เนหะมีย์ 4-3 ให้กำลังใจ

เนหะมีย์ 4:10-14

ในยูดาห์ มีการพูดกันว่า “คนที่รับภาระนั้นก็เริ่มหมดแรง
เพราะมีกองอิฐ หินมากมาย  เราไม่สามารถที่จะสร้างกำแพงขึ้นมาใหม่ได้”

และศัตรูของเรากล่าวว่า
“เขาจะไม่รู้อะไรจนกว่า เรามาอยู่ท่ามกลางเขา และสังหารพวกเขา หยุดงานที่พวกเขาทำ”

northrop-henry-davenport-charming-bible-stories-philadelphia-j-h-moore-company-1893-320
ในเวลานั้นเอง คนยิวที่อยู่ใกล้ ๆ ก็มาหาเราจากทุกทิศทุกทาง และกล่าวกับเราถึงสิบครั้งว่า
“ท่านต้องกลับมาหาเรา”
ดังนั้น ในส่วนต่ำที่สุดของหลังกำแพง ซึ่งเป็นที่โล่ง
ข้าจึงจัดประชาชนแบ่งเป็นเผ่า พร้อมกับดาบ หอก และธนู
และเมื่อข้ามองไปและลุกขึ้น และกล่าวแก่คนชั้นสูง
และข้าราชการ รวมทั้งคนทั้งปวงว่า
“อย่ากลัวเขาเลย จงระลึกถึง พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่และน่ากลัว
และสู้เพื่อพี่น้องของท่าน สู้เพื่อลูกชาย ลูกสาว ภรรยา และบ้านของท่าน”

เนหะมีย์ 4-2 ตั้งยาม

 

เนหะมีย์ 4:6-9

ดังนั้นเราจึงสร้างกำแพงต่อไป
กำแพงแต่ละจุดเข้ามาเชื่อมประสานกัน โดยความสูงของกำแพงนั้น สูงเท่ากับครึ่งหนึ่งของความสูงเดิม
ประชาชนช่วยกันทำงานสุดกำลังสุดใจของพวกเขา

www-St-Takla-org--Bible-Slides-nehemiah-1263-2

แต่เมื่อสันบาลลัทและโทบีอา และชาวอาหรับ ชาวอัมโมน ชาวอัชโดด
ได้ยินว่า การซ่อมสร้างกำแพงเมืองเยรูซาเล็มกำลังก้าวหน้าไป
และช่องโหว่ต่างๆ ก็ถูกจัดการจนเกือบหมดแล้ว พวกเขาก็โกรธจัด
ดังนั้น จึงรวมหัวกันที่จะมาสู้ ทำให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อไม่ให้การก่อสร้างดำเนินต่อไปได้

ส่วนพวกเราก็อธิษฐานต่อพระเจ้า และจัดยามเพื่อป้องกันทั้งวันและคืน

เนหะมีย์ 4-1 สบประมาทไว้ก่อน

เนหะมีย์ 4:1-6

เมื่อสันบาลลัทได้ยินว่า เรากำลังสร้างกำแพงขึ้นมา

เขาโกรธ  และโกรธมากด้วย เขาจึงเข้ามาสบประมาทชาวยิวทั้งหลาย

และเขากล่าวต่อหน้าคนของเขา  ต่อหน้ากองทัพสะมาเรียว่า
“เจ้าพวกยิวคนขี้แพ้พวกนี้กำลังทำอะไร?
อ๋อ จะมารื้อฟื้นกำแพงของตัวเองหรือ?
จะถวายเครื่องบูชาใช่ไหม?​
จะสร้างเสร็จภายในวันเดียวไหมนี่?
นี่จะเอาหินจากกองขยะมาใช้ใหม่อย่างนั้นหรือ?
แล้วหินไหม้ ๆ เหล่านั้นล่ะ จะใช้ด้วยใช่ไหม?”

Screen Shot 2014-12-23 at 8.17.31 AM

ส่วนโทบียาห์ชาวอัมโมนยืนอยู่ข้างๆ เขา กล่าวว่า
“ใช่ซิ สิ่งที่พวกยิวกำลังสร้างนะ
หากหมาจิ้งจอกขึ้นไปแค่นั้นกำแพงก็พังแล้วล่ะ”

 

“ข้าแต่พระเจ้าของพวกเรา

ขอพระองค์โปรดฟัง
เรากำลังถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม
ขอพระองค์ทรงให้คำสบประมาทเหล่านี้หันกลับไปที่พวกเขา​
ขอให้พวกเขากลายเป็นคนที่ถูกปล้น ในดินแดนที่พวกเขาต้องเข้าไปเป็นเชลย
ขอพระเจ้าอย่าทรงปกปิดความผิดของเขา
อย่าให้บาปของเขาถูกลบจากพระเนตรของพระองค์
เพราะว่า พวกเขาได้ยั่วให้พระองค์ทรงพิโรธต่อหน้าเหล่าคนที่กำลังก่อสร้าง”

เนหะมีย์ 3-5 รายชื่อส่วนสุดท้าย

เนหะมีย์ 3:28-32

N3

 

ต่อไปเป็นประตูม้า ซึ่งเหล่าปุโรหิตเป็นผู้ซ่อมแซม โดยแต่ละคนจะซ่อมส่วนหน้าบ้านของตน
หลังจากนั้นศาโดก ลูกชายอิมเมอร์ซ่อมกำแพงหน้าบ้านของเขา
ถัดไป ผู้ซ่อมคือเชไมอาห์ลูกชายเชคานิยาห์ ซึ่งเป็นยามประตูตะวันออก

Reconstruction_of_Nehemiah_5thcenturyBC

 

 

หลังจากนั้นฮานันยาห์ ลูกชายเชเลมิยาห์และฮานูนลูกชายคนที่หกของศาลาฟเป็นผู้ซ่อมอีกส่วน
ถัดจากเขา ผู้ซ่อมคือ เมชชุลลามลูกชายเบเรคิยาห์ โดยซ่อมกำแพงตรงข้ามห้องพักของเขา

จากนั้นเป็นหนึ่งในช่างทอง คือ มัลคียาห์ ซ่อมไปจนถึงบ้านของผู้รับใช้ในพระวิหาร
และบ้านของเหล่าพ่อค้าตรงข้ามประตูตรวจตรา ไปจนถึงห้องชั้นบนตรงหัวมุม

ช่างทองและพ่อค้าคนอื่น ๆ ก็ซ่อมกำแพงที่อยู่ระหว่างห้องชั้นบนหัวมุมและประตูแกะ…

เนหะมีย์ 3-4 ผู้ช่วยซ่อมอีกชุด

เนหะมีย์ 3:20-27

ถัดไปจากนั้น เป็นบารุค ลูกชายของศับบัย
เขาซ่อมกำแพงจากมุมกำแพง ไปจนถึงบ้านของมหาปุโรหิตเอลียาชีบ

ต่อจากเขาเป็นเมโรโมท ลูกชายของอุรียาห์ซึ่งเป็นลูกชายฮักโขส
เขาซ่อมกำแพงจากบ้านของเอลียาชีบไปจนสุดบ้าน

 

Photo Credit: bethelstone-inspiration.blogspot.com – Nehemiah’s Wall Under Repair
Photo Credit: bethelstone-inspiration.blogspot.com – Nehemiah’s Wall Under Repair

หลังจากนั้น ผู้ซ่อมกำแพงคือ  เหล่าปุโรหิตที่มาจากบริเวณรอบๆ

ต่อมาเป็นเบนยามิน และหัสสูบ ซ่อมส่วนที่อยู่หน้าบ้านของเขา
แล้วก็เป็นอาซาริยาห์ ลูกชายมาอาเสอาห์ซึ่งเป็นลูกชายอานานิยาห์ ซ่อมกำแพงข้างๆ บ้านของเขา
หลังจากเขาก็เป็นบินนุย ลูกชายเฮนาดัดซ่อมอีกส่วน จากบ้านของอาซาริยาห์ไปจนถึงมุมกำแพง
ที่มุมนั้น ปาลาล ลูกชายของอุซัยซ่อมแซมส่วนที่อยู่ตรงข้ามมุมกำแพง
และหอคอยที่ยื่นออกมาจากตำหนักบนของพระราชวัง ส่วนที่เป็นลานทหารรักษาพระองค์

ถัดจากเขาไป ผู้ซ่อมคือ เปดายาห์ลูกชายปาโรช
และผู้รับใช้ในพระวิหารที่อยู่บนเนินเขาโอเฟลก็ซ่อมส่วนนั้น
ไปจนถึงจุดที่อยู่ตรงข้ามประตูน้ำ ทางตะวันออก และหอคอยที่ยื่นออกมา
หลังจากเขา คนชาวเทโคอา ก็ซ่อมกำแพงอีกช่วงหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามหอคอยใหญ่ที่ยื่นออกมา
ไปจนถึงกำแพงแห่งโอเฟล

 

เนหะมีย์ 3-2 สังเกตว่ามีใครบ้าง

เนหะมีย์ 3:6-12

ที่ประตูเก่าหรือเรียกว่า ประตูเยชานาห์ คนที่มาช่วยซ่อมคือ
โยยาดาห์ลูกชายปาเสอาห์ กับเมชูลัมลูกชาเบโสไดอาห์
พวกเขาวางวงกบ และตั้งบานประตู ติดตั้งกลอนและไม้ขัดบานประตู

ถัดไปจากพวกเขาคือเมลาดิยาห์ชาวกิเบโอน
และยาโดนชาวเมโรโนท รวมทั้งคนจากกิเบโอนและมิสปาห์
ซึ่งอยู่ใต้การปกครองของผู้ว่าแคว้นที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำ
ต่อจากเขาก็เป็นอุสซีเอล ลูกชายฮารฮายาห์ ช่างทอง เข้ามาซ่อมแซม
ถัดจากเขาเป็นฮานานิยาห์ หนึ่งในช่างปรุงน้ำหอม
พวกเขาซ่อมกำแพงเมืองเยรูซาเล็มไปจนถึงกำแพงกว้าง

images

ถัดจากพวกเขา คนรับผิดชอบซ่อมแซมคือเรไหฟาห์ลูกชายของเฮอร์
ซึ่งเป็นผู้ปกครองครึ่งหนึ่งของนครเยรูซาเล็ม

จากนั้นก็เป็นเยดายาห์ ลูกชายฮารุมัฟ เขาซ่อมแซมกำแพงตรงข้ามบ้านของเขาพอดี
ถัดไปเป็นฮัททัช ลูกชายฮาชับเนยาห์
มัลคิยาห์ ลูกชายฮาริม และหัสชูบ ลูกชายปาหัทโมอับ ซ่อมแซมอีกส่วน และหอคอยเตาอบ

ต่อจากเขาคือชัลลูม ลูกชายฮัลโลเหช
ซึ่งเป็นผู้ปกครองแขวงครึ่งหนึ่งในนครเยรูซาเล็ม ทั้งเขาและลูกสาวของเขา

เนหะมีย์ 3-1 ผู้ช่วยซ่อมแซม

เนหะมีย์  3:1-5

มหาปุโรหิตเอลียาชีบและพี่น้องปุโรหิตทั้งหลายได้พร้อมใจกัน
ซ่อมสร้างประตูแกะขึ้นมา
พวกเขาได้ชำระให้บริสุทธิ์จากนั้นก็ตั้งบานประตูขึ้น
พวกเขาได้ทำพิธีชำระให้บริสุทธิ์ยาวไปจนถึงหอคอยหนึ่งร้อย
และยังทำต่อไปจนถึงหอคอยฮานันเอล

ชาวเมืองเยรีโคได้สร้างส่วนที่ถัดต่อไปจากนั้น
และศักเกอร์ลูกชายของอิมรีก็ได้สร้างส่วนถัดไป
Nehemiah_rebuild_wall_C-315
บรรดาลูกชายของหัสเสนาอาห์ สร้างประตูปลา
พวกเขาวางคานและตั้งบานประตูขึ้น
ทั้งติดกลอน และไม้ขัดบานประตู

ถัดจากเขาเป็นเมเรโมท ลูกชายอุรียาห์ ลูกชายฮักโขส เป็นคนซ่อมแซม
ถัดจากนั้น คือเมชูลลัมลูกชายเบเรคิยาห์ซึ่งเป็นลูกชายของเมเชซาเบล เป็นคนซ่อมแซม
ถัดไปจากเขาคือ ศาโดก ลูกชายของบาอานา เป็นคนดูแลซ่อมแซม
ถัดจากนั้น คือชาวเทโคอาได้เข้ามาช่วยซ่อมแซม
แต่พวกที่เป็นคนใหญ่โตในหมู่พวกเขา ไม่ยอมที่จะมารับใช้พระเจ้าร่วมกัน

เนหะมีย์ 2-4 เจอศัตรู

เนหะมีย์  2:17-20

และข้ากล่าวกับเขาว่า

“ท่านเห็นแล้วว่า พวกเราลำบากแค่ไหน
แล้วดูซิ กรุงเยรูซาเล็มกลายเป็นซากไปเพราะประตูเมืองถูกเผา
มา พวกเรามาสร้างกำแพงเมืองเยรูซาเล็มใหม่ เพื่อว่า เราจะไม่ต้องทนกับการเยาะเย้ยอีกต่อไป

และข้าก็เล่าให้ฟังถึงการที่พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่เหนือข้า  ทรงทำให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น

รวมถึงสิ่งที่พระราชาตรัสแก่ข้า
พวกเขาจึงกล่าวว่า “พวกเรา ลุกขึ้นสร้างกำแพงกันเถิด”

REBUILD1

ดังนั้นพวกเขาจึงทำให้แขนของพวกเขาเข้มแข็ง เพื่อทำงานดี ๆ นั้น

แต่เมื่อ แต่เมื่อสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิม และโทบียาห์ข้าราชการอัมโมนและเกเชม ชาวอาหรับได้รู้เรื่องนี้เข้า
ก็เริ่มต้นเยาะเย้ย และดูหมิ่นเรา กล่าวว่า
“พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน?
นี่จะกบฎต่อพระราชาอย่างนั้นหรือ?”

ข้าจึงตอบพวกเขาไปว่า
“องค์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ จะทรงทำให้เรารุ่งเรืองขึ้น
และเราผู้รับใช้ของพระองค์จะลุกขึ้นสร้างกำแพง
พวกเจ้าไม่มีส่วน ไม่มีสิทธิ์ หรือการอ้างสิทธิ์ใด ๆ ในเยรูซาเล็ม

เนหะมีย์ 2-3 สำรวจความเสียหาย

 

เนหะมีย์ 2:916

ต่อมา ข้าก็เดินทางมาพบผู้ว่าราชการในแคว้นที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำ  และมอบพระราชสาส์นให้พวกเขา
พระราชาได้ทรงส่งข้าราชการทหารและพลม้ามากับข้าด้วย
แต่เมื่อสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิม และโทบียาห์ข้าราชการอัมโมนได้รู้เรื่องนี้เข้า
ก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่า มีคนกลับมาช่วยให้คนอิสราเอลมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

หลังจากที่ได้มาถึงเยรูซาเล็มสามวัน
เวลากลางคืน ข้าก็ออกไปพร้อมกับคนสองสามคน
ข้าไม่ได้บอกใคร ถึงสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงบันดาลใจเกี่ยวกับเยรูซาเล็ม
ข้าไม่ได้นำสัตว์อื่น ๆ ไป นอกจากตัวที่ข้าขี่ไป

www-St-Takla-org--Nehemiah-Amid-the-Ruins-of-Jerusalem

 

กลางคืน ข้าออกไปยังประตูหุบเขา และบ่อน้ำมังกร
ไปยังประตูกองขยะ และข้าก็ตรวจสอบกำแพงเมืองเยรูซาเล็มที่กลายเป็นซากปรักหักพัง รวมทั้งประตูเมืองที่ถูกเผา

จากนั้นก็ไปต่อยังประตูน้ำพุและสระของพระราชา
แต่ไม่มีที่ให้สัตว์ที่ข้าขี่ไปผ่านได้
กลางคืน ข้าจึงขึ้นไปทางหุบเขาและตรวจสอบกำแพง
ข้าเดินกลับ เข้าเมืองมาทางประตูหุบเขา และกลับมาที่พัก
เหล่าข้าราชการไม่รู้ว่า ข้าไปไหน ไม่รู้ว่า ข้าทำอะไร
และข้าก็ยังไม่ได้บอกสิ่งใดแก่คนยิว ปุโรหิต และคนชั้นสูง ข้าราชการ รวมทั้งคนที่ต้องลงแรงก่อสร้าง

 

เนหะมีย์ 2-2 พระราชาทรงอนุญาต

เนหะมีย์ 2:6-8

ขณะนั้น พระราชินีประทับข้าง ๆ พระราชา
และพระราชาตรัสกับข้าว่า
“เจ้าจะไปนานเท่าไร ?  จะกลับมาเมื่อไร?”

เมื่อข้าทูลวันเวลาที่กำหนด พระราชาก็ทรงพอพระทัยที่จะส่งข้าไป
เมื่อข้าทูลพระองค์ว่า
“หากเป็นที่พอพระทัยพระราชา
ขอทรงโปรดให้ข้าพระบาทนำพระราชสาส์นของพระองค์
ไปยังผู้ว่าในแคว้นแม่น้ำฟากโน้น
เพื่อว่าพวกเขาจะได้ยอมให้ข้าพระบาทเดินทางผ่านไปจนกว่าจะถึงยูดาห์

www-St-Takla-org--Bible-Slides-nehemiah-1255

และพระราชสาส์นไปถึงอาสาฟ ซึ่งเป็นผู้ดูแลป่าไม้ของพระราชา
เพื่อว่าเขาจะได้มอบไม้ให้แก่ข้าพระบาทเพื่อสร้างเป็นคานสำหรับประตูป้อมของพระวิหาร
และกำแพงเมือง  และเพื่อสร้างบ้านที่ข้าพระบาทจะอาศัยอยู่”
และพระราชาทรงอนุญาตตามที่ข้าทูลขอ
เพราะว่า พระหัตถ์ดีเลิศของพระเจ้าทรงอยู่กับข้า

เนหะมีย์ 2-1 เนหะมีย์กับพระราชา

เนหะมีย์ 2:1-5

ในเดือนนิสาน ปีที่ยี่สิบของรัชกาลราชาอารทาเซอร์ซีส

เมื่อได้จัดเหล้าองุ่นถวายต่อพระพักตร์พระราชา
ข้าก็ได้ยกถ้วยเหล้าองุ่นถวายแด่พระองค์
ข้าไม่เคยมีใบหน้าโศกเศร้าต่อพระพักตร์ของพระองค์มาก่อน
และพระราชาตรัสกับข้าว่า

“เหตุใดหน้าตาของเจ้าเศร้าหมองนัก ในเมื่อเจ้าก็ไม่ได้ป่วยสักหน่อย?
หน้าตาแบบนี้ บ่งบอกว่า ในใจมีความทุกข์”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ข้าก็ตกใจกลัวมาก

www-St-Takla-org--Bible-Slides-nehemiah-1254

ข้าทูลพระองค์ว่า
“ขอพระราชาทรงพระเจริญเป็นนิตย์
เหตุใดข้าพระบาทจะไม่โศกเศร้าพะยะค่ะ?
ในเมื่อเมืองที่ฝังศพบิดาของข้าพระบาทนั้น
กลายเป็นซากปรักหักพัง และประตูเมืองก็ถูกเผาทำลาย”
แล้วพระราชาตรัสต่อไปว่า
“เจ้าจะขออะไรล่ะ?”
ดังนั้น  ข้าจึงอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ทันที
และข้าก็ทูลพระราชาว่า
“หากเป็นที่พอพระทัยฝ่าพระบาท
และหากข้าพระบาทเป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์แล้ว ​
ขอพระองค์ทรงส่งข้าพระบาทกลับไปแผ่นดินยูดาห์
เมืองที่ฝังศพบิดาของข้าพระบาท
เพื่อว่า ข้าพระบาทจะได้สร้างเมืองใหม่พะยะค่ะ”

เนหะมีย์ 1-3 คำทูลขอพระเมตตา

เนหะมีย์ 1:8-11

ขอพระองค์ทรงระลึกถึงพระบัญชาที่มีต่อโมเสส

moses
ตรัสว่า
หากเจ้าไม่ซื่อสัตย์ เราจะทำให้เจ้ากระจัดกระจายไปตามชนชาติต่าง ๆ

แต่หากเจ้ากลับมาหาเรา รักษาบัญญัติของเรา และทำตาม
แม้ว่าคนบางคนถูกเหวี่ยงไปจนสุดขอบฟ้า
เราก็ยังจะรวบรวมพวกเขากลับมายังที่ซึ่งเราได้เลือกไว้ เพื่อให้นามของเราประทับที่นั่น
พวกเขาเป็นผู้รับใช้ เป็นประชากรของพระองค์ที่ได้ทรงไถ่พวกเขาด้วยฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่
ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์

 

ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงเอียงพระกรรณฟังคำทูลวิงวอนของผู้รับใช้ของพระองค์
ขอฟังคำทูลของผู้รับใช้ที่ยินดีจะยำเกรงพระนามของพระองค์

ขอพระองค์ประทานความสำเร็จให้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ในวันนี้
ขอทรงเมตตาให้เขาต่อหน้ามนุษย์ด้วยพระเจ้าข้า”

ในเวลานั้น ข้าทำหน้าที่เป็นผู้เชิญถ้วยเสวยของพระราชา

 

เนหะมีย์ 1-2 คำสารภาพบาป

เนหะมีย์  1:5-7

ข้าทูลว่า

“โอ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งสวรรค์​

พระองค์ทรงยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม
พระองค์ทรงรักษาพันธสัญญาของพระองค์
และสำแดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักและรักษาบัญญัติของพระองค์

ขอพระกรรณของพระองค์ทรงฟัง
ขอพระเนตรของพระองค์มองดู
เพื่อฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์

www-St-Takla-org--Bible-Slides-nehemiah-1253

บัดนี้ ข้าพระองค์ได้อธิษฐานต่อพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน

เพื่อชนอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์​
ข้าพระองค์ขอสารภาพบาปของประชากรอิสราเอล
ที่ได้ทำบาปต่อพระองค์
ทั้งที่ข้าพระองค์ทำบาปและครอบครัวของบรรพบุรุษได้ทำลงไป

พวกเราได้ทำตัวคดโกงต่อพระองค์

ไม่รักษาคำบัญชาของพระองค์

ไม่รักษากฎเกณฑ์ที่พระองค์บัญชาไว้แก่โมเสส

 

เนหะมีย์ 1-1 รายงานเรื่องเยรูซาเล็ม

เนหะมีย์ 1:1-4

ต่อไปนี้เป็นคำของเนหะมีย์ ลูกชายฮาคาลิยาห์
ในเดือนคิสเลฟ ปีที่ยี่สิบ ขณะที่ข้าอยู่ในป้อมเมืองสุสา
ก็มีพี่น้องคนหนึ่งคือ ฮานานีได้มาพบข้าพร้อมกับชายบางคนจากยูดาห์
ข้าถามไถ่เกี่ยวกับคนยิวที่รอดชีวิตจากการเป็นเชลย
รวมทั้งเรื่องเยรูซาเล็มด้วย
และพวกเขาบอกข้าว่า
“คนที่เหลืออยู่ในแคว้นนั้น เป็นผู้ที่รอดชีวิตมาจากการเป็นเชลย
พวกเขาลำบากและมีความอับอายเหลือแสน
กำแพงเมืองเยรูซาเล็มก็ถูกทำลายยับเยิน
ประตูเมืองถูกวางเพลิงจนไม่มีชิ้นดี

nehem2

พอข้าได้ยินเรื่องราวอย่างนั้น
ข้าก็นั่งลง และร้องไห้ ไว้ทุกข์หลายวัน
ข้าอดอาหาร และอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์

 

แนะนำ เนหะมีย์

แนะนำเนหะมีย์

ในขณะที่หนังสือเอสราเล่าเรื่องการสร้างพระวิหาร

เนหะมีย์ได้กลับเข้ามายังเยรูซาเล็มหลังเอสรา

หนังสือเนหะมีย์ บันทึกเรื่องราวของการสร้างกำแพงเมือง

nehe

 

หลังจากที่ต้องตกเป็นเชลยในบาบิโลน พระเจ้าทรงรื้อฟื้นนำคนอิสราเอลกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอน
พวกเขาจะต้องรื้อฟื้นสัญญาของเขากับพระเจ้า
ต้องทูลขอให้พระเจ้าทรงยกโทษ และมีชีวิตที่บริสุทธิ์ทั้งในชีวิตส่วนตัว และในสังคม
พระเจ้าได้ทรงใช้เอสรา ให้เป็นปุโรหิต ดูแลและสั่งสอน นำทางของคนอิสราเอล
ทรงใช้เนหะมียห์ให้เป็นผู้ปกครอง เพื่อนำให้คนอิสราเอลทำงานออกแรงในการสร้างเมือง สร้างชีวิตใหม่

ทั้งเอสรา และเนหะมีย์ต้องเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง เพราะการต่อต้านจากศัตรูมีมาไม่หยุดหย่อน

ชื่อของเนหะมีย์  มีความหมายว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลอบใจ”
เขาเป็นข้าราชการใกล้ชิดราชาอารทาเซอร์ซีส ประมาณปี 445 ปีก่อนคริสตศักราช

 

แม้ว่าเราอยู่ในยุคปัจจุบัน  แต่เนหะมีย์บอกเราชัดเจนว่า

  • พระเจ้าทรงฟังคำอธิษฐานเสมอ
  • ทรงจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นสำหรับงานที่พระองค์ทรงให้คนของพระองค์ลงมือทำ
  • พระองค์ทรงปกป้องคนของพระองค์
  • คนของพระเจ้าต้องซื่อสัตย์ รักษา ทำตามพระบัญญัติของพระองค์

เอสรา 10-3 ลงมือทำตามปฏิญาณ

เอสรา 10:10-44

และปุโรหิตเอสราก็ได้ยืนขึ้น กล่าวแก่พวกเขาว่า

“ ท่านทั้งหลายได้ละเมิดความเชื่อ แต่งงานกับหญิงต่างชาติ
เป็นการเพิ่มความผิดให้กับคนอิสราเอล
ดังนั้น บัดนี้ ขอให้ท่านได้สารภาพบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
ผู้ทรงเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษ และทำตามพระประสงค์ของพระองค์เสีย
จงแยกตัวออกประชาชนชาติอื่นที่อยู่ในแผ่นดิน และแยกตัวออกจากภรรยาชาวต่างชาติ”

RH-EzraPreaching_DSC_0074

ประชาชนทั้งหลายตอบเสียงดังว่า
“เป็นดังนั้น พวกเราจะต้องทำตามอย่างที่ท่านกล่าว
แต่มีคนเป็นจำนวนมากมาย  และฝนก็ตกหนักในช่วงนี้
เราไม่อาจยืนอยู่ข้างนอกอย่างนี้ได้
และสิ่งนี้ก็ไม่อาจทำเสร็จได้ภายในวันสองวัน
เพราะเราทำบาปผิดเป็นอย่างมากในเรื่องนี้

ขอให้เหล่าเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้กับที่ประชุม
ให้คนที่มีภรรยาเป็นชาวต่างชาตินั้น มาประชุมร่วมกันตามเวลาที่กำหนด
พร้อมกับผู้ใหญ่และผู้พิพากษาของทุกเมือง
จนกว่าพระพิโรธของพระเจ้าจะพ้นไปจากเรา “

 

แต่มีคนที่ไม่เห็นด้วย ต่อต้านเรื่องนี้ คือ โยนาธันลูกชาอาซาเฮลและยาไซอาห์ลูกชายทิกวาห์
โดยได้รับการสนับสนุนจากเมชุลลัมและชับเบธัยซึ่งเป็นเลวี

 

จากนั้นก็มีการบันทึกรายชื่อของคนที่ทำผิดในเรื่องนี้
จากกลุ่มปุโรหิต ซึ่งพวกปุโรหิตนี้ ได้ยกมือปฏิญาณตนว่า
จะเลิกภรรยาเหล่านั้น
และถวายเครื่องบูชาลบความผิด  เป็นแกะผู้จากฝูงคนละหนึ่งตัว

มีการบันทึกชื่อของคนกลุ่มคนเลวี  นักร้อง คนยามเฝ้าประตู
คนอิสราเอลทั่วไป ซึ่งได้แต่งงานกับหญิงต่างชาติ
และบางคนก็มีลูกกับหญิงเหล่านั้นด้วย

 

เอสรา 10-2 รวมประชาชน

เอสรา 10:6-8

แล้วเอสราจึงออกจากหน้าพระวิหารของพระเจ้า
เข้าไปในห้องของเยโฮฮานันลูกชายของเอลียาชีบ

เขาอยู่ในนั้นทั้งคืน ไม่กินอาหาร  ไม่ดื่มน้ำ
เพราะเขาเศร้าเสียกับความไร้สัตย์ของเหล่าคนที่เป็นเชลย

www-St-Takla-org--Bible-Slides-nehemiah-1274

จากนั้นมีการประกาศทั่วยูดาห์และเยรูซาเล็ม
มายังคนที่กลับมาจากการเป็นเชลยว่า
ให้มารวมตัวกันในเยรูซาเล็ม
และหากใครไม่ยอมมาภายในสามวัน
จะถูกริบทรัพย์ตามความเห็นชอบของเหล่าเจ้าหน้าที่กับผู้อาวุโส
และจะถูกไล่ออกจากชุมชนของคนที่เป็นเชลยด้วย

ภายในสามวัน คนยูดาห์และเบนยามินรวบรวมตัวกันที่เยรูซาเล็ม

ในวันที่ยี่สิบ เดือนเก้า
ประชาชนก็มานั่งรวมกันที่ลานพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า

พวกเขาตัวสั่นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น และฝนก็ตกหนักด้วย

…..

เอสรา 10-1 การปฏิญาณตน

เอสรา 10:1-5

ขณะที่เอสรากำลังอธิษฐานและสารภาพบาปต่อพระเจ้า

เขาร้องคร่ำครวญ และทิ้งตัวลงต่อพระวิหารของพระเจ้า
คนทั้งหลายก็มารวมตัวกัน ทั้งชายหญิงและเด็ก
พวกเขามาอยู่กับเอสรา และร้องไห้อย่างขมขื่น
และเชคานิยาห์ ลูกชายเยฮีเอล ลูกชายเอลามได้กล่าวแก่เอสราว่า

ezra_reads_gallery
“เราได้ละทิ้งความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าของเรา
และไปแต่งงานกับผู้หญิงต่างชาติ ซึ่งเป็นชนชาติที่อยู่ในแผ่นดินนี้
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังพอมีความหวังสำหรับอิสราเอล
ดังนั้น ขอให้เราทำสัญญากับพระเจ้า
เพื่อจะละทิ้งภรรยาและลูก ตามคำปรึกษาที่มาจากท่าน และ
คนที่ตัวสั่นเพราะพระบัญชาของพระเจ้า
และขอให้เราทำตามพระบัญญัติทุกประการ

จงลุกขึ้น  เพราะนี่เป็นงานของท่าน
และเราอยู่ข้างท่าน จงเข้มแข็งและทำสิ่งนั้นเถิด”

ดังนั้น เอสราจึงลุกขึ้น

และนำให้เหล่าผู้นำปุโรหิต เลวี และคนอิสราเอลทั้งปวง
ได้ปฏิญาณว่า พวกเขาจะทำสิ่งที่ได้กล่าวมา

ดังนั้น พวกเขาจึงปฎิญาณตน

 

เอสรา 9-4 คำอธิษฐานของเอสรา 3

9:13-15

และหลังจากที่พระเจ้าทรงให้หลายอย่างเกิดขึ้น
เพราะความบาป และความผิดที่ยิ่งใหญ่ของเรา
เราก็เห็นว่า พระเจ้าของเราได้ทรงลงโทษเรา
น้อยกว่าโทษที่เราสมควรจะได้รับ
และพระองค์ยังได้ประทานให้มีคนเหลืออยู่อย่างที่เห็น
แล้วเราจะละเมิดคำบัญชาของพระองค์อีกครั้ง
และแต่งงานปนเปไปกับเหล่าคนที่ทำสิ่งซึ่งน่าเกลียดน่าชังอย่างนั้นหรือ ?

Ezra-9-Ezra-Kneels-in-Prayer-m
พระองค์จะไม่ทรงโกรธเราจนกระทั่งทรงเผาผลาญเรา
เพื่อว่าจะไม่มีคนที่เหลืออยู่ ไม่มีใครที่หนีไปได้หรือ?
โอ… องค์พระผู้เป็นเจ้า  พระเจ้าแห่งอิสราเอล
พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้เที่ยงตรง
เพราะว่า พวกเราเป็นคนที่พระเจ้าให้เหลืออยู่ ที่ได้หนีรอดมาได้อย่างที่เป็นทุกวันนี้
ดูเถิด เราอยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์พร้อมกับความผิดของเรา
.. เพราะไม่มีใครจะยืนอยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์ได้เพราะเหตุเหล่านี้ “

 

เอสรา 9-3 คำอธิษฐานของเอสรา 2

เอสรา 9:8-12

แต่บัดนี้  ชั่วระยะหนึ่ง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงความรักเมตตา
ทำให้เรามีคนที่เหลืออยู่ในแผ่นดิน และประทานที่ยึดมั่นคงภายในพระวิหายของพระองค์
เพื่อว่า พระเจ้าของเราจะทำให้เราตาสว่าง และประทานการรื้อฟื้นชีวิตในช่วงที่เราต้องเป็นทาส
เพราะว่า เราเป็นทาส
แต่พระเจ้าก็มิได้ทรงทิ้งให้เราตกอยู่เป็นทาสตลอดไป
แต่พระองค์ทรงยืนความรักมั่นคงของพระองค์มาเหนือเราต่อหน้าราชาแห่งเปอร์เซีย
เพื่อพระองค์จะทรงอนุญาตให้เกิดการรื้อฟื้นขึ้นมาเพื่อเราจะได้ตั้งพระวิหารของพระองค์ขึ้นมา
เพื่อซ่อมแซมส่วนที่ปรักหักพัง
และทรงปกป้องเราในยูดาห์และในเยรูซาเล็ม

ezra-kneels-in-prayer

และบัดนี้ พระเจ้าของเราทั้งหลาย
เราจะสามารถทูลอะไรต่อไปได้เล่า?
เพราะว่า เราได้ละทิ้งพระบัญญัติของพระองค์
พระบัญญัติที่พระองค์ได้ทรงบัญชาผ่านผู้กล่าวคำของพระองค์ว่า …

แผ่นดินที่เจ้าเข้าไปเพื่อยึดครองนั้น  เป็นแผ่นดินที่เป็นมลทินเพราะผู้คนที่อาศัยในแผ่นดินนั้น
จากความน่าเกลียดน่าชังที่เขากระทำ แผ่นดินจึงเป็นมลทินจากแนวเขตหนึ่งไปที่แนวเขตหนึ่ง

ดังนั้น เจ้าอย่ามอบลูกสาวของเจ้าให้ลูกชายของพวกเขา
และอย่าเอาลูกสาวของพวกเขามาให้ลูกชายของเจ้า
อย่าไปแสวงหาสันติ หรือความมั่งคั่งของพวกเขา
เพื่อว่า เจ้าจะได้เข้มแข็งและกินของดีจากแผ่นดิน
และจะได้ส่งต่อเป็นมรดกของลูกหลานของเจ้าตลอดไป”