อิสยาห์ 51-2

ภาพถ่ายโดย John Watson โดย Creative Commons
ภาพถ่ายโดย John Watson โดย Creative Commons

อิสยาห์ 51:6-8

พระเ้จ้าทรงบอกเราล่วงหน้าว่า วันหนึ่งฟ้าสวรรค์ จะไม่มีอีกต่อไป  …  เปโตรเองได้เขียนไว้ด้วยว่า
เมื่อวันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึง  วันนั้น ท้องฟ้าจะหมดไปด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง

และโลกนี้จะสลายไปด้วยไฟ
แผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งในโลกจะไหม้ทั้งหมด

จงเงยหน้ามองที่สวรรค์ และมองที่แผ่นดินเบื้องล่างเพราะว่าฟ้าสวรรค์จะเลือนหายไปเหมือนกับควัน

และแผ่นดินจะเก่าไปเหมือนกับเสื้อผ้า

คนที่อยู่ในนั้นจะตายไปเหมือนแมลง
แต่ความรอดจากเรานั้นจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
ความชอบธรรมของเราจะไม่มีวันหายไป

“จงฟังเรา คนที่รู้จักความดี ความชั่ว
คนที่หัวใจเต็มด้วยบทบัญญัติของเรา
อย่ากลัวการที่มนุษย์เข้ามาดูหมิ่น
อย่ารู้สึกละอายกับคำพูดให้ร้ายของพวกเขา
เพราะว่า มอดจะกินพวกเขาเหมือนกินเสื้อ
และหนอนจะกินเขาเหมือนกับผ้าขนสัตว์
แต่ความชอบธรรมของเราจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
และความรอดของเรามีสำหรับคนทุกรุ่น

แต่คนที่วางใจในพระเจ้าจะมีความหวังที่จะได้รอดพ้น และอยู่กับพระเจ้าตลอดไป!

อิสยาห์ 51-1

อิสยาห์ 51:1-5
จงฟังเรา เจ้าผู้ติดตามความชอบธรรม เจ้าผู้แสวงหาพระเจ้า
จงมองดูศิลาที่พระเจ้าทรงสกัดเจ้าออกมา จงมองดูบ่อหินที่เจ้าถูกขุดขึ้นมา
จงมองดูอับราฮัมบรรพบุรุษของเจ้า และมองดูซาราห์ที่ได้ให้กำเนิดเจ้ามา
เมื่อเราได้ร้องเรียกเขาเมื่อมีเขาเพียงคนเดียวเพื่อว่าเราจะได้อวยพรและทวีเขาขึ้น

absah

ให้คนของพระเจ้าหันกลับไปดูพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่ออับราฮัมว่า  มันเป็นความจริงเพียงไร

เพราะว่าพระเจ้าทรงปลอบใจศิโยน พระองค์ทรงปลอบใจที่ร้างทั้งหมดของเธอ
และทำให้ถิ่นกันดารกลายเป็นเหมือนสวนเอเดน
ทะเลทรายกลายเป็นเหมือนพระอุทยานของพระเจ้า
จะได้พบความยินดี ความชื่นชมในตัวของเธอ
รวมไปถึงคำโมทนาพระคุณและเสียงร้องเพลง

พระเจ้าทรงสัญญาจะเปลี่ยนแปลงสิ่งร้ายกลายเป็นดี จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องเพลงแห่งความชื่นบาน 

 

“ประชาชนของเราเอ๋ย จงสนใจคำของเรา
ชาติของเราเอ๋ย จงฟังคำของเรา 

เพราะว่า พระบัญญัติจะออกมาจากเรา
และเราจะวางความยุติธรรมของเราให้เป็นแสงสว่างแก่คนของคนทั้งหลาย
ความชอบธรรมของเรามาใกล้แล้ว
ความรอดของเราออกมาแล้ว และเราจะปกครองคนของเราด้วยแขนของเรา
เหล่าดินแดนชายทะเลจงหวังใจในเรา พวกเขาจงรอคอยพลังจากแขนของเรา….

อิสยาห์ 50-3

อิสยาห์ 50:8-11
พระคัมภีร์ตอนนี้ ท่านอิสยาห์พูดหลายร้อยปีก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้นจริงกับพระเยซู

พระองค์ผู้ทรงแก้ต่างให้ข้าทรงอยู่ใกล้ ๆ  แล้วใครล่ะ จะมาต่อสู้กับข้า? ให้เรายืนขึ้นมาด้วยกัน

ใครล่ะ เป็นศัตรูของข้า? ให้เขาเข้ามาใกล้ข้าซิ

ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าทรงช่วยข้า และใครจะมาบอกว่าข้าเป็นคนผิด?
ดูเถิด เขาทั้งหมดนั้นก็จะเก่าไปเหมือนเสื้อผ้า  ตัวมอดจะกัดกินเขาจนหมด

พยานปรักปรำพระเยซูในศาล
พยานปรักปรำพระเยซูในศาล

ใครในท่ามกลางพวกเจ้าที่เกรงกลัวพระเจ้า และเชื่อฟังเสียงของผู้รับใช้ของพระองค์?
ให้คนที่เดินในความมืด และไม่มีแสงสว่าง วางใจในพระนามของพระเจ้า และวางใจในพระเจ้าของเขา

ดูเถิด เจ้าคนที่จุดไฟขึ้นมา  คนที่พยายามจุดคบไฟของตนเอง !
และเดินไปด้วยแสงของตนเอง  เดินไปด้วยคบไฟที่จุดขึ้นมาเอง!

สิ่งที่เจ้าจะได้จากมือของเราก็คือ เจ้าจะต้องนอนลงไปอย่างทรมาน

อิสยาห์ 50-2

อิสยาห์ 50:5-7

พระเจ้าได้ประทานลิ้นให้ข้า ดั่งลิ้นของคนที่พระองค์ทรงสอน
เพื่อข้าจะรู้วิธีที่จะใช้คำหนุนใจคนที่กำลังอ่อนแรง
ทุก ๆ เช้า พระองค์ทรงปลุก  พระองค์ทรงปลุกหูของข้า
เพื่อให้ฟังอย่างคนที่พระองค์ทรงสอน

องค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าทรงเปิดหูของข้า

และข้าก็ไม่ดื้อดึงต่อพระองค์  ข้าไม่หันกลับ

ข้าหันหลังให้กับคนที่ตีข้า  และหันแก้มให้กับคนที่ดึงหนวดเคราของข้า

ข้าไม่หลบหน้าจากความละอาย และการถูกคนถ่มน้ำลายรดใส่

ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท
ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท

หลัง  แก้ม  หน้า  ทุกอย่างที่อิสยาห์กล่าวไว้นั้น พระเยซูทรงเผชิญจากความโหดร้ายทั้งหมด   แต่ถึงกระนั้น พระองค์ก็ไม่ทรงหลบเลี่ยงสิ่งร้าย ๆ นี้ พระองค์ทรงเพียบพร้อมได้ด้วยการเชื่อฟังพระเจ้าอย่างไม่มีบกพร่อง    จะพบ จะเจออะไร พระองค์ทรงยอมเพื่อให้สำเร็จตามพระทัยพระบิดา

แต่พระเจ้าทรงช่วยข้า ดังนั้น ข้าจึงไม่ต้องละอาย
ข้าตั้งหน้าของข้าราวกับหินเหล็กไฟ       และข้ารู้ว่า ข้าจะไม่ต้องอับอาย

พระเยซูไม่ยอมที่จะหันเหไป  แต่ทรงตั้งพระพักตร์อย่างหินเหล็กไฟ  ตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะเดินทางไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อเผชิญกับไม้กางเขน  

อิสยาห์ 50-1

อิสยาห์ 50:1-3

ดังนั้น องค์พระผู้เป้นเจ้าตรัสว่า ใบหย่าของแม่เจ้าอยู่ที่ไหน?
หลักฐานที่ทำให้รู้ว่า เราได้ให้เธอไปจากเรา
เราขายตัวเจ้าไปให้กับเจ้าหนี้คนไหน?
เจ้าถูกขายไปเพราะบาปของเจ้า  เป็นเพราะการล่วงละเมิดของเจ้า แม่ของเจ้าจึงถูกส่งไป

ที่ยูดาห์ต้องถูกส่งไปยังบาบิโลนนั้น  … เป็นเพียงชั่วคราว  ไม่ได้ตลอดไป ไม่มีใบหย่าหรือเอกสารใด ๆ ที่พระเจ้าทรงทำไว้เพื่อจะให้พวกเขาแยกจากพระองค์ตลอดไป…
พระเจ้าทรงบอกพวกเขาชัดเจนว่า ที่พวกเขาต้องกลายไปเป็นเชลย ก็เพราะบาปของพวกเขา 

แต่…สำหรับอิสราเอลทางเหนือแล้ว กลับแตกต่าง  การที่พวกเขากราบไหว้รูปเคารพ และพยายามเอาใจเทวรูปเหล่านั้นไม่หยุดหย่อน กลับเป็นการที่ทำให้พระเจ้าทรงเลิกจากเขาแบบสามีเลิกภรรยา ให้ใบหย่าไปเลย  *

ทำไม  เมื่อเรามา จึงไม่มีใคร?
ทำไม เมื่อเราร้องเรียก จึงไม่มีใครตอบ?

แขนของเราสั้นไปจนไม่สามารถไถ่ได้อย่างนั้นหรือ?
หรือว่า เราไม่มีอำนาจที่จะช่วยให้รอดพ้น?

ดูเถิด  ด้วยคำบัญชาของเรา ทะเลก็แห้ง  เราทำให้แม่น้ำกลายเป็นทะเลทราย

talaedang

เหล่าปลาก็เหม็นคละคลุ้งเพราะไม่มีน้ำ มันตายไปเพราะความกระหาย
เราห่มฟ้าสวรรค์ด้วยความมืด และห่มมันด้วยผ้ากระสอบ”

พระเจ้าทรงถามว่า ทำไมจึงไม่มีใครที่เต็มใจจะเชื่อและเชื่อฟังพระองค์     ทั้ง ๆ ที่พระองค์เคยพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์  

*เยเรมีห์ 3:8

อิสยาห์ 49-5

อิสยาห์ 49:22-26

และพระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เราจะยกมือของเราขึ้นให้กับประชาชาติทั้งหลาย
และทำสัญญาณให้คนทั้งหลายเข้ามา พวกเขาจะอุ้มเหล่าลูกชายของเจ้ามา  จะอุ้มเหล่าเด็กหญิงใส่บ่ามาด้วย
กษัตริย์ทั้งหลายจะเป็นพ่อบุญธรรมของเจ้า  ราชินีจะกลายเป็นแม่นม
พวกเขาจะก้มลงกราบเจ้า และเลียผลดินจากเท้าของเจ้า
แล้วเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระเจ้า และคนที่รอคอยเราจะไม่ต้องอับอาย”

รอคอยพระเจ้า... ได้เปรียบนะ
รอคอยพระเจ้า… ได้เปรียบนะ

ศิโยนคิดว่า จะมีลูกหลานมาจากไหน ในเมื่อพวกเขามีคนเหลืออยู่น้อยมาก  แต่ลูกหลานดังกล่าวไม่ได้เกิดมาตามธรรมดามนุษย์  แต่เป็นการเกิดอย่างเหนือธรรมชาติ  คนที่มาเชื่อในพระเจ้า  พวกเขาจะเป็นลูกหลานอิสราเอลด้วย!

ใครจะมากระชากเหยื่อไปจากผู้มีกำลังได้  และใครจะมาช่วยเชลยจากทรราชย์ได้
เพราะพระเจ้าตรัสว่า

“แม้ว่าเชลยของคนที่เข้มแข็ง ก็จะถูกเอาไป  และคนที่เป็นเหยื่อของทรราชย์ก็จะได้รับการช่วยเหลือ
เพราะว่าเราจะสู้คนที่สู้เจ้า และเราจะช่วยลูกหลานของเจ้าให้รอด
เราจะทำให้คนที่ข่มเหงเจ้าต้องกินเลือดเนื้อของตัวเอง และจะเมาเลือดของตัวเองเหมือนเมาเหล้าองุ่น

เรื่องราวตรงนี้ พระเจ้ากำลังบอกเราล่วงหน้าว่า คนอิสราเอลก็จะถูกทำร้าย แต่พระเจ้าจะพลิกให้คนที่เข้ามาทำลายอิสราเอลนั้น กินเลือดเนื้อของตัวเอง และต่อสู้กันเอง  ไม่ว่าเขาจะเก่งเพียงใด  แต่พวกเขาสู้พระเจ้าไม่ได้แน่นอน

แล้วมนุษย์ทั้งปวงจะรู้ว่า เราเป็นพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เป็นพระผู้ไถ่ องค์ผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบ

อิสยาห์ 49-4

อิสยาห์ 49:14-18

แม้ดูเหมือนว่า พระเจ้าทรงทอดทิ้งคนของพระองค์  เพราะพวกเขาต้องตกไปเป็นเชลย 

แต่ความจริงแล้ว พระองค์ไม่เคยลืมเขา ไม่เคยทอดทิ้ง ไม่หยุดที่จะสงสารพวกเขา 

แต่ศิโยนกล่าวว่า “ พระเจ้าทรงทอดทิ้งข้าแล้ว  พระเจ้าของข้า ทรงลืมข้าเสียแล้ว…”

“แม่คนหนึ่งจะลืมลูกที่เธอให้นมได้หรือ แล้วเธอจะไม่มีความสงสารลูกที่ออกมาจากครรภ์ของเธอหรือ?  แม้ว่าแม่บางคนอาจลืมได้  แต่เราจะไม่ลืมเจ้าเลย

mue2

ดูเถิด  เราได้จารึกชื่อของเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา  กำแพงเมืองของเจ้าก็อยู่ต่อหน้าเราเสมอ

พระคำตอนนี้ เป็นพลังของพวกเรา  พระเจ้า ทรงจารึกชื่อของคนที่รักพระองค์ไว้ในฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์
ปกติในสมัยก่อน ทาสจะมีชื่อของเจ้านายติดไว้ที่มือ  แต่นี่กลับกัน เจ้านายกลับติดชื่อของผู้รับใช้ไว้บนพระหัตถ์!

แสดงว่า คนอิสราเอล และพวกเราที่รักวางใจในพระเจ้า จะอยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์  จะอยู่ในความคิดของพระองค์เสมอ

คนที่สร้างเจ้าขึ้นมาก็สร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว  นครเยรูซาเล็มจะร้างอยู่ไม่นาน 

ส่วนคนทำลาย และพยายามให้เจ้าร้างเปล่านั้น ก็ต้องหนีไป
เงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ ๆ  ดูให้ดี เห็นเขารวมตัวกันและมาหาเจ้า
เรามีชีวิตอยู่  พระเจ้าทรงประกาศ
เจ้าจะได้เอาพวกเขามาเป็นเครื่องประดับ  ติดเอาไว้เหมือนอย่างที่เจ้าสาวประดับตัวของเธอ

การสร้างเมืองนั้น จะประกอบด้วยคนมากมายที่เป็นลูกหลานของอิสราเอล …
มันเป็นเมื่อ 60 ปีก่อนหรือเปล่านะ ที่ลูกหลานอิสราเอลจากแผ่นดินไกลโพ้น
กลับมายังดินแดนอิสราเอลอีกครั้งเพื่อสร้างเป็นประเทศขึ้นใหม่ในปี 1948?

อิสยาห์ 49-3

อิสยาห์ 49:8-13

การคืนกลับมาของอิสราเอล

ดังนั้น พระเจ้าตรัสด้วยว่า “ในเวลาที่เราพอใจ เราตอบเจ้า ในเวลาแห่งความรอด เราได้ช่วยเจ้า

เราจะรักษาเจ้า และมอบเจ้าให้เป็นพันธสัญญาแก่คนทั้งหลาย เพื่อสถาปนาแผ่นดิน เพื่อที่จะแบ่งสันปันส่วนแผ่นดินที่ร้างเปล่า

เรากล่าวกับนักโทษว่า “จงออกมา”  กล่าวกับคนที่อยู่ในความมืดว่า “ออกมาให้เห็นได้แล้ว”

ethiopiansprisoners
พวกเขาจะได้รับการเลี้ยงดูตลอดทาง  ทุ่งหญ้าของเขาจะอยู่บนที่สูง

เขาจะไม่หิวหรือกระหาย  แดดอันร้อนระอุไม่สามารถทำอะไรเขาได้

เพราะพระองค์ผู้มีพระทัยสงสารจะเป็นผู้นำพาพวกเขาไป

พระองค์จะทรงนำเขาไปตามทางที่มีสายน้ำอยู่

และเราจะทำให้ภูเขานั้นกลายเป็นถนน  หนทางทั้งหลายจะถูกยกขึ้น
ดูเถิด เหล่านี้จะมาจากที่ไกล  และดูเถิด จากทางเหนือและตะวันตก และนี่จะมาจากแผ่นดินสเวเน

โอ้ ฟ้าสวรรค์ จงร้องเพลงด้วยความยินดี  และแผ่นดินโลก   จงชื่นบานหรรษาเถิด    ภูเขาเอ๋ย จงร้องเพลงออกมา

เพราะว่า พระเจ้าทรงปลอบใจคนของพระองค์ และจะทรงเมตตาคนที่ถูกข่มเหงน้ำใจ

อิสยาห์ 49-2

อิสยาห์ 49:5-7
และบัดนี้ พระเจ้าตรัสว่า พระองค์ผู้ทรงสร้างข้าจากครรภ์มารดาเพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
เพื่อนำยาโคบกลับมาหาพระองค์ เพื่ออิสราเอลจะถูกรวบรวมกลับมาหาพระองค์
เพราะว่า ข้าได้รับเกียรติในสายพระเนตรของพระเจ้า และพระเจ้าได้ทรงมาเป็นกำลังของเรา
พระองค์ตรัสว่า “น้อยเกินไปที่เจ้าจะเป็นแค่ผู้รับใช้ของเราเพียงเพื่อจะรื้อฟื้นเผ่ายาโคบขึ้น และนำคนอิสราเอลที่เหลือกลับมา
เราจะทำให้เจ้าเป็นแสงสว่างสำหรับประชาชาติทั้งหลาย เพื่อความรอดของเรา จะได้ไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก
ดูซิ พระเจ้าทรงประสงค์ให้ทั้งคนต่างชาติอย่างเรา ๆ และคนอิสราเอลเองหันกลับมาหาพระองค์

light

พระเจ้า องค์พระผู้ไถ่และองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
ตรัสแก่คนที่ถูกข่มแหง คนที่ประชาชาติทั้งหลายทับถม ทาสติดดินของชนชั้นปกครอง

“กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นและลุกขึ้น เจ้าชาย และคนทั้งหลายจะก้มตัวกราบลงเพราะว่า
องค์พระเจ้าผู้ทรงสัตย์จริง เพราะองค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ซึ่งได้เลือกเจ้า”
จะเห็นว่า ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกผู้นี้ ไม่ใช่อิสยาห์ ไม่ใช่ไซรัสมหาราช
ไม่ใช่คนอิสราเอลด้วยกันเอง แต่คือองค์พระเยซูคริสต์

พระเยซูองค์นี้ จะถูกทับถม ดูหมิ่น และพระองค์จะทรงได้รับพระเกียรติเป็นอย่างยิ่ง…

อิสยาห์ 49-1

อิสยาห์ 49:1-4

โอ บรรดาชาติริมฝั่งทะเล  จงฟังเรา จงเอาใจใส่  เหล่าคนที่มาจากที่ไกล

พระเจ้าทรงเรียกให้คนทั้งหลายจากทั่วโลก ฟังพระสุรเสียงของพระองค์   คำในบทนี้ เป็นคำกล่าวล่วงหน้าของพระเมสสิยาห์  ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกให้เป็นผู้ช่วยให้รอดของโลก พระองค์คือพระเยซูคริสต์นั่นเอง
พระเจ้าทรงเรียกข้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา  จากร่างของมารดาข้า พระองค์ทรงตั้งชื่อของข้า

พระเจ้าทรงให้พระบุตรของพระองค์มาเกิดในโลกนี้ ในครรภ์ของหญิงสาวพรหมจารีและหากเราได้อ่านพระธรรมลูกา 1:31 เราจะเห็นว่า ทูตสวรรค์ได้แจ้งชื่อของพระองค์ก่อนที่จะทรงมาเกิดในครรภ์ของมารีย์เสียอีก  ท่านกาเบรียลกล่าวว่า เธอจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย  จงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า เยซู 
พระองค์ทรงทำให้ปากของข้าเป็นเหมือนดาบคม  ทรงซ่อนข้าไว้ในร่มเงาพระหัตถ์ของพระองค์

 

พระองค์ทรงทำให้ข้าเป็นเหมือนลูกธนูที่ขัดมันคมกริบ ทรงซ่อนข้าไว้ในซองธนูของพระองค์

huatanu

ดูซิ พระเยซูทรงได้รับการลับจนคมจากพระเจ้า  คำตรัสของพระเยซูมีสิทธิอำนาจ และทรงพลังไม่เหมือนใครเลย  และพระเจ้าทรงซ่อนพระเยซูไว้ถึง 30 ปีก่อนที่พระองค์จะทรงเริ่มพระราชกิจที่พระเจ้าทรงใช้พระองค์มา

และตรัสกับข้าว่า “เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา อิสราเอล เราจะได้รับเกียรติเพราะเจ้า”
แต่ข้ากล่าวว่า “ข้าได้ทำงานหนักเหนื่อยโดยไร้ค่า ข้าได้เสียแรงของข้าไปโดยไม่ได้อะไร เท่ากับเสียเปล่า   แต่.. แน่นอนที่ว่า สิทธิของข้าอยู่กับพระเจ้า และค่าตอบแทนของข้า อยู่กับพระเจ้าของข้า

เมื่อพระเยซูสำเร็จงานของพระองค์บนไม้กางเขน  ดูเหมือนไม่ได้อะไร บ้านเมืองของพระองค์ก็ไม่ได้ต้อนรับพระองค์เลย   ทรงเกิดมาเพื่อจะตายอย่างน่าอายต่อหน้าผู้คน บนไม้กางเขนนั้นพระองค์ตรัสว่า “พระเจ้าของข้า เหตุใดพระองค์ทรงละทิ้งข้าพระองค์เสีย” 

 แต่พระองค์ทรงรู้ว่า  ไม่ว่ามันจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทรงทำนั้น เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า เพราะพระเจ้าจะประทานมงกุฎให้พระองค์  

อิสยาห์ 48-3

อิสยาห์ 48: 17-22

ดังนั้น พระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้ไถ่ และองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ตรัสว่า
“เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า เราสอนถึงสิ่งที่มีประโยชน์แก่เจ้า
เรานำเจ้าไปในทางที่เจ้าควรเดินไป

โอ… แค่ขอให้เจ้าได้ใส่ใจในคำบัญชาของเรา…

แล้วความสุขสงบของเจ้าจะมีมาเหมือนอย่างแม่น้ำ

และความชอบธรรมของเจ้าเหมือนอย่างคลื่นในทะเล

ลูกหลานของเจ้าจะมีมากมายเหมือนเม็ดทราย และทายาทของเจ้าจะมีมากเหมือนเมล็ดข้าว
ชื่อของเขาจะไม่ถูกตัดออกไป จะไม่ถูกทำลายหายไปต่อหน้าเรา “

 

ความชอบธรรมที่ไม่เคยหยุดพัก และมีอยู่ตลอดเวลาในชีวิต มีพลังมากยอดจริง ๆ
ความชอบธรรมที่ไม่เคยหยุดพัก และมีอยู่ตลอดเวลาในชีวิต มีพลังมาก
ยอดจริง ๆ

จงออกมาจากบาบิโลน หนีให้พ้นจากแคลเดีย
ประกาศคำนี้ด้วยเสียงแห่งความชื่นชมยินดี  ประกาศมันออกไป ให้รู้กันทั่วจนสุดปลายแผ่นดินโลก

ให้กล่าวว่า … พระเจ้าทรงไถ่ยาโคบ ผู้รับใช้ของพระองค์ !”

เมื่อพระเจ้าทรงนำเขาผ่านทะเลทราย เขาจะไม่กระหายน้ำ เพราะพรองค์ทรงทำให้น้ำไหลออกมาจากหิน พระองค์ทรงแยกหินออกจากกัน และน้ำก็ไหลพลุ่งพล่านออกมา
พระเจ้าตรัสว่า “จะไม่มีสันติสุขให้กับคนที่ชั่วร้าย”

เพื่อน ๆ ครับ คนชั่วร้ายอาจดูเหมือนมีทุกอย่าง  มีเงินทองมากมาย มีบริวาร สมุนห้อมล้อม มีคนพินอบพิเทา   จะเอาอะไรก็ได้อย่างใจ

แต่…เขา้ไม่มีสันติสุขในใจ  เพราะว่า เขาไม่เคยรู้สึกพอเพียง จะต้องเอาอีก  ต้องชนะทุกเรื่องไป  เขาคิดร้ายอีก ไม่หยุดหย่อน เขาจึงไม่อาจมีความสุขสงบได้เลย

นี่จะเป็นช่วงสุดท้ายที่พระเจ้าตรัสถึงไซรัสซึ่งเป็นกษัตริย์ต่างชาติที่จะช่วยให้อิสราเอลหลุดพ้นจากการเป็นทาสของบาบิโลน    ต่อไปเป็นผู้ช่วยองค์นิรันดร์ที่ไม่เหมือนไซรัสสักนิด

อิสยาห์ 48-2

อิสยาห์ 48:12-16

พระเจ้าทรงเรียกอิสราเอล
จงฟังเสียงของเรา โอ ยาโคบ  และอิสราเอล คนที่เราเรียกมา

เราเป็นผู้นั้น  เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย
มือของเราวางรากฐานของแผ่นดินโลก
มือขวาของเราขึงฟ้าสวรรค์ออกไป  เมื่อเราเรียกมัน มันก็ออกมาอยู่ด้วยกัน

พระเจ้ากำลังทรงบอกคนอิสราเอลว่า พระองค์จะทรงช่วยพวกเขา โดยผ่านไซรัสมหาราช

เจ้าทุกคน จงเข้ามาประชุมกัน และตั้งใจฟัง! มีใครในพวกเขาที่ได้ประกาศสิ่งเหล่านี้บ้าง?
พระเจ้าทรงรักเขา

ไซรัสเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาเพื่อช่วยให้อิสราเอลหลุดพ้นจากบาบิโลน
ไซรัสเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาเพื่อช่วยให้อิสราเอลหลุดพ้นจากบาบิโลน

และพระองค์จะทรงบอกพระประสงค์เรื่องบาบิโลน

พระกรของพระองค์ต่อต้านคนเคลเดีย
เรา เราเอง ได้พูดแล้ว เออ เราเรียกเขา

เขาผู้นี้ก็คือไซรัสนั่นเอง 

เราได้นำเขามา และเขาก็จะรุ่งเรืองในทางของเขา

จงเข้ามาใกล้เรา และฟัง
ตั้งแต่ต้น เราไม่พูดลับๆ เลย ตั้งแต่มีเวลาขึ้นมา เราก็อยู่ที่นั่นแล้ว

อิสยาห์ 48-1

อิสยาห์ 48:1-11

ถูกเผาในเตาแห่งความทนทุกข์
จงฟังนี่  เหล่าวงศ์วานของยาโคบ คนที่ถูกเรียกว่า อิสราเอล และคนที่มาจากน้ำแห่งยูดาห์
ผู้ที่สาบานโดยออกพระนามของพระเจ้า และอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งอิสราเอล แต่ไม่ได้อธิษฐานด้วยความจริง หรือด้วยความถูกต้อง
เพราะว่าพวกเขาเรียกตัวเองตามนครบริสุทธิ์ และอาศัยในพระเจ้าแห่งอิสราเอล

พระนามของพระองค์คือ  พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

เราได้ประกาศสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่กาลก่อน  เราบอกด้วยตัวของเราเอง และเราประกาศมันออกมา

เรากระทำสิ่งที่เราพูด และมันก็สำเร็จ
เพราะเรารู้ว่า เจ้าเป็นคนดื้อดึง และคอแข็งราวกับเหล็ก หน้าผากก็ด้านราวกับทองสัมฤทธิ์
เราบอกกล่าวแก่เจ้ามาตั้งนานแล้ว  ก่อนที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น เราก็บอกมาล่วงหน้า

เพื่อเจ้าจะไม่อาจพูดได้ว่า “เทวรูปของข้าทำสิ่งนั้นสิ่งนี้   รูปสลักและรูปหล่อของข้าได้ทำให้เกิดขึ้นมา”

“เจ้าได้ยินเป็นหลักฐานอยู่แล้ว  ตอนนี้ก็ดูซิ  เจ้าจะไม่พูดถึงมันเลยหรือ  ตั้งแต่นี้ต่อไป เราจะบอกสิ่งใหม่แก่เจ้า สิ่งที่ซ่อนอยู่ซึ่งเจ้าไม่รู้

มันถูกสร้างขึ้นมาใหม่  ไม่นานมานี้ ก่อนวันนี้เจ้าก็ไม่เคยได้ยินถึงมันเลย…

เพื่อเจ้าจะไม่อาจอ้างว่า “โธ่เอ๋ย ข้ารู้มาแล้ว “

เจ้าไม่เคยได้ยิน เจ้าไม่เคยรู้ หูของเจ้าไม่เคยเปิดมาตั้งแต่กาลก่อน  เพราะเรารู้ว่า เจ้าจะทำอย่างมีเล่ห์กล และตั้งแต่เกิด ใคร ๆ ก็เรียกเจ้าว่า คนดื้อด้าน

เพื่อเห็นแก่นามของเรา  เราจึงสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้  เพื่อเห็นการการสรรเสริญเรา

เราจึงยั้งมันไว้เพื่อเจ้า เพื่อเราจะไม่ตัดเจ้าออกไป

fai

ภาพจาก http://blog.johnjackman.com

ดูเถิด เราได้ทำให้เจ้าบริสุทธิ์ แต่ยังไม่เหมือนเงิน
เราได้หลอมเจ้าในไฟแห่งการทนทุกข์
เพื่อเห็นแก่เรา  เพื่อเห็นแก่เราเอง เราจึงทำสิ่งนั้น
เหตุใดเล่านามของเราจึงจะต้องมาถูกเหยียดหยาม?

เราจะไม่ให้พระสิริของเราแก่ใครเลย

อิสยาห์ 47-2

อิสยาห์ 47:11-15

แต่ความชั่วร้ายจะมาถึงเจ้า  เป็นวิบัติที่เจ้าไม่อาจใช้คาถาของเจ้าไล่มันไปได้

เจ้าจะเจอกับความหายนะที่เจ้าไม่สามารถจะแก้ไขได้เลย   ความสูญเสียจะมาถึงเจ้าทันทีทันควันโดยที่เจ้าไม่ทันรู้ตัว

จงยืนให้มั่นคงกับคาถาของเจ้า กับเวทมนตร์ที่เจ้าเฝ้าฝึกฝนมาตั้งแต่ยังเด็ก

บางทีเจ้าอาจจะสำเร็จก็ได้ หรือบางทีเจ้าอาจจะทำให้คนอื่นกลัว

เจ้าเหนื่อยกับคำปรึกษามากมาย  ก็ให้มันช่วยเจ้าก็แล้วกัน

เหล่าคนที่แบ่งฟ้าเป็นส่วน ๆ   และคอยมองดวงดาว   คนที่คอยทำนายล่วงหน้าในวันขึ้นค่ำว่าจะเกิดอะไรกับเจ้าบ้าง

paumod

ดูเถิดคนเหล่านี้ก็เหมือนกับตอข้าว  ไฟจะเผาไหม้พวกเขา

และเขาไม่อาจจะช่วยตัวเองได้จากเปลวไฟ

นี่ไม่ใช่ถ่านที่จะทำให้ใครอุ่น ไม่ใช่ไฟที่จะให้ใครเข้ามาผิงยามหนาว

นี่เป็นเคราะห์กรรมของเพื่อน ๆ ที่เล่นเวทมนตร์คาถากับเจ้า คนที่ทำธุรกิจเรื่องนี้กับเจ้ามาตั้งแต่ยังสาว    พวกเขาก็เร่ร่อนไปมาตามทิศทางของตนเอง  ไม่มีใครที่จะช่วยเจ้าได้

อิสยาห์ 47-1

อิสยาห์ 47:1-10

จงลงมาและนั่งบนผงคลี เหล่าพรหมจารีแห่งบาบิโลน นั่งบนพื้นดิน ไม่มีบัลลังก์ เหล่าลูกสาวของชนเคลเดีย

เพราะจะไม่มีใครมองเจ้าว่ามีเสน่ห์ น่าจับตามองอีกต่อไป
ให้ไปหางานทำ นั่นไง หินโม่  จงไปโม่แป้ง  เอาผ้าคลุมหน้าของเจ้าออกไปได้แล้ว

ถอดเสื้อคลุมออก ยกเสื้อขึ้นมาจะได้เดินข้ามน้ำ
ใคร ๆ จะเห็นความเปล่าเปลือยของเจ้า และใคร ๆ จะเห็นความน่าอับอายของเจ้า

เราจะแก้แค้น และจะไม่เหลือใครไว้สักคน
พระผู้ไถ่ของเรา พระนามของพระองค์คือ พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ  พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

จงนั่งเงียบ ๆ และเดินเข้าไปในความมืด เหล่าลูกสาวของชนเคลเดีย   เพราะเจ้าจะไม่ถูกเรียกว่า ราชินีแห่งอาณาจักรอีกต่อไป
เราโกรธคนของเรา  เราได้ทำให้มรดกของเราเป็นมลทิน เรามอบเขาไว้ในมือของเจ้า

และเจ้าก็ไม่ได้แสดงเมตตาต่อพวกเขา  เจ้าทำให้คนชราต้องแบกแอกอย่างหนักหน่วง เกินกำลังของพวกเขา

ภาพจาก http://anunnaturallife.blogspot.com/
ภาพจาก http://anunnaturallife.blogspot.com/

เจ้ากล่าวว่า “ฉันจะเป็นราชินีตลอดไป” เพื่อว่าเจ้าจะไม่เอาเรื่องเหล่านี้เก็บไว้ในใจ หรือจดจำไว้จนถึงที่สุด
ดังนั้น ขอให้เจ้าฟัง เจ้าคนที่รักความสนุก  คนที่นั่งอยู่อย่างมั่นคง คิดในใจของตัวว่า

“ฉันนี่แหละ  ไม่มีคนอื่นเหนือจากฉันแล้ว  ฉันจะไม่ยอมนั่งเป็นหญิงม่าย  จะไม่ยอมเป็นคนสูญเสียลูก”
แต่ทั้งสองอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับเจ้าพร้อมกัน  ทั้งเสียลูก ทั้งกลายเป็นม่าย มันจะเกิดขึ้นกับเจ้าอย่างเต็มขนาด

ในเวลาชั่วแวบเดียว ในวันเดียว ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีเวทมนตร์หรืออำนาจที่จะทำเสน่ห์
เจ้ารู้สึกมั่นใจกับความชั่วร้ายของเจ้า กล่าวว่า “ไม่มีใครเห็นฉัน”

ปัญญาและความรู้ของเจ้ากลับนำให้เจ้าหลงทางไป และเจ้ากล่าวในใจว่า
ว่า “ฉันนี่แหละ  ไม่มีคนอื่นเหนือจากฉันแล้ว”

อิสยาห์ 46-2

อิสยาห์ 46:8-13

จงจำไว้ และยืนมั่น  เจ้าคนล่วงละเมิด จงคิดถึงเสมอ จงจำสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

เพราะว่า เราคือพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นใดอีก  เราเป็นพระเจ้า ไม่มีใครเหมือนเราได้

เป็นผู้บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งต้นจนจบ และจากกาลโบราณจนถึงอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น

เรากล่าวว่า “คำปรึกษาของเราจะยืนมั่น และเราจะทำความประสงค์ของเราให้สำเร็จทั้งสิ้น”
birdofprey

เราเรียกนกเหยี่ยว นกที่ล่าเหยื่อ…มาจากตะวันออก  เรียกคนที่จะทำตามแผนของเรามาจากเมืองไกล

เราได้พูดแล้ว และเราจะทำให้สำเร็จ   เราตั้งใจไว้ และเราก็จะทำสิ่งนั้น

“เจ้าคนที่มีใจดื้อด้าน จงฟังเรา   เจ้าคนที่ห่างไกลจากความชอบธรรม

เราจะนำความชอบธรรมของเราเข้ามาใกล้  มันอยู่ไม่ไกลเลย

และความรอดพ้นของเราจะไม่เนิ่นช้า  เราจะให้ความรอดแก่ศิโยน  เพื่ออิสราเอลซึ่งเป็นเกียรติของเรา

อิสยาห์ 46-1

อิสยาห์ 46:1-7

เจ้าบาอัลล้มลง เจ้าเนโบทรุดลง  เหล่ารูปเคารพก็อยู่บนหลังสัตว์และล่อ

ต้องหามไป กลายเป็นภาระแสนหนักให้กับเจ้าสัตว์ที่เหนื่อยอ่อน

น่าสงสารสัตว์เหล่านั้นที่ต้องแบกเหล่ารูปเคารพเดินทางยาวนานเหลือเกิน

มันหนักมาก มันเป็นภาระที่ไม่อาจช่วยแบกภาระของใครได้  ตัวของมันเองก็ต้องกลายไปเป็นเชลยเช่นกัน

“ฟังเรานะ ครอบครัวของยาโคบ รวมทั้งทุกคนที่หลงเหลือจากครอบครัวอิสราเอล

เจ้าทั้งหลายเกิดมาได้เพราะเรา   

จนกระทั่งเจ้าชราลงไป เราก็ยังเป็นผู้นั้น  เมื่อเจ้าผมหงอกแล้วเราก็ยังโอบอุ้มเจ้าอยู่

เราได้สร้างเจ้ามา และเราจะดูแล จะรักษาและช่วยให้รอด”

dulae

“แล้วเจ้าจะเทียบ เปรียบเรากับอะไรกันเล่า ไปเปรียบเทียบกับใครที่เหมือนเราได้บ้าง?

คนที่กอบทองคำมากมายออกมาจากกระเป๋า  และชั่งบนตาชั่ง แล้วไปจ้างช่างทอง

ให้ทำทองเหล่านั้นออกมาเป็นพระ  จากนั้นก็คุกเข่าลงกราบไหว้ทองคำนั้น
เขายกมันขึ้นบ่า และแบกไป

วางไว้ที่ ๆ ต้องการ แล้วมันก็ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่อาจจะเดินออกไปจากที่นั่นได้

หากมีใครสักคนร้องขอมัน มันก็ไม่ตอบหรือไม่ได้ช่วยเขาจากความทุกข์ยากลำบาก

อิสยาห์ 45-4

อิสยาห์ 45:20-25

จงรวบรวมกันเข้ามา  เข้ามาใกล้ ๆ พร้อมกัน เจ้าคนที่ยังหลงเหลืออยู่ตามประชาชาติต่าง ๆ!

เจ้าไม่รู้เลยนะ  เจ้าคนที่แบกรูปเคารพไม้ และเฝ้าอธิษฐานต่อเทพที่ไม่อาจจะช่วยเจ้าได้
จงประกาศและแจ้งคดีของเจ้า  ปล่อยให้มันปรึกษากันไป

ใครล่ะ ที่บอกเรื่องนี้มานานแล้ว?
ใครล่ะ ที่ประกาศเรื่องนี้มาตั้งแต่อดีต?

ไม่ใช่เรา…องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ได้บอกกับเจ้าหรอกหรือ?เราคือพระเจ้าผู้ทรงธรรม และเป็นพระผู้ช่วยให้รอด

โลกทั้งโลกเอ๋ย  จงหันมาหาเราและรับความรอดพ้น
เพราะเราคือพระเจ้า และไม่มีอื่นใดนอกเหนือจากเรา
เราได้สัญญาไว้แล้ว   คำสัญญาด้วยความเที่ยงธรรมออกจากปากของเรา มันจะเกิดขึ้น  เราจะไม่กลับคืนคำของเรา

 

prayer

“ทุกเข่าจะคุกลงกราบต่อเรา  ทุกลิ้นจะกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช่แล้ว … พระเจ้าเท่านั้น ทรงธรรมและทรงทรงพลัง”
และคนที่โมโหร้ายใส่พระองค์นั้น จะถูกนำมาต่อพระพักตร์ของพระองค์ จะต้องอับอายเพราะความไม่เชื่อของเขา
และเหล่าลูกหลานของอิสราเอลนั้นจะได้รับการประกาศว่า พวกเขาเป็นคนชอบธรรมในพระเจ้า และเขาจะได้รับเกียรติศักดิ์ศรีในพระองค์

อิสยาห์ 45-3

อิสยาห์ 45:14-19

พระเจ้าตรัสว่า

“ทั้งความมั่งคั่งของอียิปต์ และสินค้าต่าง ๆ ของเอธิโอเปีย รวมทั้งเสบา ซึ่งเป็นคนแกล้วกล้าร่างใหญ่ จะมาหาเจ้าและกลายเป็นของเจ้า

เป็นของเจ้าทั้งหมด  พวกเขาจะตามเจ้า มือถูกล่ามโซ่ และคุกเข่าให้กับเจ้า   พวกเขาจะอ้อนวอนเจ้ากล่าวว่า
“แน่นอนเลย… พระเจ้าทรงอยู่ในท่าน  และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือไปจากพระองค์”

Cyrus-II-le-Grand-et-les-Hébreux-par-Jean-Fouquet2

ผู้คนก้มกราบไซรัสมหาราช ภาพวาดโดย jean Fouguet (1420-1481)

 

ความจริงคือ  พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่ซ่อนพระองค์เองไว้ โอ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
ทุกคนจะต้องอับอาย และไม่อาจจะเสนอหน้าออกมาได้  คนที่สร้างรูปเคารพก็จะกลับเป็นสับสน  ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป
แต่อิสราเอลได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า ด้วยความรอดพ้นนิรันดร์     เจ้าจะไม่ต้องอับอาย หรือสะเปะสปะ สับสนตลอดนิรันดร์

เพราะพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้า ผู้สร้างแผ่นดินและก่อร่างรูปทรงของมันขึ้นมา
พระองค์ทรงไม่ปล่อยให้มันอยู่อย่างว่างเปล่า พระองค์ทรงสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่

“เราคือพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา  เราไม่ได้พูดในที่ลึกลับ ในดินแดนแห่งความมืด
เราไม่ได้กล่าวกับลูกหลานของยาโคบว่า … จงแสวงหาเราอย่างไร้ผล”   เราคือพระเจ้า ตรัสความจริง เราประกาศสิ่งที่ถูกต้อง

อิสยาห์ 45-2

อิสยาห์ 45:8-13

ฟ้าเอ๋ย  จงให้เมฆเทฝนแห่งความชอบธรรมลงมาเถิด
ผืนดินแห่งโลกก็จงเปิดออก เพื่อว่าทั้งความรอดและความชอบธรรมจะเกิดผล
แผ่นดินจงปล่อยให้ทั้งสองงอกงาม เราผู้เป็นพระเจ้าได้สร้างเหล่านี้ขึ้น

is45fafon

วิบัติแก่คนที่พยายามต่อสู้พระองค์ผู้สร้างเขามา  เป็นเหมือนหม้อดินท่ามกลางเหล่าหม้อดินทั้งหลาย!
ดินเหนียวจะกล่าวกับคนที่ปั้นมันขึ้นมาว่า “ท่านกำลังทำอะไร?” อย่างนั้นหรือ?
หรือมันจะกล่าวว่า “งานปั้นของท่านไม่มีหูจับ”  อย่างนั้นหรือ?

วิบัติแก่คนที่พูดกับบิดาว่า  “ท่านทำให้ใครเกิดใครมานี่?”  หรือพูดกับสตรีว่า “ท่านคลอดอะไรออกมานี่?”

ดังนั้น องค์พระเจ้า  พระเจ้าผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล ผู้ทรงสร้างเขาตรัสว่า
“จงถามถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต.. เจ้าจะสั่งเราเรื่องลูกหลานและผลงานจากมือของเราหรือ?
เราสร้างแผ่นดินโลก และสร้างมนุษย์ขึ้นมาบนนั้น

มือของเราขึงฟ้าสวรรค์ และบัญชาเหล่าดวงดาวบริวารทั้งหลายขึ้นมา
เราได้เร้าเขาในทางแห่งความชอบธรรม และจะทำทางทั้งสิ้นให้ราบเรียบ
เขาจะสร้างเมืองของเรา และทำให้เชลยของเราเป็นอิสระ ไม่ใช่เพื่อเงินหรือรางวัล”
พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้

อิสยาห์ 45-2