่เคยยึดครองเขา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
“จงคร่ำครวญ โอ เฮชโบน เพราะอัยกลายเป็นที่ร้างเปล่า
ร้องออกมา โอลูกสาวของรับบาห์  จงสวมเสื้อกระสอบ
และคร่ำครวญ วิ่งไปมาตามรั้ว
เพราะพระมิลโคม จะต้องถูกจับไปเป็นเชลย รวมทั้งปุโรหิตและข้าราชการของเขา

เหตุใดเจ้าจึงร้องโอ้อวดหุบเขาทั้งหลายของเจ้า
โอ ลูกสาวที่ไม่ซื่้อสัตย์  คนที่วางใจในทรัพย์สมบัติของตน
กล่าวว่า “ใครจะมาสู้กับฉันหรือ?”
“ดูเถิด.. เราจะนำความสยดสยองมาสู่เจ้า ”
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงประกาศ
“จากคนที่อยู่ล้อมรอบเจ้า  เจ้าจะถูกไล่ออกไป  ทุกๆคน…
โดยไม่มีใครจะรวบรวมเหล่าคนลี้ภัยได้”

“แต่หลังจากนั้น เราจะรื้อฟื้นให้ชาวอัมโมนกลับสู่สภาพดี”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 48-6 เราจะรื้อฟื้นเจ้า

เยเรมีย์ 48:40-47

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด คนหนึ่งจะบินเร็วอย่างอินทรี
และขยายปีกของเขาสู้โมอับ   เมืองต่าง ๆ จะถูกริบไป และเหล่าป้อมปราการจะถูกยึด
ในวันนั้น ใจของนักรบชาวโมอับจะเป็นเหมือนใจของหญิงที่กำลังเจ็บครรภ์คลอดบุตร
โมอับจะถูกทำลาย และจะไม่เหลือใครเลย
ที่เป็นอย่างนี้ เพราะเขาได้ตั้งตนต่อสู้องค์พระผู้เป็นเจ้า
ความน่ากลัว หลุม และบ่วงอยู่ต่อหน้าเจ้า… โอ ผู้อาศัยในโมอับ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

คนที่หนีจากความสยดสยอง จะัตกลงไปในหลุม
และคนที่ปีนขึ้นมาจากหลุมได้ก็จะติดบ่วงแร้วบ
เราเป็นผู้นำสิ่งนี้มายังโมอับ เป็นปีที่พวกเขาต้องรับโทษ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

ใต้เงาของเฮชโบน เหล่าคนลี้ภัยต่างหมดแรง
เพราะมีไฟออกมาจากเฮชโบน เป็นเปลวไฟจากบ้านของสิโหน
มันได้ทำลายหน้าผากของโมอับ  มงกุฎลูกชายแห่งความสับสนอลหม่าน
วิบัติแก่เจ้า โอ โมอับ
เหล่าคนจากพระเคโมชก็วอดวาย เพราะลูกชายของเจ้าถูกจับไปเป็นเชล
ลูกสาวก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ชนะ
ถึงกระนั้น เราจะรื้อฟื้นโมอับขึ้นมาอีกครั้ง  ในยุคต่อไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ”

คำพิพากษาโมอับมีอยู่เท่านี้

เยเรมีย์ 48-5 เหลือแต่เสียงร้องครวญ

เยเรมีย์ 48:36-39

ดังนั้น ใจของเราจึงคร่ำครวญเพื่อโมอับ เหมือนกับขลุ่ย
และใจของเราคร่ำครวญคนแห่งคีร์เฮเรส
ดังนั้น ความมั่งคั่งที่เขาได้มา กลับหายไปจนหมดสิ้น
ทุกหัวถูกโกน ทุกหน้าถูกโกนหนวดเครา
ที่มือก็มีรอยเฉือนเนื้อ  ผ้ากระสอบคาดเอวอยู่
บนหลังคาบ้านของชาวโมอับและตามสี่แยก ไม่มีอะไรนอกจากการร้องครวญ
เพราะเราได้ทำให้โมอับแตกเหมือนกับภาพชนะที่ไม่มีใครสนใจ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

มันแตกจริง ๆ นะ  ดูที่เขาคร่ำครวญซิ
โมอับต้องหันหลังให้ด้วยความอับอาย
ดังนั้นโมอับจึงกลายเป็นที่เยาะหยัน และหวาดเสียวแก่คนที่อยู่รอบข้างเขา

เยเรมีย์ 48-4 ผู้ให้โมอับพบจุดจบ

เยเรมีย์ 48:28-35

จงออกไปจากเมือง  และอาศัยอยู่ในหินเถิด โอ คนที่อยู่ในโมอับ!
จงเป็นเหมือนนกพิราบที่มีรังอยู่ข้าง ๆ หินผา
เราได้ยินเรื่องความเย่อหยิ่งของโมอับ
เขาหยิ่งมาก ในเรื่องของความสูงส่งของตัวเขา ความทะนงและความก้าวร้าวของเขา
รวมไปถึงความโอหังในใจของเขา
เรารู้จักความอวดดีของเขา  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
การโอ้อวดของเขาก็จอมปลอม  การกระทำก็จอมปลอม
ดังนั้น เราจะคร่ำครวญเพื่อโมอับ  ร้องออกมาเพื่อชาวโมอับทั้งสิ้น
เราเสียใจแทนเหล่าคนจากคีรหะเรเสท
เราร้องไห้ให้เจ้ามากกว่าที่ยาเซอร์ร้องให้เจ้า โอองุ่นแห่งสิบมาห์
กิ่งก้านของเจ้านั้นไปไกลข้ามทะเล ไปถึงทะเลแห่งยาเซอร์
เหล่าผู้ทำลายได้ทำลายเถาองุ่นและผลไม้ฤดูร้อนของเจ้าแล้ว

ความสุขและความยินดีก็ถูกเอาออกไปจากดินแดนโมอับที่อุดมสมบูรณ์
เราได้ทำให้น้ำองุ่นหยุดไหลจากบ่อย่ำองุ่น
ไม่มีใครจะย่ำองุ่นด้วยเสียงแห่งความยินดี
เสียงตะโกนนั้นไม่ใช่เสียงแห่งความร่าเริง

เสียงร้องไห้จากเฮชโบน ถึงเอเลอาเล์ และยาฮาส
จากโศอาร์ไปถึง โฮโรนาอิม และเอกลัทเชลิชิยาห์
เพราะแม่น้ำแห่งนิมริมยังกลายเป็นที่แห้ง
และเราจะนำจุดจบมาสู่โมอับ  ผู้ที่ถวายเครื่องบูชาในที่สูง
และถวายเครื่องบูชาให้กับเทพเจ้าของเขา  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 48-3 ศักดิ์ศรีที่หายไป

เยเรมีย์ 48:18- 27

โอ.. จงลงมาจากความรุ่งเรืองของเจ้า และมานั่งอยู่บนดินแห้งแล้ง
ชาวเมืองดีโบน…
เพราะว่า ผู้ที่จะทำลายโมอับกำลังมาต่อสู้กับเจ้า
เขาได้ทำลายที่มั่นของเจ้าไปแล้ว

จงยืนอยู่ข้างทาง และมองดู  โอชาวเมืองอาโรเออร์
ถามคนที่หนีมา ถามหญิงที่หลบมาว่า
..เกิดอะไรขึ้นกันนี่?

โมอับต้องอับอาย เพราะโมอับแตกเสียแล้ว
จงคร่ำครวญ และร้องไห้
บอกคนแถวแม่น้ำอารโนนว่า โมอับถูกทิ้งร้างเสียแล้ว
การพิพากษาได้มาถึงที่ราบเหนือเมืองโฮโลน ยาซาห์ และเมฟาอาท
รวมทั้งดีโบน เนโบ และเบธดิบลาธาอิม
คีริยาธาอิม เบธกามุล และเบธเมโอน
และเคริโอท โบสราห์ รวมไปถึงหัวเมืองทั้งสิ้นของโมอับ ทั้งไกล และใกล้

เขาของโมอับถูกตัดออกเสียแล้ว  แขนก็หัก องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“จงทำให้เขาเมา  เพราะเขาได้ยกตัวเองต่อสู้องค์พระผู้เป็นเจ้า
เพื่อว่า โมอับจะกลิ้งเกลือกอยู่ในอาเจียรของตนเอง
และเขาเองก็จะถูกเย้ยหยัน
เจ้าเคยเยาะเย้ยอิสราเอลมิใช่รึ?
ไปพบพวกเขาอยู่กับพวกโจรอย่างนั้นหรือ
เพราะพอเจ้าพูดถึงเขาทีไร เจ้าก็สั่นหัวทุกทีไป?”

 

เยเรมีย์ 48-2 ตะกอนโมอับ

เยเรมีย์ 48:9-17

“ส่งปีกให้โมอับซิ.. เพื่อว่าเธอจะได้บินหนีไป
เมืองต่าง ๆ ของเธอจะกลายเป็นเมืองร้าง
ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลย

คำแช่งสาปจะอยู่กับคนที่ทำงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างเฉื่อยชา
คำแช่งสาปจะอยู่กับคนที่ป้องกันไม่ให้ดาบของตนเปื้อนเลือด

โมอับอยู่อย่างสบายมาตั้งแต่เยาว์ และรู้สึกสบายกับการตกตะกอน
มันไม่ได้ถูกเทไปยังภาชนะอื่น ๆ  ไม่เคยไปเป็นเชลย
ดังนั้นรสชาดจึงยังอยู่ในนั้น กลิ่นเดิมก็อยู่ในนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

“ดังนั้น ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะสิ่งผู้เทมาให้เขา
ผู้ที่เทนั้นจะเทเขาออก และทำให้ภาชนะว่าง ไม่เหลืออะไร
จากนั้นก็จะทุบภาชนะให้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

แล้วโมอับจะต้องอับอายเพราะพระเคโมช
เหมือนกับที่อิสราเอลอับอายเพราะเบเธลซึ่งเป็นความมั่นใจของเขา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

“เจ้าจะกล่าวอย่างไรว่า เราเป็นวีรบุรุษ ผู้กล้าแห่งสงคราม?
ผู้ทำลายของโมอับและเมืองทั้งปวงได้มา
และคนหนุ่มที่กล้าหาญที่สุดก็ถูกฆ่าหมู่…”
องค์กษัตริย์  ผู้ทรงนามว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพได้ตรัส

ภัยพิบัติของโมอับก็อยู่ใกล้มาก และความทุกข์ยากของเขามาถึงอย่างรวดเร็ว
จงร้องไห้เสียใจเพื่อเขา  เหล่าคนที่อยู่ล้อมรอบเขา
รวมทั้งคนที่รู้จักชื่อของเขา กล่าวว่า ..
ธารพระกรอันทรงพลังนั้นหักเสียแล้ว … คทาที่รุ่งโรจน์”

เยเรมีย์ 48-1 ถึงคิวของโมอับ

เยเรมีย์ 48:1-8

เรื่องเกี่ยวกับโมอับ
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้
“วิบัติแก่เนโบ เพราะถูกทิ้งร้างไปแล้ว
คิรียาธาอิมต้องอับอาย เพราะถูกยึดไป
ป้อมทั้งหลายก็ต้องอายเพราะว่ามันพังลงไปแล้ว

ชื่อเสียงดี ๆ ของโมอับก็ไม่มีอีกต่อไบ
เมืองเฮชโบนวางแผนที่จะต่อสู้กับโมอับ
.. มาเถอะ พวกเรามาทำให้โมอับไม่เป็นชาติอีกต่อไป!..
เจ้าก็เช่นกิน เมืองมัดเมน.. เจ้าจะถูกทำให้เงียบ
ดาบจะตามติดเจ้า
“เสียงหนึ่ง!  มีเสียงร้องมาจากโฮโรนาอิม
” ความรกร้าง และหายนะอันยิ่งใหญ๋!”
โมอับถูกทำลาย … เด็กเล็ก ๆ ร้องไห้
เพราะที่ทางขึ้นไปเมืองลูฮีท พวกเขาขึ้นไปร้องคร่ำครวญ
เพราะที่ทางลงจากเมืองโฮโรนาอิม
พวกเขาได้ยินเสียงร้องไห้เพราะการถูกทำลาย

หนีไปซะ! เอาตัวให้รอด!  เ้จ้าจะเป็นเหมือนลาป่าในทะเลทราย!
เพราะเจ้าเชื่อวางใจผลงานแห่งมือของเจ้าและทรัพย์สมบัติของเจ้า
เจ้าเองก็จะถูกกวาดไปด้วย
เหล่าพระเคโมชจะถูกกวาดไปเป็นเชลย พร้อมกับปุโรหิตและข้าราชการ

ผู้ทำลายนั้นจะเข้ามาบุกทุกเมือง
ไม่มีเมืองใดจะหนีรอดไปได้
แม้หุบเขาก็จะพินาศไปด้วย
ที่ราบจะถูกทำลาย ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

เยเรมีย์ 47 การลงโทษฟิลิสเตีย

เยเรมีย์ 47:1-7

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ เกี่ยวข้องกับฟิลิสเตีย
ก่อนที่ฟาโรห์จะทำลายกาซา
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิด น้ำท่วมมาจากทางเหนือ และจะหลายเป็นสายน้ำเชี่ยวสูง
มันจะท่วมแผ่นดินและทุกอย่างบนแผ่นดิน  ทั้งเมืองและคนที่อยู่ในนั้น
มนุษย์จะร้องออกมา และคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินจะคร่ำครวญ
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงย่ำของกีบม้าตัวผู้
เมื่อได้ยินเสียงรถรบวิ่งเข้ามา  เสียงล้อรถรบบดถนนดังสนั่น
พ่อทั้งหลายก็ไม่ได้หันกลับมาดูลูกของตน เพราะแขนของเขาก็อ่อนล้า
เพราะวันนั้นเป็นวันทำลายฟิลิสเตียทั้งสิ้น
เพื่อที่จะตัดเหล่าผู้ช่วยที่ยังหลงเหลืออยู่จากไทระ และซีโดน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายฟิลิสเตีย เหล่าคนที่หลงเหลือตามชายทะเลคัฟโทร์
กาซากลายเป็นเมืองโล้นเลี่ยน  เมืองเอชเคโลนก็ถึงแก่หายนะ
โอ เหล่าคนที่หลงเหลืออยู่ในหุบเ้ขา
พวกเขาจะเชือดเนื้อตัวเองไปอีกนานเท่าไร?
อา… พระแสงขององค์พระผู้เป็นเจ้า!
อีกนานเท่าไร กว่าท่านจะหยุดเงียบ?
เอาตัวเก็บไว้ในฝักเสียเถิด ขอท่านพัก  อยู่นิ่ง ๆ

แต่มันจะเงียบได้อย่างไร เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชามาแล้ว
พระองค์ทรงตั้งให้มันสู้กับเอชเคโลน และเมืองชายทะเล…. “

เยเรมีย์ 46-5 ไม่ปล่อยให้ลอยนวล

เยเรมีย์ 46:27-28

“แต่อย่ากลัวไปเลย  โอยาโคบ คนรับใช้ของเรา
อย่าหวั่นเกรงไป  โออิสราเอล
เพราะดูเถิด  เราจะช่วยเจ้าให้รอด  จากที่ไกล
และลูกหลานของเจ้าจากดินแดนที่เขาตกไปเป็นเชลย
ยาโคบจะกลับมา  ได้รับความสงบ พัก
และจะไม่มีใครทำให้เขากลัว
fs
อย่ากลัวไปเลย ยาโคบ คนรับใช้ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เพราะเราอยู่กับเจ้า
เราจะทำให้ประชาชาติทั้งหลายต้องจบสิ้นลง
ประชาชาติที่เราไล่เจ้าไปอยู่นั้น
แต่สำหรับเจ้า เราจะไม่ให้จบ
เราจะตีสอนเจ้าตามขนาด
และเราจะไม่ปล่อยให้เจ้าลอยนวลไปโดยไม่ได้รับโทษ”

เยเรมีย์ 46-4 สภาพอียิปต์เมื่อถูกบุก

อาโมนเป็นเทพเจ้าแห่งลม ของชาวอียิปต์โบราณ
อาโมนเป็นเทพเจ้าแห่งลม ของชาวอียิปต์โบราณ

เยเรมีย์ 46:20-26

โคสาวที่งดงามคืออียิปต์
แต่เหลือบจากทางเหนือมาบินว่อนเหนือเธอ
แม้ทหารรับจ้างท่ามกลางเธอก็เป้นเหมือนวัวที่ขุนจนอ้วน
ใช่ซิ พวกเขาหันไปและหนีไปด้วยกัน ไม่ยืนมั่น
เพราะวันแห่งความหายนะมาถึงพวกเขาแล้ว
เป็นเวลาลงโทษพวกเขา
เธอทำเสียงเหมือนกับงูกำลังเลื้อยไป
เพราะศัตรูของเธอนั้นกำลังย่ำไปด้วยกำลัง
และมาสู้กับเธอด้วยขวาน ราวกับคนที่กำลังจะล้มต้นไม้
พวกเขาจะล้มต้นไม้ในป่าของเธอ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ถึงแม้ไม่มีใครสามารถทะลุทะลวงเข้ามาได้
เพราะว่าพวกเขามีจำนวนมากกว่าตั๊กแตน
มีจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน

ลูกสาวของอียิปต์จะต้องอับอาย
ถูกส่งไปให้อยู่ในเงื้อมมือของชนชาติทางเหนือ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
“ดูเถิด เรากำลังจะลงโทษเทพเจ้าอาโมนแห่งเธเบส และฟาโรห์ และอียิปต์
กับเหล่าเทพเจ้า และกษัตริย์ทั้งปวง  ลงโทษฟาโรห์และทุกคนที่วางใจฟาโรห์
เราจะมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือเหล่าคนที่กำลังแสวงชีวิตของเขา
ในมือของเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน และข้าราชการ
หลังจากนั้น อียิปต์จึงจะมีคนเข้ามาอาศัยดังแต่ก่อน ….

เยเรมีย์ 46-3 สภาพของอียิปต์

เยเรมีย์ 46:13-19

พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ
เรื่องการเข้ามาบุกอียิปต์โดยเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน
“จงประกาศในอียิปต์  และแจ้งในมิกดล
แจ้งให้รู้ในเมมฟิส และเทปานเหส
จงกล่าวว่า .. จงยืนมั่นให้พร้อม  จงเตรียมตัว

เมมฟิส ยามรุ่งเรือง
เมมฟิส ยามรุ่งเรือง

เพราะว่าดาบสังหารจะกลืนกินรอบ ๆ เจ้า
เหตุใดนักรบผู้กล้าจึงก้มหน้าลง?
พวกเขาไม่ได้ยืนมั่นอยู่
เป็นเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าผลักเขาลงไป

พระองค์ทรงทำให้หลายคนสะดุด และพวกเขาล้มลง
และต่างกล่าวแก่กันและกันว่า
“ลุกขึ้น  พวกเรากลับไปหาคนของเราเถอะ
กลับไปบ้านเกิดเมืองนอนของเรา
เพราะดาบของผู้กดขี่”

ร้องออกนามของฟาโรห์  กษัตริย์แห่งอียิปต์
..ผู้ส่งเสียงดังที่ปล่อยให้เวลาผ่านไป..
“ตราบเท่าที่เรามีชีวิต  พระมหากษัตริย์ทรงประกาศ
พระนามของพระองค์คือ องค์พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
เหมือนกับภูเขาทาโบร์ ท่ามกลางภูเขาทั้งปวง
เหมือนกับภูเขาคารเมลที่อยู่ข้างทะเล

เหล่าผู้ที่อาศัยอียิปต์เอ๋ย
จงเตรียมข้าวของเพื่อการถูกกวาดไป
เพราะเมืองเมมฟิสจะกลายเป็นที่ร้าง
เป็นซากปรักหักพังที่ไม่มีคนอาศัย”

เยเรมีย์ 46-2 เหตุการณ์ที่จะเกิด

เนบูคัดเนสซาร์เข้ามาบุกอียปต์
เนบูคัดเนสซาร์เข้ามาบุกอียปต์

เยเรมีย์ 46:7-12

ใครกัน ที่ท่วมสูงขึ้นมาดั่งแม่น้ำไนล์?
ดั่งแม่น้ำที่สายน้ำหนุนเชี่ยวขึ้นมา
อียิปต์สูงขึ้นดั่งแม่น้ำไนล์
ดั่งแม่น้ำที่สายน้ำหนุนเชี่ยวขึ้นมา

เขาโอ่ว่า “ข้าจะลุกขึ้น และจะครอบครองทั่วแผ่นดินโลก
ข้าจะทำลายบรรดาเมืองต่างๆ ทั้งคนที่อาศัยในนั้น
มุ่งไปข้างหน้า เหล่าม้าศึก… เฆี่ยนเข้าไป รถรบ!
จงให้นักรบออกไป
เหล่าบุรุษแห่งคุช และพูตที่ถือโล่
เหล่าบุรุษแห่งลุด คนที่มีความเชี่ยวชาญในการยิงธนู
วันนั้น เป็นวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมทัพ
วันแห่งการแก้แค้น เพื่อแก้แค้นศัตรูของพระองค์

 

ดาบจะกลืนกินชีวิต จนพอใจ
มันจะดื่มเลือดส่วนของมัน
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า  ผู้ทรงเป็นจอมทัพจะทรงถือเครื่องสักการะ
ณ ประเทศทางเหนือ ข้างแม่น้ำยูเฟรตีน
ขึ้นไปซิ  ขึ้นไปที่กิเลอาด หายาทา
เหล่าพรหมจารี ลูกสาวของอียิปต์!
ยาหลาย ๆ อย่างที่เจ้าใช้นั้น ไม่ได้ผล
เจ้าไม่ได้รับการเยียวยา

เหล่าประชาชาติได้ยินถึงความน่าอายของเจ้า
โลกเต็มด้วยเสียงร้องคร่ำครวญของเจ้า
นักรบก็สะดุดล้มทับกัน
จึงล้มลงไปพร้อม ๆ กัน

เยเรมีย์ 46-1 เรื่องของอียิปต์

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ เกี่ยวกับประเทศทั้งหลาย
เกี่ยวกับอียิปต์…..

เรื่องของกองทัพฟาโรห์เนโค  กษัตริย์แห่งอียิปต์
ซึ่งอยู่ข้างแม่น้ำยูเฟรตีสที่คารเคมิช
ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้โจมตีเอาชนะได้
ในปีที่สี่ของรัชสมัยเยโฮยาคิม โอรสราชาโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์

ฟาโรห์เนโคที่สอง  ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Necho_II
ฟาโรห์เนโคที่สอง ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Necho_II

จงเตรียมโล่ทั้งเล็กและใหญ่  เตรียมตัวเข้าสู่สงคราม
ใส่อานให้ม้า .. ขึ้นขี่มัน  เหล่าพลม้า!
เข้าประจำที่พร้อมหมวกเกราะ
ขัดหอกของเจ้าให้พร้อม   สวมเสื้อเกราะ!

ทำไมเราจึงเห็นสิ่งเหล่านี้ ?
พวกเขากลัวลาน และหันกลับไป

เหล่านักรบพ่ายแพ้ รีบหนีอย่างรวดเร็ว ไม่หันกลับมามองเสียด้วยซ้ำ
ความสยดสยองอยู่รอบด้าน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ….

“แต่คนเท้าไวรีบเร่งก็ยังหนีไม่พ้น
นักรบไม่อาจจะหนีรอดไปได้
พวกเขาสะดุดและล้มลง

ทางเหนือ ริมแม่น้ำยูเฟรตีส

เยเรมีย์ 45 ปลอบใจบารุค

ภาพจาก http://www.soulshepherding.org/
ภาพจาก http://www.soulshepherding.org/

เยเรมีย์ 45:1-5

นี่เป็นคำที่เยเรมีย์กล่าวแก่บารุค ลูกชายเนริยาห์ เมื่อเขาเขียนคำตามคำบอกของเยเรมีย์
ในปีที่สี่ของรัชสมัยเยโฮยาคิม โอรสโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้แก่เจ้านะ บารุค

….เจ้ากล่าวว่า วิบัติแก่ตัวข้า
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เอาความทุกข์ใจเพิ่มให้กับความเจ็บปวดของข้า
ข้าเหน็ดเหนื่อยกับการคร่ำครวญ
และข้าไม่ได้พักเลย….
ดังนั้นเจ้าจะพูดกับเขาว่า   องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิดสิ่งที่เราสร้างขึ้นนั้น เราจะทำลายลง
สิ่งที่เราปลูก  เราก็จะถอนมันออกมา นั่นคือแผ่นดินทั้งหมด

“และเจ้าจะหาสิ่งใหญ่เพื่อตัวเองหรือ  อย่าหามันเลย
เพราะดูเถิด  เรากำลังนำหายนะมาสู่มนุษย์ทั้งปวง” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
“แต่เราจะให้ชีวิตแก่เจ้า   เป็นบำเหน็จแห่งการสงคราม ในทุกที่ ๆ เจ้าไป ”