2 ตุลาคม 2014 สิ้นพระชนม์

 “โอพระบิดา
ข้าพระองค์ขอฝากวิญญาณของข้าพระองค์
ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์!”

ถอดความจากลูกา 23:46

Daily2014_10_2-

ตอนนั้น เวลาประมาณเที่ยงวัน
แต่ทั้งแผ่นดินกลับมืดเหมือนกลางคืน จนถึงประมาณบ่ายสามโมง
ช่วงเวลานั้น ดวงอาทิตย์ก็มืด.!!…   ผู้คนทั้งเมืองอกสั่นขวัญหาย ….
ม่านในพระวิหาร ก็ขาดออกจากกันเป็นสองท่อน!

ขณะที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปนั้น…
พระเยซูทรงร้องออกมาเสียงดังมากว่า

“โอพระบิดา ข้าพระองค์ขอฝากวิญญาณของข้าไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์!”
และพระองค์ทรงหายใจเฮีอกสุดท้าย…

มีนายร้อยคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เห็นเหตุการณ์ทั้งสิ้น
เขาร้องสรรเสริญพระเจ้า   และกล่าวออกมาว่า
“แท้จริงแล้ว ท่านผู้นี้ไม่มีความผิดประการใดเลย!”

ส่วนประชาชนที่มารวมตัวกันคอยดูสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น
พวกเขาก็เดินตีอกของตัวเองอย่างเป็นทุกข์กลับบ้านไป
คนที่รู้จักพระองค์อย่างใกล้ชิด
กับเหล่าสตรีที่ติดตามพระองค์มาจากกาลิลียืนอยู่ไกล ๆ
คอยดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น….

1 ตุลาคม 2014 สองคนที่แตกต่าง

“เราบอกเจ้าตามจริงว่า
วันนี้ เจ้าจะได้ไปอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม”

ถอดความจากลูกา 23:43

Daily2014_10_1

อาชญากรที่ถูกแขวนอยู่บนกางเขนคนหนึ่ง หันมาด้วยความโกรธ
“ท่านเป็นพระคริสต์ ผู้ช่วยให้รอดมิใช่หรือ?
ถ้าเป็นจริง ก็ช่วยตัวเอง และช่วยเราด้วย!”

แต่ชายอีกคนที่อยู่อีกข้างกล่าวว่า
“เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้ารึ?
เจ้าเองโดนโทษครั้งนี้ก็คดีเดียวกัน
และเราก็ถูกลงโทษสมกับที่เราได้ทำผิด
แต่ท่านผู้นี้ ไม่ได้ทำผิดสิ่งใดเลย”
แม้แต่อาชญากรยังรู้ว่า พระเยซูไม่ได้ผิดอย่างที่ทรงถูกกล่าวหา!

เขาหันมาหาพระเยซู   และร้องขอพระองค์ว่า
“ท่านเยซูขอรับ  ขอทรงคิดถึงกระผม
เมื่อพระองค์ทรงเข้าไปยังอาณาจักรของพระองค์ด้วยนะขอรับ”
พระองค์ทรงมองเขา ตรัสจากไม้กางเขนว่า
“เราบอกเจ้าตามความจริงว่า วันนี้ เจ้าจะได้ไปอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม”

11 ตุลาคม 2013 ถุงใหม่ ถุงเก่า

 ไม่มีใครเอาน้ำองุ่นหมักใหม่ ๆ มาใส่ถุงหนังเก่า
หากทำอย่างนั้น ถุงหนังเก่าจะขาดไป…

ถอดความจากลูกา 5:37

Daily2013_10_11-1

เผื่อว่าธรรมาจารย์จะยังไม่เข้าใจเรื่องการอดอาหารนี้
พระเยซูทรงเล่าคำอุปมาสั้น ๆ ให้เขาฟังว่า
“ไม่มีใครที่จะเอาผ้าใหม่จากเสื้อใหม่มาปะเสื้อผ้าเก่า..
ทำอย่างนั้น เสื้อเก่าจะยิ่งขาด ทำให้เสียเสื้อทั้งสองตัว
ผ้าชิ้นที่ใหม่กว่าก็ไม่เหมาะกับเสื้อเก่า”

ไม่มีใครเอาน้ำองุ่นหมักใหม่ ๆ มาใส่ถุงหนังเก่า
หากทำอย่างนั้น ถุงหนังเก่าจะขาดไป…
น้ำองุ่นจะรั่วออกมา เสียน้ำองุ่นไป
ส่วนถุงหนังก็พังไปด้วย
น้ำองุ่นใหม่ก็ต้องใส่ถุงหนังใหม่

Daily2013_10_11-2
ใครก็ตามที่ดื่มเหล้าเก่าก็ไม่อยากจะได้น้ำองุ่นหมักใหม่
เพราะว่า “ของเก่านั้นดีอยู่แล้ว”

โห… หมายความว่าอย่างไรหรือ?…
พระเยซูมิได้ต้องการให้เขาเอาบัญญัติเดิม ที่เน้นการทำตามกฎของพวกเขามาเป็นแนวทาง
แต่พระเยซูจะประทานบัญญัติใหม่ เป็นเรื่องของความรัก
ถ้าธรรมาจารย์ถือกฎแห่งความรัก   พวกเขาจะไม่โวยวายว่าใครจะทำผิดบัญญัติข้อโน้นข้อนี้
ความคิดเก่าของธรรมาจารย์เอามาปรับใหม่ไม่ได้
ต้องใช้ของใหม่ของพระเยซูไปเลย!
เวลาเรามาพบพระเจ้าแล้ว เราต้องทิ้งสิ่งเก่า ๆ ในชีวิตไป
ให้กลายเป็นของใหม่ในพระเยซูคริสต์เท่านั้นจึงจะเดินไปได้อย่างสวยงาม

10 ตุลาคม 2013 ปัญหาอดอาหาร

จะให้เพื่อนของเจ้าบ่าวอดอาหาร ตอนที่เจ้าบ่าวยังอยู่ด้วยหรือ?

ถอดความจาก ลูกา 5:34

Daily2013_10_10-1

เรื่องของการไปกินเลี้ยงในบ้านเลวียังไม่ทันสร่างซา
พวกธรรมาจารย์ทั้งหลายก็มีเรื่องไม่พอใจพระเยซูอีก
พวกนี้ก็แปลก คอยจับผิดไม่เลิกรา
“ดูซิ  ศิษย์ของท่านยอห์นถืออดอาหารบ่อย ๆ
ศิษย์ของฟาริสี ก็ทำเหมือนกัน
แต่ทำไมศิษย์ของท่านนี่
กิน ดื่มตามสบาย ไม่มีการทำตัวให้เคร่งครัดเลย?”
พวกเขาถามพระเยซู

อืม… น่าคิดนะ …อย่างนี้แสดงว่า ศิษย์ของพระเยซูนะไม่ได้ความ
พวกเขาอยากจะบอกพระองค์ว่า ทำตัวให้ดูน่าเคารพกว่านี้หน่อย..
Daily2013_10_10-2

พระเยซูทรงตอบเขาว่า
“ท่านจะให้เพื่อน ๆของเจ้าบ่าวอดอาหารตอนที่เจ้าบ่าวยังอยู่กับเขาหรือ?”
แล้วใครเป็นเจ้าบ่าวล่ะนี่ ทำไมพระเยซูตรัสเช่นนี้??
“แต่วันหนึ่งในอนาคต  เจ้าบ่าวก็จะต้องจากเพื่อน ๆ ไป
วันเหล่านั้นแหละพวกเขาจะถืออดอาหาร”
พระเยซูทรงบอกเขาว่า
พระองค์เปรียบเหมือนเจ้าบ่าว ที่ยังอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงาน
ถ้าเพื่อน ๆ ไปอดอาหารในเวลานั้น มันไม่เหมาะสมแน่
แต่วันหนึ่ง พระองค์จะไม่อยู่ …
วันนั้นเพื่อน ๆ ของพระองค์จะอดอาหารอย่างแน่นอน
อย่า… อย่ามาบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ต้องทำ…
ถึงเวลาทุกอย่างจะมาอย่างเหมาะสมนะ ท่านธรรมาจารย์

9 ตุลาคม 2013 งานเลี้ยงของเลวี

เราไม่ได้มาเรียกคนที่เห็นว่าตัวเองดี
แต่มาเรียกคนที่ท่านคิดว่านอกลู่นอกทางให้กลับใจใหม่

ถอดความจาก ลูกา 5:32

Daily2013_10_9-1

ความที่เลวีดีใจมาก เขาจึงจัดงานเลี้ยง
เลี้ยงที่บ้านอันหรูหราของเขา
แหม.. เป็นคนเก็บภาษี ก็ต้องมีเพื่อนเป็นคนเก็บภาษี
มีเพื่อนเป็นชนชั้นสูง  มีพ่อค้า  และคนรวย ๆ มากมาย
แต่คนเหล่านั้น เป็นคนที่รวยจริงแต่ไม่มีใครรัก
เป็นคนรวยที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้
อาชีพคนเก็บภาษีเป็นอาชีพที่สังคมรังเกียจ
ถือว่าเป็นคนทรยศ เพราะมาเก็บภาษีส่งโรมซึ่งครองแผ่นดินอยู่

ดังนั้น ฟาริสีและธรรมาจารย์จึงกระแนะกระแหนพระเยซูกับผู้ที่ติดตามพระองค์
“โห… ทำไมอาจารย์ของพวกเจ้าจึงมากินดื่มกับคนเก็บภาษีที่น่าชัง ทั้งกับคนบาปอย่างนี้?”

Daily2013_10_9-2

แต่พวกเขาไม่ได้พูดกระซิบ… เขาพูดดัง ๆ เพื่อหลายคนจะได้ยิน และเห็นด้วยกับพวกเขา

พระเยซูทรงได้ยิน
หันมา ตรัสกับพวกเขาว่า
“ท่านก็รู้ว่า คนเจ็บเท่านั้นต้องการหมอ  แต่คนที่ปกติ สุขภาพดีก็ไม่ต้องการหมอ”
พวกเขาสงสัย…. นี่ท่านเยซูจะบอกอะไรอีก?
“เราไม่ได้มาเรียกคนที่เห็นว่าตัวเองดี
แต่มาเรียกคนที่ท่านคิดว่านอกลู่นอกทางให้กลับใจใหม่”

รู้ไว้ซะ…ท่านธรรมาจารย์!

8 ตุลาคม 2013 ตามเรามาเถิด

“เจ้าจงตามเรามาเถิด”

ถอดความจาก ลูกา 5:27

Daily2013_10_8-1

 

หลังจากการรักษาชายอัมพาตไม่นาน
พระเยซูเสด็จออกไปในเมือง
มีคนเก็บภาษีคนหนึ่งกำลังง่วนทำงานของเขา
คอยเก็บภาษีจากประชาชนที่ยืนเข้าแถวรออยู่
พระเยซูเห็นเขา
ทรงรู้ว่า เขาคนนี้แหละที่จะทรงเลือกให้เป็นผู้ติดตามใกล้ชิด
ดังนั้น พระองค์ทรงเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขาตรัสว่า
“เจ้าจงตามเรามาเถิด”

 Daily2013_10_8-2

เลวีได้ยินดังนั้น ก็แปลกใจไม่ใช่น้อย
อะไรกัน เขาก็เป็นคนเก็บภาษี มีหน้าที่การงานดี ๆ อยู่แล้ว
ทำไม ท่านเยซูผู้นี้ จึงมาชวนเราให้ติดตามพระองค์ไป?
แต่ก็ดีเหมือนกันนะ..
พระองค์ทรงเป็นผู้ทำการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่
เราเองก็เคยเห็นพระองค์รักษาโรค
เราเองก็เคยได้ยินพระองค์สอน
แต่เราไม่คิดจะตามพระองค์
วันนี้ พระองค์กลับทรงชวนเรา
ไปดีกว่า … ไปกับพระองค์ น่าจะดีกว่าอาชีพนี้
แล้วเลวีก็ตัดสินใจทันทีว่า เขาจะตามพระองค์ไป

7 ตุลาคม 2013 อำนาจของพระเยซู

เราสั่งเจ้าว่า จงลุกขึ้น
แบกที่นอนของเจ้าไป และกลับบ้านเถิด

ถอดความจากลูกา 5:24

Daily2013_10_7-1

พระเยซูทรงหันมาหาฟาริสีและธรรมาจารย์
ทรงมองหน้าเขาตรัสว่า
“เหตุใดท่านจึงคิดในใจอย่างนั้น?”
พวกเขาตกใจ… ท่านเยซูรู้หรือว่าเราคิดอะไรอยู่?
พระองค์ตรัสต่อไปว่า
“ที่จะบอกว่า เราอภัยบาปให้ กับจะบอกว่า ให้ลุกขึ้นเดินไป
พวกท่านคิดว่า อย่างไหนจะง่ายกว่ากัน?…”
พวกเขามองพระเยซู งุนงง ไม่รู้จะตอบอย่างไร

Daily2013_10_7-2

“แต่..” พระเยซูตรัสต่อไป
“เพื่อให้พวกท่านรู้ว่า เรา..มีสิทธิอำนาจที่จะอภัยบาปได้”
พระเยซูทรงหันไปหาชายอัมพาต
“เราสั่งเจ้าว่า จงลุกขึ้น แบกที่นอนของเจ้าไป และกลับบ้านเถิด”
พอเขาได้ยินดังนั้น เขาก็ลุกขึ้นทันที
“อู.. ขอบคุณพระเจ้า” เขามองขาตัวเอง
ไม่มีร่องรอยของการโขยกเขยกขา … แถมยังยกที่นอน
เขาขอทาง…”ขอทางหน่อยขอรับ ข้าจะกลับบ้านแล้ว”
“ฮาเลลูยา ข้าหายโรคแล้ว พระเจ้าทรงดีกับข้าเหลือเกิน”
เขาพูดเสียงดัง

ทุกคนในบ้าน หันมองหน้ากัน…
“วันนี้ พวกเราได้เห็นการอัศจรรย์ที่เหลือเชื่อ”

6 ตุลาคม 2013 รักกันและกัน

ขอให้เรารักกันและกัน…

เพราะว่า ความรักมาจากพระเจ้า 
และทุกคนที่รักก็เกิดมาจากพระเจ้า

ถอดความจาก 1 ยอห์น 4:7

5 ตุลาคม 2013 แบกภาระด้วยกัน

 จงช่วยกันแบกภาระของกันและกัน

การทำเช่นนี้  เท่ากับเธอทำตามกฎของพระคริสต์สำเร็จ

ถอดความจาก กาลาเทีย 6:2

parashareภาพอันงดงามนี้ เอามาจาก http://revth.wordpress.com

ดูซิ  ตัวเล็กก็จริง แต่สามารถขนของที่ต้องการไปถึงที่หมายได้

ถ้าตัวเล็กบอกว่า เราจะไม่ทำ

เพื่อนตัวใหญ่ก็จะลำบากมากขึ้น

อาจจะต้องลาก ถูลู่ถูกังไปเรื่อย ๆ

 ตัวเล็ก…ก็อย่าคิดว่าทำอะไรไม่ได้นะ

ตัวเล็ก  หรือตัวโต  ถ้าช่วยกัน  มันสำเร็จเสมอ

และความสำเร็จที่ยอดกว่านั้นคือ

เราทำตามกกฎแห่งความรักของพระเยซูคริสต์!

 

4 ตุลาคม 2013 รู้นะ..ว่าคิดอะไร

พระเยซูทรงทราบว่า พวกเขาคิดอะไรอยู่

ถอดความจากลูกา 5:22

Daily2013_10_4-1

ใคร ๆ ก็อยากหายโรค และคน ๆ นี้มีเพื่อนดี มีความตั้งใจจริงที่จะพบพระเยซูให้ได้ พวกเขาและคนป่วยเองเชื่อว่า

พระเยซูทรงรักษาโรคของเขาให้หายได้แน่นอน

พระเยซูทรงมองเขาด้วยเมตตา สงสาร ตรัสว่า “เพื่อนเอ๋ย  เรายกบาปของเจ้าแล้ว !”

Daily2013_10_3-2 Daily2013_10_4-2

“ฮ้า!!”  พวกฟาริสีและธรรมาจารย์ตาโต ต่างคิดในใจพร้อมกันอย่างไม่นัดหมายว่า “พูดอย่างนี้ได้อย่างไร  ท่านเยซูสอนพระคำของพระเจ้าก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า จะยกโทษบาปให้ใครได้ พระเจ้าเท่านั้นที่ยกโทษให้มนุษย์ได้ พูดอย่างนี้เท่ากับหมิ่นประมาทพระเจ้านี่นา”

พวกเขาไม่รู้ว่า พระองค์คือพระบุตรของพระเจ้าที่มาในโลกนี้ แม้คิดในใจ ไม่ได้พูดออกมา แต่พระเยซูทรงรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่!!

3 ตุลาคม 2013 หย่อนลงตรงเป้าหมาย

พวกเขาหาทางที่จะหย่อนคนง่อยมาวางตรงพระพักตร์พระเยซู

ถอดความจากลูกา 5:18Daily2013_10_3-1

ชายคนนี้เป็นอัมพาต เดินไม่ได้
เขามีเพื่อนช่วยหามเขามาจากบ้าน
พอมาถึงบ้านที่พระเยซูทรงยืนสอนอยู่
พวกเขาก็ตกใจ เพราะคนแน่นบ้าน
ไม่มีทางที่พวกเขาจะเข้าประตูไปหาพระเยซูได้เลย

แต่เพื่อนทั้งสี่ไม่ได้ท้อใจ
เขาหามเพื่อนขึ้นไปบนหลังคา
และค่อย ๆ รื้อหลังคาออกเดี๋ยวนั้น!

Daily2013_10_3-2

คนในบ้านตกใจ  .. เอ๊ะ มีฝุ่นตกลงมาจากเพดาน
พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นชาย 4 คนกำลังรื้อหลังคา

“เจ้าทำอะไรกันนะ?”  คนหนึ่งตะโกน
แต่พวกเขาบอกว่า
“เดี๋ยวกระผมจะเรียงหลังคากลับอย่างเดิมนะขอรับ
เมื่อได้ความกว้างที่ต้องการ

บ้านก็สว่าง

เขาก็หย่อนเพื่อนลงมา ตรงหน้าพระเยซูพอดี!

2 ตุลาคม 2013 ฤทธิ์แห่งการรักษา

ฤทธิ์อำนาจแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับพระเยซู เพื่อรักษาคนป่วย

ถอดความจาก ลูกา 5:19

Daily2013_10_2-1 (1)

วันหนึ่ง เหล่าฟาริสีและธรรมาจารย์ที่มาจากหมู่บ้านรอบ ๆ แคว้นกาลิลี แคว้นยูเดีย
รวมทั้งจากนครเยรูซาเล็ม
รวมตัวกันมาฟังพระเยซูสอนในบ้านแห่งหนึ่ง
พระเยซูทรงมีฤทธิ์อำนาจจากพระเจ้า
จึงทรงรักษาคนป่วยหลาย ๆ คนที่มาขอให้พระองค์รักษา

บ้านนั้นเต็มด้วยผู้คน แน่นจนล้นออกมา
แต่ผู้คนก็ไม่ได้ย่อท้อ
เขารู้ว่า ถ้าได้พบพระเยซู ต้องหายโรคแน่…
และมีชายคนหนึ่งมาหาพระองค์ด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร

Daily2013_10_2-2 (1)
เขาไม่ได้เบียดคนเข้ามา
เขาไม่ตะโกน
ไม่เรียกร้อง
เขาเดินไม่ได้เสียด้วย
เขามาอย่างไรนะ?

1 ตุลาคม 2013 อธิษฐานในที่สงบ

แต่พระเยซูมักจะทรงออกไปอยู่ที่สงบ
เพื่อจะอธิษฐาน 

ถอดความจากลูกา 15:16

Daily2013_10_1-1

ชายโรคเรื้อน ดีใจที่สุดในโลก
เขาใจกล้ามาขอพระเยซูช่วย และพระองค์ก็ทรงให้ตามที่เขาขอ

มหัศจรรย์!!  ยอดเยี่ยม!!

แต่พระเยซูตรัสกับเขาว่า
“เจ้าไม่ต้องเที่ยวไปบอกใคร ๆ ว่าเจ้าหายโรค”
“ทำไมล่ะขอรับ  นี่เป็นสิ่งดีที่สุดในชีวิตของกระผม?”

“เจ้าต้องไปหาปุโรหิต เพื่อไปแสดงตัวกับปุโรหิต ให้ตรวจเจ้า
ทำตามที่ท่านโมเสสสั่งเอาไว้
แล้วก็ถวายเครื่องบูชา เพราะเจ้าได้รับการชำระ …
คราวนี้ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าเจ้าหายโรคแล้ว ”
“ขอรับ”  เสียงของเขาอ่อยลง
เขาดีใจมาก อยากบอกให้โลกรู้ แต่พระเยซูกลับทรงห้าม

Daily2013_10_1-2ต่..กลับกลายเป็นว่า
ข่าวการหายจากโรคเรื้อนนั้น แพร่กระจายไปทั่วเมือง
คนมากมายตามหาพระเยซู อยากทั้งฟังคำสอน
ทั้งจะได้รับการรักษาโรค..

แต่

พระเยวูมักจะทรงออกไปอยู่ในที่สงบ เพื่ออธิษฐาน……

31 พฤษภาคม 2013

ข้าพระองค์ทราบแล้วว่า พระเจ้าทรงกระทำทุกสิ่งใด 
ไม่มีอะไรมาขัดขวางแผนการของพระองค์ได้ …

ถอดความจากโยบ 42:2

Daily2013_5_31-1โยบต้องทนทรมานกับความเจ็บปวดนานพอควร

แถมภรรยา  เพื่อนทั้งสามก็ยังเข้ามาตำหนิติเตียน แสดงความเห็นของตัวเอง

พวกเขาคิดว่า เขามีคำตอบสำหรับความทุกข์ยากของโยบ

แต่แล้วตัวโยบเองกลับพบว่า

เขาไม่จำเป็นต้องไปต่อล้อต่อเถียงพระเจ้าเลย

เพราะพระองค์จะทรงทำอย่างไรกับเขาก็ได้…..

เขายอมรับพระองค์  น้อมรับทุกอย่างที่พระเจ้าจะให้เกิดกับเขา

Daily2013_5_31-2

พระเจ้าทรงให้โยบกลับคืนสู่สภาพดี

ทรงสั่งให้เขาอธิษฐานเผื่อเพื่อน  ๆ  ที่ทำร้ายจิตใจ   เพื่อพระองค์จะทรงเมตตาพวกเขา

เมื่อเขาอธิษฐานเพื่อเพื่อน ๆ  พระเจ้าก็ทรงให้เขาเจริญขึ้นอีกครั้ง

ปลายชีวิตของโยบนั้น มีอะไร ๆ มากกว่าที่เคย

มีลูกชาย ลูกสาวยั้วเยี้ยอีก  … เขาได้มีชีวิตจนเห็นหลานเหลนถึง 4 รุ่น

และเขาสิ้นชีวิตตอนที่ชรามากทีเดียว….

 

30 พฤษภาคม 2013

เมื่อพวกเขาเห็นโยบแต่ไกล ก็จำโยบไม่ได้  จึงร้องไห้โฮ

และฉีกเสื้อคลุม ซัดผงคลีดินเหนือศีรษะ

ถอดความจาก โยบ 2:12

Daily2013_5_30-1

 อย่างที่เล่ามาเมื่อวาน  ภรรยาของโยบประชดโยบด้วยการบอกให้เขาแช่งพระเจ้า
แต่เขากลับตอบว่า เขายินดีได้รับสิ่งดีจากพระเจ้า และก็ต้องรับสิ่งไม่ดีได้ด้วย
โยบ ไม่ได้ทำตามอย่างที่ซาตานคิดว่าเขาจะทำ
มันประเมินโยบผิดไป…..

Daily2013_5_30-2

 

เพื่อนของโยบสามคนได้ข่าว จึงเดินทางมาเยี่ยม

“เรานัดกันไปเจอท่านโยบกันเถอะ เพราะทุกข์ของท่านน่าจะหนักหนานัก”

เมื่อเห็นโยบก็ตกใจเพราะนึกไม่ถึงว่าสภาพจะย่ำแย่ขนาดนั้น

พวกเขาร้องไห้โฮ  นั่งอยู่กับโยบนานเจ็ดวันโดยไม่พูดอะไร

แต่แล้ว …. เขาก็ได้คุยกันไปมา นานมาก

ทุกคนคิดว่า โยบทำผิดต่อพระเจ้าจึงเจอสภาพเช่นนี้

แต่โยบยืนกรานว่า เขาไม่ได้ทำผิดต่อพระองค์….

อิสยาห์ 56-2 บ้านแห่งการอธิษฐาน

อิสยาห์ 56:6-8

เหล่าคนต่างชาติที่เข้ามาหา และติดตามพระเจ้า  ทั้งเข้ามาปรนนิบัติพระองค์ รักพระนามของพระองค์ มาเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ทุกคนที่รักษาวันสะบาโตและไม่ดูหมิ่นวันนั้น และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
เราจะนำเขาเหล่านี้มายังภูเขาบริสุทธิ์ของเราและทำให้พวกเขาได้มีความยินดีในบ้านแห่งการอธิษฐานของเรา

เราจะรับเครื่องเผาบูชาและเครื่องถวายบูชาของพวกเขาบนแท่นของเรา

WorshipGod 11

เพราะว่า คนทั้งหลายจะเรียกบ้านของเราว่า เป็นบ้านแห่งการอธิษฐานสำหรับประชาชนทั้งหมด
พระเจ้า องค์พระเจ้าผู้ทรงรวบรวมเหล่าคนอิสราเอลที่กระจัดกระจายไปประกาศว่า
เราจะรวบรวมคนอื่น ๆ เข้ามาไว้กับเขา  นอกเหนือไปจากคนที่รวบรวมเข้ามาแล้ว

29 พฤษภาคม 2013

เขายังมั่นคงและสัตย์ซื่อ แม้เจ้าชวนให้เราต่อสู้เขา
เพื่อทำลายเขาโดยไม่มีเหตุ

ถอดความจาก โยบ 2:3


Daily2013_5_29-1

 

เมื่อเจ้าซาตานมันให้เหตุผลว่า ที่โยบเป็นคนดี ก็เพราะพระเจ้าทรงช่วย

พระองค์ทรงปกป้องและอวยพรเขา   ดังนั้นหากไม่มีพระพรเหลืออยู่ โยบก็คงทิ้งพระเจ้า

พระเจ้าจึงทรงอนุญาตให้มันทำอะไรโยบก็ได้  แต่ห้ามแตะต้องตัวโยบ

มันจึงทำลายลูกสาวลูกชายทั้งหมด…. ฝูงสัตว์ถูกทำลาย

แม้ว่าโยบทุกข์ใจยิ่งนัก  แต่เขากล่าวว่า

“ข้าเกิดมาตัวเปล่า ก็จะกลับไปตัวเปล่า

พระเจ้าประทานและพระองค์ทรงเอาไปเสีย… สาธุการแด่พระนามของพระเจ้า”

Daily2013_5_29-2

 

มารยังไม่ยอมแพ้ ทูลพระเจ้าว่า “หากพระองค์ทำลายตัวเขา แตะต้องกระดูกและเนื้อของเขา

เขาจะแช่งสาปพระองค์อย่างแน่นอน”

พระเจ้าทรงอนุญาตให้มันทำอะไรก็ได้  แต่ห้ามเอาชีวิตเขาไป

มันจึงทำให้เขาเป็นฝีร้าย ตั้งแต่ฝ่าเท้าถึงศีรษะ!

แม้ภรรยาของโยบชวนให้เขาแช่งพระเจ้า และไปตายเสีย เขากลับกล่าวว่า

“เราจะรับแต่สิ่งดีจากพระเจ้า โดยไม่ยอมรับวิบัติหรือ…”

โห…ท่านโยบนี่ยอดจริง ๆ  สมกับที่พระเจ้าทรงชม!

28 พฤษภาคม 2013 โยบ 1

พระเจ้าตรัสกับซาตานว่า

“ดูโยบ ผู้รับใช้ของเราซิ ในโลกนี้ ไม่มีใครเหมือนเขา
เป็นคนดีรอบคอบ เที่ยงธรรม ยำเกรงเรา
และหันจากความชั่วร้าย”

ถอดความจาก โยบ 1:8

Daily2013_5_28-1

เรื่องนี้ ใครเขียน เราไม่ทราบเลย แต่… เป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในสวรรค์

มารได้มาแทรกในกลุ่มทูตสวรรค์ที่ชุมนุมอยู่กับพระเจ้า

“เจ้ามาจากไหน?”  พระเจ้าตรัสถาม

“ก็ท่องเที่ยวไปมาในโลกนี่แหละ พระเจ้าข้า”  แปลกนะ มันไม่เที่ยวในเอกภพ ในกาแล็กซี่

แต่กลับท่องเที่ยวในโลก คอยหลอกล่อให้คนทำผิดต่อพระเจ้า

ในวันนั้นเอง พระเจ้าทรงชมโยบให้มันฟัง…

“ดูโยบ ผู้รับใช้ของเราซิ ในโลกนี้ ไม่มีใครเหมือนเขา
เป็นคนดีรอบคอบ เที่ยงธรรม ยำเกรงเรา
และหันจากความชั่วร้าย”

 

Daily2013_5_28-2

“โธ่เอ๋ย… พระเจ้าข้า  ก็พระองค์ทรงป้องกันตัวเขา  ทรัพย์สมบัติ บ้านเรือนของเขาไว้
ไม่ว่าทำอะไร พระองค์ก็ทรงอวยพระเขาทุกอย่าง
เขาจึงมีฝูงสัตว์ใหญ่โต

แค่พระองค์ทรงลองทำลายทรัพย์ของเขา  เขาก็จะแช่งด่าพระองค์แน่นอน”

เจ้ามารอาจหาญท้าพระเจ้า

26 พฤษภาคม 2013 คนเล็กใหญ่ในสวรรค์

ดังนั้น  ถ้าใครทำผิดธรรมบัญญัติ 
ทั้งสอนให้คนอื่นทำอย่างนั้นด้วย
ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นคนเล็กน้อยที่สุดในสวรรค์
ส่วนคนที่ทำตาม และสอนคนอื่นให้ทำตาม
เขาจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในสวรรค์

ถอดความจาก มัทธิว 5:19

2013-05-23 08.50.33

พระคำตอนนี้ ลึกซึ้ง เราจะไม่แปลความไปเอง
แต่จะพูดกันตรง ๆ ตามที่เห็นตรงหน้านี้

ก่อนจะไปถึงสวรรค์ได้
ต้องเป็นผู้ที่เชื่อพระเยซูจริง ๆ
ต้องวางใจพระเยซูจึงมีชีวิตนิรันดร์

แต่จากข้อพระคำตอนนี้ เรารู้ว่า เราทุกคนทำผิด
ผู้เชื่อที่สอนคนอื่นให้ทำผิดตามตนเองนั้น
จะได้เป็นคนเล็กน้อยในแผ่นดินสวรรค์

ถ้าอยากเป็นใหญ่ พระเยซูก็ทรงให้เคล็ดลับอยู่แล้ว