ตามพระคัมภีร์ใหม่

 มารีย์ผู้นี้ คือคนที่ได้ชโลมน้ำมันหอมให้พระเยซู

และใช้ผมของเธอเช็ดพระบาท

ถอดความจากยอห์น 11:2

แต่สิ่งที่ท่านยอห์นพูดถึงท่านเยซูนี้ เป็นจริง

ถอดความจาก ยอห์น 10:41

พระเยซูทรงข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยังที่ ๆ ยอห์นเคยให้บัพติสมาจุ่มน้ำ ทรงพักอยู่ที่นั่น

หลายคนมาหาพระองค์….

“ท่านยอห์นไม่ได้ทำหมายสำคัญเลย  แต่สิ่งที่ท่านยอห์นพูดถึงท่านเยซูนี้ ล้วนเป็นจริง “

แม้เจ้าไม่เชื่อเรา ก็ขอให้เชื่อในงานที่เราทำ

ถอดความจาก ยอห์น 10:37

“ถ้าเราไม่ได้ทำราชกิจพระบิดา ก็อย่าเชื่อเรา

แต่ถ้าเราทำ แม้เจ้าไม่เชื่อเรา ก็ขอให้เชื่อในสิ่งที่เราทำ
…เจ้าจะได้เข้าใจเสียทีว่า พระบิดาอยู่ในเรา เราอยู่ในพระบิดา”

ไม่ได้การ ต้องจับเข้าคุก!

จับกุมวันนี้เลย

เดี๋ยวนี้เลย!

แต่พระเยซูพ้นมือพวกเขาไปได้…

แล้วเจ้ามากล่าวหาเรา ผู้ที่พระบิดาได้แต่งตั้ง ส่งลงมาในโลกว่า  
หมิ่นประมาทพระองค์ เพียงเพราะเรากล่าวว่า
เราเป็นพระบุตรพระเจ้า อย่างนั้นหรือ?

ถอดความจากยอห์น 10:36

ในสดุดี 82.6  บันทึกว่า เรา​ได้​กล่าว​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​พระ​ เป็น​บุตร​องค์​ผู้​สูงสุด ท่าน​ทุก​คน​นั่น​แหละ “

 คนที่เป็นผู้วินิจฉัย สามารถตัดสินเป็นตายให้กับคู่คดี  เท่ากับเขาก็เหมือนกับเป็นพระ นั่นเอง

การที่พระเยซูกล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นพระบุตรพระเจ้าจึงไม่ได้ผิดอะไรด้วยซ้ำ

พวกเจ้าก็เห็นการดีของพระบิดาที่เราทำ

แล้วจะมาเอาหินเขวี้ยงเราเพราะการดีอันไหน?

 ถอดความจากยอห์น 10:32

ยิวหยิบก้อนหินขึ้นมา  โกรธจัด…

“เอามันให้ตายไปเลย…”

 “เอ๊ะ พวกเจ้าก็เห็นการดีของพระบิดาที่เราทำ  แล้วจะมาเอาหินเขวี้ยงเราเพราะการดีอันไหน?

 “ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น แต่เพราะนายพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า  เป็นแค่คนแล้วมาตั้งตัวเป็นพระเจ้า..

แกะของเราจะฟังเสียงเรา เรารู้จักมัน มันก็ตามเรา

เราให้ชีวิตนิรันดร์กับพวกมัน

ถอดความจาก ยอห์น 10: 27

 “แต่พวกเจ้าไม่เชื่อ เพราะเจ้าไม่ได้เป็นแกะของเรา “

แกะของเราจะฟังเสียงเรา เรารู้จักมัน มันก็ตามเรา

เราให้ชีวิตนิรันดร์กับพวกมัน

ไม่มีใครจะฉกฉวยพวกมันไปจากมือเราได้

 พระบิดาทรงเป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง ทรงให้แกะนั้นแก่เรา

 ไม่มีใครจะฉกฉวยพวกมันไปจากพระหัตถ์พระบิดาได้…

และ..เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียว

งานที่เราทำในพระนามพระบิดา

ก็เป็นหลักฐานให้เจ้าเห็นอยู่แล้ว

ถอดความจาก ยอห์น 10:25

เหล่ายิวที่มีปัญหา…พากันมาห้อมล้อมพระเยซู

“นายจะให้เราสงสัยค้างคาใจอย่างนี้นานแค่ไหนนี่?

ถ้าเป็นพระคริสต์ ก็พูดให้จะจะไปเลย”

 พระเยซูตอบ

เราบอกแล้ว แต่พวกเจ้าไม่เชื่อ   
งานที่เราทำในพระนามพระบิดาก็เป็นหลักฐานให้เจ้าเห็นอยู่แล้ว

คำที่พูดไม่ใช่เป็นคำของคนที่ถูกผีสิงสักหน่อย 

ผีจะเปิดตาคนตาบอดได้รึ?

ถอดความจาก ยอห์น 10:21

เพราะคำของพระองค์ 

พวกยิวก็แตกคอกันเองอีกครั้ง …

“เขามีผีสิง เป็นบ้าไปแล้ว  ฟังเขาทำไมกัน?

อีกคนพูด
คำที่พูดไม่ใช่เป็นคำของคนที่ถูกผีสิงสักหน่อย

ผีจะเปิดตาคนตาบอดได้รึ? 

ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้  

แต่เรายอมสละด้วยใจอาสาของเราเอง 

ถอดความจาก ยอห์น 10:18

เพราะเป็นเช่นนี้ พระบิดาทรงรักเรา …

เพราะเรายอมเสียชีวิตเพื่อว่าเราจะได้ชีวิตนั้นคืนมา

ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้  

แต่เรายอมสละด้วยใจอาสาของเราเอง

เรามีสิทธิ ที่จะสละชีวิต

และมีสิทธิ ที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมา

เราได้รับสิทธิอำนาจนี้จากพระบิดาของเรา

ยังมีแกะที่ไม่ใช่อยู่ในฝูงนี้ เราก็จะนำพวกมันไปด้วย
และมันจะฟังเสียงของเรา 
จะกลายเป็นแกะฝูงเดียว  ผู้เลี้ยงผู้เดียว

ถอดความจาก ยอห์น 10:16

ที่คนนั้นหนีเพราะเขาเป็นแค่คนรับจ้าง และไม่ห่วงใยแกะ

ถอดความจากยอห์น 10:13

แต่เรามา เพื่อเขาจะได้มีชีวิต  เป็นชีวิตที่เต็มเปี่ยม 

ถอดความจาก ยอห์น 10:10

เราคือประตู ใครที่เข้ามาทางเรา เขาจะรอด

จะเดินเข้า ออก จะพบทุ่งหญ้า

ถอดความจาก ยอห์น 10:9

 แกะไม่ตามคนแปลกหน้า แต่จะหนี เพราะไม่รู้จักเสียงเรียกของคนๆ นั้น 

แต่ พวกเขากลับไม่เข้าใจคำเปรียบของพระเยซู

เราบอกจริงๆ ว่า เราคือประตูของแกะทั้งหลาย

ทุกคนที่มาก่อนเราเป็นขโมย เป็นโจร แกะก็ไม่ฟังเสียงพวกเขา

เราคือประตู ใครที่เข้ามาทางเรา เขาจะรอด จะเดินเข้าออก จะพบทุ่งหญ้า

ถ้าเจ้าบอด เจ้าก็ไม่มีผิด

แต่..เจ้าอ้างว่าตัวเองมองเห็น ดังนั้น เจ้ายังมีบาปติดตัวอยู่

ถอดความจากยอห์น 9:41

“เรามาในโลกนี้เพื่อการพิพากษา คนที่บอดจะได้เห็น คนที่เห็นจะได้บอด “

“เอ๊ะ!  มาว่าเราตาบอดรึ?

“ถ้าเจ้าบอด เจ้าก็ไม่มีผิด แต่..เจ้าอ้างว่าตัวเองมองเห็น ดังนั้น เจ้ายังมีบาปติดตัวอยู่”

เจ้าได้เห็นพระองค์แล้ว กำลังพูดกับเจ้านี่ไง

ถอดความจากยอห์น 9:37

“เจ้าเชื่อวางใจบุตรมนุษย์หรือไม่?”

“ท่านเป็นผู้ใดหรือขอรับ? เพื่อว่ากระผมจะได้วางใจท่าน”

“เจ้าได้เห็นพระองค์แล้ว กำลังพูดกับเจ้านี่ไง”

ชายตาบอดยิ้มกว้าง

กระผมเชื่อขอรับ…. แล้วเขากราบพระองค์

ตั้งแต่โลกมีมา ยังไม่เคยได้ยินว่า

มีใครทำให้คนตาบอดมองเห็นได้เลย

ถอดความจาก ยอห์น 9:32

 ตั้งแต่โลกมีมา ยังไม่เคยได้ยินว่า มีใครทำให้คนตาบอดมองเห็นได้เลย

หากเขาผู้นี้ไม่ได้มาจากพระเจ้า เขาจะทำอัศจรรย์เช่นนี้ไม่ได้หรอก  ….

เจ้านะเกิดมาบาปหนานัก  แล้วยังจะมาสอนเราอีกรึ?  ออกไป… ไปให้พ้นหน้าพวกข้า

แต่คนที่นมัสการพระองค์และทำตามพระองค์ พระเจ้าก็ทรงฟัง

ถอดความจาก ยอห์น 9:30

เจ้าเป็นศิษย์ของเขา แต่เราเป็นศิษย์ของโมเสส

เรารู้ว่า พระเจ้าตรัสกับโมเสสแน่  แต่เขาผู้นี้มาจากไหน เราไม่รู้

เออ นี่ก็ประหลาดนะ พวกท่านไม่รู้ว่าเขามาจากไหน  แต่เขาเป็นคนทำให้ข้ามองเห็น  

เรารู้ว่าพระเจ้าไม่ฟังเสียงคนบาป แต่คนที่นมัสการพระองค์และทำตามพระองค์ พระเจ้าก็ทรงฟัง 

หรือว่าท่านอยากเป็นศิษย์ของเขา

ถอดความจากยอห์น 9:27

เจ้าจงพูดความจริงเพื่อถวายเกียรติพระเจ้า .. เรารู้ว่าเขาเป็นคนบาป

เขาตอบ…. ข้าไม่รู้หรอกว่าเขาบาปหรือไม่ แต่ที่ข้ารู้คือ ข้าเคยตาบอด แต่ตอนนี้เห็นแล้ว

2.”ไหน บอกมาซิ … เขาเปิดตาเจ้าอย่างไร? เขาทำอะไร?

“เอ๊ะ ..ก็บอกไปแล้ว ท่านไม่ฟัง อยากฟังอีกรึ? หรือว่าท่านอยากเป็นศิษย์ของเขา”

ท่านถามเขาสิ…เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตอบเองได้

ถอดความจากยอห์น 9: 21

 “เขาเป็นลูกของเรา ตาบอดแต่เกิด

แต่เราไม่รู้ว่าเขาตาดีได้อย่างไร ใครเปิดตาเขา ท่านถามเขาสิ…เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตอบเองได้”