เอเสเคียล 27-4 หายนะของไทระ

เอเสเคียล 27:26-36

ฝีพายของเจ้าได้นำเจ้าไปยังทะเลกว้าง
แล้วลมตะวันออกก็ได้ทำให้เจ้าต้องอัปปางลงใจกลางทะเล
ความมั่งคั่ง  ของขาย และสินค้าของเจ้า
รวมไปถึงกะลาสี กัปตัน ช่างซ่อมเรือ คนขายของ
ทั้งนักรบทั้งหมดของเจ้า พร้อมกับลูกเรือซึ่งอยู่ท่ามกลางเจ้า
พากันจมลงไปใจกลางทะเลในวันที่เจ้าล้มลงนั้น

phoenician_ship

พื้นที่ทางชนบทก็สั่นสะเทือนเนื่องจากเสียงร้องของกะลาสีของเจ้า
เหล่าฝีพายต่างขึ้นมาจากเรือ กะลาสี ทั้งลูกเรือต่างพากันยืนบนแผ่นดิน
พวกเขาร้องตะโกนเสียงดังเพราะเจ้า พวกเขาร้องไห้ด้วยความขมขื่น
โปรยผงคลีดินลงบนหันตัวเอง และเอาตัวกลิ้งเกลือกในกองขี้เถ้า
พวกเขาโกนหัวเพื่อเจ้า และเอาผ้ากระสอบคาดเอว
ด้วยความขมขื่นในใจ พวกเขาร้องไห้เพื่อเจ้าด้วยคำคร่ำครวญ
เขาร้องโหยหวน คร่ำครวญเพื่อเจ้า
“มีใครบ้างที่เหมือนไทระ  ที่ต้องถูกทำลายกลางทะเล ?”

เมื่อเจ้าเอาสินค้ามาทางทะเล ก็ทำให้หลายคนพอใจ
เจ้าทำให้เหล่ากษัตริย์ทั้งหลายได้ร่ำรวยขึ้น
ด้วยสินค้าที่มากมาย และความมั่งคั่งล้นเหลือ

บัดนี้ เจ้าอัปปางด้วยทะเล อยู่ในทะเลลึก
ทั้งสินค้าและลูกเรือของเจ้าก็จมลงไปกับเจ้า
เหล่าผู้ที่อาศัยอยู่ตามฝั่งทะเลต่างก็หวาดหวั่นเพราะเจ้า

กษัตริย์ทั้งหลายขนลุกด้วยความกลัว ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด
พ่อค้าทั้งหลายในหมู่ประชาชนต่างส่งเสียงขู่เจ้า
จุดจบของเจ้าน่าขนลุก
และจะไม่มีเจ้าอีกต่อไป…

เอเสเคียล 27-3 ธุรกิจที่รุ่งเรือง

เอเสเคียล 27:18-25

ดามัสกัสก็ได้ทำธุรกิจกับเจ้า เพราะเจ้ามีสินค้ามากมาย
เพราะเจ้าร่ำรวยเสียทุกเรื่อง
เหล้าองุ่นจากเฮลโบน และขนสัตว์จากซาฮาร์
พวกเขาเอาเหล้าจากอุซาล มาแลกกับสินค้าต่างๆ ของเจ้า
ทั้งยังเอาเหล็กหล่อ การบูร ตะไคร้ มาแลกกับสินค้าด้วย

Tyre_Ship01_full

เดเดานค้าขายผ้าปูอานสัตว์สำหรับขี่
อาราเบียและเจ้าชายแห่งเคดาร์เป็นคู่ค้าที่เจ้าชื่นชอบ
เพราะเขากับเจ้าทำธุรกิจลูกแกะ แกะผู้ และแพะด้วยกัน
ส่วนพ่อค้าจากเชบาและรามาห์ ก็ค้าขายกับเจ้าด้วยการเอาของดี ๆ มาแลก
นั่นก็คือเครื่องเทศ และอัญมณีอันมีค่า พร้อมกับทองคำ
ยังมีพ่อค้าจากฮาราน  คานเนห์ และเอเดน
พ่อค้าจากเชบาห์ อัชชูร์ และคิลมาดมาค้าขายกับเจ้า
พ่อค้าจากเมืองเหล่านี้ ได้เข้ามาค้าขายในตลาดของเจ้า
มีทั้งเสื้อผ้างดงาม เสื้อผ้าสีน้ำเงินและผ้าปัก
ทั้งพรมและด้านสีต่าง ๆ ที่มั่นไว้อย่างแน่นหนา
เรือจากทารซิชต่างก็มารับส่งสินค้าของเจ้า
ดังนั้นเจ้าจึงมีเรือขนของหนักมากมาย ในท้องทะเล

 

เอเสเคียล 27-2 ลูกค้าของไทระ

เอเสเคียล 27:10-17

ชาวเปอร์เซีย ลูด และพูต ก็อยู่ในกองทัพเป็นทหารของเจ้า
พวกเขาแขวนโล่และหมวกเหล็กในเจ้า
พวกเขามอบความสง่างามให้แก่เจ้า
ชนอารวัดและเฮเลคอยู่บนกำแพงโดยรอบ
คนกามัดก็อยู่ในป้อมของเจ้า
พวกเขาแขวนโล่ของเขาบนกำแพงโดยรอบ
พวกเขาทำให้ความงามของเจ้าเพียบพร้อม

 

Lohs

ทารชิชทำมาค้าขายกับเจ้าก็เพราะเจ้าร่ำรวยมาก
เขาใช้เงิน เหล็ก ดีบุกและตะกั่วมาแลกสินค้าของเจ้า
จาวาน ทูบัล และเมเชค ค้าคายกับเจ้า
โดยใช้มนุษย์และภาชนะทองสัมฤทธิ์ แลกสินค้ากับเจ้า

เมืองเบธ โทการ์มา ใช้ม้าศึกและล่อ มาแลกสินค้ากับเจ้า
คนแห่งเดดานทำการค้ากับเจ้า
เมืองตามชายฝั่งทะเลก็เป็นตลาดพิเศษของเจ้า
พวกเขานำเอางาช้างและไม้อีโบนีมาจ่ายราคาสินค้า
ซีเรียก็ทำธุรกิจของเจ้าเพราะเจ้ามีสินค้ามากมาย
พวกเขาเอามรกต ผ้าสีม่วง ผ้าปัก ผ้าลินิน หินปะการังและทับทิมมาแลกกับสินค้า
ยูดาห์และแผ่นดินอิสราเอลก็จะค้าขายกับเจ้า
พวกเขานำเอาข้าวสาลีแห่งมินนิท อาหาร น้ำผึ้ง น้ำมัน และขี้ผึ้ง
มาแลกสินค้ากับเจ้า

 

 

 

เอเสเคียล 27-1 ความพรั่งพร้อมของไทระ

เอเสเคียล 27:1-9

พระวจนะของพระเจ้ามายังข้า
“บัดนี้ ลูกชายของมนุษย์ จงร้องส่งเสียงคร่ำครวญเหนือไทระ
และกล่าวแก่ไทระผู้อาศัยอยู่ทางเข้าทะเล
พ่อค้าของประชากรตามชายฝั่ง
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“โอไทระ  เจ้ากล่าวว่า .. ตัวข้านั้นงดงามยิ่งนัก..
เขตแดนของเจ้าอยู่กลางทะเล

borderseaผู้ที่สร้างเจ้านั้น ทำให้เจ้างามพร้อม
พวกเขาทำไม้กระดานของเจ้าจากต้นสนสามใบจากเสนีร์
และนำต้นสีดาร์มาจากเลบานอนเพื่อทำเสากระโดงให้
เอาต้นโอ๊คมาจากบาชานเพื่อทำเป็นพาย
เขาทำดาดฟ้าด้วยไม้สนจากฝั่งไซปรัสโดยฝังด้วยงาช้าง
และทำใบเรือจากผ้าปักจากอียิปต์ ใช้เป็นธงของเจ้า
กันสาดก็ทำจากผ้าสีม่วงและสีฟ้าจากฝั่งเอลีชาห์
ชาวเมืองไซโอนและอารวัดเป็นฝีพายให้เรือของเจ้า

ผู้ใหญ่แห่งเกบาล และช่างฝึมือชั้นเยี่ยมของเมืองนี้ก็อยู่กับเจ้า
พวกเขาเป็นช่างไม้ประจำเรือ
บรรดาเรือทะเลทั้งนิ้นพร้อมกลาสีก็อยู่ในเจ้า
เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้ากับเจ้า

เอเสเคียล 26-4 โลกเบื้องล่าง

เอเสเคียล 26:19-21

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
เมื่อเราทำให้เจ้ากลายเป็นเมืองร้าง เหมือนกับเมืองที่ไม่มีคนอาศัย
เมื่อเรานำที่ลึกขึ้นมาเหนือเจ้า
นำเอาน้ำก้อนใหญ่ปกคลุมเจ้า
แล้วเราจะให้เจ้าลงไปพร้อมกับคนที่ลงไปในหลุมลึก
ไปยังประชาชนสมัยโบราณ

lumluuk

และเราจะทิ้งเจ้าลงไปอยู่ในโลกเบื้องล่าง
ท่ามกลางซากปรักหักพังโบราณ
อยู่กับคนที่ได้ลงไปยังหลุมลึกนั้น
เพื่อว่าจะไม่ได้มีใครมาอาศัยในเมืองอีก
เจ้าจะไม่ได้กลับมาอยู่ในดินแดนของคนที่มีชีวิตต่อไป
เราจะนำจุดจบที่สยองขวัญมาสู่เจ้า
เจ้าจะสูญสิ้นไป  ไม่มีอีก
แม้ว่าจะมีคนพยายามหาเจ้า
แต่จะพวกเขาจะไม่พบเจ้าเลย
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เอเสเคียล 26-3 คร่ำครวญเพื่อไทระ

เอเสเคียล 16:15-18

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เมืองไทระว่า
แล้วแผ่นดินชายทะเลทั้งหลายจะไม่สั่นหวั่นไหวเพราะเสียงล้มของเจ้าหรือ?
เมื่อคนที่บาดเจ็บร้องครวญคราง
เมื่อมีการฆ่าล้างท่ามกลางพวกเจ้า?
tyrepass
เหล่าเจ้านายแห่งทะเลจะก้าวลงมาจากบัลลังก์ของพวกเขา
เปลื้องเสื้อคลุมออก
ถอดเสื้อผ้าที่เต็มด้วยเครื่องประดับนานา
พวกเขาจะสวมความกลัวจนตัวสั่น
จะนั่งอยู่บนพื้นดินและกลัวลานตลอดเวลา
พวกเขาจะหวาดหวั่นเพราะเจ้า
และจะส่งเสียงร้องคร่ำครวญเรื่องเจ้า กล่าวแก่เจ้าว่า
“โอ.. เจ้าพินาศเสียแล้ว
ผู้ที่อาศัยในทะเลกว้าง เป็นเมืองที่มีชื่อเสีย.
มีความแกร่งกล้าในท้องทะเล
ทั้งเมืองและผู้อยู่ในเมืองก็ส่งความกลัวไปให้ทุกคนที่อยู่ในนั้น
บัดนี้ เมืองชายทะเลก็หวาดหวั่นในวันที่เจ้าล้มลง
บรรดาเกาะต่าง ๆ ในทะเลก็หวาดกลัวเพราะการที่เจ้าสูญไป

 

เอเสเคียล 26-2 คราวของไทระ

เอเสเคียล 26:7-14

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“ดูเถิด เราได้นำกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนจากทางเหนือเข้ามาต่อสู้กับไทระ
เขาเป็นกษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย
พร้อมกับม้าศึกและรถรบ พร้อมพลม้าและกองทัพใหญ่
เขาจะสังหารลูกสาวของเจ้าบนแผ่นดิน
เขาจะตั้งกำแพงล้อมพวกเจ้า และก่อเชิงเทินสู้เจ้า
เขาจะยกโล่ต่อสู้กับเจ้าnebu-tyre

 

เขาจะต้องเครื่องทะลวงกำแพงหน้ากำแพงของเจ้า
และจะใช้ขวานพังป้อมหอคอยของเจ้าเสีย
เขาส่งม้าเข้ามามากมายจนฝุ่นของมันจะคลุมเจ้า
กำแพงของเจ้าจะสั่นสะเทือนเพราะเสียงจากพลม้า เกวียนและรถรบ
เขาเข้ามาทางประตูเหมือนบุรุษที่เข้ามาในเมืองถูกทำลายราบคาบแล้ว

เขาจะเหยียบย่ำถนนในเมืองของเจ้าด้วยกีบม้า
จะสังหารประชาชนของเจ้าด้วยดาบ
เสาหานที่แข็งแกร่งของเจ้านั้น จะล้มลงดิน

เขาจะปล้นความมั่งคั่งของเจ้า จะปล้นสินค้าต่าง ๆ ของเจ้า
พวกเขาจะทำลายกำแพงเมืองและทำลายคฤหาสน์ของพวกเจ้า

ทั้งหิน ไม้ และดินของเจ้าจะถูกโยนลงกลางน้ำ
เราจะให้เสียงเพลงของเจ้าหยุดไป
จะไม่มีเสียงจากพิณของเจ้าอีก
เราจะทำให้เจ้าเป็นหินร้างว่างเปล่า
เมืองของเจ้าจะลายเป็นที่ตากอวนชาวประมง
จะไม่มีการสร้างเมืองนี้ขึ้นมาอีก
เพราะเราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า  เรากล่าวไว้แล้ว
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

 

เอเสเคียล 26-1 คำกล่าวโทษไทระ

เอเสเคียล 26:1-6

ในปีที่ 11 วันแรกของเดือน พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังข้า
“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย เพราะว่า ไทระกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า
..อา.. ประตูเมืองของประชาชนก็พังไปแล้ว
มันเปิดประตูรับข้า
ข้าเองจะบริบูรณ์มากขึ้น เพราะพวกเขากลายเป็นที่ร้างเปล่า..

tyre

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“โอ ไทระ ดูเถิด เราต่อต้านเจ้า  เราจะนำประชาชาติหลายชาติมาต่อสู้เ้จา
เหมือนกับทะเลโหมคลื่นเข้ามา
พวกเขาจะทำลายกำแพงเมืองไทระ และพังป้อมทั้งสิ้น
และเราจะขูดผิวกินออกมา ทำให้กลายเป็นหินโล้น

ไทระจะลงไปอยู่กลางทะเล กลายเป็นที่ตากอวน
เพราะเรากล่าวแล้ว
เมืองนั้นจะกลายเป็นของที่ปล้นมาได้สำหรับประชาชาติทั้งหลาย
เหล่าลูกสาวของเธอบนแผ่นดินก็จะถูกสังหารด้วยดาบ
แล้วพวกเขาจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า

เอเสเคียล 25-4 คำกล่าวโทษฟิลิสเตีย

เอเสเคียล 25:15-17

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

เป็นเพราะชาวฟิลิสเตียได้แก้แค้น และ
ทำการแก้แค้นด้วยใจชั่วร้ายเพื่อทำลาย
มีความเป็นศัตรูอย่างไม่จบสิ้น
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิด  เราจะยื่นมือของเราต่อต้านฟิลิสเตีย
และเราจะตัดคนชาวเอเรธีออกไป
และทำลายคนที่เหลืออยู่ตามชายฝั่งทะเล
เราจะทำการแก้แค้นพวกเขาด้วยความโกรธของเรา
และพวกเขาจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า
เมื่อเราได้วางการแก้แค้นของเราเหนือพวกเขา

philistia

เอเสเคียล 25-3 เอโดมก็ไม่เว้น

เอเสเคียล 25:12-14

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
เป็นเพราะเอโดมได้ทำตัวต่อต้านแก้แค้นวงศ์วานยูดาห์
และได้ทำการร้ายมากในการแก้แค้นนั้น
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
เราจะยื่นมือของเราต่อต้านเอโดม และจะตัดคนและสัตว์ออกจากพวกเขา

edom

และเราจะทำให้มันกลายเป็นที่ร้างเปล่า
จากเทมานถึงเดดาน  คนจะต้องตายด้วยดาบ
และเราจะวางการแก้แค้นของเราลงบนเอโดม
ด้วยน้ำมือของประชากรอิสราเอลของเรา
และเขาจะทำอีกในเอโดมตามความโกรธ ตามความกริ้วของเรา
และเขาจะรู้ว่า การแก้แค้นของเรานั้นเป็นอย่างไร
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

 

เอเสเคียล 25-2 คราวของโมอับ

เอเสเคียล 25:8-11

และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
เพราะโมอับและเสอีร์กล่าวว่า
ดูซิ วงศ์วานของยูดาห์ก็เป็นเหมือนชาติอื่น ๆ นั่นแหละ
..ดังนั้น เราจะเปิดไหล่เขาแห่งโมอับ จากเมืองต่าง ๆ

 

Eze25 (1)

จากด้านหน้าของเมือง   จากศักดิ์ศรีของประเทศ
ทั้งเมืองเบธเยชิโมท   เมืองบาอัลเมโอน  เมืองคีริยาธาอิม
เราจะมอบให้แก่ประชาชนที่มาจากทางตะวันออกให้เขาได้เป็นกรรมสิทธิ์
และใคร ๆ ก็จะลืมคนชาติอัมโมนไปจนหมดสิ้น
เราจะพิพากษาลงโทษโมอับ
แล้วเขาจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า

เอเสเคียล 25-1 ข่าวร้ายของอัมโมน

เอเสเคียล 25:1-7

พระวจนะของพระเจ้ามาถึงข้าว่า

“ลูกชายของมนุษย์ จงตั้งหน้าของเจ้าไปยังคนอัมโมน
และกล่าวโทษเขา… บอกพวกเขาว่า
จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เป็นเพราะเจ้ากล่าวว่า ชิชิ… เหนือสถานบริสุทธิ์ของเราเมื่อสถานนั้นเป็นมลทิน
และเจ้าก็พูดอย่างนี้กับแผ่นดินอิสราเอลเมื่อแผ่นดินร้างเปล่า
เจ้าพูดอย่างนี้กับวงศ์วานอิสราเอลเมื่อพวกเขาต้องกลายไปเป็นเชลยต่างแดน

ดังนั้น ดูเถิด.. เราจะมอบเจ้าไว้ให้กับชนชาติทางตะวันออก  เขาจะมีกรรมสิทธิ์เหนือเจ้า
และพวกเขาจะตั้งค่ายท่ามกลางเจ้า อยู่อาศัยกับพวกเจ้า
พวกเขาจะกินผลไม้ของเจ้า และดื่มนมของเจ้า
เราจะทำให้รับบาห์กลายเป็นทุ่งหญ้าสำหรับอูฐ
และอัมโมนเป็นคอกสำหรับเลี้ยงสัตว์
แล้วเจ้าจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า

1Chro18map-550x663

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
เป็นเพราะเจ้าได้ตบมือ และกระทืบเท้าด้วยความดีใจ
เพราะความชั่วร้ายในตัวของเจ้าที่ต่อต้านแผ่นดินอิสราเอล
ดังนั้น เราจะยื่นมือของเราต่อต้านเจ้า และจะมอบเจ้าให้กับชาติต่าง ๆ เป็นของปล้นไปได้
และเราจะตัดเจ้าออกจากเหล่าประชาชน ทำให้เจ้าพินาศจากประเทศต่าง ๆ

เราจะทำลายเจ้า
แล้วเจ้าจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า

เอเสเคียล 24-2 ความตายของที่รัก

เอเสเคียล 24:15-27

พระวจนะของพระเจ้ามายังข้า
“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย  ดูเถิด เรากำลังจะทำให้สิ่งที่สายตาเจ้าพึงพอใจ
ออกไปจากเจ้าทันควัน
แต่เจ้าจะต้องไม่คร่ำครวญร้องไห้ จะไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
เจ้าถอนหายใจได้ แต่ต้องไม่เสียงดัง
อย่าคร่ำครวญเพื่อคนตาย
จงโพกหัวของเจ้า และสวมรองเท้า
อย่าปิดปากของเจ้า หรือกินอาหารของคนอื่น”

ezekiel-1513

ดังนั้นข้าจึงกล่าวกับคนในตอนเช้า และตอนเย็นภรรยาของข้าก็เสียชีวิต
เช้าวันต่อมา ข้าก็ทำอย่างที่พระองค์ทรงบัญชา
และผู้คนกล่าวแก่ข้าว่า
“ท่านจะไม่บอกหรือว่า สิ่งเหล่านี้มีความหมายอย่างไรกับเรา?
และเหตุใดท่านจึงกระทำเช่นนั้น?”
แล้วข้าก็พูดกับพวกเขาว่า
“พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงข้าว่า..ให้กล่าวแก่วงศ์วานอิสราเอลดังนี้
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ..
ดูเถิด เราจะทำให้สถานที่บริสุทธิ์ของเราเป็นมลทิน
สถานที่อันเป็นความภาคภูมิใจของเจ้า
เป็นที่พอตาพอใจของเจ้า  เป็นที่วิญญาณของเจ้าอาลัยหา
ลูกสาวลูกชายของพวกเจ้าที่เจ้าทิ้งไว้จะตายด้วยดาบ

และพวกเจ้าจะทำอย่างข้า
เจ้าจะไม่ปกคลุมปากของเจ้า
ไม่กินอาหารของคนอื่น
ผ้าโพกหัวจะอยู่บนหัวของเจ้า
เจ้าจะสวมรองเท้า และจะไม่ครำครวญไม่ไว้ทุกข์
เจ้าจะแห้งตายไปเพราะความผิดของเจ้า และจะโอดครวญต่อกันและกัน

เอเสเคียลจะเป็นสัญลักษณ์แก่เจ้าตามนี้
ทุกสิ่งที่เขาทำ เจ้าจะต้องทำด้วย
เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เจ้าจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า

“สำหรับเจ้า ลูกชายของมนุษย์ ในวันที่เราจะเอาป้อมเข้มแข็งออกไปจากพวกเขา
ทั้งความยินดี  ศักดิ์ศรี  สิ่งพอตาพอใจของพวกเขา  สิ่งที่พวกเขาปรารถนา
รวมไปถึงลูกชาย ลูกสาวของพวกเขา
ในวันนั้น ผู้ที่หนีภัยได้จะมาหาเจ้า และรายงานข่าวแก่เจ้า
วันนั้น เจ้าก็จะพูดได้อีกครั้ง ไม่เป็นใบ้อีกต่อไป
และเจ้าจะเป็นสัญลักษณ์แก่พวกเขา
เพื่อพวกเขาจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า”

 

 

เอเสเคียล 24-1 หม้อสนิม

เอเสเคียล 24:14

ในปีที่เก้า เดือนที่สิบ วันที่สิบ พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงข้า
“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย  จงเขียนชื่อของวันนี้ วันนี้นะ
กษัตริย์แห่งบาบิโลน จะล้อมนครเยรูซาเล็มวันนี้
และเจ้าจงกล่าวคำอุปมาให้แก่วงศ์วานที่ดื้อดึง และกล่าวกับพวกเขา
ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“จงตั้งหม้อบนเตา ตั้งเอาไว้ และเทน้ำลงไป
แล้วใส่ชิ้นเนื้อ  ทุกชิ้นเป็นเนื้อดีจากโคนขาและสันขาหน้า
ใส่กระดูกชิ้นดี ๆ ลงไป
และจงเลือกแกะตัวดีที่สุดจากฝูงมา
วางฟืนเป็นกองใต้นั้น แล้วต้มอย่างดี
เคี่ยวกระดูกที่อยู่ในนั้นด้วย

iron_age

เหตุฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
วิบัติแก่เมืองที่เต็มด้วยเลือด
วิบัติแก่หม้อที่มีสนิมอยู่ข้างใน และสนิมนั้นก็ยังอยู่ในหม้อ
จงเอามันออกทีละชิ้น ทีละชิ้น ไม่ต้องเลือก
เพราะเลือดที่เธอได้หลั่งออกมาท่ามกลางพวกเธอ
เธอวางไว้บนหินโล้น  เธอไม่ได้เทลงบนพื้นดินเพื่อจะให้ดินกลบเลือดนั้นไว้
ที่ทำอย่างนั้นเพื่อเร้าความโกรธของเราให้แก้แค้น
เราได้วางเลือดที่เธอทำให้ตกนั้นไว้บนก้อนหิน
เพื่อว่าจะไม่มีอะไรปกคลุมมันไว้

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
วิบัติแก่เมืองเปื้อนเลือด.. เราจะทำให้กองใหญ่ขึ้น
สุมกองซุง ติดไฟ ต้มเนื้อให้ดี  ปรุงด้วยเครื่องเทศ
ให้กระดูกไหม้ไปเลย
จากนั้นให้วางหม้อเปล่าบนกองถ่าน เพื่อว่ามันจะได้ร้อน
และทองแดงไหม้ไปด้วย เพื่อว่ามลทินจะได้ละลายในนั้น
สนิมที่มีอยู่ก็จะไหม้ไปด้วย

เธอทำให้เราเหนื่อยยาก
สนิมที่หนาเตอะก็ไม่ออกมา  ไม่ยอมไหม้ไปพร้อมกับสนิม
สนิมนั้นคือความชั่วร้ายสกปรกของเจ้า
เพราะเราน่าจะได้ชำระเจ้า และเจ้าก็ปฏิเสธ
เจ้าจะไม่ได้รับการชำระอีกต่อไปจนกว่า เราจะได้ระบายความโกรธเหนือเจ้าจนหมด

เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า เราได้กล่าวไว้แล้ว มันจะเกิดขึ้นแน่
เราจะทำสิ่งนั้น  เราจะไม่กลับ  เราจะไม่ปล่อยไว้ เราจะไม่เปลี่ยนใจ
เจ้าจะถูกพิพากษาตามทางและการกระทำของเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

 

เอเสเคียล 23-6 คำพิพากษา

เอเสเคียล 23:43-49

แล้วเราก็กล่าวกับเธอซึ่งเริ่มเหน็ดเหนื่อยกับการเล่นชู้

มาบัดนี้พวกเขาได้ใช้ให้เธอเป็นหญิงขายตัว  ดูซิ ใช้แม้กระทั่งตัวเธอ!

พวกเขาไปหาเธอเหมือนกับไปหาโสเภณี

ดังนั้น พวกเขาเข้าไปหาโอโฮลาห์ และโอโฮลิบาห์ ผู้หญิงทีเต็มด้วยกามรมณ์

แต่ คนชอบธรรมจะพิพากษาเธอว่าเป็นหญิงล่วงประเวณี

เป็นคำพิพากษาลงโทษผู้หญิงที่ทำให้โลหิตตก

เพราะพวกเธอเป็นหญิงล่วงประเวณี

และความผิดนั้น ต้องถูกลงโทษถึงชีวิต

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“จงนำกองทัพใหญ่มาสู้กับหญิงทั้งสองคนนี้

ทำให้เธอกลายเป็นความน่ากลัว และเธอจะถูกปล้นสะดม

และกองทัพนั้นจะเอาหินขว้างใส่เธอ และสังหารเธอด้วยดาบ

เขาจะฆ่าลูกชายและลูกสาวของเธอ   เผาบ้านของเธอเสีย

เราจะให้ความชั่วร้ายถึงจุดจบในแผ่นดิน

และหญิงทุกคนจะรับคำเตือน และไม่ทำผิดทางกามอย่างที่พวกเธอทำลงไป

และเขาจะกลับเทราคะของเธอลงบนตัวเธอ

และเธอจะต้องรับโทษที่ได้ปรนนิบัติรูปเคารพ

เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่า เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า “

เอเสเคียล 23-5 ทำไปได้อย่างไร?

เอเสเคียล 23:36-42

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าว่า
“ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย  เจ้าจะพิพากษาโอโฮลาห์ และโอโฮลีบาห์ไหม?
จงบอกให้ทั้งสองรู้ว่า ได้ทำสิ่งน่าเกลียดน่าชังอย่างไรบ้าง
เพราะทั้งสองได้ล่วงประเวณี และเลือดก็ติดในมือด้วย
เธอได้ล่วงประเวณีกับรูปเคารพทั้งหลายของเธอ
และได้เอาลูกที่เกิดจากเราไปถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับรูปเหล่านั้น
ยิ่งกว่านั้น  เธอยังทำกับเราด้วย คือทำให้สถานบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินในวันเดียวกัน
และทำให้วันสะบาโตของเราเสื่อมเกียรติ

molech1

ในวันที่เธอสังหารลูก ๆ เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชานั้น
เธอก็เข้ามาในพระวิหารของเราเพื่อทำให้เป็นมลทิน
และดูเถิดนี่คือสิ่งที่พวกเธอทำกับพระวิหารของเรา

คือได้ส่งคนสื่อสารไปเสาะหาผู้ชายจากเมืองไกล
และพวกเขาก็มา
เธอได้อาบน้ำเตรียมรอพวกเขา ทาสีเปลือกตา
และประดับร่างกายด้วยอัญมณี
เธอได้นั่งบนตั่งยาวที่มีโต๊ะยาววางอยู่
โต๊ะนั้นเป็นที่วางเครื่องหอมและน้ำมัน
เสียงของผู้คนที่ไร้ยางอายก็อยู่กับเธอ
พร้อมกับผู้ชายพวกเดียวกัน
คนขี้เมาทั้งหลายก็ถูกนำมาจากถิ่นกันดาร
และพวกเขาได้ใส่กำไลให้พวกผู้หญิง
สวมมงกุุฎงดงามบนหัวของพวกเธอ

เอเสเคียล 23-4 ถ้วยนี้ไม่อยากดื่ม

เอเสเคียล 23:28-35

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
“ดูเถิด  เราจะนำเจ้าไปสู่เงื้อมมือของคนที่เจ้าชัง
ในน้ำมือของคนที่เจ้าหันหลังให้เขาด้วยความขยะแขยง
และพวกเขาจะจัดการกับเจ้าด้วยความเกลียด
นำเอาลูกหลานของเจ้าไปหมด ปล่อยเจ้าทิ้งไว้ให้เปลือยเปล่า
การเล่นชู้ของเจ้าจึงเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งปวง
ทั้งความชั่วร้ายและการเล่นชู้ของเจ้านำสิ่งเหล่านี้มาเหนือเจ้า

เพราะว่าเจ้าได้เล่นชู้กับประชาชาติทั้งหลาย
ทำให้ตัวเจ้าเป็นมลทินด้วยรูปเคารพของพวกเขา
เจ้าได้ทำตามอย่างพี่สาวของเจ้า
ดังนั้นเราจะมอบถ้วยของเธอให้แก่เจ้า”

และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสต่อไปว่า
“เจ้าจะดื่มจากถ้วยของพี่สาว ซึ่งเป็นถ้วยลึกและใหญ่
เจ้าจะถูกคนเยาะเย้ย ถากถาง
เพราะถ้วยนั้นมีสิ่งเหล่านั้นเต็มไปหมด

cupeze

เจ้าจะเมามายและทุกข์ใจยิ่งนัก
เป็นถ้วยแห่งความน่ากลัวและการทิ้งร้าง
ถ้วยของพี่สาวเจ้าคือสะมาเรีย
และเจ้าจะดื่มมันจนหมด
เจ้าจะแทะแม้กระทั่งเศษถ้วย
และเจ้าจะฉีกอกตัวเอง
เพราะเราได้กล่าวแล้ว…”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

ดังนั้น..องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
เพราะเจ้าได้ลืมเราและเหวี่ยงเราไว้ข้างหลังเจ้า
ดังนั้นเจ้าจงรับผลของความชั่วร้ายและการเล่นชู้ของเจ้า”

 

เอเสเคียล 23-3 ศัตรูที่เคยรัก

เอเสเคียล 23 :22-27

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดังนั้น โอ..โอโฮลิบาห์  ดูเถิด เราจะเร้าให้คนรักของเจ้า
ที่เจ้าหันหลังให้เขาด้วยความเกลียดชังนั้น หันมาต่อสู้เจ้า
และเราจะทำให้พวกเขามาต่อสู้เจ้าจากทุก ๆ ด้าน

ชาวบาบิโลน ชาวเปโขด ชาวโคอา และเหล่าคนอัสซีเรีย
คนที่เป็นชายหนุ่มที่น่าปรารถนา รวมถึงผู้ปกครองและผู้บังคับบัญชาการ
ข้าราชการ บุรุษที่มีชื่อเสียง พวกเขาขี่ม้าเข้ามาต่อสู้เจ้า
จากทางเหนือ ด้วยรถม้า เกวียนและคนจำนวนมาก
พวกเขาตั้งหน้าสู้เจ้าด้วยโล่ขนาดใหญ่ โล่เล็ก และหมวกเหล็ก
และเราจะพิพากษาพวกเขา
ส่วนพวกเขาจะพิพากษาเจ้าตามความคิดของพวกเขา

Assyrian warriors returning from battle

และเราจะแสดงความหวงแหนที่เรามีต่อเจ้า
เพื่อว่าพวกเขาจะทำกับเจ้าอย่างโกรธเกรี้ยว
พวกเขาจะเฉือนจมูกและหูของเจ้า
คนที่ยังรอดชีวิตจะตายด้วยดาบ
พวกเขาจะจับลูกชายลูกสาวของเจ้าไป
คนที่ยังเหลืออยู่จะถูกผลาญด้วยไฟ

พวกเขาจะฉีกเสื้อผ้าของเจ้าออก และฉกเอาอัญมณี เครื่องประดับของเจ้าไป
เราจะทำให้ความชั่วร้ายของเจ้าจบสิ้นลง
รวมทั้งการเล่นชู้ที่เจ้าเริ่มจากอียิปต์
เพื่อว่าเจ้าจะไม่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหรือจดจำอียิปต์อีกต่อไป

 

เอเสเคียล 23-2 น้องที่ร้ายกว่าพี่

เอเสเคียล 23:11-21

เมื่อน้องสาวโอโฮลิบาห์เห็น  เธอก็กลับเลวร้ายยิ่งกว่าพี่สาว
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคะหรือการเล่นชู้
เลวร้ายกว่าพี่สาวมากนัก
เธอปรารถนาคนอัสซีเรีย ทั้งผู้ปกครองและผู้บังคับบัญชาการ
ทั้งนักรบที่สวมชุดรบครบเครื่อง รวมทั้งพลม้าที่ขับขี่รถม้า
พวกเขาเป็นชายหนุ่มที่น่าปรารถนา

และข้าเห็นว่าเธอเป็นมลทินไปแล้ว พี่น้องเป็นเหมือนกัน
แต่ตัวน้องสาวก็ยังทำเรื่องเกินเลยไปยิ่งกว่านั้น
เธอเห็นรูปผู้ชายที่อยู่บนผนัง
เป็นภาพชาวเคลเดียที่เป็นสีแดงเข้ม
สวมเข็มขัด ผ้าโพกหัวและทุกคนเป็นเหมือนข้าราชการ
เป็นพวกชาวเมืองบาบิโลน ซึ่งแผ่นดินของเขาคือเคลดีย
เมื่อเธอเห็นเช่นนั้น ก็มีความปรารถนาพวกเขา
และส่งผู้สื่อสารไปหาที่เคลเดีย
พวกเขาก็มาหาเธอ บนเตียงรัก และได้ทำให้เธอเป็นมลทินด้วยราคะ
และหลังจากที่เธอเป็นมลทินเพราะพวกเขาแล้ว
เธอก็หันหลังให้เขาด้วยความรู้สึกเกลียดชัง

tahanegypt

เมื่อเธอได้เปิดเผยการเล่นชู้ของตัวเอง และเปิดเผยร่างของตนนั้น
เราก็หันจากเธอด้วยความเกลียดชัง
เหมือนกับที่เราหันไปจากพี่สาวของเธอด้วยความชัง
แต่เธอก็ยังเพิ่มการเล่นชู้ของตน
โดยจำวันที่ยังสาวอยู่เมื่อเธอเล่นชู้ในแผ่นดินอียิปต์
เธอเที่ยวตามคนรักของเธอที่มีอาการรักอย่างลาและม้า

เจ้ายังอาลัยในความมักได้ของตัวเองตอนที่เหล่าคนอียิปต์
แตะต้องตัวเจ้านัั้น

 

 

เอเสเคียล 23-1 พี่น้องสองสาว

เอเสเคียล 23:1-10

พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงข้าว่า
“บุตรของมนุษย์เอ๋ย มีผู้หญิงสองคน เป็นลูกสาวแม่เดียวกัน
แต่ทั้งสองกลับขายตัวให้กับอียิปต์
เธอขายตัวตั้งแต่ยังวัยรุ่น ร่างกายก็ถูกแตะต้อง
โอโฮลาห์คือพี่ ส่วนน้องสาวคือ โอโฮลีบาห์
ทั้งสองต่อมาก็เป็นของเรา และต่างมีลูกชายลูกสาว
ชื่อจริงของทั้งสองก็คือ สะมาเรีย และเยรูซาเล็ม 

โอโฮลาห์(สะมาเรีย)ก็ขายตัวทั้ง ๆ เธอเป็นของเรา
และเธอได้ใคร่ตามชู้รักคืออัสซีเรีย นักรบที่สวมเสื้อสีม่วง
ทั้งข้าราชการและเหล่าผู้บัญชาการ  คนที่ขี่ม้า
คนเหล่านั้นเป็นชายหนุ่มที่น่าปรารถนา

nakrop

เธอเล่นชู้กับคนเหล่านั้น เหล่าชายชั้นยอดของอัสซีเรีย
เธอได้ทำให้ตนเองเป็นมลทินด้วยรูปเคารพของทุกคนที่เธอเฝ้าติดตาม
เธอไม่ยอมล้มเลิกการเล่นชู้ที่เริ่มต้นตั้งแต่อียิปต์
เพราะตั้งแต่เป็นสาวมา พวกผู้ชายก็นอนกับเธอและปลดเปลื้องราคะบนเธอ
ดังนั้น เราจึงยกให้เธออยู่ในมือของคนที่เธอรัก
ในมือของชาวอัสซีเรียที่เธอปรารถนา
คนเหล่านี้ทำให้เธอเปล่าเปลือย จับลูกชายลูกสาวของเธอ
และสังหารเธอด้วยดาบ  เธอกลายเป็นที่เยาะหยันท่ามกลางหญิงทั้งหลาย
เมื่อเธอถูกพิพากษาลงโทษ