โดรคัสป่วยจนสิ้นชีวิต
ถอดความจาก กิจการ 9:37
เนื้อหาพระคัมภีร์ที่นำทางการดำเนินชีวิตประจำวัน
ถอดความจาก สดุดี 69:18
“I Need You Now”
Not a second or another minute
Not an hour of another day
But at this moment with my arms outstretched
I need you to make a way as you have done so many times before.
Through a window or an open door,
I stretch my hands to thee
Come rescue me
I need you right away.
I need you now [x4]
Not another second or another minute
Not an hour of another day but, Lord
I need you right away
If I never needed you before
To show up and restore all of the faith that I let slip.
While I was yet searching the world for more, the truest friend I have indeed
You’re my best friend I know in need,
I stretch my hands to thee
Come rescue me
I need you right away.
The agony of being alone
The fear of doing things on my own
The test and trials that come to make me strong.
The feelings of guilt, hurt, shame, and defeat
The waves and trials that beat upon me
But to know, Lord, that in you I’ve got victory.
I need you now, Lord,
I need you now (ooooh)
I need you right now, right now, right now
I need you now
Oh, not another second, not another minute, Lord,
Can’t wait another day (oooh no, no)
Please, make a way (ooh, lord, ooh, God, ooo yeah)
ถอดความจากสดุดี 95:3
ถอดความจาก เศฟันยาห์ 1: 7
เพื่อน ๆ ครับ วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นวันที่น่ากลัว
เพราะพระเจ้าจะทรงทำตามความยุติธรรมของพระองค์
คนที่รักความชั่ว ก็จะได้พบผลของการกระทำของเขา
ถ้าเพื่อน ๆ อยากรู้รายละเอียดของวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า
ไปตามหาอ่านได้ในหนังสือเศฟันยาห์
หนังสือโยเอล และอีกหลายเล่มที่เขียนบันทึกไว้
แต่ถ้าเราเตรียมพร้อม เชื่อฟังพระเจ้าเสมอ
วันนั้น สำหรับเราไม่น่ากลัว แต่จะน่าเสียใจที่เพื่อนของเราหลายคน
ไม่ได้เตรียมตัวไว้สำหรับวันนั้น
ถอดความจากลูกา 24:36
เมื่อพระเยซูทรงหายวับไปกับตาเช่นนั้น
พวกเขาก็หันมาพูดกันว่า
“ตอนที่พระองค์ตรัสกับเราตามถนน ใจของเรามันร้อนอย่างไรก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก
โดยเฉพาะตอนที่พระองค์อธิบายพระคัมภีร์ “
“นั่นซิ”
ดังนั้น พวกเขาทั้งหมดจึงเดินทางกลับไปยังเมืองเยรูซาเล็มทันที
ก็ไปเจอกับศิษย์อีก 11 คนรวมทั้งคนอื่น ๆ กำลังรวมตัวกันอยู่
เขาจึงบอกพวกเขาว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงคืนพระชนม์แล้วจริง ๆ นะขอรับ
พระองค์ทรงปรากฏแก่ซีโมนด้วย!”
จากนั้นก็เล่ารายละเอียดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบนถนนไปหมู่บ้านเอมมาอู
ไม่มีใครจำพระองค์ได้จนพระองค์แบ่งขนมปังให้พวกเขา
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันเรื่องพระองค์อยู่นั้น
อยู่ดี ๆ
“โอ๊ะ!” “ท่านอาจารย์!” “พระเยซู!”
พระเยซูทรงมาปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขา ทรงยืนอยู่ท่ามกลางเขา
ตรัสว่า “สันติสุขจงมีแก่พวกเจ้า!”
พระเยซูช่างดีเหลือเกิน ทรงให้สันติสุขกับพวกเขาในยามที่พวกเขากำลังงุนงง สับสนที่สุด
ถอดความจาก ลูกา 24:31
เมื่อศิษย์ของพระเยซูกล่าวเช่นนั้น
พระเยซู ผู้เดินทางไปด้วย (ซึ่งเขาไม่รู้ว่า เป็นพระองค์)ก็กล่าวว่า
“เจ้าคนโง่เอ๋ย เจ้าช่างเชื่องช้า ไม่รู้ ไม่เชื่อในสิ่งที่ผู้กล่าวคำของพระเจ้าได้พูดเอาไว้เอาจริง ๆ นะ!
ก็มันเป็นเรื่องจำเป็นที่พระคริสต์จะต้องทนทุกข์ในเรื่องเหล่านี้
แล้วพระองค์จึงจะทรงเข้าไปสู่พระเกียรติสูงส่งมิใช่หรือ?
แล้วพระองค์ก็ทรงอธิบายเรื่องที่กล่าวถึงพระองค์จากพระคัมภีร์
เริ่มตั้งแต่สมัยของโมเสส ยาวลงมาถึงผู้กล่าวคำของพระเจ้าคนอื่น ๆ
พอเข้ามาใกล้หมู่บ้านที่เขาตั้งใจจะมา พระองค์ทรงทำท่าเหมือนจะเดินทางต่อไป
แต่เขาทั้งสองก็ชักชวนพระองค์ว่า
“ขอท่านอยู่กับเราก่อนเถอะขอรับ
ตอนนี้ก็เย็นย่ำค่ำมืดแล้ว”
พระองค์จึงทรงเข้าไปพร้อมกับพวกเขา เพื่อจะพักที่นั่น
และเมื่อพระองค์ทรงอยู่ที่โต๊ะอาหาร
ทรงหยิบขนมปังขึ้นมา อธิษฐานขอพร และฉีกขนมปังแบ่งให้ทุกคน
เวลานั้นเอง ตาของพวกเขาก็สว่างขึ้น!
“พระอาจารย์…!!”
ยังไม่ทันจะกล่าวอะไรต่อ พระองค์ก็ทรงหายวับไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา!
บางคนได้ไปที่ถ้ำ ก็เห็นเหมือนอย่างที่ผู้หญิงบอก พวกเขาไม่พบพระเยซู
ถอดความจากลูกา 24:24
ในวันนั้นเองศิษย์สองคนของพระเยซู
เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านเอมมาอู หมู่บ้านนี้อยู่ห่างจากเยรูซาเล็มประมาณ 7 ไมล์
ทั้งสองกำลังคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับพระเยซูอย่างเข้มข้น
ขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้นเอง …
พระเยซูทรงเดินมาใกล้ ๆ พวกเขา และเดินไปพร้อมกับเขา
ทั้งสองไม่ได้สนใจมองหน้าเพื่อนเดินทางคนใหม่เท่าไรนัก
จริง ๆ แล้วเขาจำพระองค์ไม่ได้เลย
พระองค์ตรัสว่า “ท่านทั้งสองกำลังคุยอะไรกันหรือ?”
ทั้งสองหยุดนิ่ง หน้าตาดูเศร้าหมอง
คนหนึ่งคือคลีโอพาสตอบว่า
“ท่านเป็นคนต่างถิ่นมาเยี่ยมเยรูซาเล็มหรือ ท่านจึงไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น?”
“เรื่องอะไรหรือ?” พระเยซูถาม
“ก็พระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธไง พระองค์เป็นผู้กล่าวคำของพระเจ้า
ที่ทำการอัศจรรย์ คำสอนของพระองค์ก็แน่มาก ๆ
พระองค์ยอดเยี่ยมต่อพระพักตร์พระเจ้าและในสายตาของคนทั่วไป
และพระองค์ถูกมหาปุโรหิต ผู้ปกครองใส่ร้ายจนต้องถูกตรึง ถึงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
เราหวังว่า พระองค์จะทรงเป็นผู้ไถ่อิสราเอลให้พ้นจากชนต่างชาติที่ปกครองเราอยู่
แต่…ที่น่าแปลกใจคือ นี่ก็สามวันไปแล้ว พวกผู้หญิงที่ไปกับเรานะซิ
พวกเธอไปที่ถ้ำเก็บศพเมื่อเช้านี้ พวกเธอไม่พบศพของพระองค์
พอกลับมา ก็บอกเราว่า เห็นทูตสวรรค์มาบอกว่า พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาแล้ว …..
ศิษย์ของพระเยซูบางคนได้ไปที่ถ้ำ ก็เห็นเหมือนอย่างที่ผู้หญิงบอก
พวกเขาไม่พบพระเยซู”…
ยิ่งเล่าเรื่องนี้ พวกเขาก็ยิ่งหม่นหมองขึ้นไปอีก…..
บุตรมนุษย์จะต้องถูกส่งไว้ในเงื้อมมือคนบาป
พระองค์จะถูกตรึงบนไม้กางเขน
วันที่สามพระองค์จะคืนพระชนม์..
ถอดความจากลูกา 24:7
ชายผู้นั้นกล่าวต่อไปว่า “พระเยซูไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว พระองค์คืนพระชนม์จากความตาย
จำที่พระองค์เคยบอกตอนที่อยู่กาลิลีได้ไหม?
ว่า บุตรมนุษย์จะต้องถูกส่งไว้ในเงื้อมมือคนบาป
พระองค์จะถูกตรึงบนไม้กางเขน
วันที่สามพระองค์จะคืนพระชนม์..”
พวกเธอคิดได้แล้ว
จริงซิ พระเยซูเคยตรัสอย่างนั้นจริง ๆ
พวกเธอกลับจากถ้ำเก็บศพและเล่าเรื่องที่เห็นมาให้กับสาวกทั้งสิบเอ็ด
รวมทั้งคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้วยกัน
พวกเธอนั้นคือ มารีย์ มักดาลา โยฮันนา และมารีย์ มารดาของยากอบ
รวมกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างพากันเล่าเรื่องนี้
แต่..คำของพวกเธอเป็นเหมือนเรื่องไร้สาระในสายตาของพวกเขา
ไม่มีใครเชื่อคำของพวกเธอ …
มีแต่เปโตรที่ลุกขึ้น .. ไม่ได้การ ข้าต้องไปให้เห็นกับตา.. เขาคิด
เขาจึงวิ่งไปที่ถ้ำ ก้มตัวลงมองหาพระศพข้างใจ
เขามองเห็นผ้าพันพระศพวางไว้
“ไม่มีพระเยซูจริง ๆ นั่นแหละ” เขากล่าวกับตัวเอง
เขาจึงเดินกลับไปด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง
“เหตุใดเจ้าจึงมาตามหาผู้มีชีวิตท่ามกลางคนตายเล่า…?”
ถอดความจากลูกา 24:5
วันแรกของสัปดาห์ แต่เช้าตรู่
พวกผู้หญิงที่ตามพระเยซูมานั้น ก็พากันเอาสมุนไพรเครื่องหอมที่เตรียมไว้
ไปเพื่อชโลมที่พระศพอีก
แต่… เมื่อไปถึง
“เอ๊ะ อะไรกัน ทหารเอาหินนี้มาปิดปากถ้ำไว้แล้วนี่นา
ใครนะที่มากลิ้งหินออกจากปากถ้ำได้ ต้องใช้หลายคนเลยนะนี่” เธอหันมาพูดกัน
เมื่อเข้าไปก็ยิ่งแปลกใจ
“ไม่มีพระศพที่นี่” …. “หากี ๆ ซิ” พวกเธอมองไปรอบ ๆ
พอหันไปจริง ๆ กลับเจอชายสองคนยืนอยู่ เสื้อที่สวมนั้นเป็นประกายเจิดจ้า
ทุกคนใจเต้นแรงเพราะกลัวมาก เธอทุกคนก้มลงถึงดิน..
ชายนั้นพูดว่า “เหตุใดเจ้าจึงมาตามหาผู้มีชีวิตท่ามกลางคนตายเล่า…?”
ผู้มีชีวิตท่ามกลางคนตาย!!
หมายความว่าอย่างไรกัน?
ไม่เข้าใจ!!
ถอดความจาก อิสยาห์ 53:5
ฟังเพลงไป และคิดถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ แล้วเราจะขอบพระคุณยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น
ถอดความจาก 1 ยอห์น 4:10
เพื่อน ๆ ครับ เราเพิ่งอ่านเรื่องการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูมา
ที่พระองค์ทรงตายบนไม้กางเขน
เป็นแผนของพระเจ้า แม้หลายคนที่รักพระเยซูไม่เห็นด้วย
และเป็นทุกข์ยิ่งนัก
ไม่มีใครจะรับโทษแทนเราได้ นอกจากพระเยซูผู้ไม่บาป
และไม่เคยทำบาปใด ๆ
พระเยซูทรงยอมทำตามที่พระบิดาทรงบัญชาทุกอย่าง
ขอบคุณพระองค์ยิ่งนัก….
ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดินโลกนี้
ถอดความจากลูกา 23:52
มีชายคนหนึ่งชื่อโยเซฟ จากเมืองอาริมาเธีย เขาเป็นชาวยิว
และยังเป็นสมาชิกสภาด้วย
เขาเป็นคนดี ชอบธรรม และไม่เห็นด้วยกับการตัดสิน การกระทำต่อพระเยซูเช่นนั้น
เขาเป็นคนที่รอคอยแผ่นดินของพระเจ้า
หมายความว่า ทุกวันเขาคิดถึงพระเจ้า และมีชีวิตที่ใกล้ชิดพระองค์
เขาตัดสินใจเข้าไปหาปีลาต และขอพระศพพระเยซู เพื่อมาเก็บในถ้ำ
ปีลาตก็อนุญาตตามนั้น
เขาจึงนำพระศพลงมาจากไม้กางเขน และใช้ผ้าลินินผืนยาว
พันห่อพระศพของพระองคือย่างเรียบร้อย ตามธรรมเนียม
จากนั้นนำพระศพไปเก็บไว้ในถ้ำเก็บศพที่เพิ่งเจาะใหม่
ไม่เคยมีใครวางศพอื่นมาก่อน
วันนั้นเป็นวันเตรียมสำหรับสะบาโตซึ่งก็ใกล้จะถึงแล้ว
ส่วนเหล่าสตรีที่ตามพระองค์มาจากกาลิลี ก็ตามมา
ดูว่า เขาวางพระศพอย่างไร
เมื่อพวกเธอเห็นแล้ว ก็กลับไปเพื่อเตรียมเครื่องเทศ และน้ำมันหอมสำหรับพระศพ
วันต่อมาเป็นวันสะบาโต พวกเขาก็หยุด ไม่ทำอะไรเลย ตามที่พระบัญญัติบัญชาไว้