20 เมษายน 2020
เกี่ยวกับพระเจ้าเที่ยงแท้
เนื้อหาเกี่ยวกับองค์พระเจ้าที่เราเชื่อถือ พระนาม พระราชกิจ พระลักษณะของพระองค์ ที่ทรงแจ้งให้เราทราบในพระคัมภีร์ ติดตามพระคำ ตามร่องรอยพระคำไป เราจะรู้จักพระเจ้าของเราอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
องค์ผู้เป็นที่หลบภัย
5 เมษายน 2020
ข้าแต่องค์พระยาห์เวห์ ข้าร้องทูลต่อพระองค์ว่า พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้า ทรงเป็นมรดก ซึ่งเป็นส่วนของข้า ในแผ่นดินของคนเป็น ขอทรงฟังเสียงร้องทูลของข้า เพราะข้าตกต่ำลงมามาก ถอดความจาก สดุดี 142:5
ให้เราอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้จากล่างขึ้นบน
ยามที่ตกต่ำสุดในชีวิต เรามาเข้ามาเฝ้าพระเจ้า ร้องทูลต่อพระองค์ ในแผ่นดินของคนเป็นนั้น พระเจ้าทรงเป็นส่วนในชีวิต ทรงเป็นมรดก ทรงเป็นที่ลี้ภัย ใช่แล้ว เราร้องทูลต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าองค์นิรันดร์ พระเจ้าของเรา!
องค์พระผู้ไถ่
29 มีนาคม 2020
ขอให้คำที่ออกจากปาก และความคิด ในใจของข้า เป็นที่พอพระทัย ในสายพระเนตรของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระกำลัง(ศิลา)และพระผู้ไถ่ของข้า ถอดความจาก สดุดี 19:14
กษัตริย์ดาวิดทรงอธิษฐานต่อพระเจ้าโดยเรียก องค์พระผู้เป็นเจ้าว่า พระกำลังและพระผู้ไถ่ พระกำลังหรือพระศิลาทรงทำให้เรายืนมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เรากำลังเผชิญ และท่านปรารถนาให้พระเจ้าไถ่พระองค์เหมือน กับญาติที่จะไถ่ญาติพี่น้องด้วยกันออกจาก การเป็นทาส ออกจากความทุกข์ยากและ การสูญเสียต่าง ๆ ในชีวิต ข้อนี้เหมาะกับเราทุกคนที่กำลังเผชิญโควิด 19 สิ่งที่เราต้องทำคือระวังรักษาใจและคำพูด ให้เป็นคำดี เป็นกำลังใจ กับคนรอบข้าง
องค์พระผู้ไถ่
21 มีนาคม 2020
พวกเขาระลึกได้ว่า พระเจ้าทรงเป็นพระศิลาของพวกเขา และพระเจ้าองค์สูงสุดทรงเป็นพระผู้ไถ่ของเขา ถอดความจาก สดุดี 78:35
คำว่า ไถ่ มีความหมายพื้น ๆ ว่า เป็นการซื้อคืน บ้าน ที่ดินกลับมาจากการที่เคยขายไป เป็น การจ่ายค่าไถ่ตัวคนในครอบครัวที่ตกไปเป็น ทาส เมื่อคำ ๆ นี้มาใช้กับพระเจ้าและอิสราเอล มีความหมายว่า พระองค์ทรงไถ่เขาออกมาจาก การเป็นทาสในอียิปต์ สำหรับเราก็คือ พระองค์ ทรงไถ่เราจากการเป็นทาสบาป
ผู้เดียวที่เห็นพระเจ้า
15 มีนาคม 2020
ไม่มีใครเคยเห็นพระบิดายกเว้นผู้ที่มาจากพระเจ้า ผู้นั้นได้เห็นพระบิดา ถอดความจาก ยอห์น 6:46
เมื่ออ่านพระคำข้อนี้ต่อจาก (1 ทิโมธี 1:15-16) จึงรู้ว่า ก่อนนี้พระเยซูทรงบอกไว้อย่างชัดเจน ว่าไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้าผู้ที่มองไม่เห็น แม้ ยาโคบบอกว่าเขาเห็นพระเจ้าแต่ยังมีชีวิตใน (ปฐมกาล 32:22-32) เป็นเพราะพระเจ้าทรงมา พบเขาในรูปร่างของมนุษย์ เราเห็นพระเจ้าไม่ได้ พระองค์ตรัสกับโมเสสว่า มนุษย์เห็นเราแล้ว ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ (อพยพ 33:20) แต่พระเจ้าทรงเมตตา ประทานพระเยซูผู้เป็น พระฉายาของพระองค์ลงมาในโลก พระองค์ ทรงเป็นราชบุตรหัวปีของสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง (โคโลสี 1:15) ตรัสว่า ถ้าเจ้ารู้จักเราแล้ว ก็ได้รู้จักพระบิดาด้วย (ยอห์น 14:8) เมื่อไรเรารู้จักพระเยซูมากขึ้น เราก็รู้จักพระเจ้ามากขึ้นด้วย
7 มีนาคม 2020 แสงสว่างของโลก
ข้อความตอนนี้มาจาก ยอห์น 1:9 ความสว่างแท้ที่ให้สว่างแก่ทุกคนได้เข้ามาในโลก พระองค์ทรงอยู่ในโลกซึ่งพระองค์ทรงสร้างแม้กระนั้น พวกเขาก็ไม่รู้จักพระองค์
พระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลก ลองนึกถึงโลกที่มืด เรามองไม่เห็นอะไร แต่เมื่อแสง แดด ส่องเข้ามา เราจะมองเห็นทุก ๆ อย่างชัดเจน ในฝ่ายวิญญาณแล้ว พระเยซูทรงเข้ามาในใจเมื่อไร เราจึงจะมองเห็นใจของเราเองว่าเป็นอย่างไร หลายคนคิดว่าตัวเองดีแล้ว มีใจสะอาด มีใจเมตตาต่อ คนอื่น ช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังตอบแทน แต่เมื่อเขามารู้จักพระเยซูผู้เป็นความสว่าง เขาจะเห็น อะไร ๆ ที่ซ่อนอยู่ในใจของเขา แต่ก่อนมันมืด มองไม่ เห็นจนกว่า พระเยซูจะเข้ามาเป็นแสงส่องในใจ ทรงเป็นแสงสว่างเดียวของโลก ไม่มีแสงอื่นใด หมายความว่า ไม่มีอะไร คำสอนใด ความคิดใดที่จะ ส่องใจของเราได้เหมือนสว่างของพระองค์
1 มีนาคม 2020 พระนามพระเยซูคริสต์
การมีชีวิตนิรันดร์คือ ที่พวกเขาจะรู้จักพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และพระเยซูคริสต์ ผู้ซึ่งพระองค์ทรงส่งมา ถอดความจากยอห์น 17:3
เรามักคิดว่า คริสต์ เป็นนามสกุลของพระเยซูกัน แต่จริงแล้ว คริสต์มาจากคำในภาษาฮีบรูที่มีความ หมายว่า เจิม ดังนั้นคำว่า พระเยซูคริสต์จึงมีความ หมายตรงๆ ว่า พระเยซูองค์ผู้ทรงถูกเจิมนั่นเองท่านผู้ที่ถูกเจิมในพระคัมภีร์นั้น มักจะเป็นกษัตริย์ ปุโรหิต หรือผู้กล่าวพระคำ พวกเขาถูกเจิมเพื่อให้ไปทำพันธกิจที่กำหนดไว้สำหรับเขา พระเยซูทรง ถูกเจิมและแยกไว้สำหรับพันธกิจสำคัญที่สุดใน เอกภพ นั่นคือ กำจัดทั้งบาป ความดื้อดึงของมนุษย์ และความตาย นำคนทั้งหลายกลับมาสู่พระบิดา ผู้ทรงรักมนุษย์ในโลกยิ่งนัก พระเยซูคริสต์ จึงเป็นพระนามที่พระเจ้าเที่ยงแท้ทรงถือว่า ใหญ่ยิ่ง กว่านามใด ๆ เราจึงถือตามนั้นเช่นกัน
23 กุมภาพันธ์ 2020 พระเจ้าองค์นิรันดร์
ก่อนภูเขาทั้งหลายเกิดขึ้นก่อนที่พระเจ้าจะทรงให้แผ่นดินและ โลกเกิดขึ้น พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ตั้งแต่นิรันดร์กาลตราบจนนิรันดร์กาล ถอดความจาก สดุดี 90:2
พระเจ้าของเราทรงเป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่งใน เอกภพ มนุษย์เราอาจไม่ยอมรับพระองค์ และ กล่าวว่า ไม่มีพระเจ้า แต่ความมหัศจรรย์ของชีวิต และธรรมชาติในรายละเอียด ทำให้เราไม่อาจพูด ได้ว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเอง .. พระองค์ผู้ทรงเป็น พระเจ้าจากนิรันดร์ถึงนิรันดร์ ผู้ทรงอยู่เหนือ กรอบเวลาของโลก ทรงบอกเราในพระคัมภีร์ ว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า
16 กุมภาพันธ์ 2020 องค์ผู้พิพากษา
และพระเยซูทรงบัญชาให้เรา ประกาศแก่คนทั้งหลายเพื่อยืนยันว่า พระองค์คือ ผู้ที่พระเจ้าทรงแต่งตั้งให้เป็น ผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย ถอดความจาก กิจการ 10:42
พระเจ้าพระบิดา ทรงแต่งตั้งพระเยซูเป็นผู้พิพากษา อาจมีเหตุผลหลายอย่าง แต่ที่เรารู้คือ พระองค์ ทรงเป็นผู้เดียวที่เหมาะสม ทรงเป็นทั้งพระเจ้า และทรงเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบอย่างที่ พระเจ้าทรงประสงค์ ทรงเข้าใจมนุษย์ดีเพราะ ได้ดำเนินอยู่ท่ามกลางคนทั้งหลาย ฮีบรู 2:14-18 ขอสรรเสริญและน้อมรับพระองค์ ผู้ทรงเป็นผู้พิพากษามนุษย์ทุกคน
15 กุมภาพันธ์ 2020 ผู้พิพากษามาแล้ว
พี่น้องเอ๋ย อย่าบ่นว่ากันและกัน เพื่อว่าพวกท่านจะไม่ถูกตัดสินโทษ องค์ผู้ทรงพิพากษาประทับยืนอยู่ ที่ประตูแล้ว ถอดความจาก ยากอบ 5:9
การบ่นว่ากันในที่นี้ เป็นรูปแบบหนึ่งของการแก้แค้น คน ๆ หนึ่งอาจทำผิดกับเรา แต่เราไม่ได้จัดการอย่าง ถูกทางแต่กลับเอาเขาไปว่ากับคนอื่น ทั้ง ๆ ที่เราควร จะฝากเรื่องนี้ไว้กับพระเจ้า หากเราคิดให้ลึก เราจะรู้ ว่าการบ่นว่ามันอาจจะยกระดับไปเป็นการให้ร้ายป้ายสี เป็นพยานเท็จ เป็นอย่างอื่นที่ถึงตาย
8 กุมภาพันธ์ 2020 ผู้พิพากษาที่เที่ยงธรรม
พระเจ้าทรงเป็น ผู้พิพากษาที่เที่ยงธรรม ทรงเป็นพระเจ้า ผู้ทรงสำแดงพระพิโรธทุกวัน ถอดความจาก สดุดี 7:11
เราจะพูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า พระเจ้าทรง ประสงค์ความยุติธรรมให้กับคนเที่ยงธรรม พระองค์ทรงกล่าวคำพิพากษาลงโทษทุกวัน ถ้าเรารู้เช่นนี้แล้ว เราจะเข้าใจความเป็นไปของ โลกมากขึ้น เราคิดว่า พระเจ้าไม่ทรงทำอะไรกับ คนที่กดขี่ข่มเหงผู้อื่นเลยหรือ พระเจ้าทรงทำ อยู่แล้วแน่นอน อาจไม่ตรงใจเรา แต่พระคำข้อนี้ บอกไว้ว่า ทุกวัน !
2 กุมภาพันธ์ 2020 พระเจ้าผู้ทรงพิพากษา
พระเจ้าทรงเรียกถึงฟ้าสวรรค์เบื้องบนและถึงแผ่นดินโลก เพื่อพระองค์ จะทรงพิพากษาคนของพระองค์… ฟ้าสวรรค์ประกาศความเที่ยงธรรม ของพระเจ้าเพราะพระองค์เอง ทรงเป็นผู้พิพากษา ถอดความจากสดุดี 50:4,6
เราไม่ต้องมองไปไกลเพื่อที่จะระลึกว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษา แค่มองฟ้าเมื่อไร ก็ให้คิดถึงสิ่งนี้ และนั่นจะทำให้เรายำเกรง พระเจ้า … มีคนกล่าวว่า ความยำเกรงพระเจ้า เกิดขึ้นเมื่อเรารู้ว่า พระองค์ทรงอยู่ตรงหน้า เราเสมอ ..ขอให้สดุดีข้อนี้ ช่วยเราให้ยำเกรง พระองค์ตลอดชีวิตของเรา
1 กุมภาพันธ์ 2020 พระเจ้าผู้พิพากษา
เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาตัดสินเรา พระองค์ทรงเป็นผู้วางกฎหมายให้เรา พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของเรา พระองค์เองที่จะทรงช่วยเราให้รอดพ้น ถอดความจาก อิสยาห์ 33:22
ในแต่ละประเทศจะแบ่งอำนาจการปกครองเป็น สามฝ่าย คือฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และ ฝ่ายตุลาการ แต่ดูพระคัมภีร์ข้อนี้สิ พระเจ้า ทรงเป็นอำนาจทั้งสาม และพระองค์เองที่จะ ช่วยให้มนุษย์รอดพ้นได้ เราคงไม่ได้คิดเรื่องนี้ มาก่อน เอาเป็นอันว่า การปกครองประเทศนั้น มาเลียนแบบตำแหน่งของพระเจ้าตรงไปตรงมา ความจริงคือ พระเจ้าทรงเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย