เพลงคร่ำครวญ 1-2

วาว พยัญชนะตัวที่ 6

จากลูกสาวของศิโยน (เยรูซาเล็ม) ความตระการสง่าของเธอนั้นจากไปแล้ว

เหล่าเจ้าชายกลายเป็นเหมือนฝูงกวางที่หาทุ่งหญ้าไม่พบ

พวกเขาหนีผู้ตามล่าอย่างไร้เรี่ยวแรง

ภาพจาก en.wikipedia.org
ภาพจาก en.wikipedia.org

ซายิน พยัญชนะตัวที่ 7

เยรูซาเล็มจดจำวันที่เธอทุกข์ยาก และวันที่ต้องระหกระเหิน

สิ่งที่มีค่าทั้งหลายซึ่งเป็นของเธอในอดีตนั้น

เมื่อคนของเธอตกอยู่ในมือของคู่อริ

ไม่มีใครมาช่วยเธอ

ศัตรูก็เยาะหยันกับการล้มลงของเธอ

เฆท พยัญชนะตัวที่ 8

เยรูซาเล็มได้ทำบาปใหญ่ยิ่งนัก ทำให้เธอโสโครก

คนที่เคยให้เกียรติเธอก็ดูหมิ่นเธอ เพราะพวกเขาได้เห็นความเปล่าเปลือยของเธอ

ตัวเธอเองก็ได้แต่คร่ำครวญ และหันหน้าไปเสีย

เทท พยัญชนะตัวที่ 9
สิ่งที่เป็นมลทินของเธอก็ติดตามกระโปรง เธอไม่คิดถึงอนาคต

ดังนั้นความพินาศครั้งนี้จึงสยดสยองยิ่งนักไม่มีใครปลอบใจเธอ

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทอดพระเนตรความทุกข์ของข้าพระองค์

ดูซิ  ศัตรูชนะข้าพระองค์!”

โยด พยัญชนะตัวที่ 10

ศัตรูได้ยื่นมือออกมา และได้เอาทรัพย์สินมีค่าไป

เธอได้เห็นประชาชาติทั้งหลาย เข้าไปในสถานนมัสการ

เหล่าผู้ที่ต้องห้ามได้เข้าไปในที่ประชุมของพระองค์

เพลงคร่ำครวญ 1-1

เพลงคร่ำครวญ 1:1-5

(เพื่อน ๆ ครับ  บทเพลงนี้ เยเรมีย์กำลังคิดถึงกรุงเยรูซาเล็ม)

อาเลฟ…. พยัญชนะตัวแรกของฮิบรู

โอ้…นครที่เคยเต็มด้วยผู้คน บัดนี้ร้าง อ้างว้าง…
เธอเคยยิ่งใหญ่  บัดนี้ เธอเหมือนหญิงที่ถูกทิ้งไป…

เธอเคยเป็นเหมือนเจ้าหญิง… บัดนี้กลายเป็นเชลยทาส


เบท.. พยัญชนะตัวที่สอง

ยามค่ำ.. เธอร่ำไห้อย่างขื่นขม  น้ำตาไหลอาบแก้ม

จะหาคนที่มาปลอบใจ  ก็หาไม่พบ

เพื่อน ๆ  ทรยศต่อเธอ ไม่เว้นสักคน พวกเขากลายเป็นศัตรูไปเสียแล้ว


กิเมล…พยัญชนะตัวที่สาม

ยูดาห์กลายไปเป็นเชลยต่างแดน  ทุกข์ยาก  ถูกใช้แรงงานหนักหน่วง

ต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางชาติทั้งหลาย  เธอไม่พบที่พักพิงอันสงบ

ผู้ที่ไล่ล่าก็ตามทัน ยามที่เธอเดือดร้อน
ดาเลท…พยัญชนะตัวที่สี่

ทางไปสู่ศิโยนก็เศร้าโศก  ไม่มีใครมาเทศกาลงานเลี้ยงอีก

ประตูเมืองทุกบานถูกทิ้ง  เหล่าปุโรหิตก็ร้องคราง

ลูกสาวพรหมจารีต้องทนทุกข์     เธอเองต้องขื่นขมอย่างยิ่ง

 

เฮ.. พยัญชนะตัวที่ ห้า

คู่ต่อสู้ของเธอกลายเป็นหัวหน้าไปแล้ว  ศัตรูของเธอก็รุ่งเรืองขึ้น

ที่้เป็นเช่นนี้เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เธอต้องทนทุกข์ เพราะเธอได้ล่วงละเมิดอย่างท่วมท้น

ลูก ๆของเธอก็ออกไป กลายเป็นเชลยต่อหน้าคู่ต่อสู้

 

บทเพลงคร่ำครวญของเยเรมีย์

หนังสือเล่มต่อไปคือ บทเพลงคร่ำครวญของเยเรมีย์……..

เยเรมีย์เสียใจมากกับการที่ยูดาห์ต้องตกไปเป็นเชลยของคนเคลเดีย

เป็นเวลาสี่สิบปี ที่เยเรมีย์คอยเตือนผู้คน ให้กลับใจใหม่ ให้เลิกทำบาป (ประมาณปี 645-605  ปีก่อนคริสตศักราช)

เขาทำนายถึงเหตุการณ์ร้ายที่จะเกิดขึ้น ให้ทั้งประชาชน และกษัตริย์ได้รับรู้

แต่พวกเขาส่วนใหญ่กลับไม่สนใจและยังเคียดแค้นที่เยเรมีย์พูดแต่สิ่งร้าย ๆ

พวกเขาต้องการฟังเรื่องของพร   เรื่องความรุ่งเรือง ไม่ใช่เรื่องของหายนะที่จะมาถึง

ภาพวาดโดย มาร์ค ชากัล
ภาพวาดโดย มาร์ค ชากัล

 

แล้วเมื่อถึงวันที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ยกทัพมาล้อม โจมตี และยึด เผานครเยรูซาเล็ม
ตามที่เยเรมีย์เคยบอกไว้  แทนที่เขาจะสะใจ  เขากลับยิ่งเสียใจ ทรมานใจกับความทุกข์ยากของผู้คน

คำคร่ำครวญนี้ เขียนออกมาเป็นบทประพันธ์แบบฮิบรู
บ่งบอกถึงความทุกข์ใจของเยเรมีย์เอง

เยเรมีย์ 52-5 ราชาเยโฮยาคินออกจากคุก

 

ในปีที่ 37 ของการที่ราชาเยโฮยาคิน กษัตริย์แห่งยูดาห์ ถูกเนรเทศออกมาจากบ้านเกิดเมืองนอน

เดือนที่ 12  วันที่ 25  เป็นปีที่ เอวิล เมโรดัคกษัตริย์แห่งบาบิโลนขึ้นครองราชสมบัติ

พระองค์ได้มีพระทัยเมตตา ปล่อยราชาเยโฮยาคิน กษัตริย์แห่งยูดาห์ และนำพระองค์ออกมาจากคุก

ยังได้ตรัสกับเยโฮยาคิดอย่างเมตตา และให้พระองค์มีพระที่นั่งอยู่เหนือกว่า กษัตริย์ทุกองค์ที่อยู่กับพระองค์ในบาบิโลน

jeaochin

ดังนั้น จึงได้ถอดเสื้อผ้านักโทษออก
ทุกวันตลอดชีวิตของพระองค์ ก็จะได้รับประทานอาหารกับกษัตริย์แห่งบาบิโลน

ส่วนค่าใช้จ่ายนั้น ก็ได้รับจากกษัตริย์แห่งบาบิโลนตามที่ต้องการประจำวันไม่ขาด

เป็นอย่างนี้จนสิ้นพระชนม์

เยเรมีย์ 52-4

เยเรมีย์ 52:24-30

ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ สั่งจับเสไรอาห์ซึ่งเป็นมหาปุโรหิต
พร้อมกับเศฟันยาห์ ซึ่งเป็นรองปุโรหิต และคนเฝ้าประตูอีก 3 คน

ลึกเข้าไปในเมืองยังจับผู้บัญชาการกองทัพ และที่ปรึกษาพระราชา 7 คน
จับอาลักษณ์ของผู้บัญชาการกองทัพซึ่งมีหน้าที่เกณฑ์ราษฎร กับประชาชนอีก 60 คน

ที่เนบูซาระดานจับกุมพวกเขาไปก้เพื่อส่งให้กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ตำบลริบลาห์
เมื่อคนเหล่านี้เข้าเฝ้า…

พระองค์ก็ประหารเขาหมดที่นั่น….

 

นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อยูดาห์ถูกกวาดเป็นเชลย

จำนวนประชากรที่ถูกกวาดไปในรัชสมัยเนบูคัดเนสซาร์โดย เนบูซาระดานคือ
ในปีที่ 7   เป็นชาวยิว                          3023  คน
ในปีที่ 18  เป็นชาวเมืองเยรูซาเล็ม      832  คน
ปีที่ 23 ก็ยังจับยิวไปอีก                       745  คน

รวมเป็น                                            4600  คน

เยเรมีย์ 52-3 เอาอะไรไปบ้าง?

เยเรมีย์ 52:17-23

สิ่งที่เนบูซาระดานนำไปยังบาบิโลน….

สิ่งต่าง ๆ ในพระวิหารคือ เสาทองสัมฤทธิ์  แท่น อ่างสาคร ไม่ได้ขนไปแบบนั้น แต่ถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แล้วค่อยขนไป
ส่วน หม้อ พลั่ว กรรไกรตัดใส้ตะเกียง อ่าง ชามเครื่องหอม ภาชนะทองสัมฤทธิ์ที่ใช้พิธี  ก็เอาไปเป็นชิ้น ๆ
รวมทั้ง ชามอ่างเล็ก กระถางไฟ อ่าง  หม้อ  เชิงตะเกียง ชามเครื่องหอม และขันเครื่องดื่มบูชา

อะไรที่เป็นทองก็เอาไปเป็นทอง  อะไรที่เป็นเงินก็รวมกันเอาไปเป็นเงิน
utensils

 

สิ่งที่ไม่อาจชั่งได้เพราะมันใหญ่โต  มากเหลือเกินคือ เสาใหญ่สองต้น อ่างสาครหนึ่งใบ
วัวทองสัมฤทธิ์ 12 ตัวใต้อ่างนั้น  กับเชิงฐานต่าง ๆ
สิ่งเหล่านี้ เป็นการสร้างสมัยราชาซาโลมอน

Column_Proportions
เสาสูงต้นละ 8 เมตร  รอบวง 5.3 เมตร หนา 75 มิลลิเมตร แต่กลวง
บนเสาจะมีบัวคว่ำทองสัมฤทธิ์  บัวนั้นสูง 2.2 เมตร มีลาย มีลูกทับทิม เสาสองต้นเหมือนกัน
โดยข้าง ๆ มีลูกทับทิม 96 ลูก และบนลาย มีลูกทับทิม 100 ลูก

 

เยเรมีย์ 52-2 เผาพระวิหาร!

เยเรมีย์ 52:12-16

เดือนที่ 5 วันที่ 10 ซึ่งเป็นปีที่ 19  แห่งการครองราชย์ของเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน
ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ คือ เนบูซาระดาน ผู้รับใช้ของเนบูคัดเนสซาร์ ได้เข้าไปในนครเยรูซาเล็ม
templemai

สิ่งที่เขาทำก็คือ เผาพระวิหารของพระเจ้า  ราชวัง และบ้านเรือนในนครนั้น
บ้านทุกหลังถูกเผาไม่เหลือ
แล้วกองทัพเคลเดียที่อยู่กับผู้บัญชาการนั้น ก็ได้พังกำแพงนครเยรูซาเล็ม
เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ก็ได้กวาดเหล่าคนยากจนมาก
พร้อมกับคนที่เคยถูกทิ้งเอาไว้ รวมทั้งคนที่เคยหลบหนีไปเข้าข้างกษัตริย์แห่งบาบิโลน
พร้อมกับช่างฝีมือ  ทั้งหมดนี้ เขาเอาไปเป็นเชลย

แต่เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ได้ทิ้งคนที่ยากจนที่สุด

เอาไว้เป็นคนทำสวนองุ่น และทำไร่ ทำนา

เยเรมีย์ 52-1 ย้อนเรื่องนครเยรูซาเล็มแตก

เยเรมีย์ 52:1-11

ราชาเศเดคียาห์ทรงอายุ 21 พรรษาตอนที่ทรงครองราชย์
และทรงครองราชสมบัติได้ 11 ปีในนครเยรูซาเล็ม
พระมารดาคือ ฮามุทาล ลูกสาวของเยเรมีย์แห่งลิบนาห์
พระราชาทรงทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามอย่างที่ราชาเยโฮยาคิมได้ทรงทำ
จึงถึงจุดที่พระเจ้าทรงพิโรธจนกระทั่งทรงเขวี้ยงพระราชาทั้งสองออกจากสายพระเนตรของพระองค์

ราชาเศเดคียาห์ได้กบฎต่อกษัตริย์แห่งบาบิโลน
ในปีที่ 9 ของการครองราชสมบัติ ในเดือนที่ 10  วันที่ 10
เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้มาพร้อมกับกองทัพ
โจมตีนครเยรูซาเล็ม ได้ล้อมเมืองไว้ และสร้างป้อมล้อมรอบเมือง
ดังนั้น เมืองจึงถูกล้อมจนถึงปีที่ 11 ของรัชสมัยเศเดคียาห์

ในวันที่ 9 ของเดือนที่ 4   เมืองขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ไม่มีอาหารให้ประชาชนเลย
นครจึงแตก ส่วนทหารก็หนีออกจากเมืองตอนกลางคืน
ทางประตูระหว่างกำแพงทั้งสอง ตรงที่เป็นสวนของพระราชา
ขณะที่ชาวเคลเดียล้อมเมืองอยู่
พวกเขาหนีไปทางอาราบาห์
แต่กองทัพเคลเดียได้ติดตามพระราชาไป

blindzede

และทันพระราชา ณ ที่ราบเมืองเยรีโค กองทัพของพระราชากระเจิดกระเจิงไปหมด
เมื่อพวกเขาจับพระราชาเป็นเชลย ก็นำมาเฝ้ากษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ริบลาห์ ในแผ่นดินฮามัท
พระองค์จึงพิพากษาโทษของพระราชา
กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ประหารบรรดาโอรสของเศเดคียาห์ต่อหน้าต่อตา
และยังประหารเหล่าข้าราชการที่ริบลาห์ด้วย
จากนั้นก็ควักลูกตาของเศเดคียาห์   ล่ามด้วยตรวน นำไปยังบาบิโลน
จับขังคุกจนกระทั่งสิ้นพระชนม์

เยเรมีย์ 51-10 ที่สุดปลาย

เยเรมีย์ 51:59-64

คำที่ท่านเยเรมีย์ผู้กล่าวคำ  ได้บัญชาเสไรอาห์ ลูกชายเนริยาห์ ลูกชายมาอาเสอาห์

เมื่อท่านไปยัังบาบิโลนพร้อมกับราชาเศดาคิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ ในปีที่สี่ของการครองราชสมบัติ

เสไรอาห์ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการที่พัก

เยเรมีย์ได้เขียนเรื่องหายนะต่าง ๆ ที่จะมาถึงบาบิโลน
ทุกคำที่เขียนนั้นเกี่ยวข้องกับบาบิโลน

และเยเรมีย์กล่าวแก่เสไรยาห์ว่า
“เมื่อท่านมายังบาบิโลน  ขอให้ท่านอ่านคำเหล่านี้ และกล่าวว่า
‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้กล่าวถึงสถานที่นี้ว่า พระองค์จะทรงตัดมันออกไป
เพื่อว่าจะไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์
และมันจะกลายเป็นที่ร้างตลอดไป’

บาบิโลนกับแม่น้ำยูเฟรตีส
บาบิโลนกับแม่น้ำยูเฟรตีส

เมื่อท่านอ่านหนังสือนี้เสร็จแล้ว ก็ให้มัดหนังสือนี้กับหิน
แล้วโยนลงไปในแม่น้ำยูเฟรติส และกล่าวด้วยว่า

‘บาบิโลนจะจมลงอย่างนี้  จะไม่ลอยขึ้นอีกเลย
เหตุเพราะหายนะที่เรานำมาเหนือบาบิโลน
และพวกเขาจะเหน็ดเหนื่อย หมดแรง”

คำของท่านเยเรมีย์ มีเท่านี้

 

 

เยเรมีย์ 51-9 เพื่อความสูญเปล่า!

เยเรมีย์ 51:52-58

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

ดูเถิด วันหนึ่งจะมาถึง

เมื่อเราจะลงโทษเทวรูปต่าง ๆ ของบาบิโลน

เหล่าคนที่บาดเจ็บจะร้องครวญครางทั่วแผ่นดิน

แม้บาบิโลนจะไปสูงถึงฟ้าสวรรค์   แม้จะเสริมให้ป้อมสูงนั้นยิ่งแข็งแกร่ง

แต่ผู้ทำลายจากเราก็จะมาต่อสู้กับบาบิโลน   องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เสียงหนึ่ง!  เสียงร้องจากบาบิโลน!

เสียงดังกึกก้องของความหายนะดังมาจากแผ่นดินเคลเดีย!

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้บาบิโลนกลายเป็นที่ร้าง

ทรงระงับเสียงอันทรงพลังของบาบิโลน

คลื่นของบาบิโลนนั้นส่งเสียงคะนองดั่งก้อนน้ำใหญ่

เสียงนั้นก็ดังขึ้น ดังขึ้น!

เพราะผู้ทำลายมาถึงบาบิโลนแล้ว  มาเหนือบาบิโลน

นักรบก็ถูกจับไป  คันธนูก็หักเป็นท่อน ๆ

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งการตอบแทน

พระองค์จะตอบสนองคืนให้แน่

“เราจะทำให้เหล่าข้าราชการ และนักปราชญ์เมามาย
ผู้ปกครอง ผู้บังคับบัญชา และนักรบ  พวกเขาจะหลับไปตลอด และไม่ตื่นเลย”

องค์กษัตริย์ ผู้ทรงพระนามว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งจอมทัพ ทรงประกาศ

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจึงตรัสว่า

ภาพถ่ายโดยคุณ Russ Matthews จาก frickr ภายใต้ creative commons
ภาพถ่ายโดยคุณ Russ Matthews จาก frickr ภายใต้
creative commons

“กำแพงกว้างของบาบิโลนจะถูกทำให้ราบติดดิน

ประตูสูงก็จะถูกเผาด้วยไฟ
เหล่าประชาชนทำงานหนักมาเพื่อสูญเปล่า

ทั้งชาติได้เหน็ดเหนื่อยเพียงเพื่อเจอกับไฟ”

 

 

เยเรมีย์ 51-8 ผู้ทำลายจากทางเหนือ

เยเรมีย์ 51:47-51
ดังนั้น ดูเถิด วันนั้นจะมาถึง เป็นที่เราจะลงโทษเหล่ารูปปั้นทั้งหลายของบาบิโลน
ทั้งแผ่นดินจะต้องอับอาย และคนที่ถูกสังหารก็จะล้มลงกลางแผ่นดิน
แล้วทั้งสวรรค์และโลก รวมไปถึงสรรพสิ่งที่อยู่ในนั้น
จะร้องเพลงยินดีเหนือบาบิโลน
เพราะผู้ทำลายจากทางเหนือได้เดินทางมาสู้บาบิโลน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

บาบิโลนจะล้มลงเพราะคนอิสราเอลที่ถูกสังหาร
เหมือนกับที่บาบิโลนได้ทำให้คนอื่นต้องล้มตาย
“เจ้าทั้งหลายที่ได้หนีจากดาบมาได้
จงไปซะ อย่ายืนนิ่งกับที่!
จงระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าจากแดนไกล
และระลึกถึงเยรูซาเล็ม
‘เราถูกทำให้อาย เพราะเราได้ยินเสียงติเตียน
ความอัปยศอดสูปกคลุมใบหน้าของเรา
เพราะคนต่างชาติได้เข้ามา
ในสถานที่บริสุทธิ์แห่งพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า’

เยเรมีย์ 51-7 กำแพงที่พังลงมา

เยเรมีย์ 51:41-46

ดูการที่บาบิโลนถูกยึดไปซิ  สิ่งที่โลกสรรเสริญถูกยึดไปแล้ว
บาบิโลนได้กลายเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย

ทะเลได้ท่วมเข้ามาในบาบิโลน เต็มด้วยคลื่นอันบ้าคลั่ง
เมืองทั้งหลายของบาบิโลนได้กลายเป็นความน่าหวาดกลัว
เป็นดินแดนแห่งความแห้งแล้งและทะเลทราย

เป็นผืนดินที่ไม่มีคนอยู่  ไม่มีคนผ่านไปมา
และเราจะลงโทษเทพเบลแห่งบาบิโลน
เอาสิ่งที่เขากลืนไปนั้นออกมาจากปากของเขา

ประชาชาติทั้งหลายจะไม่เคียงบ่าเคียงไหล่เขาอีกต่อไป
กำแพงของบาบิโลนโค่นลงมาแล้ว
“จงออกไปจากท่ามกลางบาบิโลน  คนของเรา!
ให้ทุกคนเอาชีวิตให้รอดจากพระพิโรธใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
อย่าให้ใจของเจ้าหวั่นไหว ไม่ต้องกลัวเพราะข่าวทั้งหลายในแผ่นดิน
เมื่อรายงานเข้ามาในหนึ่งปี และรายงานของปีต่อไป
ความโหดร้ายอยู่ในแผ่นดินและผู้ปกครองก็ต่างสู้กัน

เยเรมีย์ 51-6 เมาจนตาย

เยเรมีย์ 51:6-40

ให้ชาวเมืองศิโยนกล่าวว่า

“เนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน ได้เขมือบข้า
พระองค์ได้บีบข้าจนแตก… ทำให้ข้ากลายเป็นภาชนะที่ว่างเปล่า
พระองค์ได้กลืนข้าเข้าไปเหมือนกับสัตว์ร้าย และได้กลืนกินของอร่อยของข้าจนเต็มอิ่ม
จากนั้นก็เทข้าออกไป
ขอให้ความโหดร้ายที่พระองค์ทำแก่ข้า และญาติของข้าจงตกอยู่เหนือบาบิโลน”

ให้เยรูซาเล็มกล่าวว่า
“ขอให้เลือดของข้าที่ไหลออกมาตกอยู่กับผู้อาศัยในแผ่นดินเคลเดีย”

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เราจะแก้คดีของเจ้า และแก้แค้นแทนเจ้า
เราจะทำให้ทะเลของเขาแห้งผาก และทำให้น้ำพุแห้งเหือดไป

และบาบิโลนจะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
เป็นที่อยู่ของหมาป่า  เป็นความหวาดผวาและเสียงเยาะหยัน  ไม่มีคนอาศัยอยู่

photo 2

“พวกเขาจะคำรามด้วยกันเหมือนสิงโต  จะขู่ร้องเหมือนกับลูกสิงห์
ขณะที่พวกเขากำลังร้อน.. เราจะเตรียมงานเลี้ยงไว้ให้
จะทำให้พวกเขาเมามาย  จะมีความสุขสนุกสนาน จากนั้น ก็หลับ เป็นการหลับตลอดไป
ไม่มีการตื่นขึ้นมาอีก”   องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“เราจะนำเข้าลงมาเหมือนกับลูกแกะที่กำลังจะถูกฆ่า
ใช่… เหมือนแกะผู้และแพะผู้

เยเรมีย์ 51-5 ศัตรูจากที่ไกล

เยเรมีย์ 51:27-33

จงตั้งธงไว้บนแผ่นดินโลก
เป่าแตรท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย
เตรียมประชาชาติทั้งหลายสำหรับสงครามต่อสู้กับเขา
เรียกพวกเขามาต่อต้านอาณาจักรนี้ ทั้งอารารัต มินนี และอัชเคนัส
จงตั้งแม่ทัพไว้เพื่อต่อสู้กับเขา  นำมาขึ้นมาเหมือนกับฝูงตั๊กแตนที่ละลานตา
เตรียมประชาชาติทั้งหลายไว้ทำสงครามกับเขา
เตรียมเหล่ากษัตริย์จากมีเดีย พร้อมกับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่
และประชาชาติที่อยู่ใต้การปกครองของเขา
แผ่นดินของสั่นสะเทือนและบิดตัวอย่างร้าวราน
เพราะพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อบาบิโลนนั้นยังมั่นคงอยู่
นั่นคือ จะทำให้บาบิโลนกลายเป็นที่ร้าง ไร้คนอาศัย
นักรบของบาบิโลนก็เลิกต่อสู้ พวกเขาจับเจ่าอยู่ในป้อมเข้มแข็ง
กำลังก็ไม่มีเหลือ  กลายเป็นเหมือนผู้หญิง

banmai
ที่อาศัยของพวกเขาก็กำลังไหม้ไฟ  กลอนประตูก็หักเสียแล้ว
มีนักวิ่งคนหนึ่งไปพบนักวิ่งอีกคน
ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งไปพบอีกคน เพื่อทูลกษัตริย์บาบิโลนว่า
เมืองของพระองค์นั้นถูกศัตรูยึดไปเสียทุกด้าน
ท่าข้ามก็ถูกยึด  เครื่องป้องกันก็ถูกเผา
บรรดาทหารต่างตกใจกลัว
เพราะว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
ลูกสาวของบาบิโลนเป็นเหมือนลานนวดข้าวเวลาที่ถูกย่ำ
แต่อีกประเดี๋ยว จะถึงเวลาเก็บเกี่ยว!

เยเรมีย์ 51-4 จุดจบของค้อน

เยเรมีย์ 51:20-26

“เจ้าเป็นค้อนและเป็นอาวุธสงครามของเรา
เราได้ทุบประชาชาติให้แตกด้วยตัวเจ้า
เราได้ทำลายอาณาจักรทั้งหลายด้วยตัวเจ้า

kon

เราใช้เจ้าทุบทั้งม้าและพลม้า
เราใช้เจ้าทุบรถม้าศึก และพลขับ
เราใช้เจ้าทำให้ชายและหญิงแตกสลาย
เราใช้่เจ้าทำลายทั้งคนแก่และเยาวชน
เราใช้เจ้าทำลายทั้งชายหนุ่มและหญิงสาว
เราใช้เจ้าทำลายทั้งคนเลี้ยงแกะและฝูงสัตว์ของเขา
เราใช้เจ้าทำลายทั้งชาวนาและเพื่อน ๆ ของเขา
เราใช้เจ้าทำให้ผู้ปกครองและผู้บังคับบัญชาทั้งหลายแตกเป็นเสี่ยง ๆ

เราคืนสนองบาบิโลน และคนที่อาศัยในแผ่นดินเคลเดียต่อหน้าต่อตา้เจ้า
เนื่องจากความชั่วที่เจ้าได้ทำต่อศิโยน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

ดูเถิด  เราต่อสู้กับเจ้า โอ ภูเขาที่ทำลาย
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ภูเขานั้นทำลายทั้งโลก
เราจะยื่นมือของเราออกต่อสู้เจ้า และกลิ้งเจ้าลงมาจากหน้าผา
และทำให้เจ้ากลายเป็นภูเขาไหม้

เขาจะไม่เอาหินจากเจ้าไปทำศิลามุมเอก
ไม่เอาไปทำรากฐานตึก
เจ้าจะกลายเป็นของทิ้งเปล่า ๆ ตลอดไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
 

 

เยเรมีย์ 51-3 พระเจ้าเที่ยงแท้กับเทวรูป

 

เยเรมีย์ 51:14-19

โอ เจ้าคนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ  ร่ำรวยทรัพย์สมบัติ
จุดจบของเจ้ามาถึงแล้ว  สายแห่งชีวิตถูกตัดออกไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพได้สาบานด้วยพระองค์เอง
แน่นอน เราจะเติมเจ้าให้เต็มด้วยคนมากมายเหมือนตั๊กแตน
พวกเขาจะส่งเสียงตะโกนมีชัยเหนือเจ้า

พระองค์นั่นแหละคือผู้ทรงสร้างโลกด้วยฤทธานุภาพของพระองค์
พระองค์ทรงสถาปนาแผ่นดินโลกด้วยพระปัญญา
และทรงขึงฟ้าออกด้วยความเข้าใจ
เมื่อพระองค์เปล่าสุรเสียงออกมา ก็มีเสียงครั่นครืนของน้ำในท้องฟ้า
และพระองค์ทรงทำให้เกิดหมอกลอยขึ้นมาจากที่สุดปลายแผ่นดิน

ภาพ creative commons จาก http://farm4.static.flickr.com/
ภาพ creative commons จาก http://farm4.static.flickr.com/

ถ่ายโดยMatthieu Luna

พระองค์ทรงให้เกิดฟ้าแลบเพื่อฝน
และทรงนำลมให้พัดมาจากคลังเก็บของพระองค์
มนุษย์ทุกคนโง่เขลา ไม่มีความรู้

ช่างทองทุกคนก็จะต้องอับอายเพราะรูปเคารพของพวกเขา
เพราะรูปเหล่านั้นเป็นของปลอม  ไม่มีลมหายใจในรูปนั้น
ไม่มีคุณค่าเลย เป็นผลงานแห่งความลุ่มหลง
เมื่อถึงเวลาถูกลงโทษ มันก็จะพินาศไป

ไม่เหมือนพระองค์ผู้ทรงเป็นส่วนของยาโคบ
เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งขึ้นมา
และอิสราเอลเป็นเผ่าแห่งมรดกของพระองค์
พระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

เยเรมีย์ 51-2 แม้เคยเป็นถ้วยทอง

เยเรมีย์ 51:7-13

บาบิโลนเคยเป็นถ้วยทองคำในพระหัตถ์ของพระเจ้า ทำให้โลกทั้งโลกเมาไป
ประชาชาติต่าง ๆ ก็ดื่มเหล้าองุ่นของมัน ดังนั้น พวกเขาจึงกลายเป็นบ้าไป
แล้วทันใด บาบิโลนก็ล้มลง และแตกสลาย
จงคร่ำครวญให้บาบิโลน  เอายามาทาให้หายปวด เผื่อว่าจะรักษาให้หายได้
เราอยากรักษาบาบิโลนให้หายดี แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น
จงละทิ้งพวกเขาไปเสีย ให้เราต่างกลับไปยังบ้านเมืองของตนเองเถอะ
เพราะว่าการพิพากษาพวกเขานั้นไปถึงสวรรค์
และถูกยกขึ้นไปถึงฟ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงนำความยุติธรรมมาให้เรา
ดังนั้นจงประกาศราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราในศิโยน

“จงลับลูกธนูให้คม !  จงหยิบโล่ขึ้นมา!

             

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเราจิตใจของกษัตริย์แห่งมีเดีย
เพราะพระองค์ทรงประสงค์จะทำลายบาบิโลน
นั่นเป็นการแก้แค้นของพระองค์   แก้แค้นเพื่อพระวิหารของพระองค์

จงปักธงขึ้นประชิดกำแพงบาบิโลน   จงทำให้คนเฝ้ายามเข้มแข็ง
จงตั้งคนยามขึ้น และเตรียมกองกำลังสำหรับบุก
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางแผนงานและทรงกระทำให้สำเร็จ
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบาบิโลนตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้

เยเรมีย์ 51-1 หายนะอย่างสิ้นเชิง

เยเรมีย์ 51:1-6

 

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“ดูเถิด เราจะเร้าจิตใจของคนที่ทำลายเข้ามาต่อสู้บาบิโลน
เข้ามาต่อสู้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในเลบคาไม    

เราจะส่งผู้ฝัดร่อนไปยังบาบิโลน  และเขาจะฝัดร่อนตามที่ถูกส่งมา
จะทำให้แผ่นดินว่างเปล่า เมื่อเข้ามาต่อสู้จากทุกทิศทุกทาง ในวันแห่งความลำบาก
อย่าให้นักแม่นธนูโก่งคันธนูของเขา อย่าให้เขาลุกขึ้นพร้อมกับเสื้อเกราะ
อย่าไว้ชีวิตคนหนุ่ม และจงมุ่งมั่นที่จะทำลายกองทัพของเขาให้หมด
เขาทั้งหลายจะล้มลง ถูกสังหารในแผ่นดินเคลเดีย และบาดเจ็บกลางถนน
เพราะอิสราเอลและยูดาห์ไม่ได้ถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าของพวกเขาทอดทิ้งไป

แต่ดินแดนของเคลเดียเต็มด้วยความผิดบาปต่อองค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
จงหนีออกจากบาบิโลน ให้ทุกคนพยายามเอาชีวิตให้รอด
อย่ายอมให้ตัวเองถูกตัดออกไปเพราะบาบิโลนถูกลงโทษ
เพราะนี่เป็นเวลาที่พระเจ้าทรงแก้แค้น
พระองค์ตอบแทนเขาอย่างนี้

เยเรมีย์ 50-7 หนีเร็ว!

เยเรมีย์ 50:41-46

“ดูเถิด มีคนมาจากทางเหนือ เป็นประเทศที่ทรงพลัง
มีกษัตริย์หลายองค์กำลังมาจากที่ไกลสุดของแผ่นดินโลก
พวกเขาใช้ทั้งธนูและหอก พวกเขาโหดร้าย ไม่มีความเมตตา
เสียงของพวกเขาเป็นเหมือนทะเลคำราม
พวกเขาควบม้ามา เรียงหน้าอย่างนักรบที่ทำสงครามเพื่อต่อสู้เจ้า
โอ้ ลูกสาวแห่งบาบิโลน
“กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ยินเสียงรายงานเรื่องนี้ แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้
พระทัยเต็มด้วยความทุกข์สุดระทม เจ็บปวดเหมือนหญิงกำลังคลอดบุตร”
“ดูเถิด  เราจะให้พวกเขาหนีไปอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับตอนที่สิงโตโจนขึ้นมาโจมตีคอกแกะจากลุ่มน้ำจอร์แดน

lion2
เราจะแต่งตั้งคนที่ครอบครองมันตามที่เราต้องการ
เพราะใครเป็นเหมือนเรา?
ผู้เลี้ยงคนใดยืนอยู่ต่อหน้าเราได้?
ดังนั้น ขอให้ฟังแผนการที่พระเจ้าทรงวางไว้ต่อสู้บาบิโลน
รวมทั้งเป้าหมายของพระองค์ต่อต้านแผ่นดินเคลเดีย
แน่นอนที่ลูกแกะตัวเล็ก ๆ จะถูกลากไป
แน่นอนที่ทั้งคอกจะตกใจในเคราะห์ของตน
ทั้งโลกจะสั่นสะท้านเนื่องด้วยเสียงที่บาบิโลนถูกจับไปเป็นเชลย
เสียงร้องโหยหวนของบาบิโลนจะดังไปทั่วแผ่นดินโลก

เยเรมีย์ 50-6 สภาพของบาบิโลน

เยเรมีย์ 50:33-40

ดังนั้น .. องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ ตรัสว่า
ประชากรอิสราเอลถูกกดขี่ข่มเหง รวมทั้งประชากรยูดาห์ด้วย
ทุกคนที่นำพวกเขาไปเป็นเชลย ยึดไว้ไม่ปล่อย
ไม่ยอมให้พวกเขาได้รับอิสรภาพ
องค์พระผู้ไถ่ของเขานั้น ทรงพลังยิ่งนัก พระนามว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
แน่นอน…พระองค์จะทรงแก้คดีของเขา
เพื่อว่าพระองค์จะประทานการพักสงบให้กับโลกนี้
แต่ชาวเมืองบาบิโลนจะไม่มีการได้พักเลย
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศว่า
ให้มีดาบมาต่อสู้ชาวเคลเดีย และผู้อาศัยในบาบิโลน
ต่อสู้ข้าราชการและนักปราชญ์
ให้มีดาบต่อสู้เหล่าผู้ทำนาย เพื่อพวกเขาจะได้กลายเป็นคนโง่เง่า!
ดาบต่อสู้นักรบ เพื่อพวกเขาจะได้ถูกทำลาย
ดาบต่อสู้เหล่าม้าศึกและรถรบ
ต่อสู้นักรบต่างชาติท่ามกลางพวกเขา
พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนผู้หญิงไป
ต่อสู้ทรัพย์สมบัติทั้งสิ้นที่พวกเขามี
เพื่อว่าพวกเขาจะได้ถูกปล้น

ให้มีความแห้งแล้งสู้กับแหล่งน้ำทั้งหลาย
เพื่อว่ามันจะได้แห้งเหือด

เพราะมันเป็นดินแดนแห่งเทวรูป
และพวกเขาก็คลั่งไคล้รูปเหล่านั้น

mapahayena

“ดังนั้น เหล่าสัตว์ป่าจะอาศัยอยู่กับหมาป่าฮายินาในบาบิโลน
นกกระจอกเทศจะอาศัยอยู่ด้วยกัน

ต่อไปบาบิโลนจะไม่มีคนอยู่
ไม่มีใครเข้ามาพักอาศัยอยู่ตลอดชั่วชาติพันธุ์
เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงทำลาย

เมืองโสโดมและโกโมราห์ และเมืองรอบ ๆ

 

 

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ดังนั้นจะไม่มีใครอาศัยอยู่ในนั้น  ไม่มีคนแม้เข้ามาพักแรม….