เยเรมีย์ 15-3 ไม่อยากไปเป็นทาส

เยเรมีย์ 15:10-15

แม่ของข้า วิบัติแก่ข้าที่แม่ได้เกิดข้ามา
ข้าเป็นคนที่ทำให้เกิดการต่อสู้ชิงดีกันทั้งแผ่นดิน
ข้าไม่ได้ให้ยืม ข้าไม่ได้ยืมใคร แต่ทุกคนก็แช่งข้า

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เรามิได้ให้เจ้าเป็นอิสระก็เพื่อสวัสดิภาพของพวกเขาหรือ?
เราไม่ได้ร้องขอแมตตาจากศัตรูเพื่อเจ้า ในยามยากลำบาก ในยามที่เจ้าเดือดร้อนหรือ?
จะมีใครหักเหล็กได้   เหล็กและทองสัมฤทธิ์ที่มาจากทิศเหนือ?

เราจะมอบความมั่งคั่ง ทรัพย์สมบัติของเจ้า
ให้เป็นของที่พวกเขาริบไปโดยไม่คิดมูลค่า เพราะเจ้าได้ทำบาป
เราจะให้เจ้าต้องรับใช้ศัตรูในดินแดนที่เจ้าไม่รู้จัก
ที่เป็นอย่างนี้เพราะเราโกรธ… ไฟที่เราก่อขึ้นมานั้นจะเผาตลอดไป

 

ภาพจาก http://emp.byui.edu/SATTERFIELDB/Rel302/Lachish/Lachish.htm
ภาพจาก http://emp.byui.edu/SATTERFIELDB/Rel302/Lachish/Lachish.htm

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า  พระองค์ทรงทราบ
ขอทรงระลึกถึงข้าทาส และขอเสด็จมาเยี่ยมเยียนข้าด้วย
ขอทรงแก้แค้นผู้ที่ข่มเหงข้าทาสของพระองค์ด้วย
ขอโปรดอย่าเอาข้าทาสไป   เพราะพระองค์ทรงอดกลั้นพระทัย
ขอทรงรู้ว่า ข้าทาสจะทนรับการติเตียนเพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์

เยเรมีย์ 15-2

เยเรมีย์ 15:5-9

แล้วใครจะสงสารเจ้า โอเยรูซาเล็ม?
ใครจะโศกเศร้าเพื่อเจ้า?
ใครจะหันมาถามไถ่ความเป็นไปของเจ้า?

เจ้าได้ปฏิเสธไม่ยอมรับเรา   องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส

เจ้าเอาแต่ถอยหลัง…

ดังนั้น เราจึงยื่นมือของเราต่อสู้กับเจ้าและทำลายเจ้า
เราเบื่อกับการผ่อนผันให้เจ้าแล้ว

เราได้ฝัดร่อนพวกเขาด้วยคราดฝัด ณ ประตูเมืองทั้งหลาย
เราทำให้เขาต้องเสียใจเพราะเสียคนในครอบครัว
เราได้ทำลายคนของเรา
เขาไม่ยอมหันกลับจากการกระทำชั่วของเขา

เราทำให้เขามีหญิงม่ายเพิ่มขึ้นจำนวนมากกว่าทรายในทะเล
เวลาเที่ยงวัน เรานำผู้ทำลายมาสู้กับบรรดาแม่ของชายหนุ่ม
เราได้ทำให้ความทุกข์ระทมและความกลัวมาถึงเขาอย่างทันควัน
Widow-Mourning

ผู้หญิงที่มีลูกเจ็ดคนก็อ่อนกำลัง เป็นลมไป
ดวงอาทิตย์ของเธอตกทั้ง ๆ ที่ยังวันอยู่
เธอต้องอับอายขายหน้า
ที่เหลือนั้นเราจะมอบให้กับดาบของศัตรู”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้

เยเรมีย์ 15-1 สี่ผู้ทำลาย

เยเรมีย์ 15:1-5

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าว่า “แม้ว่าโมเสส และซามูเอลจะยืนต่อหน้าเรา
แต่ใจของเราจะไม่หันไปหาคนเหล่านี้
เอาพวกเขาไปให้พ้นหน้าเรา  ให้พวกเขาออกไป!

และเมื่อเขาถามเจ้าว่า ‘เราจะไปไหนล่ะ?’
เจ้าจงตอบว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ …
‘คนที่ถูกกำหนดให้ไปเผชิญกับโรคระบาด ก็ไปหาโรคระบาด
คนที่ถูกกำหนดไว้ให้คมดาบ ก็ไปหาคมดาบ
คนที่ถูกกำหนดไว้ให้อดหยาก ก็จะไปเจอการกันดารอาหาร
คนที่ถูกกำหนดไว้ให้เป็นเชลย ก็ไปเป็นเชลย‘

Wild wolf

เราจะให้มีผู้ทำลายสี่แบบ  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
ดาบสังหาร
สุนัขเพื่อฉีกเนื้อ
นกในอากาศ
และสัตว์ป่าบนแผนดินเพื่อกัดกินและทำลาย

และเราจะทำให้พวกเขาเป็นที่น่ากลัวของอาณาจักรต่าง ๆ ในโลก
เป็นเพราะสิ่งที่มนัสเสห์ บุตรชายของเฮเซคียาห์ ราชาแห่งยูดาห์
ได้ลงมือกระทำในนครเยรูซาเล็ม

เยเรมีย์ 14-4 พระผู้ประทานฝน

เยเรมีย์ 14:19-22

พระองค์ทรงปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยต่อยูดาห์แล้วหรือ?
พระทัยของพระองค์ชังศิโยนแล้วหรือ?
เหตุใดพระองค์จึงทรงตีเขาจนล้มลง จนไม่มีอะไรจะรักษาให้หายได้?
เราตามหาสันติสุข  แต่ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
เราตามหาการบำบัดรักษา  กลับมีแต่ความสยดสยอง

เรายอมรับว่า เราชั่วช้า เหี้ยมโหด
โอ.. องค์พระผู้เป็นเจ้า  เรายอมรับว่า บรรพบุรุษของเราล่วงละเมิดพระองค์
พวกเราได้กระทำบาปต่อพระองค์
ขออย่าทรงปฏิเสธเราเพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์
ขออย่างทรงให้พระบัลลังก์อันตระการของพระองค์เสื่อมเกียรติ
ขอทรงระลึกถึงเรา
ขออย่าทรงหักพันธสัญญาที่ทรงมีต่อเหล่าข้าทั้งหลาย

มีพระปลอมองค์ไหนที่สามารถเทฝนลงมาได้บ้าง?

ภาพของคุณmindfulness http://www.flickr.com/photos/mindfulness/with/35421738/
ภาพของคุณmindfulness http://www.flickr.com/photos/mindfulness/with/35421738/

หรือท้องฟ้าจะเทฝนลงมาได้เองหรือ
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์เองทรงเป็นพระเจ้าของเรามิใช่หรือ?
เราหวังใจในพระองค์
เพราะพระองค์ทรงทำราชกิจทั้งสิ้น

เยเรมีย์ 14-3 สำหรับคนโกหก

29 สค. 2013

เยเรมีย์ 14: 13-18

แล้วข้ากล่าวว่า “อา..องค์พระผู้เป็นเจ้า ดูเถิด เหล่าผู้กล่าวคำต่างพูดกับพวกเขาว่า
“เจ้าจะไม่เจอดาบ จะไม่มีการอดหยาก ขอให้เจ้ามั่นใจได้ว่าจะมีสันติสุขในที่นี้”
และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าว่า
“พวกผู้กล่าวพระวจนะนั้นได้มุสาทำนายในนามของเรา
เราไม่ได้ส่งเข้าไป ไม่ได้บัญชาให้เขาพูดกับประชาชนเช่นนั้น
พวกเขากำลังกล่าวนิมิตที่มุสา  เป็นคำทำนายที่ไร้ค่า
เป็นคำหลอกลวงจากใจของพวกเขา

ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัส  “เหล่าผู้กล่าวคำในนามของเรา แม้ว่าเราไม่ได้ส่งเขาไป
และผู้ที่กล่าวว่าจะไม่มีดาบสังหารในแผ่นดิน
เอาล่ะ … ตัวเขาเองจะถูกทำลายด้วยดาบและความอดหยาก
และประชาชนที่ฟังพวกเขาทำนาย ก็จะถูกโยนไปตามถนนในเยรูซาเล็ม
จะกลายเป็นเหยื่อของความอดหยาก และดาบ
ไม่มีใครจะฝังศพของพวกเขา  ภรรยา ลูกชาย ลูกสาวของเขา
เพราะเราจะเทความชั่วของเขาลงบนตัวเขาโดยตรง

mailfung

แล้วเจ้าจะกล่าวคำต่อไปนี้กับพวกเขา
“ขอให้ตาของเรามีน้ำตาทั้งคืน ทั้งวัน ไม่หยุดไหลเลย
เพราะลูกสาวพรหมจารีของคนของเรานั้นมีบาดแผลเหวอะหวะเพราะถูกเฆี่ยนอย่างแรง
หากเราเดินไปยังท้องทุ่ง
ดูเถิด เราเจอคนที่ถูกแทงด้วยดาบ
หากเราเดินเข้าไปในเมือง
ก็เจอแต่โรคระบาดและความอดหยากปากแห้ง
เพราะทั้งเหล่าผู้กล่าวคำของพระเจ้าและปุโรหิตต่างก็หลอกลวงประชาชน
พวกเขาเองไม่รู้จักพระเจ้าเลย

เยเรมีย์ 14-2 แขกแปลกหน้า

เยเรมีย์ 14:8-12

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นความหวังของอิสราเอล
ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดในยามลำบาก
แต่เหตุใดพระองค์จึงทรงเป็นเหมือนแขกแปลกหน้าในแผ่นดิน
เป็นเหมือนคนเดินทางที่เข้ามาอาศัยนอนในเมืองคืนเดียว?

เหตุใดพระองค์จึงทรงเป็นเหมือนบุรุษผู้สับสน
เหมือนกับนักรบผู้กล้าซึ่งไม่อาจช่วยเราได้?

แต่กระนั้น ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า  พระองค์ทรงอยู่ท่ามกลางเรา
และเราถูกเรียกโดยพระนามของพระองค์
ขออย่างทรงจากเราไปเลย

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสเรื่องประชากรของพระองค์ว่า
“พวกเขาจะเร่ร่อนไป ไม่เคยยับยั้งเท้าของตนเลย
ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ยอมรับเขา

sunset on the ground dried by dryness

 

บัดนี้ พระองค์ทรงระลึกถึงการล่วงละเมิดของเขา
และจะทรงลงโทษบาปของเขา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกัข้าว่า
“อย่าอธิษฐานเพื่อสวัสดิภาพของคนเหล่านี้
เพราะแม้ว่าเขาจะอดอาหาร เราก็จะไม่ฟังเสียงของเขา
และแม้พวกเขาถวายเครื่องเผาบูชาและธัญบูชาเราก็จะไม่รับ
แต่เราจะผลาญเขาด้วยดาบ ความอดหยากและโรคระบาด!

เยเรมีย์ 14-1 แล้งจริง ๆ

เยเรมีย์ 14:1-7

พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์ เกี่ยวกับความแห้งแล้ง
ยูดาห์ก็โศกเศร้า ประตูเมืองทั้งหลายอ่อนกำลังไป
ประชาชนคร่ำครวญอยู่ตามพื้นดิน และเสียงร้องของเยรูซาเล็มก็ดังขึ้น

เหล่าชนชั้นสูงส่งคนรับใช้ไปเที่ยวหาน้ำ พวกเขามายังบ่อเก็บน้ำ
แต่ก็ไม่พบน้ำเลย พวกเขากลับไปพร้อมกับภาชนะที่ว่างเปล่า
ทั้งอับอายและขายหน้า จึงต้องเอาผ้ามาคลุมศีรษะ

เพราะแผ่นดินแตกระแหง เนื่องจากไม่มีฝน
เหล่าเกษตรกรก็อับอาย  พวกเขาจึงคลุมศีรษะเสีย

Jer14

แม้กวางตัวเมียในทุ่งก็ยังทิ้งลูกน้อยที่เพิ่งจะเกิดมา เพราะที่นั่นไม่มีหญ้า!
ลาป่ายืนอยู่บนที่สูงโล่ง  พวกมันหอบหาอากาศเหมือนหมาป่า
ตาของมันก็มัวลงเพราะว่า ไม่มีผักหญ้าเลย

แม้ความบาปของเราจะเป็นพยานปรักปรำเรา
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงทำอะไรสักอย่างเพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์เถิด..
เพราะเราได้ทรยศพระองค์นับครั้งไม่ถ้วน   เราได้ทำบาปต่อพระองค์

เยเรมีย์ 13-4 หันกลับมาทำดีไม่ได้

เยเรมีย์ 13:21-27
เจ้าจะพูดอย่างไร เมื่อเขาตั้งคนที่เจ้าคิดว่าจะเป็นเพื่อน
ให้เป็นหัวหน้าของเจ้า
แล้วเจ้าจะไม่เจ็บปวดเหมือนหญิงมีครรภ์หรอกหรือ?

และหากเจ้าพูดในใจของเจ้าว่า
‘เหตุใดสิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้นกับข้า?’
บอกให้ก็ได้  เป็นเพราะความผิดของเจ้านั้นใหญ่หลวงนัก
เจ้าจึงถูกถลกเสื้อขึ้นมา!  เจ้าจึงต้องเจอกับความรุนแรง!

ชาวเอธิโอเปียจะเปลี่ยนสีผิวของเขาได้หรือ?
เสือดาวจะเปลี่ยนจุดบนผิวหนังของมันได้หรือ?

ภาพโดย Peet van Schalkwyk / Creative Commons License
ภาพโดย Peet van Schalkwyk / Creative Commons License

ถ้าทำได้ พวกเจ้าที่เคยชินกับการทำชั่วจึงจะหันมาทำสิ่งดี ๆ ได้

เราจะทำให้เจ้ากระจัดกระจายออกไปเหมือนแกลบที่ลมทะเลทรายพัดออกไป
นี่เป็นส่วนของเจ้า
ส่วนที่เราตวงให้”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เพราะพวกเจ้าเราและหันไปเชื่อคำมุสา

เราเอลจะถลกเสื้อคลุมของเจ้าขึ้นมาปิดหน้าเจ้าไว้
และคนทั้งหลายจะเห็นความน่าละอายของเจ้า
เราได้เห็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังของเจ้า
การล่วงประเวณี ราคะ  การเล่นชู้ตามทุ่ง ตามภูเขา
วิบัติแก่เจ้า  เยรูซาเล็ม!

เมื่อไรหนอที่เจ้าจะยอมให้ตัวเองรับการชำระให้สะอาด?”

เยเรมีย์ 13-3 จะต้องไปเป็นเชลย!

เยเรมีย์ 13:15-20
คำเตือนว่าจะต้องไปเป็นเชลย
จงฟัง ตั้งใจดี ๆ อย่าทำอวดดีไป เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแล้ว
จงถวายพระสิริแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า
ก่อนที่พระองค์จะทรงนำความมืดมา
ก่อนที่เท้าเจ้าจะสะดุด
บนภูเขาที่แสงรำไร
และเมื่อพวกเจ้ามองหาแสงสว่าง
พระองค์กลับทรงทำให้มืดขมุกขมัว และในที่สุดก็มืดสนิท!

rumrai

และหากเจ้าไม่ฟัง จิตวิญญาณของข้าจะร้องไห้เงียบ ๆ
เพราะความเย่อหยิ่งของเจ้า
น้ำตาของข้าจะไหลอย่างขมขื่น ใบหน้านองด้วยน้ำตา
เพราะฝูงสัตว์ของพระเจ้าถูกนำไปเป็นเชลย

จงกล่าวแก่พระราชาและพระมารดาว่า
“จงไปนั่งในที่ต่ำ เพราะบัดนี้ มงกุฎงดงามของเจ้าหลุดจากหัวของเจ้าแล้ว”

เมืองต่าง ๆ ในเนเกบก็ปิดหมด ไม่มีใครเปิดมันได้
ยูดาห์ทั้งสิ้นถูกนำไปเป็นเชลย
ถูกนำไปเป็นเชลจนหมด
“จงเงยหน้าดู  ดูเหล่าคนที่มาจากทางเหนือ
แล้วฝูงสัตว์ดี ๆ ที่มอบไว้ให้แก่เจ้านั้น อยู่ที่ไหน?

เยเรมีย์ 13-2 เหล้าองุ่นเต็มไห

เยเรมีย์ 13:12-14

ดังนั้นเจ้าจงกล่าวคำเหล่านี้แก่พวกเขา

“องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า  .. มีเหล้าองุ่นเต็มอยู่ในไหทุกใบ..

และพวกเขาจะพูดกับเจ้าว่า ..อ๊ะ! พวกเราไม่รู้หรือว่า มีเหล้าองุ่นเต็มไหทุกใบ?..
แล้วเจ้าจะพูดกับเขาว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า ..ดูเถอะ เราจะทำให้ทุกคนที่อยู่ในแผ่นดินเมามาย…drunkkon

เหล่าราชาที่ประทับบนบัลลังก์ของดาวิด
เหล่าปุโรหิต
ผู้กล่าวคำของเรา
และพลเมืองที่อาศัยในเยรูซาเล็ม
และเราจะจับให้พวกเขาตีกันเอง ..พ่อกับลูก”   องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
“และเราจะไม่สงสาร ไม่ไว้ชีวิต ไม่เมตตา จนเราเปลี่ยนใจไม่ทำลายเขา”

เยเรมีย์ 13-1 ผ้าป่านรุ่งริ่ง

เยเรมีย์ 13:1-11

 

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าดังนี้
“ไป ไปซื้อผ้าป่านคาดเอวมาผื่นหนึ่ง  และคาดเอวเจ้าไว้ อย่าเอาผ้าจุ่มน้ำเด็ดขาด”
ข้าจึงไปซื้อผ้าคาดเอวมาตามพระบัญชาของพระองค์ แล้วคาดเอวไว้

ไม่ทราบผู้วาด... เยเรมีย์เอาผ้ามาคาดเอวและนำไปซ่อนไว้ใต้หินริมน้ำ
ไม่ทราบผู้วาด… เยเรมีย์เอาผ้ามาคาดเอวและนำไปซ่อนไว้ใต้หินริมน้ำ

ต่อมาพระเจ้าตรัสครั้งที่สองว่า “ลุกขึ้น  ผ้าคาดเอวที่เจ้าซื้อมานั้นนะ จงเอาไปซ่อนมันไว้ใต้ซอกหินแห่งหนึ่งริมน้ำยูเฟรตีส”  ดังนั้น ข้าจึงไปยังแม่น้ำยูเฟรตีสและซ่อนมันไว้ตามที่พระเจ้าทรงบัญชา
หลายวันผ่านไป  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าว่า   “ลุกขึ้น!  ไป  เดินทางไปที่แม่น้ำยูเฟรตีนอีก และนำผ้าคาดเอาที่เจ้าซ่อนไว้นั้นกลับมา”

ข้าจึงไปตามนั้น และขุดผ้าคาดเอวนั้นขึ้นมาจากที่ซ่อน  ดูเถอะ ผ้าขาดรุ่งริ่ง และใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย!

แล้วพระดำรัสของพระเจ้าก็มาหาข้าอีก “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า  .. เราจะทำลายความเย่อหยิ่งทะนงตนอันมากล้นของยูดาห์และเยรูซาเล็ม
คนชั่วที่ปฏิเสธไม่ยอมฟังคำของเรานั้น ดื้อดึง ทำตามใจตนเอง และหันไปหาพระอื่น
ไปปรนนิบัติ นมัสการพระเหล่านั้น  พวกเขาจะเป็นเหมือนผ้าคาดเอาผืนนี้ เป็นผ้าที่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย
ในเมื่อผ้าคาดเอวนั้น เอาไว้เพื่อคาดเอวคนติดตัวเอวไว้  รู้ไหม.. เราก็ได้สร้างให้วงศ์วานยูดาห์และวงศ์วานอิสราเอลติดพันอยู่กับเราเช่นกัน”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส “เพื่อว่าเขาจะได้เป็นคนของเรา เป็นชื่อเสียง เป็นที่สรรเสริญ และเป็นศักดิ์ศรี … แต่พวกเขากลับไม่ฟัง!”

 

เยเรมีย์ 12-3 จะให้สงสารไหม?

เยเรมีย์ 12:10-16

ผู้เลี้ยงแกะหลายคนได้ทำลายสวนองุ่นของเรา 
พวกเขาเหยียบย่ำสวนของเรายับเยิน
ทำให้ส่วนที่เราพอใจนั้นกลายเป็นถิ่นกันดารรกร้าง

พวกเขาทำให้มันร้างเปล่า  และที่รกร้างนั้นได้ร้องคร่ำครวญต่อเรา
ทั้งแผ่นดินถูกปล่้นสะดมจนไม่เหลืออะไร  เพราะไม่มีใครสนใจ

ผู้ทำลายบุกเข้ามา  บนที่สูงโล่งในทะเลทราย
เพราะพระแสงดาบของพระเจ้าจะกวาดจากสุดแดนข้างหนึ่งไปยังอีกข้าง
จะไม่มีใครมีสันติสุขเลย!

พวกเขาหว่านข้าวสาลี  แต่เก็บเกี่ยวหนาม
พวกเขาทำงานหนักเหน็ดเหนื่อย แต่ไม่ได้อะไร
kaosia
พวกเขาต้องอายจากผลที่ได้รับ  นั่นเป็นเพราะพระเจ้าทรงพิโรธยิ่งนัก

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัส “เพื่อนบ้านชั่วร่้าย
ผู้ไปแตะต้องมรดกที่เราเตรียมให้อิสราเอลคนของเรา
ดูเถิด เราจะถอนพวกเขาออกไป
และเราจะถอดพงศ์พันธุ์ยูดาห์ออกจากพวกเขา

หลังจากที่เราถอนรอกถอนโคนพวกเขาไปแล้ว
เราจะสงสารพวกเขา
และนำพวกเขาแต่ละคนกลับมายังมรดกของเขา
กลับมาของแผ่นดินของเขา

และหากพวกเขาตั้งใจ ขยันขันแข็งที่จะเรียนรู้ทางของคนของเรา
ที่จะปฏิญาณในนามของเรา ..ตราบเท่าที่พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่..
เหมือนอย่างที่พวกเขาสอนคนของเราให้บฏิญาณตนในนามเจ้าบาอัล
เมื่อนั้น เขาจึงจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่ท่ามกลางคนของเรา

แต่หากพวกเขาไม่เชื่อฟัง เราจะถอนรากถอนโคนพวกเขาและทำลายเขาเสีย”

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น

 

 

เยเรมีย์ 12-2 แข่งไหวหรือ?

เยเรมีย์ 12:5-9

พระเจ้าทรงตอบเยเรมีย์

หากเจ้าวิ่งแข่งกับมนุษย์ แล้วเขายังทำให้เจ้าเหนื่อยแรง
เจ้าจะไปวิ่งแข่งกับม้าได้อย่างไร?
และหากในแผ่นดินที่เจ้าไว้วางใจ ยังทำให้เจ้าเหน็ดเหนื่อย
เจ้าจะทำอย่างไรกับที่ลุ่มในแม่น้ำจอร์แดน?

mawing

เพราะแม้แต่พี่น้องของเจ้า คนในครอบครัวของพ่อเจ้า
พวกเขาเองก็ได้ทรยศเจ้า ร้องเสียงดังให้ร้ายเจ้า
อย่าเชื่อใจเขาแม้เขาจะพูดจาอ่อนโยนกับเจ้า

“เราได้ละทิ้งบ้านของเรา  ละทิ้งมรดกของเรา
เราได้มอบคนที่เรารักยิ่งไว้ในมือของศัตรู
มรดกของเรากลับกลายเป็นสิงห์ในป่า เขาคำรามใส่เรา
ดังนั้นเราจึงชังเขา
มรดกของเรากลับกลายเป็นเหมือนนกเหยี่ยวสีจุด
และเหยี่ยวตัวรอบ ๆ ก็คอยไล่จิกมัน
มาเถอะ  รวบรวมสัตว์ป่าทั้งสิ้น
ให้มันมาเขมือบพวกมัน

พระเจ้าทรงถามเยเรมีย์ว่า แค่แข่งกับมนุษย์ แค่ล้มในประเทศของตนเอง  แล้วจะไปสู่อะไรกับเรื่องใหญ่ ๆ ที่กำลังตามมา 

เยเรมีย์ 12-1 คิดว่าพระเจ้าไม่เห็น

เยเรมีย์ 12:1-4

คำถามของเยเรมีย์ : 

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า  พระองค์ทรงชอบธรรม
เมื่อข้าทาสร้องทูลต่อพระองค์

แต่กระนั้นขอให้ข้าทาสได้สนทนากับพระองค์เรื่องการพิพากษาของพระองค์..พระเจ้าข้า

เหตุใดคนชั่วร้ายจึงรุ่งเรือง?
เหตุใดคนที่ทรยศจึงมีความสุข?

พระองค์ทรงปลูกพวกเขา.. ใช่ซิ   พวกเขาหยั่งรากลง
พวกเขาเติบโตและออกผล

ปากของเขาเหมือนมีพระองค์อยู่ใกล้แสนใกล้
แต่ใจของเขานั้น ห่างจากพระองค์

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า  พระองค์ทรงรู้จักข้าทาสคนนี้
ทรงเห็นข้า และทรงทดสอบใจของเข้า
ขอพระองค์ทรงโปรดลากพวกเขาออกไป เหมือนแกะที่ถูกนำไปฆ่า
ขอทรงเตรียมพวกเขาไว้สำหรับวันสังหาร!

นานเท่าไรที่แผ่นดินต้องคร่ำครวญ
และพืชพันธุ์ตามไร่นาต้องเหี่ยวแห้ง
สัตว์ป่าและนกทั้งหลายก็ถูกผลาญไปสิ้น

crisis

นี่เป็นเพราะคนที่อาศัยในแผ่นดินชั่วร้ายนัก
พวกเขากล่าวกันว่า

“พระเจ้าไม่ทรงเห็นหรอกว่า พวกเราจะจบกันอย่างไร”

เยเรมีย์ต้องการทูลต่อพระเจ้า…
และขอร้องให้พระองค์ทรงจัดการกับศัตรูเหมือนกับที่เขารู้สึก…
คือแกะที่ถูกนำไปฆ่า
เขาคิดเสมอว่า เมื่อไร?  เมื่อไร? พระเจ้าจึงจะทรงจัดการ 

เยเรมีย์ 11-3 ผู้ทดสอบใจและความคิด

เยเรมีย์ 11:18-23

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบอกข้า และข้าก็รู้
พระองค์ทรงเปิดเผยการกระทำของพวกเขา
แต่ข้าเป็นเหมือนลูกแกะเชีื่องที่ถูกนำไปฆ่า
ข้าหารู้ไม่ว่า พวกเขาวางแผนต่อสู้้ข้า  พวกเขากล่าวว่า
“ให้เราทำลายต้นและผลของมัน
ให้เราโค่นมันจากแผ่นดินของคนเป็น
เพื่อว่าชื่อของเขาจะไม่เป็นที่จดจำอีกต่อไป”

แต่ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงพิพากษาอย่างยุติธรรม
พระองค์ทรงทดสอบจิตใจและความคิด
ขอให้ข้าได้เห็นการแก้แค้นของพระองค์เถิด
เพราะข้าได้มอบเรื่องของข้าไว้กับพระองค์แล้ว

พระเจ้าทรงอยู่เหนือจิตใจและความคิดของเรา ทรงรู้ทุกอย่างที่ลึกลับในความคิดนั้น
พระเจ้าทรงอยู่เหนือจิตใจและความคิดของเรา ทรงรู้ทุกอย่างที่ลึกลับในความคิดนั้น

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเกี่ยวกับคนจากตำบลอานาโธท ผู้จะเอาชีวิตของเจ้า
ผู้กล่าวแก่เจ้าว่า “อย่าเผยคำของพระเจ้าในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
มิฉะนั้นแล้ว เจ้าจะต้องตายด้วยมือของเราเอง”

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า
“นี่แนะ เราจะลงโทษพวกเขา  คนหนุ่ม จะตายด้วยดาบ
ลูกชายลูกสาวของเขาจะตายเพราะขาดอาหาร
จะไม่มีใครเหลืออยู่สักคน เพราะเราจะนำหายนะมาสู่คนตำบลอานาโธท
คือปีแห่งการลงโทษเขา!”

เยเรมีย์ 11-2 เจ้าไม่ต้องอธิษฐาน

เยเรมีย์ 11:9-17

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าอีกครั้งว่า
“มีการสมคบคิดในหมู่คนยูดาห์ และคนที่อาศัยในนครเยรูซาเล็ม
พวกเขาหันกลับไปทำความชั่วร้ายเหมือนกับบรรพบุรุษของพวกเขา
ซึ่งคนเหล่านั้นไม่ยอมฟังคำของเรา
พวกเขาได้ติดตามไปปรนนิบัติพระอื่น ๆ

ทั้งวงศ์วานอิสราเอลและยูดาห์ ต่างหักพันธสัญญาที่เราทำไว้กับบรรพบุรุษของเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ดังนั้น ดูเถิด เราจะนำหายนะมาสู่เขา
เป็นหายนะที่พวกเขาหนีไม่พ้น
แม้เขาจะร้องทูลต่อเรา เราก็จะไม่ฟังเขา

แล้วหัวเมืองต่าง ๆ ของยูดา กับเหล่าคนที่อยู่ในนครเยรูซาเล็ม จะออกไป
และร้องขอความช่วยเหลือจากพระที่พวกเขาถวายเครื่องบูชา
แต่พระเหล่านั้นก็ไม่อาจช่วยพวกเขาในเวลาลำบากได้
เพราะเจ้าทั้งหลายมีพระมากมายเหมือนกับจำนวนของเมือง
ยูดาห์เอ๋ย เจ้ายังตั้งแท่นบูชาบาอัลที่ทำให้เจ้าต้องอับอาย ตามถนนต่างๆ ของนครเยรูซาเล็ม

ภาพวาดโดยไมเคิล แอนเจลโล
ภาพวาดโดยไมเคิล แอนเจลโล

ดังนั้น เยเรมีย์ เจ้าไม่ต้องอธิษฐานเพื่อคนเหล่านี้
ไม่ต้องร้องขอเราเพื่อพวกเขา
เพราะเราจะไม่ฟังเมื่อพวกเขาร้องทูลต่อเราในยามยากลำบาก
“คนที่เรารักมีสิทธิ์มาทำอะไรในวิหารของเรา ในเมื่อเขาทำสิ่งชั่วหลายอย่าง
การถวายเครื่องบูชาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้หรือ?
เจ้าจะพ้นโทษได้หรือ?

ครั้งหนึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าเคยเรียกเจ้าว่า .. ต้นมะกอกเขียวสด สวยงามมีผลเต็มต้น..
แต่พระองค์จะทรงเผามันพร้อมด้วยเสียงดังสนั่นแห่งพิโรธ    กิ่งก้านของมันจะถูกเผา

องค์พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ ทรงปลูกเจ้าขึ้นมา และบัดนี้พระองค์ประกาศหายนะของเจ้า
เพราะความชั่วที่วงศ์วานยูดาห์และวงศ์วานอิสราเอลได้กระทำ
พวกเขายั่วพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยการเผาเครื่องหอมแก่เจ้าบาอัล!

เยเรมีย์ 11-1 บอกแล้วบอกอีก

เยเรมีย์ 11:1-8

คำขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเยเรมีย์
“จงฟังคำแห่งพันธสัญญานี้ และกล่าวกับคนในยูดาห์ รวมทั้งคนที่อาศัยในเยรูซาเล็ม
เจ้าจะพูดกับพวกเขาว่า .. องค์พระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้
คำสาปแช่งมีแก่คนที่ไม่ฟังคำแห่งพันธสัญญาซึ๋งเป็นพันธสัญญาที่เราได้บัญชา
แก่บรรพบุรุษของเจ้า ครั้งที่เรานำเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
ออกจากเตาเผาเหล็ก
พระเจ้าตรัสว่า .. จงฟังเสียงของเรา และทำทุกอย่างที่เราบัญชาเจ้า
เพื่อว่า เจ้าจะได้เป็นคนของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า..

เพื่อเราจะได้ย้ำคำปฏิญาณที่เราได้ให้ไว้กับบรรพบุรุษของเจ้า คือ
ที่เราจะให้แผ่นดินอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง เหมือนอย่างที่เจ้ามีอยู่ในวันนี้”

แล้วข้าทูลตอบว่า “ขอให้เป็นไปอย่างนั้นเถิดพระเจ้าข้า”

ironf

และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าว่า
“เจ้าจงประกาศคำเหล่านี้ในเมืองต่าง ๆ ของยูดาห์ และในถนนแห่งเยรูซาเล็ม:

..เจ้าทั้งหลายจงฟังคำแห่งพันธสัญญานี้ และกระทำตาม
เพราะเราย้ำนักย้ำหนาตอนที่เรานำพวกเขาออกมาจากอียิปต์  ย้ำแล้วย้ำอีกจนทุกวันนี้ว่า
จะต้องเชื่อฟังเสียงของเรา
แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อฟัง ไม่เอียงหูฟัง
กลับเดินตามใจชั่วและดื้อดึงของตนเอง
ดังนั้นเมื่อไม่เชื่อฟัง    เราก็จะให้สิ่งที่เราบอกไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น  เกิดขึ้นกับเขาอย่างแน่นอน”
 

เยเรมีย์ 10-3 สงครามจากทางเหนือ

เยเรมีย์ 10:17-25

เหล่าคนที่ถูกล้อมเอาไว้เอ๋ย  พวกเจ้าจงรวบรวมข้าวของขึ้นมาจากพื้นดิน

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้  “ดูเถิด เวลานี้เราจะเหวี่ยงผู้คนที่อาศัยในแผ่นดิน
เราจะนำความทุกข์ยากมาให้
พวกเขาจะรู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน”

วิบัติแก่ข้า เพราะความเจ็บปวดของข้า  แผลนั้นสาหัส
แต่ข้ากล่าวว่า “จริงซิ นี่เป็นความทุกข์ใจที่ข้าต้องทนให้ได้”

กระโจมของข้าถูกทำลาย เชือกก็ขาดหมด ลูก ๆ ก็ไปจากข้า
ไม่มีใครอยู่เลย..
ไม่มีใครจะช่วยกางกระโจมออกมาอีก ไม่มีใครช่วยติดม่านให้

เพราะเหล่าผู้เลี้ยงก็โง่บัดซับ  และไม่ทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่เจริญรุ่งเรือง
และเหล่าฝูงสัตว์ก็กระจัดกระจายไป

มีเสียงหนึ่ง… ข่าวลือ!!  ดูเถิด มันมาแล้ว !
เป็นเสียงอึกทึกสนั่นลั่นมาจากทางเหนือ
มันมาเพื่อทำให้หัวเมืองยูดาห์ร้างเปล่า
ให้เป็นที่อยู่อาศัยของหมาป่า

รถม้าศึกแบบนี้ของอัสซีเรียยกมานับไม่ถ้วน ถล่มทลาย ภาพจากwww.militar.org.ua
รถม้าศึกแบบนี้ของอัสซีเรียยกมานับไม่ถ้วน ถล่มทลาย ภาพจากwww.militar.org.ua

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้ารู้ว่า
หนทางของมนุษย์นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขาเอง
ไม่ใช่ตัวเขา ที่จะนำหนทางชีวิตของตนเอง

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงแก้ไข ตีสอนข้าทาสด้วยความยุติธรรม
ไม่ใช่ด้วยพระพิโรธของพระองค์
มิฉะนั้นแล้วชีวิตของข้าจะสูญเปล่าไป

ขอทรงเทพระพิโรธไปยังประชาชาติที่ไม่รู้จักพระองค์
เทลงบนประชาชาติที่ไม่ได้ออกพระนามของพระองค์
เพราะพวกเขาได้เขมือบยาโคบ   เขาเผาผลาญยาโคบ
ทำให้ที่อาศัยของยาโคบร้างเปล่า…..

 

เยเรมีย์ 10-2 ผู้ทรงเป็นจอมทัพ

เยเรมีย์ 10:8-16

พวกเขาทั้งโง่และเง่า  การตีสอนของรูปปั้นนั้นก็คือไม้เท่านั้นเอง
เครื่องเงินที่ตีแล้วถูกนำมาจากทารซิช
ทองถูกนำมาจากเมืองอุฟาส  มันเป็นผลงานจากน้ำมือของช่างฝีมือและช่างทอง
เสื้อผ้าของรูปปั้นนั้นเป็นสีครามและสีม่วง
เป็นผลงานของคนที่เชี่ยวชาญทั้งสิ้น

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้
พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และเป็นองค์ราชานิรันดร์
โลกสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นเมื่อพระองค์ทรงกริ้ว
และประชาชาติทั้งหลายก็ไม่อาจต้านทานพระพิโรธของพระองค์ได้

 

ดังนั้น เจ้าจงพูดกับพวกเขาว่า
“เหล่าพระที่มิได้เป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน
จะพินาศไปจากโลก จากใต้ฟ้าสวรรค์!”

 

Galax

ภาพถ่ายของคุณ Rogelio  Bernal Andreo  เป็นดาราจักรที่กำลังหมุน และทางช้างเผือกเหนือ อุทยานแห่งชาติโยซีไมท์  http://noticias.uol.com.br

พระองค์คือผู้ทรงสร้างโลกด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์

ทรงสถาปนาโลกนี้ด้วยพระปัญญา
ทรงขึงท้องฟ้าออกด้วยความเข้าใจ

เมื่อพระองค์เปล่งพระสุรเสียง  ก็มีเสียงน้ำพลุ่งพล่านบนท้องฟ้า
พระองค์ทรงทำให้ม่านหมอกเกิดขึ้นจากปลายแผ่นดินโลก
ทรงทำให้ฟ้าแลบแปลบปลาบเพื่อให้เกิดฝน
และทรงนำลมออกมาจากพระคลังของพระองค์

มนุษย์ทุกคนโง่เขลา ไร้ความรู้
ช่างทองทุกคนจะต้องละอายเพราะรูปเคารพของเขา
เพราะรูปเหล่านั้นเป็นสิ่งเท็จ ไม่มีความคิดในรูปนั้น
มันเป็นสิ่งไร้ค่า เป็นผลงานที่ให้ความเชื่อผิด
มันจะพินาศย่อยยับเมื่อถึงเวลาแห่งการลงโทษ

แต่พระองค์ผู้ทรงเป็นส่วนของยาโคบไม่เป็นเช่นสิ่งเหล่านี้
พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งขึ้นมา
และอิสราเอลเป็นเผ่าพันธุ์ที่จะได้รับมรดกของพระองค์
พระนามของพระองค์คือ  องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เยเรมีย์ 10-1 พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่

เยเรมีย์ 10:1-7

จงฟังคำที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเกี่ยวกับเจ้า โอ … วงศ์วานอิสราเอล
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
“อย่าทำตามอย่างชนชาติอื่น ๆ
อย่าสับสน หวาดกลัวหมายสำคัญจากท้องฟัา
เพราะว่าประชาชาติทั้งหลายกลัวสิ่งเหล่านี้
ประเพณีของพวกเขานั้นเป็นอนิจจัง

เขาตัดต้นไม้ต้นหนึ่งจากป่า และช่างก็ใช้ขวานอย่างเชี่ยวชาญ
จากนั้นก็ประดับมันด้วยเงินและทอง
ตอก รัดแน่นด้วยค้อนและตะปู  เพื่อว่ามันจะไม่เขยื้อนไปไหน
รูปของเขาเป็นเหมือนหุ่นไล่กาในทุ่งแตงกวา
มันพูดไม่ได้  และจะต้องขนมันไปมา
อย่าไปกลัวมันเลย…เพราะมันทำชั่วไม่ได้  และทำดีก็ไม่ได้…

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์ 
พระนามของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่ 
พระนามของพระองค์ทรงพลานุภาพ

Je10-11

มีผู้ใดบ้างที่จะไม่ยำเกรงพระองค์  โอพระมหาราชาแห่งประชาชาติทั้งหลาย
เพราะนี่คือพระองค์
ท่ามกลางนักปราชญ์ของชนชาติทั้งหลาย
ในอาณาจักรทั้งปวง

ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์!