เยเรมีย์ 31-2 เราจะนำเจ้ากลับมา

เยเรมีย์ 31:7-12

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
“จงร้องเพลงด้วยความยินดีเพื่อยาโคบ
และส่งเสียงร้องให้กับบรรดาผู้ปกครองของประชาชาติ
ประกาศไป ให้สรรเสริญและกล่าวว่า
‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ขอทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดพ้น…
คือเหล่าคนที่หลงเหลืออยู่ในอิสราเอล’

judedest

 

ภาพจาก freestockphotos.com

ดูเถิด เราจะนำพวกเขามาจากประเทศทางเหนือ
และรวบรวมพวกเขามาจากแผ่นดินไกลโพ้น
ในพวกเขามีคนตาบอดและคนขาเสียเดินเขยก…
หญิงมีครรภ์และหญิงที่กำลังคลอดบุตร
พวกเขาไปด้วยกันเป็นกลุ่มชนใหญ่ พวกเขาจะกลับมาที่นี่
จะกลับมาด้วยน้ำตา
และด้วยเสียงร้องขอเมตตา เราจะนำพวกเขากลับมา
เราจะให้พวกเขาเดินข้าง ๆ ลำธารน้ำ
และเป็นทางเรียบที่จะไม่ต้องสะดุดหกล้ม
เพราะเราคือบิดาแห่งอิสราเอล เอฟราอิมคือลูกชายหัวปีของเรา

เยเรมีย์ 31-1 รักนิรันดร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เยเรมีย์ 31:1-6
“ในเวลานั้น” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส “เราจะเป็นพระเจ้าของทุกเผ่าในอิสราเอล และพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
“คนที่รอดตายจากดาบ ก็ได้พบพระคุณในถิ่นกันดาร
ยามที่อิสราเอลแสวงหาการพัก
องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏแก่เขาจากที่ไกล


tklai

ภาพจากwww.naturewallz.com

เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์
ดังนั้น เราจะยังคงให้ความรักซื่อตรงนี้แก่เจ้าต่อไป
และเราจะสร้างเจ้าขึ้นมา เจ้าจะถูกสร้างขึ้น  พรหมจารีอิสราเอล!
และเจ้าจะตกแต่งตัวเจ้าเองด้วยรำมะนา
จะออกไปเต้นรำในการเต้นรำของผู้ที่กำลังสนุกสนาน
และเจ้าก็จะปลูกสวนองุ่นอีกบนภูเขาแห่งสะมาเรีย
ผู้ที่ปลูกก็จะปลูกไป และเขาจะมีความสุขกับผลองุ่นเหล่านั้น
เพราะว่าจะมีวันที่เหล่าคนเฝ้ายามในเทือกเขาเอฟราอิมร้องเรียกว่า
“ลุกขึ้น ให้เราไปยังศิโยนกันเถอะ
ไปเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

เยเรมีย์ 30-4 สู่สภาพดี

เยเรมีย์ 30:18-24

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า
ดูเถอะ เราจะรื้อฟื้นกระโจมของยาโคบให้กลับสู่สภาพดี
และเราจะมีความสงสารเมตตาในเรื่องที่อยู่อาศัยของเขา
จะมีการสร้างเมืองขึ้นใหม่บนกองซากปรักหักพัก

Ruins-Of-Capernaum
ป้อมเมืองก็จะอยู่บนที่มันเคยอยู่
จะมีเพลงโมทนาพระคุณพระเจ้าออกมาจากสถานที่เหล่านั้น
และจะมีเสียงของการเฉลิมฉลอง
เราจะจำนวนประชากรของพวกเขาอย่างทวีคูณ
และเขาจะไม่มีจำนวนน้อย .. เราจะทำให้เขาได้รับเกียรติและเขาจะไม่เป็นคนเล็กน้อย
ลูกหลานของเขาจะเป็นเหมือนสมัยก่อน
และเราจะยอมรับที่ชุมนุมของพวกเขา
เราจะลงโทษคนที่กดขี่พวกเขา
เจ้าชายที่ปกครองพวกเขาจะออกมาจากพวกเขา
ผู้ปกครองจะออกมาจากท่ามกลางพวกเขา
เราจะทำให้ท่านผู้นั้นมาใกล้
และท่านจะเข้ามาใกล้เรา
เพราะใครเล่า..จะกล้าเข้ามาใกล้เราด้วยตัวเอง?
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
และเจ้าจะได้เป็นประชากรของเรา เราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า..
จงมองดูพายุขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ความพิโรธได้จากไปแล้ว
เป็นพายุหมุนรุนแรง
มันจะไปหมุนกวาดหัวคนชั่วร้าย
พระพิโรธอันแรงกล้าขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่กลับมา
จนกว่าพระองค์จะทรงทำสิ่งที่ทรงประสงค์สำเร็จทุกอย่าง
ในวันแห่งยุคสุดท้ายเจ้าจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้

เยเรมีย์ 30-3 คนนอกคอก

เยเรมีย์ 20:12-17

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ความเจ็บปวดของเจ้านั้น ไม่อาจรักษาให้หายได้
และบาดแผลของเจ้าก็เหวอะหวะ

ไม่มีใครจะทำคดีให้เจ้า
ไม่มียาที่จะรักษาบาดแผลของเจ้า
ไม่มีการบำบัดสำหรับเจ้า
คนรักทั้งหลายก็ลืมเจ้าไปเสียแล้ว
พวกเขาไม่สนใจเจ้าสักนิด

ภาพจาก http://www.thetruthseeker.co.uk/

 

ภาพจาก http://www.thetruthseeker.co.uk/
ภาพจาก http://www.thetruthseeker.co.uk/

เราได้ตีสอนเจ้ารุนแรงเหมือนการโบยของศัตรู
เป็นการลงโทษที่มาจากศัตรูที่โหดเหี้ยม
เพราะความผิดของเจ้าใหญ่ยิ่งนัก
เพราะความบาปของเจ้าก็ฉาวโฉ่
เหตุใดเจ้าจึงร้องโวยวายเพราะความเจ็บปวดของเจ้า
ความเจ็บปวดของเจ้านั้นรักษาให้หายไม่ได้
บาปมากมายของเจ้านั้นลือกระฉ่อนไปทั่ว
เราได้ทำสิ่งนี้ต่อเจ้า!

ดังนั้น คนที่เขมือบเจ้า ก็จะถูกกิน
เหล่าศัตรูของเจ้า ทุกคน… จะต้องกลายเป็นเชลย
คนที่ปล้นเจ้า จะถูกปล้น
และคนที่ดักเจ้า ก็จะกลายเป็นเหยื่อ
เพราะเราได้รื้อฟื้นสุขภาพของเจ้าขึ้น
และบาดแผลของเจ้าจะได้รับการรักษา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
เพราะเขาทั้งหลายจะเรียกเจ้าว่า คนนอกคอก
คือศิโยน… ที่ไม่มีใครสนใจ

เยเรมีย์ 30-2 อย่ากลัวเลย..ยาโคบ

เยเรมีย์ :8-11

ในวันนั้น จะเกิดอย่างหนึ่งขึ้น
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
เราจะหักแอกออกจากคอของเจ้า

ถ้าคนต้องทำงานเยี่ยงทาส ก็อยากที่จะหลุดจากแอกนี้ยิ่งนัก
ถ้าคนต้องทำงานเยี่ยงทาส ก็อยากที่จะหลุดจากแอกนี้ยิ่งนัก

เราจะทำลายโซ่ตรวนของเจ้า
และคนต่างชาติจะไม่สามารถทำให้เขาเป็นทาสได้อีก
แต่พวกเขาจะปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเขาและของราชาดาวิดผู้ที่เราจะยกขึ้นมาเพื่อเขา

 

ดังนั้น อย่ากลัวไปเลย  ยาโคบ…คนรับใช้ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
อย่าหวาดหวั่นครั่นคร้าม โออิสราเอล
เพราะเราจะช่วยเจ้าจากที่แสนไกล
และลูกหลานของเจ้า เราจะช่วยจากการเป็นเชลย
ยาโคบจะกลับมา จะมีความสงบสุขและได้พักผ่อน
จะไม่มีสิ่งใดทำให้เขากลัวได้อีก
เพราะเราอยู่กับเจ้าเพื่อช่วยเจ้าให้รอด
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เราจะทำให้ทุกชาติถึงที่สิ้นสุด
บรรดาชาติที่เราไล่เจ้าให้กระจัดกระจายไปอยู่นั้น
แต่สำหรับเจ้า เราจะไม่ให้ถึงที่สิ้นสุด
เราจะตีสอนเจ้าตามขนาดความผิดของเจ้า
เราจะไม่ปล่อยให้เจ้าลอยนวลโดยไม่ต้องรับผิด

เยเรมีย์ 30-1 จะผ่านพ้นไปได้

 

เยเรมีย์ 1-7

พระคำของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์จากองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
พระเจ้าแห่งอิสราเอล องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า  ..
จงเขียนคำที่เราได้พูดกับเจ้าลงไป เพราะวันหนึ่งจะมาถึง
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
วันนั้นเราจะให้คนของเราทั้งอิสราเอลและยูดาห์กลับสู่สภาพดี
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
และเราจะนำเขากลับมายังแผ่นดินที่เราได้ให้แก่บรรพบุรุษ
และพวกเขาจะครอบครองแผ่นดินนั้น

วันที่เขาทุกข์ใจ เขาจะผ่านมันไปได้. ภาพโดย เจมส์ ทิสสอท
วันที่เขาทุกข์ใจ เขาจะผ่านมันไปได้. ภาพโดย เจมส์ ทิสสอท

ต่อไปนี้เป็นพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสเรื่องอิสราเอลและยูดาห์
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
เราได้ยินเสียงร้องด้วยความหวาดหวั่น เพราะมีสิ่งร้ายเกิดขึ้น ไม่มีสันติสุขเลย
จงถามขึ้นมาเถิด และดูซิ … ผู้ชายจะคลอดบุตรได้หรือ
เหตุใดเราจึงเห็นชายทุกคน เอามือจับท้องเหมือนกับหญิงกำลังคลอด?
เหตุใดใบหน้าของทุกคนซีดเผือด?
อา…วันนั้นใหญ่เหลือเกิน ไม่มีวันไหนเหมือนวันนั้น
เป็นเวลาที่ยาโคบท้อแท้ทุกข์ใจยิ่งนัก  ถึงกระนั้น เขาจะผ่านมันไปได้

เยเรมีย์ 29-5 กล้ามุสาในพระนามพระเจ้า!

เยเรมีย์ 29:24-32

ถึงเชไมยาห์ชาวเนเฮลาม…
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
เจ้าได้ส่งจดหมายในนามของเจ้าไปยังคนที่อยู่ในนครเยรูซาเล็ม
และส่งไปยังเศฟันยาห์ บุตรมาเสยาห์ผู้เป็นปุโรหิต
รวมถึงเหล่าปุโรหิตทั้งหลาย กล่าวว่า
..องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เป็นปุโรหิตแทนที่เยโฮยาดาผู้เป็นปุโรหิต
เพื่อว่าท่านจะดูแลพระวิหารของพระเจ้า
และจะได้จับกุมคนบ้าทุกคนที่กล่าวพระคำ เอาไปจำไว้ในขื่อและสวมปลอกคอเหล็ก
Ball_chain
บัดนี้ ทำไมเจ้าจึงไม่ต่อว่าเยเรมีย์ชาวอานาโธทผู้กล่าวพระคำแก่เจ้าเล่า?
เขาได้ส่งจดหมายมาถึงเราที่บาบิโลนว่า “เวลาที่เราจะอยู่เป็นเชลยนั้นยาวนาน
ดังนั้นจงสร้างบ้านเรือน อาศัยในนั้น ปลูกสวนและกินผลจากสวนนั้น”

เศฟันยาห์ผู้เป็นปุโรหิตได้อ่านจดหมายให้เยเรมีย์ฟัง
แล้วจึงมีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ว่า
“จงส่งสารไปยังคนที่ถูกเนรเทศทุกคน กล่าวว่า
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถึงเชไมยาห์ชาวเนเฮลาม
เพราะว่า เขไมยาห์ได้กล่าวคำแก่เจ้าทั้งที่เราไม่ได้ส่งเขาไป
เขาทำให้พวกเจ้าเชื่อในคำมุสาของเขา
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
เราจะลงโทษเขไมยาห์ชาวเนเฮลาม และลูกหลานของเขา
จะไม่มีใครสักคนอยู่ท่ามกลางประชาชน
พวกเขาจะไม่เห็นสิ่งดีที่เราจะทำให้แก่ประชาชนของเรา
เพราะว่าเขาได้กล่าวคำที่กบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 29-4 สองคนที่ทำร้ายอิสราเอล

เยเรมีย์ 29:20-23

จงฟังคำขององค์พระผู้เป็นเจ้า เหล่าผู้ที่ถูกเนรเทศไปจากเยรูซาเล็มถึงบาบิโลน
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล
ทรงกล่าวถึงอาหับบุตรโคลายาห์และเศเดคียาห์บุตรมาอาเสยาห์
ทั้งสองได้กล่าวคำเท็จให้เจ้าฟังในนามของเรา

tej
ดูเถิด เราจะส่งเขาไปให้ราชาเนบูคัดเนสซาร์
เและท่านจะสังหารทั้งสองต่อหน้าต่อตาท่าน
เพราะเขาทั้งสองเป็นอย่างนี้ เหล่าคนที่ถูกเนรเทศจากยูดาห์ไปบาบิโลน
ก็จะแช่งว่า
“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เจ้าเป็นเหมือนเศเดคียาห์และอาหับ
คนที่กษัตริย์แห่งบาบิโลนเผาเสียด้วยไฟ”
เพราะเขาทั้งสองทำสิ่งที่ร้ายกาจในหมู่คนอิสราเอล
ได้เป็นชู้กับภรรยาของเพื่อนบ้าน
ได้กล่าวคำมุสาในนามของเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด
เราเป็นผู้รู้เห็น และเป็นพยาน” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 29-3 มะเดื่อเน่า

เยเรมีย์ 29:15-19

“เพราะเจ้ากล่าวว่า .. พระเจ้าทรงแต่งตั้งผู้กล่าวคำแก่เราในบาบิโลน ..
ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้า จึงตรัสเรื่องของกษัตริย์ที่ขึ้นมาบนบัลลังก์ของดาวิด
และเกี่ยวข้องกับคนที่มาอาสัยอยู่ในเมืองนี้
ญาติของเจ้าที่ไม่ได้ออกไปเป็นเชลยกับพวกเจ้า
..องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้
ดูเถิด เราได้ส่งดาบ ความอดอยากและโรคระบาดมา
และเราจะทำให้เขาเป็นเหมือนลูกมะเดื่อเน่า   เน่ามากจนกินไม่ได้

fignao
เราจะตามเขาไปด้วยดาบ ความอดอยากและโรคระบาด
ทำให้เขาเป็นที่สยองขวัญต่อเหล่าอาณาจักรต่าง ๆ ในโลกนี้
กลายเป็นที่แช่งสาป น่ากลัว เป็นที่ซุบซิบและเป็นที่ตำหนิ
ท่ามกลางประชาชาติที่เราได้ไล่พวกเขาเข้าไปอยู่
ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาไม่สนใจถ้อยคำที่เราเฝ้าส่งสื่อสารมาให้เจ้า
โดยเหล่าผู้กล่าวคำ ผู้รับใช้ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

เยเรมีย์ 29-2 แผนดี ๆ ของพระเจ้า

เยเรมีย์ 29:10-14

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เมื่อเวลาผ่านไป 70 ปี ครบกำหนดของบาบิโลนแล้ว
เราก็จะมาเยี่ยมเยียนเจ้า และเราจะให้คำสัญญาของเรานั้น สำเร็จ
เราจะนำเจ้ากลับมายังสถานที่นี้

Je29

เพราะเรารู้แผนการที่เรามีให้เจ้า  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกล่าว…
เป็นแผนการเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ใช่เพื่อสิ่งร้าย
เป็นแผนการที่จะให้อนาคตและความหวังใจ
แล้วเจ้าจะร้องทูลเรา เจ้าจะเข้ามาและอธิษฐานต่อเรา
และเราจะฟังเสียงของเจ้า
เจ้าจะแสวงหาเราและพบเรา เมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสุดใจของเจ้า
เจ้าจะพบเรา… องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
และเราจะทำให้เจ้ากลับสู่สภาพดี
จะรวบรวมพวกเจ้าจากประชาชาติต่าง ๆ จากสถานที่ซึ่งเราไล่ให้เจ้าไปอาศัยอยู่
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
และเราจะนำเจ้ากลับมาจากสถานที่ซึ่งเราเนรเทศเจ้าไป

เยเรมีย์ 29-1 จดหมายจากบ้าน

เยเรมีย์ 29:1-9

ต่อจากนี้ไป เป็นข้อความในจดหมายที่ท่านเยเรมีย์
ผู้กล่าวคำได้เขียนจากนครเยรูซาเล็มไปถึงผู้ใหญ่ที่ยังคงมีชีวิตอยู่
เหล่าปุโรหิต ผู้กล่าวคำ และประชาชน
ซึ่งราชาเนบูคัดเนสซาร์ได้กวาดไปเป็นเชลยจากนครเยรูซาเล็มไปยังบาบิโลน

นี่เป็นเวลาหลังจากราชาเยโคนิยาห์และพระมารดา
เหล่าขันที และข้าราชการแห่งยูดาห์และเยรูซาเล็ม
เหล่าช่างฝีมือ ช่างทำโลหะได้ออกไปจากนครเยรูซาเล็ม

babylonian-empire-606-536-bc

ผู้ส่งจดหมายคือ เอลาสาห์ลูกชายของชาฟาน และเกมาริยาห์ลูกชายของฮิลคียาห์
ผู้ซึ่งราชาเศเดคียาห์แห่งยูดาห์ได้ส่งไปถึงราชาเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน  ความว่า

องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสแก่เหล่าคนที่เราส่งให้ไปเป็นเชลย จากเยรูซาเล็มไปยังบาบิโลนว่า…
จงสร้างบ้านเรือนและอาศัยในบ้านนั้น  ให้ทำสวนพืชผัก และกินผลิตผลจากสวนนั้น..
และจงให้ลูกสาวของเจ้าได้มีครัวเรือน เพื่อว่าจะได้มีลูกชายลูกสาว 

จงเพิ่มทวีคูณอย่าให้จำนวนลดลง
แต่เจ้าจงแสวงหาสวัสดิภาพให้แก่เมืองที่เจ้าถูกเนรเทศไปอยู่นั้น
จงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเมืองนั้น
เพราะว่า หากเมิองมีสวัสดิภาพ เจ้าก็จะมีความสุข  

องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้
อย่ายอมให้ผู้กล่าวคำและผู้ทำนายซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเจ้านั้นหลอกลวงเจ้า
และอย่าไปฟังความฝันของพวกเขา
เพราะพวกเขาได้กล่าวคำมุสาในนามของเรา เราไม่ได้ส่งพวกเขาไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 28-2 แอกเหล็กแทนแอกไม้

เยเรมีย์ 28:10-17

แล้วฮานันยาห์ก็เอาแอกออกจากคอของเยเรมีย์  และหักมันเสีย
ฮานันยาห์ได้พูดต่อหน้าประชาชนทั้งปวงว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้…
เราจะหักแอกของราชาเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลนภายในสองปี”
แต่เยเรมีย์ก็เดินออกไป…

Jer28yokebroken
ต่อมา ไม่นานหลังจากที่ฮานันยาห์ได้ทำลายแอกจากคอของเยเรมีห์ ผู้กล่าวคำ
ก็มีพระดำรัสมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงเขาว่า
“จงไปบอกฮานันยาห์ดังนี้ ..องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
เจ้าได้ทำลายแอกไม้ไป  แต่เจ้าได้สร้างแอกเหล็กขึ้นมาแทนที่
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า..
เราได้วางแอกเหล็กลงบนคอของประชาชาติทั้งหลาย
เพื่อให้พวกเขาได้รับใช้ราชาเนบูคัดเนสซาร์  กษัตริย์แห่งบาบิโลน
และพวกเขาจะรับใช้เป็นทาสเนบูคัดเนสซาร์
เพราะเราเองได้ให้เขาแม้กระทั่งสัตว์ในทุ่ง.. “

และเยเรมีย์ผู้กล่าวคำของพระเจ้า จึงกล่าวแก่ฮานันยาห์ว่า
“ฟังนะ  ฮานันยาห์  องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ส่งท่านมา
และท่านได้ทำให้ประชาชนเหล่านี้เชื่อคำมุสาของท่าน
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ..
ดูเถิด เราจะเอาเจ้าออกไปจากโลกนี้ ปีนี้เจ้าจะตาย
เพราะเจ้าได้กล่าวคำอันเป็นกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า”

ในปีนั้น เดือนที่เจ็ด ฮานันยาห์ก็สิ้นชีวิต

เยเรมีย์ 28-1 ฮานันยาห์เจ้าเล่ห์

เยเรมีย์ 28:1-9

ในปีนั้นเอง ต้นรัชสมัยของราชาเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
ในเดือนที่ 5 ปีที่สี่ ฮานันยาห์บุตรชายของอัสซูร์ ซึ่งเป็นผู้กล่าวคำจากกิเบโอน
พูดกับข้าในพระวิหารของพระเจ้า ต่อหน้า ปุโรหิตและประชาชนทั้งหลายว่า

wearing-yoke
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ..
เราได้ทำลายแอกของราชาบาบิโลนแล้ว
ภายในสองปี เราจะนำภาชนะต่าง ๆ ของพระวิหารของพระเจ้า
ที่ราชาเนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้ยึดไปและนำไปยังบาบิโลนกลับมา
และเรายังจะนำเยโคนิยาห์ โอรสของราชาเยโฮยาคิม
กษัตริย์แห่งยูดาห์ รวมทั้งคนทั้งหลายที่ถูกกวาดไปบาบิโลนกลับมาด้วย..
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ … เพราะเราจะหักแอกของราชาแห่งบาบิโลน”
แล้วเยเรมีย์กล่าวแก่ฮานันยาห์ ผู้กล่าวคำ ต่อหน้าเหล่าปุโรหิต
และประชาชนที่ยืนอยู่ในพระวิหารของพระเจ้า ว่า..
“อาเมน .. ขอให้พระเจ้าทรงทำเช่นนั้น
ขอให้พระเจ้าทรงทำให้คำที่ท่านเพิ่งพยากรณ์ไปเกิดขึ้นจริง
และนำเอาภาชนะในพระวิหารของพระเจ้า รวมทั้งคนที่ถูกเนรเทศไปกลับมา
แต่ถึงกระนั้น ก็ขอให้ฟังคำที่ข้ากำลังจะกล่าวให้ท่านและประชาชนทั้งหลายฟัง
ผู้กล่าวคำทั้งหลายที่มาก่อนหน้าท่านและข้าเองในสมัยโบราณ
ได้พยากรณ์ถึงสงคราม ความอดอยากและโรคระบาดต่อหลาย ๆ ประเทศ หลายอาณาจักร
เมื่อคำที่พวกเขากล่าวเกิดขึ้นจริง ดังนั้นก็จะรู้ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งผู้กล่าวคำท่านนั้นมา

เยเรมีย์ 27-3 ประเด็นของใช้ในพระวิหาร

เยเรมีย์ 27:16-22

แล้วข้าก็กล่าวกับปุโรหิตและคนทั้งปวงว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ อย่าฟังคำของผู้กล่าวคำที่พยากรณ์ให้เจ้าว่า ..
ดูเถิด ภาชนะในพระวิหารของพระเจ้าจะถูกนำกลับมาจากบาบิโลนในไม่ช้านี้…
เพราะคำดังกล่าวเป็นคำมุสา
อย่าไปฟังพวกเขา  จงรับใช้ราชาแห่งบาบิโลนและมีชีวิตอยู่
เหตุใดเมืองนี้จึงจะต้องกลายเป็นเมืองร้างเล่า?

brazen-sea

หากพวกเขาเป็นผู้กล่าวคำและพระคำของพระเจ้าอยู่กับเข้า
ก็ให้พวกเขาอ้อนวอนต่อพระเจ้าว่า
ขออย่าให้ภาชนะต่างๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ในพระวิหารของพระเจ้า
รวมทั้งในราชวัง ในเยรูซาเล็มจะไม่ต้องถูกกวาดไปบาบิโลน

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสถึงเสาหาร   ขันสาคร  ขาตั้งและเครื่องใช้อื่น ๆ
ที่ราชาเนบูคัดเนสซาร์ไม่ได้กวาดไป และยังเหลืออยู่ในเมืองนี้
ครั้งเมื่อพระองค์นำเยโคนิยาห์ โอรสของราชาเยโฮยาคิม ราชาแห่งยูดาห์
รวมทั้งชนชั้นสูงแห่งยูดาห์และเยรูซาเล็มไปยังบาบิโลน

สำหรับเรื่องของภาชนะที่ยังหลงเหลือในพระวิหารของพระเจ้า
ในราชวังและในเยรูซาเล็มนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า ..
มันจะถูกนำไปยังบาบิโลน และอยู่ที่นั่นจนถึงวันที่เราเยี่ยมเยียนมัน
..องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
แล้วเราจะนำมันกลับมา เก็บไว้ในที่นี้อีกครั้ง

เยเรมีย์ 27-2 ยอมอย่างที่พระเจ้าตรัส

เยเรมีย์ 27:8-15

“แต่หากชาติใด อาณาจักรใด ไม่ยอมรับใช้เนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน
และไม่ยอมอยู่ใต้แอกแห่งกษัตริย์แห่งบาบิโลนแล้วละก็
เราจะลงโทษชาตินั้นด้วยดาบ ด้วยความอดอยาก และโรคระบาด …
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ… จนเราได้เผาผลาญเขาด้วยมือของเนบูคัดเนสซาร์

ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท
ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท

ดังนั้น เจ้าจะต้องไม่ฟังเสียงของผู้กล่าวคำ หรือผู้ทำนาย หรือนักฝัน หรือหมอดู หรือคนทำเวทมนต์ของพวกเจ้า
พวกเขาจะกล่าวแก่เจ้าว่า ..ท่านจะไม่ต้องไปรับใช้ราชาแห่งบาบิโลนหรอก..
เพราะคำทำนายเหล่านั้น เป็นคำมุสา  มันจะทำให้เจ้าต้องถูกย้ายไปจากแผ่นดินของเจ้าเอง
และเราจะไล่เจ้าออกไป เจ้าจะพินาศ
แต่ชาติใดที่ยอมอยู่ใต้ราชาแห่งบาบิโลนและรับใช้เขา ..
เราจะวางเขาไว้บนแผ่นดินของตน เพื่อให้ทำไร่ไถนา และอาศัยอยู่ที่นั่น
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ”

ข้าได้ทูลราชาเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ดังนี้..
”ขอให้ท่านยอมอยู่ใต้แอกของราชาบาบิโลน
รับใช้พระองค์ และประชาชนเมืองนั้น และท่านจะมีชีวิตอยู่…
เหตุใดท่านและประชาชนของท่านจะต้องมาตายด้วยดาบ ด้วยความอดอยากและโรคระบาด
ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสว่าจะเกิดกับประชาชาติที่ไม่ยอมรับใช้ราชาเนบูคัดเนสซาร์?
ขออย่าทรงไปฟังเสียงของ ผู้กล่าวคำที่กล่าวกับพระองค์ว่า …ท่านจะไม่ต้องรับใช้ราชาแห่งบาบิโลน..
เพราะคำพยากรณ์เหล่านั้นเป็นคำมุสา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ..เราไม่ได้ส่งพวกเขามา
แต่พวกเขากลับกล่าวคำที่มุสาในนามของเรา
ผลก็คือ เราจะไล่เจ้าออกไป และเจ้าจะพินาศ ทั้งตัวเจ้า และผู้กล่าวคำที่พยากรณ์ให้เจ้า..”

 

เยเรมีย์ 27-1 แอกแห่งบาบิโลน

เยเรมีย์ 27:1-7

ต้นรัชกาลราชาเศเดคียาห์ โอรสราชาโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ ..
มีพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์   องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าว่า
“จงไปทำสายรัดและแอกให้ตัวเอง และสวมมันไว้ที่คอของเจ้า
จากนั้นก็สื่อสารไปยังราชาแห่งเอโดม   ราชาแห่งโมอับ
ราชาทั้งหลายที่เป็นโอรสของอัมโมนกษัตริย์แห่งเมืองไทระ  และราชาแห่งไซดอน
โดยส่งผ่านมือของทูตที่มาเข้าเฝ้าราชาเศเดคียาห์
ฝากคำเหล่านี้ไปยังเจ้านายของพวกเขา

 

ภาพเอื้อเฟื้อจากhttp://www.visualbiblealive.com/image_download.php?image_id=79435&type=mm
ภาพเอื้อเฟื้อจากhttp://www.visualbiblealive.com/image_download.php?image_id=79435&type=mm

“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ..
เจ้าจงกล่าวคำต่อไปนี้ให้เจ้านายของพวกเจ้าฟังว่า
“เราเอง.. ผู้ได้สร้างโลก ทั้งมนุษย์และสัตว์ที่อยู่ในโลกด้วยอำนาจยิ่งใหญ่
ด้วยแขนที่ยื่นออกไป  เราจะให้แก่ใครก็แล้วแต่ที่เราเห็นชอบ
บัดนี้ เราจะมอบดินแดนเหล่านี้ทั้งสิ้นให้กับราชาเนบูคัดเนสซาร์
กษัตริย์แห่งบาบิโลนซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเรา
และเราได้ให้สัตว์ป่าเพื่อปรนนิบัติเขาด้วย
ประชาชาติทั้งหลายจะรับใช้เขาและลูกชาย รวมไปถึงหลานของเขาด้วย
จนกว่าเวลากำหนดแห่งแผ่นดินของเขาจะมาถึง
แล้วต่อมาหลายประเทศและกษัตริย์ทั้งหลายจะทำให้เขาเป็นทาส”

 

เยเรมีย์ 26-3 คำทำนายถึงเยรูซาเล็ม

เยเรมีย์ 26:16-24

ผู้ใหญ่บางคนในเมืองได้ลุกขึ้นพูดกับประชาชนที่ชุมนุมอยู่นั้นว่า
“ท่านมีคาห์แห่งโมเรเชท ได้ทำนายในสมัยราชาเฮเซคียาห์
กษัตริย์แห่งยูดาห์ และกล่าวแก่ประชาชนว่า… องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า

“ศิโยนจะถูกไถกลบเหมือนกับทุ่งนา
เยรูซาเล็มจะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
และเป็นกองภูเขาบ้านไม้ทับถมกันสูง”

Jeremiah26
เยรูซาเล็มเปลี่ยนไปเป็นป่า


แล้วราชาเฮเซคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ และคนยูดาห์ได้ประหารเขาหรือ?
ไม่ใช่เขาหรือที่เกรงกลับพระเจ้า
และได้ทูลอ้อนวอนพระองค์ จนพระองค์ทรงกลับพระทัยไม่นำความวิบัติมาถึงพวกเขา..?
แต่ตอนนี้ พวกเรากำลังจะนำหายนะยิ่งใหญ่มาสู่ตัวเราเอง”

ยังมีชายอีกคนที่กล่าวคำทำนายในพระนามของพระเจ้า
นั่นคือท่านอุรีอาห์บุตรชายเชไมอาห์ จากคิริยาทเยอาริม

เขาได้ทำนายต่อต้านเมืองนี้ และแผ่นดินนี้เหมือน ๆ กับท่านเยเรมีย์
และเมื่อราชาเยโฮยาคิมพร้อมกับนักรบ และข้าราชการได้ยินคำทำนายของท่าน
ราชาเยโฮยาคิมก็ต้องการประหารท่าน
เมื่ออุรียาห์รู้ข่าว  เขาก็หนีไปอียิปต์
เมื่อราชาเยโฮยาคิมส่งเอลนาธัน บุตรชายอัคโบร์และคนอื่น ๆ ไปกับเขา
ก็ได้นำอุริยาห์กลับมาส่งให้ราชาเยโฮยาคิม  พระราชาก็แทงเขาจนตาย และนำศพของเขาไปรวมไว้กับหมู่คนธรรมดา

แต่อาหิคัมบุตรของชาฟาน ได้ช่วยเยเรมีย์ไว้ไม่ให้ประชาชนสังหารเขา

เยเรมีย์ 26-2 เอาโทษประหารไป

เยเรมีย์ 26:10-15

เมื่อเหล่าข้าราชการของยูดาห์ได้ข่าว..
พวกเขาก็เดินทางมาจากราชวังถึงพระวิหารของพระเจ้าและนั่งตรงที่ประตูใหม่ของพระวิหาร…
จากนั้นเหล่าปุโรหิตและผู้ทำนายก็กล่าวต่อข้าราชการและประชาชนว่า
“คนนี้ควรได้รับโทษประหาร เพราะเขาได้ทำนายต่อต้านเมืองนี้อย่างที่พวกท่านได้ยินด้วยหูของท่านเอง”

แล้วเยเรมีย์จึงกล่าวแก่ข้าราชการและประชาชนว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งข้ามากล่าวคำต่อต้านวงศ์วานนี้ รวมทั้งเมืองนี้ ท่านก็ได้ยินหมดแล้ว
ดังนั้น  ท่านก็ควรจะแก้ไขทางและการกระทำของพวกท่าน
และเชื่อฟังคำแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน
และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปลี่ยนพระทัยไม่ให้เกิดภัยพิบัติที่ข้าได้กล่าวแก่ท่าน..

jere-weep
แต่สำหรับข้าแล้ว
ข้าอยู่ในมือของพวกท่าน  ก็ให้ท่านทำสิ่งที่เห็นว่าดีและถูกต้องแล้วกัน
เพียงแต่ขอให้รู้ว่า  หากท่านประหารข้า
ก็เท่ากับท่านได้ให้เลือดของคนบริสุทธิ์ตกอยู่กับท่านและเมืองนี้
รวมถึงผู้อาศัยในเมืองนี้
เพราะความจริงก็คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งข้ามาเพื่อพูดกับท่านทุกอย่างที่พูดไปแล้ว

 

เยเรมีย์ 26-1 พูดอย่างนี้..ข้าไม่ชอบ!

เยเรมีย์ 26:1-9
ต้นรัชกาลราชาเยโฮยาคิม โอรสของราชาโยสิยาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
มีพระดำรัสมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าดังนี้
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงยืนขึ้นในลานแห่งพระวิหารของพระเจ้า
และกล่าวแก่เมืองทั้งหลายแห่งยูดาห์ที่ได้เข้ามานมัสการในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ทุกคำที่เราได้บัญชาให้เจ้าพูดกับเขา และอย่าเก็บไว้สักคำเดียว
พวกเขาอาจจะฟัง และทุกคนหันกลับจากทางชั่วของตน
เพื่อว่า เราจะได้เปลี่ยนใจไม่นำวิบัติมาสู่พวกเขาเนื่องจากความบาปชั่วทั้งหลาย
Jer_BreakingYoke
เจ้าจะพูดกับพวกเขาว่า
‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ … หากเจ้ายังไม่ฟังเสียงของเรา
เพื่อที่จะดำเนินตามกฎเกณฑ์ที่เราวางไว้ต่อหน้าพวกเจ้า
หากเจ้าไม่ฟังเสียงของผู้รับใช้ที่เราส่งมากล่าวคำของเราอย่างเร่งด่วน
… เราจะทำให้วงศ์วานนี้เป็นเหมือนชิโลห์
และเราจะทำให้เมืองนี้เป็นที่สาปแช่งสำหรับทุกประเทศในโลก”
เหล่าปุโรหิต ผู้ทำนาย และคนทั้งหลายที่ได้ยินเยเรมีห์กล่าวคำข้างต้นในพระวิหารของพระเจ้า
… และเมื่อเยเรมีย์พูดสิ่งที่พระเจ้าทรงสั่งให้เขาพูดทั้งสิ้น
เหล่าปุโรหิต ผู้ทำนายและประชาชนก็จับเขาไว้ กล่าวว่า
“เจ้าจะต้องตาย! เหตุใดเจ้าจึงทำนายในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
วงศ์วานนี้จะเป็นเหมือนชิโลห์และเมืองนี้จะกลายเป็นเมืองร้างเปล่า
ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่?”
พวกเขาทุกคนล้อมเยเรมีย์เอาไว้ ในพระวิหารของพระเจ้า

เยเรมีย์ 25-4 พิโรธแรงกล้า!

เยเรมีย์ 25:30-38

“ดังนั้น  เจ้า…จะต้องกล่าวคำทำนายต่อต้านพวกเขาดังนี้ …

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปล่งสุรเสียงสนั่นมาจากเบื้องบน
พระองค์ทรงเปล่งสุรเสียงของพระองค์จากที่ประทับอันบริสุทธิ์ของพระองค์
พระองค์จะทรงคำรามด้วยพลังยิ่งใหญ่ต่อสู้คนของพระองค์
และจะทรงตะโกนเหมือนกับคนที่กำลังย่ำองุ่น
ต่อต้านคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินโลก
ความโกลาหลจะส่งเสียงดังไปสู่ที่สุดปลายแผ่นดิน…
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีคดีกับประชาชาติทั้งหลาย
พระองค์จะทรงพิพากษามนุษย์ทั้งปวง และจะทรงประหารคนชั่วร้ายด้วยดาบ  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ”

“ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า
ดูเถิด หายนะกำลังแพร่ออกไปจากชาติหนึ่งสู่อีกชาติหนึ่ง
และพายุใหญ่กำลังเกิดขึ้นจากที่ไกลสุดแห่งแผ่นดินโลก
!

และคนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประหารจะมีมากมายจากสุดปลายข้างหนึ่ง ไปยังสุดปลายอีกข้างหนึ่งของแผ่นดิน   ไม่มีใครร้องไห้คร่ำครวญเพื่อเขา ไม่มีใครรวบรวมศพของพวกเขา เพราะศพจะกลายเป็นเหมือนมูลสัตว์ที่กระจายอยู่บนพื้นดิน

จงร้องไห้คร่ำครวญเถอะเหล่าผู้เลี้ยงแกะ และร้องออกมา
กลิ้งเกลือกอยู่บนเถ้า เหล่าเจ้าของฝูงสัตว์
เพราะวันแห่งการสังหาร และการกระจัดกระจายมาถึงแล้ว
และเจ้าจะล้มลงเหมือนกับภาชนะที่เลือกแล้ว
ไม่มีที่ลี้ภัยเหลือให้เหล่าผู้เลี้ยงแกะ
ไม่มีทางหนีสำหรับเหล่าเจ้าของฝูงสัตว์
เสียงหนึ่ง… เสียงของเหล่าผู้เลี้ยง
และเสียงคร่ำครวญโหยไห้ของเหล่าเจ้าของฝูงสัตว์
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขา
เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิโรธยิ่งนัก

singtokrot
เหมือนกับสิงโตหนุ่มที่ออกมาจากที่ซ่อน
เพราะแผ่นดินของเขากลายเป็นที่ร้างเปล่าประโยชน์
ด้วยดาบสังหารของผู้กดขี่ และด้วยพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์