24 กรกฎาคม 2021
เยเรมีย์
ผู้กล่าวคำของพระเจ้าสมัยต่อมาจากท่านอิสยาห์
พระเจ้าทรงอยู่ทุกแห่ง
28 มีนาคม 2021
พระเจ้าผู้ทรงปั้น
21 มีนาคม 2021
วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย
ดินเหนียวอยู่ในมือช่างปั้นเช่นใด
พวกเจ้าก็อยู่ในมือของเราเช่นนั้น
เยเรมีย์ 18:6
พระเจ้าเที่ยงแท้ นิรันดร์
12 กันยายน 2020
พระเจ้าเที่ยงแท้
15 สิงหาคม 2020
23 พฤศจิกายน 2019 ความถูกต้องชอบธรรมของเรา
พระยาห์เวห์ทรงเป็นความถูกต้องชอบธรรมของเรา
ถอดความจากเยเรมีย์ 23:6
พระเจ้าทรงประกาศดังนี้ “วันนั้นจะมาถึง เมื่อเราสถาปนากิ่งอัน ชอบธรรมให้ดาวิด ท่านผู้นั้นเป็นกษัตริย์ ที่ทรงปกครองด้วยพระปัญญา ทรงทำสิ่ง ที่ถูกต้องในแผ่นดิน ในสมัยของท่าน ยูดาห์ จะรับการช่วยกู้ อิสราเอลจะอยู่อย่างปลอดภัย พระนามของท่านคือ พระยาห์เวห์ทรงเป็น ความถูกต้องชอบธรรมของเรา”
ถอดความจาก เยเรมีย์ 23:5-6
พระยาห์เวห์ทรงเป็นความถูกต้องชอบธรรมของเรา ในภาษาฮีบรูว่า “ยาห์เวห์ซิดเคนู” เป็นพระนามที่แสดงถึงพระลักษณะที่ทรง ถูกต้องชอบธรรมในทุกอย่างที่ทรงทำ แต่พระเจ้าไม่ได้ทรงเก็บความถูกต้องชอบธรรม ไว้่ที่พระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงทำให้เรา เป็นคนถูกต้องชอบธรรม เมื่อเราเชื่อ วางใจ ติดตามองค์พระเยซูคริสต์
เพลงคร่ำครวญ 3-3 จากพระเจ้าทั้งสิ้น
เยเรมีย์ 3:25-39
เทท พยัญชนะตัวที่ 9
พระเจ้าทรงดีต่อคนที่รอคอยพระองค์
ต่อวิญญาณที่แสวงหาพระองค์
เป็นการดีที่คน ๆ หนึ่งจะรอคอยเงียบ ๆ
รอความรอดพ้นที่จะมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
เป็นการดีที่คนหนึ่งจะรับภาระในวัยเยาว์ของเขา
โยด พยัญชนะตัวที่ 10
จงให้เขานั่งเงียบ ๆ คนเดียว เมื่อภาระนั้นวางบนบ่าเขา
ให้เขาเอาปากจรดผงดิน เพราะมันอาจจะมีความหวัง
ให้เขาหันแก้มให้กับคนที่ตบหน้าเขา
ให้เขารับความดูหมิ่นอย่างเต็มที่
คาฟ พยัญชนะตัวที่ 11
เพราะว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงละทิ้งตลอดไป
แต่.. แม้ว่าพระองค์ทรงทำให้เราโศกเศร้า
พระองค์ยังทรงสงสาร เพราะพระองค์ทรงเต็มด้วยความรักมั่นคง
เพราะว่าพระองค์ไม่ทรงทำให้ใครต้องทุกข์โศก หรือทำให้คนเศร้าใจ
อย่างมุ่งพระทัย
ลาเมด พยัญชนะตัวที่ 12
การบดขยี้นักโทษแห่งแผ่นดินไว้ใต้เท้าก็ดี
หรือการที่จะปฏิเสธความยุติธรรมต่อพระพักตร์ขององค์ผู้สูงสุดก็ดี
การบิดเบือนคดีของมนุษย์ในศาล เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่ทรงเห็นด้วย
เมม พยัญชนะตัวที่ 13
ใครล่ะจะพูดอะไรออกมาแล้วสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงได้
หากพระเจ้าไม่ทรงบัญชาให้มันเกิด?
สิ่งดี และสิ่งร้าย ไม่ได้ออกมาจากพระโอษฐ์ขององค์ผู้สูงสุดอย่างนั้นหรือ?
เหตุใดมนุษย์จึงต้องบ่นกับการที่เขาต้องถูกลงโทษเพราะบาปของตนเอง
เพลงคร่ำครวญ 1-4
เพลงคร่ำครวญ 1:17-22
เพ พยัญชนะตัวที่ 17
ศิโยนได้อ้าแขนออก แต่ก็ไม่มีใครมาปลอบโยนเธอ
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาให้มีเพื่อนบ้านของยาโคบ
กลายเป็นศัตรูของเธอ
เยรูซาเล็มกลายเป็นสิ่งสกปรกท่ามกลางเขาทั้งหลาย
ซาเด พยัญชนะตัวที่ 18
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำถูกต้องแล้ว
เพราะข้าได้ดื้อต่อพระคำของพระองค์
แต่ประชาชนทั้งหลายเอ๋ย จงฟัง และดูความทุกข์ยากของข้า
ทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มต้องตกเป็นเชลย
โคฟ พยัญชนะตัวที่ 19
ข้าร้องหาคนรักทั้งหลาย แต่พวกเขาก็แค่หลอกลวง
ปุโรหิตและผู้ใหญ่ของข้าพเจ้าต่างพินาศในเมือง
ขณะที่พวกเขาออกหาอาหารเพื่อจะได้ยังพอมีแรงบ้าง
เรช พยัญชนะตัวที่ 20
โปรดทอดพระเนตรเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะข้าพระองค์กำลังเดือดร้อน
ท้องก็ปั่นป่วน ใจก็ปวดร้าวข้างใน
เพราะว่าข้าได้ดื้อดึงมาก
บนถนนคนล้มตายเพราะดาบ
ในบ้านก็เหมือนแดนคนตาย
ซิน พยัญชนะตัวที่ 21
เขาทั้งหลายได้คำครวญครางของข้า
แต่ก็ไม่มีใครปลอบโยนใจ
ศัตรูทั้งหลายได้ยินเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับข้า
พวกเขาดีใจที่พระองค์ทรงทำกับข้าเช่นนี้
พระองค์ทรงนำวันที่พระองค์บอกล่วงหน้ามาถึง
และเขาก็เห็นข้าเป็นอย่างนี้
ทาว พยัญชนะตัวที่ 22
ขอให้การชั่วร้ายของพวกเขามาอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
ขอทรงจัดการเขาเหล่านั้นอย่างที่พระองค์ทรงจัดการข้า
เนื่องจากความผิดบาปของข้า
เพราะข้าครวญครางมากนัก และข้าก็หมดแรงใจ
เยเรมีย์ 52-5 ราชาเยโฮยาคินออกจากคุก
ในปีที่ 37 ของการที่ราชาเยโฮยาคิน กษัตริย์แห่งยูดาห์ ถูกเนรเทศออกมาจากบ้านเกิดเมืองนอน
เดือนที่ 12 วันที่ 25 เป็นปีที่ เอวิล เมโรดัคกษัตริย์แห่งบาบิโลนขึ้นครองราชสมบัติ
พระองค์ได้มีพระทัยเมตตา ปล่อยราชาเยโฮยาคิน กษัตริย์แห่งยูดาห์ และนำพระองค์ออกมาจากคุก
ยังได้ตรัสกับเยโฮยาคิดอย่างเมตตา และให้พระองค์มีพระที่นั่งอยู่เหนือกว่า กษัตริย์ทุกองค์ที่อยู่กับพระองค์ในบาบิโลน
ดังนั้น จึงได้ถอดเสื้อผ้านักโทษออก
ทุกวันตลอดชีวิตของพระองค์ ก็จะได้รับประทานอาหารกับกษัตริย์แห่งบาบิโลน
ส่วนค่าใช้จ่ายนั้น ก็ได้รับจากกษัตริย์แห่งบาบิโลนตามที่ต้องการประจำวันไม่ขาด
เป็นอย่างนี้จนสิ้นพระชนม์
เยเรมีย์ 52-4
เยเรมีย์ 52:24-30
ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ สั่งจับเสไรอาห์ซึ่งเป็นมหาปุโรหิต
พร้อมกับเศฟันยาห์ ซึ่งเป็นรองปุโรหิต และคนเฝ้าประตูอีก 3 คน
ลึกเข้าไปในเมืองยังจับผู้บัญชาการกองทัพ และที่ปรึกษาพระราชา 7 คน
จับอาลักษณ์ของผู้บัญชาการกองทัพซึ่งมีหน้าที่เกณฑ์ราษฎร กับประชาชนอีก 60 คน
ที่เนบูซาระดานจับกุมพวกเขาไปก้เพื่อส่งให้กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ตำบลริบลาห์
เมื่อคนเหล่านี้เข้าเฝ้า…
พระองค์ก็ประหารเขาหมดที่นั่น….
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อยูดาห์ถูกกวาดเป็นเชลย
จำนวนประชากรที่ถูกกวาดไปในรัชสมัยเนบูคัดเนสซาร์โดย เนบูซาระดานคือ
ในปีที่ 7 เป็นชาวยิว 3023 คน
ในปีที่ 18 เป็นชาวเมืองเยรูซาเล็ม 832 คน
ปีที่ 23 ก็ยังจับยิวไปอีก 745 คน
รวมเป็น 4600 คน
เยเรมีย์ 52-3 เอาอะไรไปบ้าง?
เยเรมีย์ 52:17-23
สิ่งที่เนบูซาระดานนำไปยังบาบิโลน….
สิ่งต่าง ๆ ในพระวิหารคือ เสาทองสัมฤทธิ์ แท่น อ่างสาคร ไม่ได้ขนไปแบบนั้น แต่ถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แล้วค่อยขนไป
ส่วน หม้อ พลั่ว กรรไกรตัดใส้ตะเกียง อ่าง ชามเครื่องหอม ภาชนะทองสัมฤทธิ์ที่ใช้พิธี ก็เอาไปเป็นชิ้น ๆ
รวมทั้ง ชามอ่างเล็ก กระถางไฟ อ่าง หม้อ เชิงตะเกียง ชามเครื่องหอม และขันเครื่องดื่มบูชา
อะไรที่เป็นทองก็เอาไปเป็นทอง อะไรที่เป็นเงินก็รวมกันเอาไปเป็นเงิน
สิ่งที่ไม่อาจชั่งได้เพราะมันใหญ่โต มากเหลือเกินคือ เสาใหญ่สองต้น อ่างสาครหนึ่งใบ
วัวทองสัมฤทธิ์ 12 ตัวใต้อ่างนั้น กับเชิงฐานต่าง ๆ
สิ่งเหล่านี้ เป็นการสร้างสมัยราชาซาโลมอน
เสาสูงต้นละ 8 เมตร รอบวง 5.3 เมตร หนา 75 มิลลิเมตร แต่กลวง
บนเสาจะมีบัวคว่ำทองสัมฤทธิ์ บัวนั้นสูง 2.2 เมตร มีลาย มีลูกทับทิม เสาสองต้นเหมือนกัน
โดยข้าง ๆ มีลูกทับทิม 96 ลูก และบนลาย มีลูกทับทิม 100 ลูก
เยเรมีย์ 52-2 เผาพระวิหาร!
เยเรมีย์ 52:12-16
เดือนที่ 5 วันที่ 10 ซึ่งเป็นปีที่ 19 แห่งการครองราชย์ของเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน
ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ คือ เนบูซาระดาน ผู้รับใช้ของเนบูคัดเนสซาร์ ได้เข้าไปในนครเยรูซาเล็ม
สิ่งที่เขาทำก็คือ เผาพระวิหารของพระเจ้า ราชวัง และบ้านเรือนในนครนั้น
บ้านทุกหลังถูกเผาไม่เหลือ
แล้วกองทัพเคลเดียที่อยู่กับผู้บัญชาการนั้น ก็ได้พังกำแพงนครเยรูซาเล็ม
เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ก็ได้กวาดเหล่าคนยากจนมาก
พร้อมกับคนที่เคยถูกทิ้งเอาไว้ รวมทั้งคนที่เคยหลบหนีไปเข้าข้างกษัตริย์แห่งบาบิโลน
พร้อมกับช่างฝีมือ ทั้งหมดนี้ เขาเอาไปเป็นเชลย
แต่เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ได้ทิ้งคนที่ยากจนที่สุด
เอาไว้เป็นคนทำสวนองุ่น และทำไร่ ทำนา
เยเรมีย์ 52-1 ย้อนเรื่องนครเยรูซาเล็มแตก
เยเรมีย์ 52:1-11
ราชาเศเดคียาห์ทรงอายุ 21 พรรษาตอนที่ทรงครองราชย์
และทรงครองราชสมบัติได้ 11 ปีในนครเยรูซาเล็ม
พระมารดาคือ ฮามุทาล ลูกสาวของเยเรมีย์แห่งลิบนาห์
พระราชาทรงทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามอย่างที่ราชาเยโฮยาคิมได้ทรงทำ
จึงถึงจุดที่พระเจ้าทรงพิโรธจนกระทั่งทรงเขวี้ยงพระราชาทั้งสองออกจากสายพระเนตรของพระองค์
ราชาเศเดคียาห์ได้กบฎต่อกษัตริย์แห่งบาบิโลน
ในปีที่ 9 ของการครองราชสมบัติ ในเดือนที่ 10 วันที่ 10
เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้มาพร้อมกับกองทัพ
โจมตีนครเยรูซาเล็ม ได้ล้อมเมืองไว้ และสร้างป้อมล้อมรอบเมือง
ดังนั้น เมืองจึงถูกล้อมจนถึงปีที่ 11 ของรัชสมัยเศเดคียาห์
ในวันที่ 9 ของเดือนที่ 4 เมืองขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ไม่มีอาหารให้ประชาชนเลย
นครจึงแตก ส่วนทหารก็หนีออกจากเมืองตอนกลางคืน
ทางประตูระหว่างกำแพงทั้งสอง ตรงที่เป็นสวนของพระราชา
ขณะที่ชาวเคลเดียล้อมเมืองอยู่
พวกเขาหนีไปทางอาราบาห์
แต่กองทัพเคลเดียได้ติดตามพระราชาไป
และทันพระราชา ณ ที่ราบเมืองเยรีโค กองทัพของพระราชากระเจิดกระเจิงไปหมด
เมื่อพวกเขาจับพระราชาเป็นเชลย ก็นำมาเฝ้ากษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ริบลาห์ ในแผ่นดินฮามัท
พระองค์จึงพิพากษาโทษของพระราชา
กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ประหารบรรดาโอรสของเศเดคียาห์ต่อหน้าต่อตา
และยังประหารเหล่าข้าราชการที่ริบลาห์ด้วย
จากนั้นก็ควักลูกตาของเศเดคียาห์ ล่ามด้วยตรวน นำไปยังบาบิโลน
จับขังคุกจนกระทั่งสิ้นพระชนม์
เยเรมีย์ 51-10 ที่สุดปลาย
เยเรมีย์ 51:59-64
คำที่ท่านเยเรมีย์ผู้กล่าวคำ ได้บัญชาเสไรอาห์ ลูกชายเนริยาห์ ลูกชายมาอาเสอาห์
เมื่อท่านไปยัังบาบิโลนพร้อมกับราชาเศดาคิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ ในปีที่สี่ของการครองราชสมบัติ
เสไรอาห์ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการที่พัก
เยเรมีย์ได้เขียนเรื่องหายนะต่าง ๆ ที่จะมาถึงบาบิโลน
ทุกคำที่เขียนนั้นเกี่ยวข้องกับบาบิโลน
และเยเรมีย์กล่าวแก่เสไรยาห์ว่า
“เมื่อท่านมายังบาบิโลน ขอให้ท่านอ่านคำเหล่านี้ และกล่าวว่า
‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้กล่าวถึงสถานที่นี้ว่า พระองค์จะทรงตัดมันออกไป
เพื่อว่าจะไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์
และมันจะกลายเป็นที่ร้างตลอดไป’
เมื่อท่านอ่านหนังสือนี้เสร็จแล้ว ก็ให้มัดหนังสือนี้กับหิน
แล้วโยนลงไปในแม่น้ำยูเฟรติส และกล่าวด้วยว่า
‘บาบิโลนจะจมลงอย่างนี้ จะไม่ลอยขึ้นอีกเลย
เหตุเพราะหายนะที่เรานำมาเหนือบาบิโลน
และพวกเขาจะเหน็ดเหนื่อย หมดแรง”
คำของท่านเยเรมีย์ มีเท่านี้