เพลงคร่ำครวญ 2-2 ทรงทิ้งเราไป

เพลงคร่ำครวญ 2:6-10

วาว  พยัญชนะตัวที่ 6

พระองค์ทรงทิ้งให้เพิงของพระองค์ร้างเปล่าเหมือนอย่างสวนร้าง
ทรงทำลายสถานนัดพบของพระองค์
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ศิโยนลืมเทศกาลและวันสะบาโต
ทรงปัดทั้งกษัตริย์และปุโรหิตทิ้งไปด้วยพระพิโรธ

ซายิน พยัญชนะตัวที่ 7

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิเสธแท่นบูชาของพระองค์
ทรงทิ้งสถานนมัสการของพระองค์ไป
พระองค์ทรงยื่นกำแพงราชวังให้กับศัตรู
แล้วเหล่าศัตรูก็โห่ร้องในพระวิหารของพระเจ้าราวกับเป็นวันเทศกาล

jerusalem_falls

เฆท พยัญชนะตัวที่ 8

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตั้งพระทัยแน่วแน่
ที่จะทำลายกำแพงล้อมเมืองลูกสาวศิโยน
พระองค์ทรงวัดด้วยสายวัด
และพระองค์ไม่ได้ละเว้นการทำลาย
ทรงทำให้เนินดินและกำแพงต้องคร่ำครวญ ให้มันร่วงโรยแห้งไปด้วยกัน

เทท พยัญชนะตัวที่ 9

ประตูของศิโยนทรุดลงไปในดิน
พระองค์ได้ทรงทำลายและหักประตูเสีย
เหล่ากษัตริย์และเจ้านายทั้งหลายก็ไปอยู่ท่ามกลางประชาชาติ
ไม่มีแล้ว ไม่มีธรรมบัญญัติ
และผู้กล่าวคำทั้งหลายก็ไม่ได้รับนิมิตภาพจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

โยด พยัญชนะตัวที่ 10
เหล่าผู้ใหญ่ของลูกสาวแห่งศิโยนก็นั่งเงียบ ๆ บนพื้นดิน
พวกเขาโยนฝุ่นลงบนศีรษะ และสวมเสื้อกระสอบ
หญิงสาวแห่งเยรูซาเล็มก็ก้มศีรษะติดดิน

เพลงคร่ำครวญ 2-1 หายนะของลูกสาวศิโยน

(ลูกสาวแห่งศิโยนหมายถึงนครเยรูซาเล็ม)

อาเลฟ พยัญชนะตัวที่ 1

ดูซิ ด้วยพระพิโรธ    องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ลูกสาวแห่งศิโยนต้องอับอาย
พระองค์ทรงให้ความตระการของอิสราเอลนั้น
หล่นลงจากฟ้าถึงดิน
ในวันแห่งพระพิโรธ
พระองค์ไม่ทรงระลึกถึงแท่นรองพระบาทของพระองค์

เบธ พยัญชนะตัวที่ 2

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดการกับเหล่าผู้อาศัยของยาโคบ
โดยไร้พระกรุณา
ในพระพิโรธ พระองค์ทรงทำลายป้อมเข้มแข็งของลูกสาวแห่งศิโยน
พระองค์ทรงนำให้พวกเขาลงถึงดิน ทำให้ทั้งอาณาจักรและผู้ปกครองไร้เกียรติไป

To match feature PALESTINIANS-ISRAEL/JERUSALEM-DIGS

กิเมล พยัญชนะตัวที่ 3

พระองค์ทรงตัดความมั่นคงของอิสราเอลด้วยพระพิโรธจัด
พระองค์ทรงเอาพระหัตถ์ขวาของพระองค์ออกจากพวกเขา
ต่อหน้าต่อตาศัตรู
พระองค์ทรงเผายาโคบดั่งเปลวเพลิงรอบด้าน

ดาเลท พยัญชนะตัวที่ 4

พระองค์ทรงโก่งคันธนูราวกับว่าพระองค์ทรงเป็นศัตรู
ทรงยกพระหัตถ์ขวาอย่างเป็นคู่ต่อสู้

พระองค์ทรงสังหารทุกคนที่พวกเขาชอบมอง
ในกระโจมของลูกสาวศิโยน พระองค์ทรงเทความกริ้วลงมาดั่งไฟ

เฮ พยัญชนะตัวที่ 5

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกลายเป็นเหมือนศัตรู  พระองค์ทรงทำลายอิสราเอลเสีย

พระองค์ทรงทำลายราชวัง และทำให้ป้อมปราการกลายเป็นซากปรักหักพัง
ทรงทวีความเศร้าโศกและการคร่ำครวญของลูกสาวแห่งยูดาห์

เพลงคร่ำครวญ 1-4

เพลงคร่ำครวญ 1:17-22

เพ  พยัญชนะตัวที่ 17

ศิโยนได้อ้าแขนออก แต่ก็ไม่มีใครมาปลอบโยนเธอ
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาให้มีเพื่อนบ้านของยาโคบ
กลายเป็นศัตรูของเธอ
เยรูซาเล็มกลายเป็นสิ่งสกปรกท่ามกลางเขาทั้งหลาย

ซาเด พยัญชนะตัวที่ 18
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำถูกต้องแล้ว
เพราะข้าได้ดื้อต่อพระคำของพระองค์
แต่ประชาชนทั้งหลายเอ๋ย จงฟัง และดูความทุกข์ยากของข้า
ทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มต้องตกเป็นเชลย

โคฟ พยัญชนะตัวที่ 19

ข้าร้องหาคนรักทั้งหลาย  แต่พวกเขาก็แค่หลอกลวง
ปุโรหิตและผู้ใหญ่ของข้าพเจ้าต่างพินาศในเมือง
ขณะที่พวกเขาออกหาอาหารเพื่อจะได้ยังพอมีแรงบ้าง

food_search

เรช พยัญชนะตัวที่ 20
โปรดทอดพระเนตรเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะข้าพระองค์กำลังเดือดร้อน
ท้องก็ปั่นป่วน ใจก็ปวดร้าวข้างใน
เพราะว่าข้าได้ดื้อดึงมาก
บนถนนคนล้มตายเพราะดาบ
ในบ้านก็เหมือนแดนคนตาย

ซิน พยัญชนะตัวที่ 21

เขาทั้งหลายได้คำครวญครางของข้า
แต่ก็ไม่มีใครปลอบโยนใจ
ศัตรูทั้งหลายได้ยินเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับข้า
พวกเขาดีใจที่พระองค์ทรงทำกับข้าเช่นนี้
พระองค์ทรงนำวันที่พระองค์บอกล่วงหน้ามาถึง
และเขาก็เห็นข้าเป็นอย่างนี้

ทาว พยัญชนะตัวที่ 22
ขอให้การชั่วร้ายของพวกเขามาอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
ขอทรงจัดการเขาเหล่านั้นอย่างที่พระองค์ทรงจัดการข้า

เนื่องจากความผิดบาปของข้า
เพราะข้าครวญครางมากนัก และข้าก็หมดแรงใจ

เพลงคร่ำครวญ 1-3

คาฟ พยัญชนะตัวที่ 11

คนของเยรูซาเล็มทั้งหมดคร่ำครวญขณะที่เที่ยวหาอาหาร
พวกเขาเอาทรัพย์ไปแลกอาหารเพื่อให้เรี่ยวแรงคืนมา
“โปรดทอดพระเนตรดูเถิด องคืพระผู้เป็นเจ้า
ข้าพระองค์ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม”

ลาเมด พยัญชนะตัวที่ 12 

”ท่านที่เดินผ่านไป ท่านไม่เห็นอะไรเลยหรือ
มองดูซิ
มีความทุกข์ใจอันใดที่เหมือนความทุกข์ของข้าบ้าง
เป็นความทุกข์ที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
ในวันที่พระองค์ทรงพิโรธอย่างยิ่ง

เมม พยัญชนะตัวที่ 13
พระองค์ทรงส่งไฟผลาญมาจากเบื้องบน
ตรงเข้าไปยังกระดูกของข้าkradookmai

พระองค์ทรงกางตาข่ายไว้สำหรับเท้าของข้า
ทรงทำให้ข้าหันกลับ
ทรงทำให้ข้าตะลึงลาน ใจของข้าหมดเรี่ยวแรงทั้งวัน

นูน พยัญชนะตัวที่ 14
การกระทำผิดของข้านั้น ถูกมัดเข้าไปเป็นแอก
พระองค์ทรงมัดมันเข้าด้วยกันโดยพระหัตถ์ของพระองค์
จากนั้นมันถูกวางลงบนคอของข้า
พระองค์ทรงทำให้ข้าหมดเรี่ยวหมดแรง
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบข้าไว้ให้กับคนที่ข้าสู้ไม่ได้
สาเมค พยัญชนะตัวที่ 15

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิเสธนักรบทุกคนท่ามกลางข้า
พระองค์ทรงเรียกชุมชนเข้ามาสู้ และบดขยี้คนหนุ่มของข้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงย่ำลูกสาวแห่งยูดาห์ ดั่งย่ำองุ่นในบ่อ

 

อายิน  พยัญชนะตัวที่ 16

เพราะเหตุนี้ ข้าจึงร่ำไห้ ตาของข้าเต็มด้วยน้ำตา
เพราะผู้ปลอบโยนอยู่ไกลจากข้า
คนที่จะรื้อฟื้นวิญญาณของข้า
ลูกของข้านั้นสิ้นหวัง เพราะศัตรูมีชัยชนะ

เพลงคร่ำครวญ 1-2

วาว พยัญชนะตัวที่ 6

จากลูกสาวของศิโยน (เยรูซาเล็ม) ความตระการสง่าของเธอนั้นจากไปแล้ว

เหล่าเจ้าชายกลายเป็นเหมือนฝูงกวางที่หาทุ่งหญ้าไม่พบ

พวกเขาหนีผู้ตามล่าอย่างไร้เรี่ยวแรง

ภาพจาก en.wikipedia.org
ภาพจาก en.wikipedia.org

ซายิน พยัญชนะตัวที่ 7

เยรูซาเล็มจดจำวันที่เธอทุกข์ยาก และวันที่ต้องระหกระเหิน

สิ่งที่มีค่าทั้งหลายซึ่งเป็นของเธอในอดีตนั้น

เมื่อคนของเธอตกอยู่ในมือของคู่อริ

ไม่มีใครมาช่วยเธอ

ศัตรูก็เยาะหยันกับการล้มลงของเธอ

เฆท พยัญชนะตัวที่ 8

เยรูซาเล็มได้ทำบาปใหญ่ยิ่งนัก ทำให้เธอโสโครก

คนที่เคยให้เกียรติเธอก็ดูหมิ่นเธอ เพราะพวกเขาได้เห็นความเปล่าเปลือยของเธอ

ตัวเธอเองก็ได้แต่คร่ำครวญ และหันหน้าไปเสีย

เทท พยัญชนะตัวที่ 9
สิ่งที่เป็นมลทินของเธอก็ติดตามกระโปรง เธอไม่คิดถึงอนาคต

ดังนั้นความพินาศครั้งนี้จึงสยดสยองยิ่งนักไม่มีใครปลอบใจเธอ

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทอดพระเนตรความทุกข์ของข้าพระองค์

ดูซิ  ศัตรูชนะข้าพระองค์!”

โยด พยัญชนะตัวที่ 10

ศัตรูได้ยื่นมือออกมา และได้เอาทรัพย์สินมีค่าไป

เธอได้เห็นประชาชาติทั้งหลาย เข้าไปในสถานนมัสการ

เหล่าผู้ที่ต้องห้ามได้เข้าไปในที่ประชุมของพระองค์

เพลงคร่ำครวญ 1-1

เพลงคร่ำครวญ 1:1-5

(เพื่อน ๆ ครับ  บทเพลงนี้ เยเรมีย์กำลังคิดถึงกรุงเยรูซาเล็ม)

อาเลฟ…. พยัญชนะตัวแรกของฮิบรู

โอ้…นครที่เคยเต็มด้วยผู้คน บัดนี้ร้าง อ้างว้าง…
เธอเคยยิ่งใหญ่  บัดนี้ เธอเหมือนหญิงที่ถูกทิ้งไป…

เธอเคยเป็นเหมือนเจ้าหญิง… บัดนี้กลายเป็นเชลยทาส


เบท.. พยัญชนะตัวที่สอง

ยามค่ำ.. เธอร่ำไห้อย่างขื่นขม  น้ำตาไหลอาบแก้ม

จะหาคนที่มาปลอบใจ  ก็หาไม่พบ

เพื่อน ๆ  ทรยศต่อเธอ ไม่เว้นสักคน พวกเขากลายเป็นศัตรูไปเสียแล้ว


กิเมล…พยัญชนะตัวที่สาม

ยูดาห์กลายไปเป็นเชลยต่างแดน  ทุกข์ยาก  ถูกใช้แรงงานหนักหน่วง

ต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางชาติทั้งหลาย  เธอไม่พบที่พักพิงอันสงบ

ผู้ที่ไล่ล่าก็ตามทัน ยามที่เธอเดือดร้อน
ดาเลท…พยัญชนะตัวที่สี่

ทางไปสู่ศิโยนก็เศร้าโศก  ไม่มีใครมาเทศกาลงานเลี้ยงอีก

ประตูเมืองทุกบานถูกทิ้ง  เหล่าปุโรหิตก็ร้องคราง

ลูกสาวพรหมจารีต้องทนทุกข์     เธอเองต้องขื่นขมอย่างยิ่ง

 

เฮ.. พยัญชนะตัวที่ ห้า

คู่ต่อสู้ของเธอกลายเป็นหัวหน้าไปแล้ว  ศัตรูของเธอก็รุ่งเรืองขึ้น

ที่้เป็นเช่นนี้เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เธอต้องทนทุกข์ เพราะเธอได้ล่วงละเมิดอย่างท่วมท้น

ลูก ๆของเธอก็ออกไป กลายเป็นเชลยต่อหน้าคู่ต่อสู้

 

บทเพลงคร่ำครวญของเยเรมีย์

หนังสือเล่มต่อไปคือ บทเพลงคร่ำครวญของเยเรมีย์……..

เยเรมีย์เสียใจมากกับการที่ยูดาห์ต้องตกไปเป็นเชลยของคนเคลเดีย

เป็นเวลาสี่สิบปี ที่เยเรมีย์คอยเตือนผู้คน ให้กลับใจใหม่ ให้เลิกทำบาป (ประมาณปี 645-605  ปีก่อนคริสตศักราช)

เขาทำนายถึงเหตุการณ์ร้ายที่จะเกิดขึ้น ให้ทั้งประชาชน และกษัตริย์ได้รับรู้

แต่พวกเขาส่วนใหญ่กลับไม่สนใจและยังเคียดแค้นที่เยเรมีย์พูดแต่สิ่งร้าย ๆ

พวกเขาต้องการฟังเรื่องของพร   เรื่องความรุ่งเรือง ไม่ใช่เรื่องของหายนะที่จะมาถึง

ภาพวาดโดย มาร์ค ชากัล
ภาพวาดโดย มาร์ค ชากัล

 

แล้วเมื่อถึงวันที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ยกทัพมาล้อม โจมตี และยึด เผานครเยรูซาเล็ม
ตามที่เยเรมีย์เคยบอกไว้  แทนที่เขาจะสะใจ  เขากลับยิ่งเสียใจ ทรมานใจกับความทุกข์ยากของผู้คน

คำคร่ำครวญนี้ เขียนออกมาเป็นบทประพันธ์แบบฮิบรู
บ่งบอกถึงความทุกข์ใจของเยเรมีย์เอง

เยเรมีย์ 52-5 ราชาเยโฮยาคินออกจากคุก

 

ในปีที่ 37 ของการที่ราชาเยโฮยาคิน กษัตริย์แห่งยูดาห์ ถูกเนรเทศออกมาจากบ้านเกิดเมืองนอน

เดือนที่ 12  วันที่ 25  เป็นปีที่ เอวิล เมโรดัคกษัตริย์แห่งบาบิโลนขึ้นครองราชสมบัติ

พระองค์ได้มีพระทัยเมตตา ปล่อยราชาเยโฮยาคิน กษัตริย์แห่งยูดาห์ และนำพระองค์ออกมาจากคุก

ยังได้ตรัสกับเยโฮยาคิดอย่างเมตตา และให้พระองค์มีพระที่นั่งอยู่เหนือกว่า กษัตริย์ทุกองค์ที่อยู่กับพระองค์ในบาบิโลน

jeaochin

ดังนั้น จึงได้ถอดเสื้อผ้านักโทษออก
ทุกวันตลอดชีวิตของพระองค์ ก็จะได้รับประทานอาหารกับกษัตริย์แห่งบาบิโลน

ส่วนค่าใช้จ่ายนั้น ก็ได้รับจากกษัตริย์แห่งบาบิโลนตามที่ต้องการประจำวันไม่ขาด

เป็นอย่างนี้จนสิ้นพระชนม์

เยเรมีย์ 52-4

เยเรมีย์ 52:24-30

ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ สั่งจับเสไรอาห์ซึ่งเป็นมหาปุโรหิต
พร้อมกับเศฟันยาห์ ซึ่งเป็นรองปุโรหิต และคนเฝ้าประตูอีก 3 คน

ลึกเข้าไปในเมืองยังจับผู้บัญชาการกองทัพ และที่ปรึกษาพระราชา 7 คน
จับอาลักษณ์ของผู้บัญชาการกองทัพซึ่งมีหน้าที่เกณฑ์ราษฎร กับประชาชนอีก 60 คน

ที่เนบูซาระดานจับกุมพวกเขาไปก้เพื่อส่งให้กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ตำบลริบลาห์
เมื่อคนเหล่านี้เข้าเฝ้า…

พระองค์ก็ประหารเขาหมดที่นั่น….

 

นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อยูดาห์ถูกกวาดเป็นเชลย

จำนวนประชากรที่ถูกกวาดไปในรัชสมัยเนบูคัดเนสซาร์โดย เนบูซาระดานคือ
ในปีที่ 7   เป็นชาวยิว                          3023  คน
ในปีที่ 18  เป็นชาวเมืองเยรูซาเล็ม      832  คน
ปีที่ 23 ก็ยังจับยิวไปอีก                       745  คน

รวมเป็น                                            4600  คน

เยเรมีย์ 52-3 เอาอะไรไปบ้าง?

เยเรมีย์ 52:17-23

สิ่งที่เนบูซาระดานนำไปยังบาบิโลน….

สิ่งต่าง ๆ ในพระวิหารคือ เสาทองสัมฤทธิ์  แท่น อ่างสาคร ไม่ได้ขนไปแบบนั้น แต่ถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แล้วค่อยขนไป
ส่วน หม้อ พลั่ว กรรไกรตัดใส้ตะเกียง อ่าง ชามเครื่องหอม ภาชนะทองสัมฤทธิ์ที่ใช้พิธี  ก็เอาไปเป็นชิ้น ๆ
รวมทั้ง ชามอ่างเล็ก กระถางไฟ อ่าง  หม้อ  เชิงตะเกียง ชามเครื่องหอม และขันเครื่องดื่มบูชา

อะไรที่เป็นทองก็เอาไปเป็นทอง  อะไรที่เป็นเงินก็รวมกันเอาไปเป็นเงิน
utensils

 

สิ่งที่ไม่อาจชั่งได้เพราะมันใหญ่โต  มากเหลือเกินคือ เสาใหญ่สองต้น อ่างสาครหนึ่งใบ
วัวทองสัมฤทธิ์ 12 ตัวใต้อ่างนั้น  กับเชิงฐานต่าง ๆ
สิ่งเหล่านี้ เป็นการสร้างสมัยราชาซาโลมอน

Column_Proportions
เสาสูงต้นละ 8 เมตร  รอบวง 5.3 เมตร หนา 75 มิลลิเมตร แต่กลวง
บนเสาจะมีบัวคว่ำทองสัมฤทธิ์  บัวนั้นสูง 2.2 เมตร มีลาย มีลูกทับทิม เสาสองต้นเหมือนกัน
โดยข้าง ๆ มีลูกทับทิม 96 ลูก และบนลาย มีลูกทับทิม 100 ลูก

 

เยเรมีย์ 52-2 เผาพระวิหาร!

เยเรมีย์ 52:12-16

เดือนที่ 5 วันที่ 10 ซึ่งเป็นปีที่ 19  แห่งการครองราชย์ของเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน
ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ คือ เนบูซาระดาน ผู้รับใช้ของเนบูคัดเนสซาร์ ได้เข้าไปในนครเยรูซาเล็ม
templemai

สิ่งที่เขาทำก็คือ เผาพระวิหารของพระเจ้า  ราชวัง และบ้านเรือนในนครนั้น
บ้านทุกหลังถูกเผาไม่เหลือ
แล้วกองทัพเคลเดียที่อยู่กับผู้บัญชาการนั้น ก็ได้พังกำแพงนครเยรูซาเล็ม
เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ก็ได้กวาดเหล่าคนยากจนมาก
พร้อมกับคนที่เคยถูกทิ้งเอาไว้ รวมทั้งคนที่เคยหลบหนีไปเข้าข้างกษัตริย์แห่งบาบิโลน
พร้อมกับช่างฝีมือ  ทั้งหมดนี้ เขาเอาไปเป็นเชลย

แต่เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ได้ทิ้งคนที่ยากจนที่สุด

เอาไว้เป็นคนทำสวนองุ่น และทำไร่ ทำนา

เยเรมีย์ 52-1 ย้อนเรื่องนครเยรูซาเล็มแตก

เยเรมีย์ 52:1-11

ราชาเศเดคียาห์ทรงอายุ 21 พรรษาตอนที่ทรงครองราชย์
และทรงครองราชสมบัติได้ 11 ปีในนครเยรูซาเล็ม
พระมารดาคือ ฮามุทาล ลูกสาวของเยเรมีย์แห่งลิบนาห์
พระราชาทรงทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามอย่างที่ราชาเยโฮยาคิมได้ทรงทำ
จึงถึงจุดที่พระเจ้าทรงพิโรธจนกระทั่งทรงเขวี้ยงพระราชาทั้งสองออกจากสายพระเนตรของพระองค์

ราชาเศเดคียาห์ได้กบฎต่อกษัตริย์แห่งบาบิโลน
ในปีที่ 9 ของการครองราชสมบัติ ในเดือนที่ 10  วันที่ 10
เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้มาพร้อมกับกองทัพ
โจมตีนครเยรูซาเล็ม ได้ล้อมเมืองไว้ และสร้างป้อมล้อมรอบเมือง
ดังนั้น เมืองจึงถูกล้อมจนถึงปีที่ 11 ของรัชสมัยเศเดคียาห์

ในวันที่ 9 ของเดือนที่ 4   เมืองขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ไม่มีอาหารให้ประชาชนเลย
นครจึงแตก ส่วนทหารก็หนีออกจากเมืองตอนกลางคืน
ทางประตูระหว่างกำแพงทั้งสอง ตรงที่เป็นสวนของพระราชา
ขณะที่ชาวเคลเดียล้อมเมืองอยู่
พวกเขาหนีไปทางอาราบาห์
แต่กองทัพเคลเดียได้ติดตามพระราชาไป

blindzede

และทันพระราชา ณ ที่ราบเมืองเยรีโค กองทัพของพระราชากระเจิดกระเจิงไปหมด
เมื่อพวกเขาจับพระราชาเป็นเชลย ก็นำมาเฝ้ากษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ริบลาห์ ในแผ่นดินฮามัท
พระองค์จึงพิพากษาโทษของพระราชา
กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ประหารบรรดาโอรสของเศเดคียาห์ต่อหน้าต่อตา
และยังประหารเหล่าข้าราชการที่ริบลาห์ด้วย
จากนั้นก็ควักลูกตาของเศเดคียาห์   ล่ามด้วยตรวน นำไปยังบาบิโลน
จับขังคุกจนกระทั่งสิ้นพระชนม์

เยเรมีย์ 51-10 ที่สุดปลาย

เยเรมีย์ 51:59-64

คำที่ท่านเยเรมีย์ผู้กล่าวคำ  ได้บัญชาเสไรอาห์ ลูกชายเนริยาห์ ลูกชายมาอาเสอาห์

เมื่อท่านไปยัังบาบิโลนพร้อมกับราชาเศดาคิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ ในปีที่สี่ของการครองราชสมบัติ

เสไรอาห์ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการที่พัก

เยเรมีย์ได้เขียนเรื่องหายนะต่าง ๆ ที่จะมาถึงบาบิโลน
ทุกคำที่เขียนนั้นเกี่ยวข้องกับบาบิโลน

และเยเรมีย์กล่าวแก่เสไรยาห์ว่า
“เมื่อท่านมายังบาบิโลน  ขอให้ท่านอ่านคำเหล่านี้ และกล่าวว่า
‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้กล่าวถึงสถานที่นี้ว่า พระองค์จะทรงตัดมันออกไป
เพื่อว่าจะไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์
และมันจะกลายเป็นที่ร้างตลอดไป’

บาบิโลนกับแม่น้ำยูเฟรตีส
บาบิโลนกับแม่น้ำยูเฟรตีส

เมื่อท่านอ่านหนังสือนี้เสร็จแล้ว ก็ให้มัดหนังสือนี้กับหิน
แล้วโยนลงไปในแม่น้ำยูเฟรติส และกล่าวด้วยว่า

‘บาบิโลนจะจมลงอย่างนี้  จะไม่ลอยขึ้นอีกเลย
เหตุเพราะหายนะที่เรานำมาเหนือบาบิโลน
และพวกเขาจะเหน็ดเหนื่อย หมดแรง”

คำของท่านเยเรมีย์ มีเท่านี้

 

 

เยเรมีย์ 51-9 เพื่อความสูญเปล่า!

เยเรมีย์ 51:52-58

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

ดูเถิด วันหนึ่งจะมาถึง

เมื่อเราจะลงโทษเทวรูปต่าง ๆ ของบาบิโลน

เหล่าคนที่บาดเจ็บจะร้องครวญครางทั่วแผ่นดิน

แม้บาบิโลนจะไปสูงถึงฟ้าสวรรค์   แม้จะเสริมให้ป้อมสูงนั้นยิ่งแข็งแกร่ง

แต่ผู้ทำลายจากเราก็จะมาต่อสู้กับบาบิโลน   องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เสียงหนึ่ง!  เสียงร้องจากบาบิโลน!

เสียงดังกึกก้องของความหายนะดังมาจากแผ่นดินเคลเดีย!

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้บาบิโลนกลายเป็นที่ร้าง

ทรงระงับเสียงอันทรงพลังของบาบิโลน

คลื่นของบาบิโลนนั้นส่งเสียงคะนองดั่งก้อนน้ำใหญ่

เสียงนั้นก็ดังขึ้น ดังขึ้น!

เพราะผู้ทำลายมาถึงบาบิโลนแล้ว  มาเหนือบาบิโลน

นักรบก็ถูกจับไป  คันธนูก็หักเป็นท่อน ๆ

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งการตอบแทน

พระองค์จะตอบสนองคืนให้แน่

“เราจะทำให้เหล่าข้าราชการ และนักปราชญ์เมามาย
ผู้ปกครอง ผู้บังคับบัญชา และนักรบ  พวกเขาจะหลับไปตลอด และไม่ตื่นเลย”

องค์กษัตริย์ ผู้ทรงพระนามว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งจอมทัพ ทรงประกาศ

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพจึงตรัสว่า

ภาพถ่ายโดยคุณ Russ Matthews จาก frickr ภายใต้ creative commons
ภาพถ่ายโดยคุณ Russ Matthews จาก frickr ภายใต้
creative commons

“กำแพงกว้างของบาบิโลนจะถูกทำให้ราบติดดิน

ประตูสูงก็จะถูกเผาด้วยไฟ
เหล่าประชาชนทำงานหนักมาเพื่อสูญเปล่า

ทั้งชาติได้เหน็ดเหนื่อยเพียงเพื่อเจอกับไฟ”

 

 

เยเรมีย์ 51-8 ผู้ทำลายจากทางเหนือ

เยเรมีย์ 51:47-51
ดังนั้น ดูเถิด วันนั้นจะมาถึง เป็นที่เราจะลงโทษเหล่ารูปปั้นทั้งหลายของบาบิโลน
ทั้งแผ่นดินจะต้องอับอาย และคนที่ถูกสังหารก็จะล้มลงกลางแผ่นดิน
แล้วทั้งสวรรค์และโลก รวมไปถึงสรรพสิ่งที่อยู่ในนั้น
จะร้องเพลงยินดีเหนือบาบิโลน
เพราะผู้ทำลายจากทางเหนือได้เดินทางมาสู้บาบิโลน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

บาบิโลนจะล้มลงเพราะคนอิสราเอลที่ถูกสังหาร
เหมือนกับที่บาบิโลนได้ทำให้คนอื่นต้องล้มตาย
“เจ้าทั้งหลายที่ได้หนีจากดาบมาได้
จงไปซะ อย่ายืนนิ่งกับที่!
จงระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าจากแดนไกล
และระลึกถึงเยรูซาเล็ม
‘เราถูกทำให้อาย เพราะเราได้ยินเสียงติเตียน
ความอัปยศอดสูปกคลุมใบหน้าของเรา
เพราะคนต่างชาติได้เข้ามา
ในสถานที่บริสุทธิ์แห่งพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า’

เยเรมีย์ 51-7 กำแพงที่พังลงมา

เยเรมีย์ 51:41-46

ดูการที่บาบิโลนถูกยึดไปซิ  สิ่งที่โลกสรรเสริญถูกยึดไปแล้ว
บาบิโลนได้กลายเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย

ทะเลได้ท่วมเข้ามาในบาบิโลน เต็มด้วยคลื่นอันบ้าคลั่ง
เมืองทั้งหลายของบาบิโลนได้กลายเป็นความน่าหวาดกลัว
เป็นดินแดนแห่งความแห้งแล้งและทะเลทราย

เป็นผืนดินที่ไม่มีคนอยู่  ไม่มีคนผ่านไปมา
และเราจะลงโทษเทพเบลแห่งบาบิโลน
เอาสิ่งที่เขากลืนไปนั้นออกมาจากปากของเขา

ประชาชาติทั้งหลายจะไม่เคียงบ่าเคียงไหล่เขาอีกต่อไป
กำแพงของบาบิโลนโค่นลงมาแล้ว
“จงออกไปจากท่ามกลางบาบิโลน  คนของเรา!
ให้ทุกคนเอาชีวิตให้รอดจากพระพิโรธใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
อย่าให้ใจของเจ้าหวั่นไหว ไม่ต้องกลัวเพราะข่าวทั้งหลายในแผ่นดิน
เมื่อรายงานเข้ามาในหนึ่งปี และรายงานของปีต่อไป
ความโหดร้ายอยู่ในแผ่นดินและผู้ปกครองก็ต่างสู้กัน

เยเรมีย์ 51-6 เมาจนตาย

เยเรมีย์ 51:6-40

ให้ชาวเมืองศิโยนกล่าวว่า

“เนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน ได้เขมือบข้า
พระองค์ได้บีบข้าจนแตก… ทำให้ข้ากลายเป็นภาชนะที่ว่างเปล่า
พระองค์ได้กลืนข้าเข้าไปเหมือนกับสัตว์ร้าย และได้กลืนกินของอร่อยของข้าจนเต็มอิ่ม
จากนั้นก็เทข้าออกไป
ขอให้ความโหดร้ายที่พระองค์ทำแก่ข้า และญาติของข้าจงตกอยู่เหนือบาบิโลน”

ให้เยรูซาเล็มกล่าวว่า
“ขอให้เลือดของข้าที่ไหลออกมาตกอยู่กับผู้อาศัยในแผ่นดินเคลเดีย”

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เราจะแก้คดีของเจ้า และแก้แค้นแทนเจ้า
เราจะทำให้ทะเลของเขาแห้งผาก และทำให้น้ำพุแห้งเหือดไป

และบาบิโลนจะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
เป็นที่อยู่ของหมาป่า  เป็นความหวาดผวาและเสียงเยาะหยัน  ไม่มีคนอาศัยอยู่

photo 2

“พวกเขาจะคำรามด้วยกันเหมือนสิงโต  จะขู่ร้องเหมือนกับลูกสิงห์
ขณะที่พวกเขากำลังร้อน.. เราจะเตรียมงานเลี้ยงไว้ให้
จะทำให้พวกเขาเมามาย  จะมีความสุขสนุกสนาน จากนั้น ก็หลับ เป็นการหลับตลอดไป
ไม่มีการตื่นขึ้นมาอีก”   องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“เราจะนำเข้าลงมาเหมือนกับลูกแกะที่กำลังจะถูกฆ่า
ใช่… เหมือนแกะผู้และแพะผู้

เยเรมีย์ 51-5 ศัตรูจากที่ไกล

เยเรมีย์ 51:27-33

จงตั้งธงไว้บนแผ่นดินโลก
เป่าแตรท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย
เตรียมประชาชาติทั้งหลายสำหรับสงครามต่อสู้กับเขา
เรียกพวกเขามาต่อต้านอาณาจักรนี้ ทั้งอารารัต มินนี และอัชเคนัส
จงตั้งแม่ทัพไว้เพื่อต่อสู้กับเขา  นำมาขึ้นมาเหมือนกับฝูงตั๊กแตนที่ละลานตา
เตรียมประชาชาติทั้งหลายไว้ทำสงครามกับเขา
เตรียมเหล่ากษัตริย์จากมีเดีย พร้อมกับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่
และประชาชาติที่อยู่ใต้การปกครองของเขา
แผ่นดินของสั่นสะเทือนและบิดตัวอย่างร้าวราน
เพราะพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อบาบิโลนนั้นยังมั่นคงอยู่
นั่นคือ จะทำให้บาบิโลนกลายเป็นที่ร้าง ไร้คนอาศัย
นักรบของบาบิโลนก็เลิกต่อสู้ พวกเขาจับเจ่าอยู่ในป้อมเข้มแข็ง
กำลังก็ไม่มีเหลือ  กลายเป็นเหมือนผู้หญิง

banmai
ที่อาศัยของพวกเขาก็กำลังไหม้ไฟ  กลอนประตูก็หักเสียแล้ว
มีนักวิ่งคนหนึ่งไปพบนักวิ่งอีกคน
ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งไปพบอีกคน เพื่อทูลกษัตริย์บาบิโลนว่า
เมืองของพระองค์นั้นถูกศัตรูยึดไปเสียทุกด้าน
ท่าข้ามก็ถูกยึด  เครื่องป้องกันก็ถูกเผา
บรรดาทหารต่างตกใจกลัว
เพราะว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
ลูกสาวของบาบิโลนเป็นเหมือนลานนวดข้าวเวลาที่ถูกย่ำ
แต่อีกประเดี๋ยว จะถึงเวลาเก็บเกี่ยว!

เยเรมีย์ 51-4 จุดจบของค้อน

เยเรมีย์ 51:20-26

“เจ้าเป็นค้อนและเป็นอาวุธสงครามของเรา
เราได้ทุบประชาชาติให้แตกด้วยตัวเจ้า
เราได้ทำลายอาณาจักรทั้งหลายด้วยตัวเจ้า

kon

เราใช้เจ้าทุบทั้งม้าและพลม้า
เราใช้เจ้าทุบรถม้าศึก และพลขับ
เราใช้เจ้าทำให้ชายและหญิงแตกสลาย
เราใช้่เจ้าทำลายทั้งคนแก่และเยาวชน
เราใช้เจ้าทำลายทั้งชายหนุ่มและหญิงสาว
เราใช้เจ้าทำลายทั้งคนเลี้ยงแกะและฝูงสัตว์ของเขา
เราใช้เจ้าทำลายทั้งชาวนาและเพื่อน ๆ ของเขา
เราใช้เจ้าทำให้ผู้ปกครองและผู้บังคับบัญชาทั้งหลายแตกเป็นเสี่ยง ๆ

เราคืนสนองบาบิโลน และคนที่อาศัยในแผ่นดินเคลเดียต่อหน้าต่อตา้เจ้า
เนื่องจากความชั่วที่เจ้าได้ทำต่อศิโยน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

ดูเถิด  เราต่อสู้กับเจ้า โอ ภูเขาที่ทำลาย
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ภูเขานั้นทำลายทั้งโลก
เราจะยื่นมือของเราออกต่อสู้เจ้า และกลิ้งเจ้าลงมาจากหน้าผา
และทำให้เจ้ากลายเป็นภูเขาไหม้

เขาจะไม่เอาหินจากเจ้าไปทำศิลามุมเอก
ไม่เอาไปทำรากฐานตึก
เจ้าจะกลายเป็นของทิ้งเปล่า ๆ ตลอดไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
 

 

เยเรมีย์ 51-3 พระเจ้าเที่ยงแท้กับเทวรูป

 

เยเรมีย์ 51:14-19

โอ เจ้าคนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ  ร่ำรวยทรัพย์สมบัติ
จุดจบของเจ้ามาถึงแล้ว  สายแห่งชีวิตถูกตัดออกไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพได้สาบานด้วยพระองค์เอง
แน่นอน เราจะเติมเจ้าให้เต็มด้วยคนมากมายเหมือนตั๊กแตน
พวกเขาจะส่งเสียงตะโกนมีชัยเหนือเจ้า

พระองค์นั่นแหละคือผู้ทรงสร้างโลกด้วยฤทธานุภาพของพระองค์
พระองค์ทรงสถาปนาแผ่นดินโลกด้วยพระปัญญา
และทรงขึงฟ้าออกด้วยความเข้าใจ
เมื่อพระองค์เปล่าสุรเสียงออกมา ก็มีเสียงครั่นครืนของน้ำในท้องฟ้า
และพระองค์ทรงทำให้เกิดหมอกลอยขึ้นมาจากที่สุดปลายแผ่นดิน

ภาพ creative commons จาก http://farm4.static.flickr.com/
ภาพ creative commons จาก http://farm4.static.flickr.com/

ถ่ายโดยMatthieu Luna

พระองค์ทรงให้เกิดฟ้าแลบเพื่อฝน
และทรงนำลมให้พัดมาจากคลังเก็บของพระองค์
มนุษย์ทุกคนโง่เขลา ไม่มีความรู้

ช่างทองทุกคนก็จะต้องอับอายเพราะรูปเคารพของพวกเขา
เพราะรูปเหล่านั้นเป็นของปลอม  ไม่มีลมหายใจในรูปนั้น
ไม่มีคุณค่าเลย เป็นผลงานแห่งความลุ่มหลง
เมื่อถึงเวลาถูกลงโทษ มันก็จะพินาศไป

ไม่เหมือนพระองค์ผู้ทรงเป็นส่วนของยาโคบ
เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งขึ้นมา
และอิสราเอลเป็นเผ่าแห่งมรดกของพระองค์
พระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ