เยเรมีย์ 48-1 ถึงคิวของโมอับ

เยเรมีย์ 48:1-8

เรื่องเกี่ยวกับโมอับ
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้
“วิบัติแก่เนโบ เพราะถูกทิ้งร้างไปแล้ว
คิรียาธาอิมต้องอับอาย เพราะถูกยึดไป
ป้อมทั้งหลายก็ต้องอายเพราะว่ามันพังลงไปแล้ว

ชื่อเสียงดี ๆ ของโมอับก็ไม่มีอีกต่อไบ
เมืองเฮชโบนวางแผนที่จะต่อสู้กับโมอับ
.. มาเถอะ พวกเรามาทำให้โมอับไม่เป็นชาติอีกต่อไป!..
เจ้าก็เช่นกิน เมืองมัดเมน.. เจ้าจะถูกทำให้เงียบ
ดาบจะตามติดเจ้า
“เสียงหนึ่ง!  มีเสียงร้องมาจากโฮโรนาอิม
” ความรกร้าง และหายนะอันยิ่งใหญ๋!”
โมอับถูกทำลาย … เด็กเล็ก ๆ ร้องไห้
เพราะที่ทางขึ้นไปเมืองลูฮีท พวกเขาขึ้นไปร้องคร่ำครวญ
เพราะที่ทางลงจากเมืองโฮโรนาอิม
พวกเขาได้ยินเสียงร้องไห้เพราะการถูกทำลาย

หนีไปซะ! เอาตัวให้รอด!  เ้จ้าจะเป็นเหมือนลาป่าในทะเลทราย!
เพราะเจ้าเชื่อวางใจผลงานแห่งมือของเจ้าและทรัพย์สมบัติของเจ้า
เจ้าเองก็จะถูกกวาดไปด้วย
เหล่าพระเคโมชจะถูกกวาดไปเป็นเชลย พร้อมกับปุโรหิตและข้าราชการ

ผู้ทำลายนั้นจะเข้ามาบุกทุกเมือง
ไม่มีเมืองใดจะหนีรอดไปได้
แม้หุบเขาก็จะพินาศไปด้วย
ที่ราบจะถูกทำลาย ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

เยเรมีย์ 47 การลงโทษฟิลิสเตีย

เยเรมีย์ 47:1-7

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ เกี่ยวข้องกับฟิลิสเตีย
ก่อนที่ฟาโรห์จะทำลายกาซา
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิด น้ำท่วมมาจากทางเหนือ และจะหลายเป็นสายน้ำเชี่ยวสูง
มันจะท่วมแผ่นดินและทุกอย่างบนแผ่นดิน  ทั้งเมืองและคนที่อยู่ในนั้น
มนุษย์จะร้องออกมา และคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินจะคร่ำครวญ
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงย่ำของกีบม้าตัวผู้
เมื่อได้ยินเสียงรถรบวิ่งเข้ามา  เสียงล้อรถรบบดถนนดังสนั่น
พ่อทั้งหลายก็ไม่ได้หันกลับมาดูลูกของตน เพราะแขนของเขาก็อ่อนล้า
เพราะวันนั้นเป็นวันทำลายฟิลิสเตียทั้งสิ้น
เพื่อที่จะตัดเหล่าผู้ช่วยที่ยังหลงเหลืออยู่จากไทระ และซีโดน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายฟิลิสเตีย เหล่าคนที่หลงเหลือตามชายทะเลคัฟโทร์
กาซากลายเป็นเมืองโล้นเลี่ยน  เมืองเอชเคโลนก็ถึงแก่หายนะ
โอ เหล่าคนที่หลงเหลืออยู่ในหุบเ้ขา
พวกเขาจะเชือดเนื้อตัวเองไปอีกนานเท่าไร?
อา… พระแสงขององค์พระผู้เป็นเจ้า!
อีกนานเท่าไร กว่าท่านจะหยุดเงียบ?
เอาตัวเก็บไว้ในฝักเสียเถิด ขอท่านพัก  อยู่นิ่ง ๆ

แต่มันจะเงียบได้อย่างไร เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชามาแล้ว
พระองค์ทรงตั้งให้มันสู้กับเอชเคโลน และเมืองชายทะเล…. “

เยเรมีย์ 46-5 ไม่ปล่อยให้ลอยนวล

เยเรมีย์ 46:27-28

“แต่อย่ากลัวไปเลย  โอยาโคบ คนรับใช้ของเรา
อย่าหวั่นเกรงไป  โออิสราเอล
เพราะดูเถิด  เราจะช่วยเจ้าให้รอด  จากที่ไกล
และลูกหลานของเจ้าจากดินแดนที่เขาตกไปเป็นเชลย
ยาโคบจะกลับมา  ได้รับความสงบ พัก
และจะไม่มีใครทำให้เขากลัว
fs
อย่ากลัวไปเลย ยาโคบ คนรับใช้ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เพราะเราอยู่กับเจ้า
เราจะทำให้ประชาชาติทั้งหลายต้องจบสิ้นลง
ประชาชาติที่เราไล่เจ้าไปอยู่นั้น
แต่สำหรับเจ้า เราจะไม่ให้จบ
เราจะตีสอนเจ้าตามขนาด
และเราจะไม่ปล่อยให้เจ้าลอยนวลไปโดยไม่ได้รับโทษ”

เยเรมีย์ 46-4 สภาพอียิปต์เมื่อถูกบุก

อาโมนเป็นเทพเจ้าแห่งลม ของชาวอียิปต์โบราณ
อาโมนเป็นเทพเจ้าแห่งลม ของชาวอียิปต์โบราณ

เยเรมีย์ 46:20-26

โคสาวที่งดงามคืออียิปต์
แต่เหลือบจากทางเหนือมาบินว่อนเหนือเธอ
แม้ทหารรับจ้างท่ามกลางเธอก็เป้นเหมือนวัวที่ขุนจนอ้วน
ใช่ซิ พวกเขาหันไปและหนีไปด้วยกัน ไม่ยืนมั่น
เพราะวันแห่งความหายนะมาถึงพวกเขาแล้ว
เป็นเวลาลงโทษพวกเขา
เธอทำเสียงเหมือนกับงูกำลังเลื้อยไป
เพราะศัตรูของเธอนั้นกำลังย่ำไปด้วยกำลัง
และมาสู้กับเธอด้วยขวาน ราวกับคนที่กำลังจะล้มต้นไม้
พวกเขาจะล้มต้นไม้ในป่าของเธอ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ถึงแม้ไม่มีใครสามารถทะลุทะลวงเข้ามาได้
เพราะว่าพวกเขามีจำนวนมากกว่าตั๊กแตน
มีจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน

ลูกสาวของอียิปต์จะต้องอับอาย
ถูกส่งไปให้อยู่ในเงื้อมมือของชนชาติทางเหนือ”

องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
“ดูเถิด เรากำลังจะลงโทษเทพเจ้าอาโมนแห่งเธเบส และฟาโรห์ และอียิปต์
กับเหล่าเทพเจ้า และกษัตริย์ทั้งปวง  ลงโทษฟาโรห์และทุกคนที่วางใจฟาโรห์
เราจะมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือเหล่าคนที่กำลังแสวงชีวิตของเขา
ในมือของเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน และข้าราชการ
หลังจากนั้น อียิปต์จึงจะมีคนเข้ามาอาศัยดังแต่ก่อน ….

เยเรมีย์ 46-3 สภาพของอียิปต์

เยเรมีย์ 46:13-19

พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ
เรื่องการเข้ามาบุกอียิปต์โดยเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน
“จงประกาศในอียิปต์  และแจ้งในมิกดล
แจ้งให้รู้ในเมมฟิส และเทปานเหส
จงกล่าวว่า .. จงยืนมั่นให้พร้อม  จงเตรียมตัว

เมมฟิส ยามรุ่งเรือง
เมมฟิส ยามรุ่งเรือง

เพราะว่าดาบสังหารจะกลืนกินรอบ ๆ เจ้า
เหตุใดนักรบผู้กล้าจึงก้มหน้าลง?
พวกเขาไม่ได้ยืนมั่นอยู่
เป็นเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าผลักเขาลงไป

พระองค์ทรงทำให้หลายคนสะดุด และพวกเขาล้มลง
และต่างกล่าวแก่กันและกันว่า
“ลุกขึ้น  พวกเรากลับไปหาคนของเราเถอะ
กลับไปบ้านเกิดเมืองนอนของเรา
เพราะดาบของผู้กดขี่”

ร้องออกนามของฟาโรห์  กษัตริย์แห่งอียิปต์
..ผู้ส่งเสียงดังที่ปล่อยให้เวลาผ่านไป..
“ตราบเท่าที่เรามีชีวิต  พระมหากษัตริย์ทรงประกาศ
พระนามของพระองค์คือ องค์พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
เหมือนกับภูเขาทาโบร์ ท่ามกลางภูเขาทั้งปวง
เหมือนกับภูเขาคารเมลที่อยู่ข้างทะเล

เหล่าผู้ที่อาศัยอียิปต์เอ๋ย
จงเตรียมข้าวของเพื่อการถูกกวาดไป
เพราะเมืองเมมฟิสจะกลายเป็นที่ร้าง
เป็นซากปรักหักพังที่ไม่มีคนอาศัย”

เยเรมีย์ 46-2 เหตุการณ์ที่จะเกิด

เนบูคัดเนสซาร์เข้ามาบุกอียปต์
เนบูคัดเนสซาร์เข้ามาบุกอียปต์

เยเรมีย์ 46:7-12

ใครกัน ที่ท่วมสูงขึ้นมาดั่งแม่น้ำไนล์?
ดั่งแม่น้ำที่สายน้ำหนุนเชี่ยวขึ้นมา
อียิปต์สูงขึ้นดั่งแม่น้ำไนล์
ดั่งแม่น้ำที่สายน้ำหนุนเชี่ยวขึ้นมา

เขาโอ่ว่า “ข้าจะลุกขึ้น และจะครอบครองทั่วแผ่นดินโลก
ข้าจะทำลายบรรดาเมืองต่างๆ ทั้งคนที่อาศัยในนั้น
มุ่งไปข้างหน้า เหล่าม้าศึก… เฆี่ยนเข้าไป รถรบ!
จงให้นักรบออกไป
เหล่าบุรุษแห่งคุช และพูตที่ถือโล่
เหล่าบุรุษแห่งลุด คนที่มีความเชี่ยวชาญในการยิงธนู
วันนั้น เป็นวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมทัพ
วันแห่งการแก้แค้น เพื่อแก้แค้นศัตรูของพระองค์

 

ดาบจะกลืนกินชีวิต จนพอใจ
มันจะดื่มเลือดส่วนของมัน
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า  ผู้ทรงเป็นจอมทัพจะทรงถือเครื่องสักการะ
ณ ประเทศทางเหนือ ข้างแม่น้ำยูเฟรตีน
ขึ้นไปซิ  ขึ้นไปที่กิเลอาด หายาทา
เหล่าพรหมจารี ลูกสาวของอียิปต์!
ยาหลาย ๆ อย่างที่เจ้าใช้นั้น ไม่ได้ผล
เจ้าไม่ได้รับการเยียวยา

เหล่าประชาชาติได้ยินถึงความน่าอายของเจ้า
โลกเต็มด้วยเสียงร้องคร่ำครวญของเจ้า
นักรบก็สะดุดล้มทับกัน
จึงล้มลงไปพร้อม ๆ กัน

เยเรมีย์ 46-1 เรื่องของอียิปต์

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ เกี่ยวกับประเทศทั้งหลาย
เกี่ยวกับอียิปต์…..

เรื่องของกองทัพฟาโรห์เนโค  กษัตริย์แห่งอียิปต์
ซึ่งอยู่ข้างแม่น้ำยูเฟรตีสที่คารเคมิช
ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้โจมตีเอาชนะได้
ในปีที่สี่ของรัชสมัยเยโฮยาคิม โอรสราชาโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์

ฟาโรห์เนโคที่สอง  ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Necho_II
ฟาโรห์เนโคที่สอง ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Necho_II

จงเตรียมโล่ทั้งเล็กและใหญ่  เตรียมตัวเข้าสู่สงคราม
ใส่อานให้ม้า .. ขึ้นขี่มัน  เหล่าพลม้า!
เข้าประจำที่พร้อมหมวกเกราะ
ขัดหอกของเจ้าให้พร้อม   สวมเสื้อเกราะ!

ทำไมเราจึงเห็นสิ่งเหล่านี้ ?
พวกเขากลัวลาน และหันกลับไป

เหล่านักรบพ่ายแพ้ รีบหนีอย่างรวดเร็ว ไม่หันกลับมามองเสียด้วยซ้ำ
ความสยดสยองอยู่รอบด้าน
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ….

“แต่คนเท้าไวรีบเร่งก็ยังหนีไม่พ้น
นักรบไม่อาจจะหนีรอดไปได้
พวกเขาสะดุดและล้มลง

ทางเหนือ ริมแม่น้ำยูเฟรตีส

เยเรมีย์ 45 ปลอบใจบารุค

ภาพจาก http://www.soulshepherding.org/
ภาพจาก http://www.soulshepherding.org/

เยเรมีย์ 45:1-5

นี่เป็นคำที่เยเรมีย์กล่าวแก่บารุค ลูกชายเนริยาห์ เมื่อเขาเขียนคำตามคำบอกของเยเรมีย์
ในปีที่สี่ของรัชสมัยเยโฮยาคิม โอรสโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้แก่เจ้านะ บารุค

….เจ้ากล่าวว่า วิบัติแก่ตัวข้า
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เอาความทุกข์ใจเพิ่มให้กับความเจ็บปวดของข้า
ข้าเหน็ดเหนื่อยกับการคร่ำครวญ
และข้าไม่ได้พักเลย….
ดังนั้นเจ้าจะพูดกับเขาว่า   องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิดสิ่งที่เราสร้างขึ้นนั้น เราจะทำลายลง
สิ่งที่เราปลูก  เราก็จะถอนมันออกมา นั่นคือแผ่นดินทั้งหมด

“และเจ้าจะหาสิ่งใหญ่เพื่อตัวเองหรือ  อย่าหามันเลย
เพราะดูเถิด  เรากำลังนำหายนะมาสู่มนุษย์ทั้งปวง” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
“แต่เราจะให้ชีวิตแก่เจ้า   เป็นบำเหน็จแห่งการสงคราม ในทุกที่ ๆ เจ้าไป ”

เยเรมีย์ 44-4 คำใครจะเป็นจริง?

เยเรมีย์ 44:24-30

เยเรมีย์กล่าวแก่ประชาชนและเหล่าผู้หญิงทั้งหลายว่า
“จงฟังพระคำขององค์พระผู้เป็นเจ้า เหล่าคนยูดาห์ที่อยู่ในแผ่นดินอียิปต์
องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้
..เจ้า และภรรยาของเจ้า ได้ประกาศด้วยปาก และทำสำเร็จด้วยมือของเจ้า
กล่าวว่า เราจะทำตามคำปฏิญาณที่เราได้ให้ไว้ว่า
จะถวายเครื่องบูชาและเทเครื่องดื่มบูชาแก่เทวีสวรรค์
ถ้าอย่างนั้น ก็ย้ำให้แน่ใจว่า เจ้าจะทำสิ่งนัั้น

และจงฟังพระคำจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เหล่าคนยูดาห์ที่อาศัยในแผ่นดินอียิปต์
ดูเถิด  เราได้สาบานโดยนามยิ่งใหญ่ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
ว่านามของเราจะไม่เป็นที่กล่าวขานโดยปากของคนยูดาห์คนไหนก็ตามในแผ่นดินอียิปต์
ว่า.. ตราบเท่าที่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่..

ดูเถิด  เรากำลังเฝ้าดูพวกเขาให้เจอกับหายนะ ไม่ใช่สิ่งดี
ชาวยูดาห์ทุกคนที่อาศัยในแผ่นดินอียิปต์ จะถูกสังหารด้วยดาบ ด้วยความอดอยากจนกระทั่งไม่มีใครหลงเหลืออยู่
และคนที่หนีจากดาบจะกลับจากอียิปต์ไปยังแผ่นดินยูดาห์  ไม่กี่คน
และคนที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์ที่เดินทางมายังอียิปต์
จะรู้ว่า คำใดล่ะที่จะดำรงอยู่ เป็นคำของเราหรือพวกเขา
นี่จะเป็นสัญญาณให้กับพวกเจ้า  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
ว่าเราจะลงโทษเจ้าในแผ่่นดินนี้ เพื่อว่าเจ้าจะได้รู้ว่า
คำของเราจะต่อต้านเจ้า เป็นอันตรายต่อเจ้า

ฟาโรห์องค์ที่เยเรมีย์กล่าวถึง
ฟาโรห์องค์ที่เยเรมีย์กล่าวถึง

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

ดูเถิด   เราจะให้ฟาโรห์โฮฟราซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งอียิปต์อยู่ในมือของศัตรู
อยู่ในมือของคนที่แสวงหาชีวิตของเขา
เหมือนอย่างที่เรามอบเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ให้อยู่ในมือของเนบูคัดเนสซาร์
กษัตริย์แห่งบาบิโลนผู้เป็นศัตรูซึ่งแสวงชีวิตของเขา

เยเรมีย์ 44-3 ก็จะไม่ฟัง

เยเรมีย์  44:15-23

แล้วเหล่าพวกผู้ชายที่รู้ว่า ภรรยาของตนได้ถวายเครื่องบูชาให้กับพระอื่น
และเหล่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้น เป็นที่ประชุมใหญ่
คนทั้งปวงที่อาศัยในปัทโรส แผ่นดินอียิปต์ ตอบเยเรมีย์ว่า
“สำหรับคำที่ท่านกล่าวกับเราในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เราจะไม่ฟังท่าน
แต่เราจะทำทุกอย่างที่เราได้สัญญาเอาไว็
ถวายเครื่องบูชาแก่เทวีสวรรค์ และถวายเครื่องดื่มบูชาให้ด้วย
อย่างที่เรากับบรรพบุรุษของเรา รวมทั้งกษัตริย์และข้าราชการได้ทำในหัวเมืองต่าง ๆ แห่งยูดาห์
และตามท้องถนนในนครเยรูซาเล็ม

เพราะเมื่อเราทำอย่างนั้น เราก็มีอาหารบริบูรณ์ เราเจริญรุ่งเรือง และไม่เห็นมีหายนะใด ๆ
ตั้งแต่ที่เราเลิกถวายเครื่องบูชา เลิกถวายเครื่องดื่มบูชาแก่เทวีสวรรค์
เราก็ขาดแคลนทุกอย่าง และถูกคมดาบสังหาร ต้องเจอกับความอดอยาก

และพวกผู้หญิงกล่าวว่า
“เมื่อเราถวายเครื่องบูชา และเทเครื่องดื่มบูชาให้กับเทวีสวรรค์  เราทำเองโดยสามีไม่รู้หรือ
เราทำขนมถวาย และเทเครื่องดื่มบูชาโดยที่พวกเขาไม่รู้อย่างนั้นหรือ?”

 เยเรมีย์จึงกล่าวแก่ทัั้งชายหญิง และประชาชนที่ตอบเขาเช่นนั้น
“สำหรับเครื่องบูชาที่ทั้งเจ้าและบรรพบุรุษ  กษัตริย์และข้าราชการ รวมทั้งประชาชนในแผ่นดิน
ถวายตามหัวเมืองในยูดาห์ ตามถนนหนทางในนครเยรูซาเล็มนั้น
คิดหรือว่าองค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงจดจำ?
เรื่องพวกนั้นไม่ได้เข้ามาในความคิดของพระองค์หรือ?

rabad

องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่อาจจะทนการกระทำอันชั่วร้ายของเจ้า
และการกระทำอันน่าสะอิดสะเอียนของเจ้า
ดังนั้น แผ่นดินของเจ้าจึงต้องรกร้าง กลายเป็นที่คนทิ้งไป กลายเป็นคำแช่งสาป
ไร้คนอาศัย จนกระทั่งทุกวันนี้
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเจ้าได้ถวายเครื่องบูชาเหล่านั้น
และเพราะเจ้าได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ได้ฟังพระสุรเสียงของพระองค์
ไม่ได้เดินตามธรรมบัญญัติ และกฎเกณฑ์ และพระโอวาทของพระองค์
ทำให้ความหายนะจึงเกิดขึ้นดังเช่นทุกวันนี้  

 

เยเรมีย์ 44-2 ไม่มีใครได้กลับไป

เยเรมีย์ 44:7-14

และบัดนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
เหตุใดเจ้าจึงทำความชั่วร้ายใหญ่หลวงต่อตัวเองเช่นนี้
มันทำให้เจ้าไม่มีชาย หญิง เด็กเล็ก เด็กโตอยู่ท่ามกลางยูดาห์  ทำให้เจ้าไม่มีคนหลงเหลืออยู่ในแผ่นดิน
เหตุใดเจ้าจึงยั่วยุให้เราโกรธด้วยผลงานแห่งน้ำมือของเจ้า
ไปถวายเครื่องบูชาให้กับพระอื่นในดินแดนแห่งอียิปต์ซึ่งเจ้าเข้าไปอาศัยอยู่
เพื่อว่าเจ้าจะถูกตัดออก  และกลายเป็นที่แช่งสาป และเป็นสิ่งที่ใคร ๆ พูดถากถางตามประชาชาติต่าง ๆ บนแผ่นดินโลก

เหล่าพระที่ชาวอียิปต์เชื่อถือ
เหล่าพระที่ชาวอียิปต์เชื่อถือ

เจ้าลืมความชั่วร้ายของพ่อเจ้า
ความชั่วร้ายของกษัตริย์แห่งยูดาห์
ความชั่วของภรรยาพวกเขา
ความชั่วร้ายของตัวเจ้าเอง และความชั่วร้ายของภรรยาของพวกเจ้า
ที่ได้ทำในแผ่นดินยูดาห์ และบนถนนหนทางในนครเยรูซาเล็มอย่างนั้นหรือ?

พวกเขามิได้ถ่อมตนลงจนถึงวันนี้
พวกเขาไม่กลัว ไม่เดินตามบัญญัติและกฎเกณฑ์ของเรา
ที่เราได้ตั้งไว้ต่อหน้าต่อตาเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้า

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
ดูเถิด เราจะตั้งหน้าต่อต้านเจ้า เราจะนำภัยมาสู่เจ้า  จะตัดยูดาห์ออกให้หมดสิ้น
เราจะให้คนที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์ที่ได้ตั้งหน้ามาอาศัยในแผ่นดินอียิปต์ พินาศเสีย
ในแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาจะล้มลงด้วยดาบ ความอดอยาก
ตั้งแต่คนที่เล็กน้อยที่สุดจนถึงคนที่ใหญ่ที่สุด
พวกเขาจะตายด้วยดาบ ด้วยความอดอยาก
พวกเขาจะกลายเป็นคำสาบาน  เป็นความน่ากลัว ความแช่งสาป เป็นสิ่งที่คนกล่าวถึง
เราจะลงโทษคนที่อาศัยในแผ่นดินอียิปต์ ดังที่เราได้ลงโทษนครเยรูซาเล็มด้วยดาบ ความอดอยากและโรคระบาด
และจะไม่มีใครในบรรดาผู้ที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์ที่ได้มาอาศัยในอียิปต์
จะหนีพ้น หรือรอดตายจนกลับไปแผ่นดินยูดาห์ได้สักคน
แม้ว่าพวกเขาอยากจะกลับไปอาศัยที่นั่น
พวกเขาจะไม่ได้กลับไป ยกเว้นผู้ลี้ภัยไม่กี่คน

เยเรมีย์ 44-1 ที่อียิปต์

เยเรมีย์ 44:1-6

พระวจนะของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์
เรื่องคนยูเดียที่อาศัยในแผ่นดินอียิปต์ ที่มิกดล  ทาปานเหส เมมฟิส และแผ่นดินปัทโรส
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้….
เจ้าได้เห็นหายนะที่เรานำมาถึงนครเยรูซาเล็ม และเมืองต่าง ๆ ในยูดาห์แล้ว
ดูเถิด วันนี้ เมืองต่างๆ กลายเป็นที่ร้าง และไม่มีคนอาศัย

ที่เป็นอย่างนี้เพราะความชั่วที่พวกเขาได้ลงมือทำ
ยั่วยุให้เราโกรธ ด้วยการไปถวายเครื่องบูชาและปรนนิบัติพระอื่น
ที่พวกเขา  พวกเจ้า หรือบรรพบุรุษของเจ้าไม่รู้จัก

ถึงอย่างนั้น เราเองได้ส่งผู้กล่าวคำซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเรามาหาเจ้าไม่หยุดหย่อน
กล่าวว่า “ขออย่าทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนที่เราเกลียดชัง!”

แต่ก็ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเอียงหูเข้ามา
ไม่มีใครสนใจที่จะหันจากความประพฤติชั่ว และหยุดถวายเครื่องบูชาแก่พระอื่นๆ

ดังนั้น ความกริ้ว และความโกรธของเราจึงต้องเทออกมา
และจุดเป็นไฟตามเมืองต่าง ๆ ของยูดาห์
ตามถนนหนทางในนครเยรูซาเล็ม
และเมืองเหล่านี้จึงกลายเป็นเมืองที่ปรักหักพัง เป็นเมืองร้าง เหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

เยเรมีย์ 43-2 สั่งตรงมาที่อียิปต์

เยเรมีย์ 43:8-13

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์ในเมืองทาปานเหสว่า
“จงถือหินก้อนใหญ่หลาย ๆ ก้อน
แล้วซ่อนไว้ตรงแท่งปูนตรงทางเดินที่จะเข้าไปยังราชวังของฟาโรห์ในเมืองปาทานเหส
ทำต่อหน้าต่อตาชาวยูดาห์  และกล่าวกับพวกเขาว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
..ดูเถิด  เราจะนำเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลนซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเรามา
และเราจะตั้งบัลลังก์ชของเขาเหนือหินที่เราได้ซ่อนไว้
เขาจะกางพลับพลาของเขาเหนือก้อนหินเหล่านี้
เขาจะมาและโจมตีแผ่นดินอียิปต์
จะมอบผู้ถูกกำหนดให้เจอกับโรคระบาดให้ไปเผฃิญกับโรคเหล่านั้น
จะให้คนที่ถูกกำหนดไปเป็นเชลย ได้ไปเป็นเชลย
และจะสังหารคนที่ถูกกำหนดให้เจอกับดาบ

เราจะจุดไฟในวิหารของพระแห่งอียิปต์
และเขาจะเผาวิหารเหล่านั้น และกวาดเชลยไป
เขาจะชำระแผ่นดินอียิปต์ เหมือนกับผู้เลี้ยงแกะที่ชำระเสื้อคลุมจากตัวเห็บเหา
เขาจะจากที่นั่นไปด้วยสันติ
เขาจะทำลายเสาโอเบลิสก์ในเฮลิโปลิส
และจะเผาวิหารของเหล่าพระในอียิปต์เสีย

เยเรมีย์ 43-1 เยเรมีย์ ..ถูกพาไปอียิปต์

เยเรมีย์ 43:1-7

เมื่อเยเรมีย์กล่าวคำขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่ประชาชนจบ..
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งเขามายังประชาชนเหล่านี้
อาซาริยาห์ลูกชายโฮชายาห์ และโยฮานันลูกชายคาเรอาห์
พร้อมกับเหล่าคนที่ยะโส..กล่าวกับเยเรมีย์ว่า
“ท่านกำลังมุสาต่อพวกเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ส่งท่านมาห้ามไม่ให้พวกเราไปอาศัยในอียิปต์
แต่..บารุคลูกชายเนริยาห์ได้ยุยงให้ท่านต่อสู้พวกเรา
เพื่อว่าจะได้ส่งพวกเราให้ตกในเงื้อมมือของชาวเคลเดีย
เพื่อว่าพวกเขาจะสังหารเรา หรือไม่ก็เนรเทศพวกเราไปบาบิโลน
โยฮานัน ลูกชายคาเรอาห์และผู้บัญชาการกองทัพทั้งปวง
รวมทั้งประชาชนไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าที่ทรงบัญชาให้พวกเขาอาศัยในแผ่นดินยูดาห์

แต่โยฮานัน ลูกชายคาเรอาห์ พร้อมกับผู้บัญชาการกองทัพได้นำ
คนที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์
คนที่ย้ายเข้ามาจากประเทศต่าง ๆ ที่พวกเขาถูกเนรเทศไป
ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กๆ ทั้งเจ้าหญิง
และทุกคนที่เนบู-ซาระดานซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์
ได้มอบไว้ให้เกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัม ลูกชายชาฟานดูแล
และรวมไปถึงเยเรมีย์ และบารุค ลูกชายเนริยาห์
พวกเขาไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า

และในที่สุดก็มาถึงเมืองทาปานเหส

เยเรมีย์ 42-2 อย่าไปนะ!

เยเรมีย์ 42:7-17

หลังจากนั้นสิบวัน  พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์
เขาจึงเชิญโยฮานันลูกชายคาเรอาห์ และเหล่าผู้บัญชาการกองทหาร
รวมทั้งประชาชนตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด กล่าวแก่พวกเขาว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล

ผู้ที่ท่านส่งเราไปเฝ้า เพื่อทูลขอพระกรุณา ตรัสดังนี้ว่า ..
หากเจ้ายังคงอยู่ในแผ่นดินนี้ เราก็จะสร้างเจ้าขึ้น ไม่รื้อทิ้งลง
เราจะปลูกเจ้า ไม่ใช่ถอนเจ้า
เพราะเราได้เปลี่ยนใจจะไม่ทำลายเจ้าตามที่เราได้ทำแก่พวกเจ้ามาแล้ว

nebuchadnezzar-04
อย่าไปกลัวกษัตริย์แห่งบาบิโลน ผู้ที่พวกเจ้ากลัวกันเหลือเกิน
อย่าไปกลัวเขา… องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ  เพราะว่าเราอยู่กับเจ้า
เพื่อจะช่วยเจ้า เพื่อจะช่วยกู้พวกเจ้าให้พ้นมือของเขา
เราจะเมตตาเจ้า และให้เจ้าได้ดำรงอยู่ในแผ่นดินของเจ้าเอง
แต่หากเจ้ากล่าวว่า .. เราจะไม่อยู่ในแผ่นดินนี้..
ไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า  พระเจ้าของเจ้า
และกล่าวว่า … ไม่  เราจะเดินทางไปยังอียิปต์
ที่นั่นเราจะไม่ต้องเจอสงครามหรือได้ยินเสียงแตร
หรือหิวโหย และเราจะอาศัยอยู่ที่นั่น..
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ขอฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เหล่าผู้ที่หลงเหลืออยู่ในยูดาห์
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
หากเจ้ามุ่งหน้าที่จะเข้าไปในอียิปต์เพื่ออาศัยที่นั่นแล้วละก็
ดาบที่พวกเจากลัวก็จะตามเจ้าไปในดินแดนอียิปต์
ความอดอยากที่เจ้าหวั่นก็จะตามเจ้าไปติด ๆ
และเจ้าจะตายในอียิปต์นั่นเอง
ทุกคนที่ตั้งหน้าจะไปยังอียิปต์เพื่ออาศัยที่นั่นจะตาย
ด้วยดาบ ความอดอยากและโรคระบาด
จะไม่มีใครเหลืออยู่หรือจะไม่มีใครรอดจากหายนะที่เราจะนำมาเหนือเขาเลย

 

 

เยเรมีย์ 42-1 ขอพระองค์ทรงนำ

เยเรมีย์ 42:1-6

แล้วเหล่าผู้บัญชาการกองทัพและโยฮานันลูกชายคาเรอาห์
และเยซันยาห์ลูกชายโฮชายาห์
รวมทั้งเหล่าประชาชนทั้งคนต่ำต้อยไปจนถึงผู้ใหญ่ที่สุดได้มาหาเยเรมีย์ผู้กล่าวคำของพระเจ้า

“ขอท่านได้ฟังคำร้องเมตตาจากพวกเรา ขอท่านอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อพวกเราด้วย
เพื่อเหล่าคนที่หลงเหลืออยู่  เราเหลือกันอยู่ไม่กี่คนเท่าที่ท่านเห็น
เพื่อว่าพระองค์จะทรงบอกเราว่า
เราควรไปทางใด
เราควรทำอะไร”

เยเรมีย์ผู้กล่าวคำของพระเจ้ากล่าวแก่เขาว่า
“เราได้ยินท่านแล้ว ดูเถิด เราจะอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน
ตามที่ท่านขอร้อง และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบอย่างไร เราจะบอกท่าน
และจะไม่ปิดบังสิ่งใดจากท่านสักอย่างเดียว”

แล้วพวกเขากล่าวแก่เยเรมีย์ว่า
“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นพยานที่เที่ยงแท้ และซื่อตรง
จัดการกับเรา หากเราไม่ได้กระทำตามพระดำรัสที่พระองค์
ทรงส่งผ่านท่านมาให้พวกเรา
ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราจะเชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
ผู้ซึ่งเราได้ส่งท่านไปทูลขอ
เพื่อว่าเมื่อเราเชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งดีต่อพวกเรา”

เยเรมีย์ 41-2 แก้แค้นแทน…

เยเรมีย์ 41:11-18

แต่เมื่อโยฮานันลูกชายคาเรอาห์และเหล่าผู้บัญชาการกองทหารได้ยินเรื่องชั่วร้ายที่อิชมาเอล ลูกชายเนธานิยาห์ได้กระทำ
พกวเขาก็นำคนทั้งหมดมาเพื่อต่อสู้กับเขา
เขาทั้งหมดต่อสู้กันที่สระน้ำใหญ่ในเมืองกิเบโอน
และเมื่อประชาชนที่อยู่กับอิชมาเอลเห็นโยฮานันลูกชายคาเรอาห์พร้อมกับผู้บัญชาการกองทหารมากับเขาด้วย
พวกเขาต่างก็ดีใจยิ่งนัก
ดังนั้น ประชาชนทีถูกอิชมาเอลจับมาเป็นเชลยจึงหันกลับ
และวิ่งเข้ามาหาโยฮานันลูกชายคาเรอาห์

แต่อิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์หนีไปจากโยฮานันพร้อมกับชายอีก 8 คน  หนีไปหาชาวอัมโมนได้

จากนั้นโยฮานันลูกชายคาเรอาห์และผู้บัญชาการกองทหาร
จึงได้นำคนทั้งหลายที่ถูกจับไปตอนที่อิชมาเอลสังหารเกดาลิยาห์
คืนมาจากอิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์
ทั้งทหาร ผู้หญิง เด็ก และเหล่าขันทีกลับมาจากกิเบโอน

พวกเขาไปอยู่ที่เกรูธคิมฮัม ซึ่งอยู่ใกล่้เบธเลเฮม
ตั้งใจว่า จะหนีไปยังอียิปต์ หนีไปจากคนเคลเดีย

เพราะว่าเกดาลิยาห์ถูกอิชมาเอลสังหารคนที่กษัตริย์แห่งบาบิโลนตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการแผ่นดิน

 

เยเรมีย์ 41-1 สังหารหมู่

เยเรมีย์ 41:1-8

ในเดือนที่เจ็ด อิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์ ลูกชายเอลีชามาซึ่งอยู่ในครอบครัวของพระราชา  เป็นข้าราชการชั้นหัวหน้าของพระราชาด้วย  ได้มาหาเกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัมพร้อมกับชาย10 คนที่มิสปาห์
ขณะที่กำลังกินอาหารด้วยกันอยู่นั้น  อิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์พร้อมกับชายสิบคนก็ลุกขึ้น และใช้ดาบสังหารเกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัมลูกชายชาฟานซึ่งกษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการในแผ่นดิน

ยิ่งกว่านั้นอิชมาเอลยังสังหารชาวยูดาห์และชาวเคลเดียที่อยู่กับเกดาลิยาห์ในมิสปาห์ด้วย
หลังจากวันที่ฆาตกรรมเกดาลิยาห์ ก่อนที่ใคร ๆ จะรู้เรื่อง ก็มีชาย 80 คนมากจากเชเคม  ชิโลห์ และสะมาเรีย ทั้งหมดโกนหนวดเครา และเสื้อผ้าขาดวิ่น  ร่างกายเต็มด้วยรอยแผลเชือด… พวกเขานำธัญบูชาและเครื่องหอมมาถวายที่พระวิหารของพระเจ้า
และอิชมาเอลเดินออกมาจากมิสปาห์เพื่อพบพวกเขา ทำทีเป็นร้องไห้ เมื่อพบกันก็กล่าวว่า
“ไปเถอะ เข้าไปหาท่านเกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัม”
เมื่อพวกเขาเข้ามาในเมือง อิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ และสมุนของเขาก็สังหารหมู่คนเหล่านั้น โยนศพเข้าไปในที่เก็บน้ำ
แต่มีชายสิบคนในหมู่พวกเขากล่าวแก่อิชมาเอลว่า
“อย่าฆ่าพวกเราเลย  เพราะเรามีเสบียงอาหาร ทั้งข้าวสาลี ข้าวบารเลย์  น้ำมันและน้ำผึ้งซ่อนไว้ในทุ่ง”
ดังนั้นเขาจึงไว้ชีวิตคนเหล่านั้น

เยเรมีย์ 40-3 ไม่เชื่อความหวังดี

เยเรมีย์ 40:13-16

แล้วโยฮานัน ลูกชายของคาเรอาห์และเหล่าผู้นำของกองทหารได้มาหาเกเดลิยาห์ที่มิสปาห์
กล่าวแก่เขาว่า “ท่านรู้ไหมว่า บาอาลิส กษัตริย์ของชาวอัมโมน
ส่งอิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์   มาเพื่อจะสังหารท่าน
(เขาเป็นกลุ่มคนที่เดินทางกลับมาอยู่ใต้ปกครองเกดาลิยาห์)

แต่เกดาลิยาห์ไม่เชื่อเขา
ดังนั้นโยฮานันลูกชายคาเรอาห์ผู้นี้จึงพูดเป็นการลับกับเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ว่า
“ขอให้ข้าไปสังหารอิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์ และจะไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้
เหตุใดจะปล่อยให้เขาเอาชีวิตของท่าน
แล้วจะทำให้ชาวยิวที่ท่านได้รวบรวมเข้ามาแล้ว กระจัดกระจายไปอีก
กลายเป็นว่าคนที่หลงเหลืออยู่ในแผ่นดินจะพินาศไป”

แต่เกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัมกล่าวกับโยฮานันลูกชายคาเรอาห์
“ท่านอย่าไปทำอย่างนั้นเลย  เพราะท่านกำลังให้ร้ายอิชมาเอลอยู่”

เยเรมีย์ 40-2 ใช่ว่าจะหมดตัว

เยเรมีย์ 40:7-12

เมื่อเหล่าผู้บังคับบัญชาทั้งหลายพร้อมกับทหารแต่ละกองซึ่งอยู่ไกลออกไป
ได้ยินว่า กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ตั้งเกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัมให้เป็นผู้ว่าราชการแผ่นดิน
รวมทั้งได้มอบทั้งชาย หญิง และเด็ก คนที่ยากจนที่สุดซึ่งไม่ได้กวาดไปบาบิโลนให้เขาปกครอง

พวกเขาจึงพากันไปหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์
อิชมาเอลลูกชายเนธานิยาห์
โยฮานันลูกชายคาเรอาห์
เสไรอาห์ลูกชายทันหุเมท
บรรดาลูกชายของเอฟายชาวเนโทฟาห์
เยซันยาห์ลูกชายชาวมาอาคาห์ ทั้งตัวเขาและคนของเขา

เกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัม ลูกชายชาฟานได้ให้ปฏิญาณกับพวกเขาและคนของเขาว่า
“อย่ากลัวที่จะรับใช้คนเคลเดีย
ให้เจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ และรับใช้กษัตริย์แห่งบาบิโลน
และทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี
ข้าเองจะอาศัยในมิสปาห์ เพื่อเป็นตัวแทนของท่านต่อคนเคลเดียที่จะมาติดต่อกับเรา
ส่วนท่านนั้นให้รวบรวมเหล้าองุ่นและผลไม้ฤดูร้อนและน้ำมัน
ให้สะสมไว้ในภาชนะต่าง ๆ และอาศัยในเมืองที่ท่านยึดได้”

mizpahผู้คนเดินทางมายังมิสปาห์

เช่นเดียวกัน  เมื่อคนยูดาห์ซึ่งอยู่ในโมอับ และคนที่อยู่ท่ามกลางชาวอัมโมน และในเอโดม
ได้ยินว่า กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ทิ้งคนไว้บ้างในยูดาห์
และแต่งตั้งเกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัม ลูกชายชาฟานเป็นผู้ปกครองพวกเขา
ดังนั้นเหล่าคนยูดาห์ซึ่งถูกไล่ออกไปอยู่ที่ไกล ๆ เหล่านั้นจึงกลับมายังแผ่นดินยูดาห์
กลับมาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์
พวกเขาได้รวบรวมเหล้าองุ่นและผลไม้ฤดูร้อนได้มากมาย