25 พฤษภาคม 2013 ตราบฟ้าดินดำรงอยู่

เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ตราบเท่าที่ฟ้าและแผ่นดินยังดำรงอยู่
อักษรตัวเดียว หรือขีดเดียว
ก็จะไม่สูญหายไปจากธรรมบัญญัติ

จนกว่าสิ่งที่จะต้องเกิด ได้เกิดขึ้นแล้ว

ถอดความจากมัทธิว 5: 19

 

SothebyOt

ถ้าเพื่อน ๆ ได้อ่านหนังสืออิสยาห์ต่อ ๆ กันมาหลายวัน

จะเห็นว่า อิสยาห์ซึ่งเป็นพระคัมภีร์เดิม  ได้กล่าวถึงพระเยซูไว้มากมาย

เป็นการกล่าวล่วงหน้าก่อนสิ่งต่าง ๆ จะเกิดขึ้นหลายร้อยปี

เราไม่ควรมองว่า พระคัมภีร์ใหม่มาลบล้างพระคัมภีร์เดิม

แต่จริง ๆ แล้ว ได้ช่วยบอกเราว่า สิ่งที่ผู้รับใช่โบราณกล่าวนั้น สำเร็จอย่างไรบ้าง

และพระเยซูเอง ทรงมาเป็นผู้ทำให้คำกล่าวของพระเจ้าในสมัยโบราณนั้น

สำเร็จทุกประการ!

24 พฤษภาคม 2013 นักเขียนนิรนาม 4

เพราะว่า โมรเดคัยคนยิว ได้ตำแหน่งรองพระราชา
และเป็นใหญ่ท่ามกลางพวยิว  

เป็นที่ชอบพอของพี่น้อง ญาติมิตรของท่าน 
เพราะท่านแสวงหาความสุขสงบให้กับชนชาติของท่านเอง

ถอดความจากเอสเธอร์ 10:3

Daily2013_5_24-1

เมื่อกลับถึงบ้าน หลังจากต้องร้องชมเชยโมรเดคัยทั้งวัน ทั้งเมือง

“ไม่ไหวแล้ว  ข้าทนไม่ได้  ทำไมพระราชาต้องให้ข้าแห่โมรเดคัยรอบเมือง”

ฮามานถึงกับร้องไห้ คร่ำครวญ

“เสียศักดิ์ศรีจริง ๆ   เราจะยอมมันอย่างนี้หรือท่านฮามาน” ภรรยาของฮามานเดือดร้อนแทน

“วันก่อน เราอุตส่าห์ทำตะแลงแกงที่แขวนคอโมรเดคัยเตรียมไว้  เราอุตส่าห์รอวันที่จะทูลให้พระราชาสั่งแขวนคอมัน!”

“แล้วท่านกลับต้องให้เกียรติมัน   โอ ….นี่มันอะไรกัน?? ”  เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมา

“ทำไมแผนของข้าจึงล้มเหลว?”

“ถ้าท่านเริ่มต้นล้มลงต่อหน้าเขาอย่างนี้ ท่านไม่มีวันชนะเขาแน่”  เพื่อนอีกคนกล่าว

 

Daily2013_5_24-2

 

จริงอย่างคำของเพื่อน  วันต่อมา ในงานเลี้ยงของพระราชินี

พระนางได้ทูลพระราชาถึงแผนการชั่วของฮามานที่ต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนยิว

พระราชาทรงโกรธจัด ถึงกับทรงลุกขึ้นจากงานเลี้ยงเมื่อทรงรู้ว่า ฮามาน คือคนที่ตั้งใจทำลายคนไม่พอ

ทำให้พระองค์ทรงเสียพระเกียรติอีกด้วย

คืนนั้นเอง … ฮามานจึงถูกแขวนคอด้วยตะแลงแกงที่เขาเตรียมให้โมรเดคัย

สมดังคำพูดของเพื่อนที่บอกไว้ล่วงหน้า

เรื่องราวของเอสเธอร์ เราไม่ทราบว่าผู้ใดเขียน ตรง ๆ  แต่…

น่าจะเป็นท่านโมรเดคัย…

เพราะท่านได้บันทึกเรื่องและส่งไปให้ไปยังยิวทั้งปวง 

เราจึงได้รับรู้เรื่องราวที่พระเจ้าทรงช่วยให้คนอิสราเอลพ้นภัยร้ายในครั้งนี้ด้วยความโล่งใจ

23 พฤษภาคม 2013 นักเขียนนิรนาม 3

“ราชินีเอสเธอร์ของข้า  พระนางปรารถนาอะไร  

เราจะให้พระนางถึงครึ่งหนึ่งของอาณาจักรข้า”

ถอดความจาก เอสเธอร์ 5:3

Daily2013_5_23-1สามวันต่อมา  พระนางเอสเธอร์ทรงฉลองพระองค์งดงามมาก  ทรงไปยืนในโถงที่พระราชาจะเสด็จผ่านมา
และเมื่อพระราชาเห็นพระนาง   ก็ปลาบปลื้มเพราะความงาม และทรงยื่นคทาให้พระนางแตะ
ทรงยิ้ม และ ทรงถามไถ่ว่าพระนางประสงค์สิ่งใด ทรงยินดีให้ถึงครึ่งอาณาจักร!
แล้วพระองค์ก็ต้องประหลาดใจเพราะพระนางเพียงขอเชิญพระราชาและฮามานไปในงานเลี้ยงของพระนาง
การขอเช่นนี้ ทำให้พระราชาทรงยินดีอย่างยิ่ง
ทั้งสิริโฉมงดงาม  ทั้งมีน้ำใจดี  …… พระองค์ไม่ทรงทราบเลยว่า พระราชินีทรงมีแผนการอะไร

Daily2013_5_23-2คนที่ปลื้มใจมากที่สุดคือฮามาน

เขาได้รับเชิญไปในงานเลี้ยงส่วนพระองค์   เขารู้สึกว่า ตนเองนั้นยอดมาก

พระราชินีทรงเชิญเขาอีกครั้ง   ทำให้ยิ่งปลาบปลื้มเข้าไปอีก

มีเรื่องเดียวที่ขัดใจฮามานที่สุดคือ โมรเดคัยผู้ไม่ยอมก้มหัวให้

แถมคืนก่อนที่จะไปงานเลี้ยงอีกครั้งนั้น พระราชาเกิดบรรทมไม่หลับ

อ่านบันทึกต่าง ๆ แล้วพบว่า โมรเดคัยเคยช่วยชีวิตพระองค์ไว้

เช้ามาจึงทรงสั่งให้ฮามานนำโมรเดคัยแห่รอบเมือง

โห… ยิ่งโกรธเข้าไปอีก  แม้ไปในงานเลี้ยงวันที่สองนั้นก็ยิ่งขุ่นมัว

 

 

22 พฤษภาคม 2013 นักเขียนนิรนาม 2

ฉันจะอดอาหารด้วย … แล้วฉันจะเข้าเฝ้าพระราชา
แม้ว่าจะเป็นการทำผิดกฎหมายของพระราชา 
ถ้าฉันจะต้องตาย  ก็ขอให้ฉันตาย”

ถอดความจากเอสเธอร์ 4:16

Daily2013_5_22-1

พระราชินีเอสเธอร์ส่งขันทีของพระนางไปถามไถ่เรื่องราว
จึงทราบมาว่า ฮามานต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวทั้งหมด
พระนางตะลึง นึกไม่ถึงว่าจะมีคนทำเช่นนั้น
แต่มีหลักฐานมาจากโมรเดคัยด้วย นั่นก็คือสำเนากฤษฎีกาที่สั่งให้ทำลายยิว
ท่านยังบอกจำนวนเงินที่ฮามานถวายพระราชาอีก

“ท่านช่วยทูลพระนางให้เข้าเฝ้าพระราชาด่วน เพื่อจะช่วยให้ชนชาติของเรารอด”
โมรเดคัยกำชับขันที

Daily2013_5_22-2

เมื่อทรงทราบเรื่องราวทั้งหมด  พระนางส่งข่าวไปอีกว่า
หากใครเข้าเฝ้าพระราชาโดยไม่ได้ทรงเรียก จะมีโทษถึงตาย

สิ่งที่โมรเดคัยตอบมาก็คือ “อย่าคิดว่า พระนางจะรอด เพราะพระนางก็เป็นยิว
ถ้าพระนางไม่ทำ ความช่วยเหลือจะมาจากที่อื่น
แต่ที่พระนางได้มาเป็นพระราชินี ทั้ง ๆ ที่เป็นยิว
ใครจะรู้…. อาจเป็นเพราะพระเจ้าทรงเตรียมเธอไว้ ”
ได้ยินดังนั้น ราชินีเอสเธอร์จึงตระหนักว่า ที่เธอได้เป็นราชินีเพราะว่า พระเจ้าทรงส่งมา
“ถ้าอย่างนั้น ให้ยิวทุกคนอธิษฐานอดอาหารสามวันเพื่อฉัน
ฉันจะอดอาหารด้วย … แล้วฉันจะเข้าเฝ้าพระราชา
แม้ว่าจะเป็นการทำผิดกฎหมายของพระราชา
ถ้าฉันจะต้องตาย  ก็ขอให้ฉันตาย”

21 พฤษภาคม 2013 นักเขียนนิรนาม 1

 แต่ฮามานคิดว่า เป็นการเสียหน้า
ที่จะจับกุมโมรเดคัยคนเดียว
จึงหาช่องทางที่จะทำลายคนยิวทั้งหมด
ทั่วราชอาณาจักรของพระราชา!

ถอดความจาก เอสเธอร์ 3:6

Daily2013_5_21-1

ในสมัยที่ราชาเซอร์เซสปกครองในเปอร์เซียที่เมืองป้อมสุสาอยู่นั้น
มีข้าราชการคนหนึ่ง ชื่อฮามาน  เป็นคนโอหังมาก
มีชาวยิวชื่อโมรเดคัย เป็นยามนั่งเฝ้าประตูราชวัง
ไม่เคยก้มหัว ทำความเคารพเขาสักนิด  ทำให้เขาโกรธจัด
ดังนั้น จึงหาทางกำจัดโมรเดคัยอย่างแนบเนียน
ไปทูลขอให้พระราชา สั่งสังหารชาวยิวทุกคนในเปอร์เซีย
ถึงกับถวายสินบนให้กับพระราชาหน้าตาเฉย

ถ้าเป็นที่พอพระทัยพระราชา
ขอทรงออกกฤษฎีกาให้ทำลายล้างเขาเสีย
ข้าบาทจะถวายเงินอีก 10000 ตะลันต์ให้กับข้าราชการผู้ดุแล
เพื่อเขาจะได้ใส่ในคลังของพระองค์ 

ซึ่งหมายถึงว่า โมรเดคัยก็จะไม่พ้นการล้างฆ่าเผ่าพันธุ์ครั้งนี้

Daily2013_5_21-2

เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเมืองร้อนใจไปตาม ๆ กัน
วันนัดหมายที่จะฆ่าคนยิวนั้นคือวันที่ 13 เดือน 12
เขาสั่งทำลายสังหารทั้งเด็กผู้ใหญ่  ผู้หญิงในวันเดียวกันให้หมด!!

โมรเดคัยเองตกใจมากกับเหตุการณ์นี้  เขาฉีกเสื้อตัวเอง สวมผ้ากระสอบ
โรยขี้เถ้าใส่หัวตัวเอง  ร้องไห้คร่ำครวญเสียงดังกลางเมือง
ไม่ว่ากฤษฎีกาฉบับนี้ไปถึงเมืองไหน
ชาวยิวในเมืองนั้นก็จะอดอาหาร ฉีกเสื้อ สวมผ้ากระสอบร้องไห้เช่นกัน
ความนี้ รู้ไปถึงพระราชินีเอสเธอร์……..

20 พฤษภาคม 2013

ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงทอดทิ้งฉัน 
ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ขออย่าทรงอยู่ไกลฉัน”

ถอดความจาก สดุดี 38:21

19 พฤษภาคม 2013 มาทำให้สำเร็จ

อย่าคิดว่า เรามาล้มล้างธรรมบัญญัติต่าง ๆ
รวมไปถึงคำของผู้กล่าวคำพระเจ้า

เราไม่ได้มาล้มล้างแม้แต่น้อย
แต่มาทำให้ทุกข้อสมบูรณ์ทุกประการ

ถอดความจากมัทธิว 5:17

ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท
ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท

 

มีพวกฟาริสี ธรรมาจารย์ มองว่า พระเยซูทรงต่อต้านธรรมบัญญัติของพระเจ้า

พวกเขามักแปลพระธรรมของพระเจ้าเบี่ยงเบน  เอาประโยชน์เข้าตัวเอง

พวกเขาทำให้คนที่ยากจน ขัดสน แม่ม่าย ลูกกำพร้าถูกกดขี่มากขึ้นไปอีก

เมื่อพระเยซูมา  พระองค์ทรงทำให้พระคำของพระเจ้าชัดเจน

เป็นพระธรรมที่ยุติธรรม ไม่เห็นแก่หน้าผู้ใด

ฟาริสี ธรรมาจารย์จึงไม่ชอบพระเยซู  และพูดให้คนเข้าใจพระองค์ไปผิด ๆ

อีกอย่าง พระคำของพระเจ้าจากพระคัมภีร์เดิมมีมากมายที่ต้องมาสำเร็จด้วยพระเยซู

18 พฤษภาคม 2013 สว่างเจิดจ้า

จงให้ความสว่างของเธอส่องเจิดจ้าต่อหน้าคนทั้งหลาย

เพื่อเขาจะได้เห็นการดีของเธอ

และสรรเสริญองค์พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ 

ถอดความจาก มัทธิว 5:16

ภาพถ่ายโดยคุณ susiewrites
ภาพถ่ายโดยคุณ susiewrites

ความสว่างนั้น มีหลายระดับ … สว่างที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่ เจิดจ้ายิ่งกว่าสิ่งใด

แต่พระเจ้าทรงให้เราเป็นแสงสว่างด้วย

สว่างนั้น ต้องมีต้นตอมาจากพระองค์ จึงจะเป็นความสว่างสมบูรณ์แบบ

ไม่มีวันหมด … และประโยชน์ก็มากมายเกินคนเดียวจะเล่าได้

ความดีนั้น ต้องมีต้นตอมาจากพระเยซูคริสต์ จึงจะเป็นความดีสมบูรณ์แบบเช่นกัน

 

 

 

17 พฤษภาคม 2013 ข้าราชการนักเขียน 2

ให้พวกเรามาช่วยกันสร้างกำแพงเยรูซาเล็มใหม่เถอะ
เราจะไม่ต้องอับอายขายหน้าใคร ๆ อีกต่อไป

ถอดความจากเนหะมีย์ 2:17

Daily2013_5_17-1

เนหะมีห์เดินทางจากบาบิโลน กลับมาทางตะวันตกจนถึงนครเยรูซาเล็ม

มันไม่ได้เป็นนครที่มีคนมากมาย มีตลาดร้านค้า มีพระวิหาร มีราชวังอีกต่อไป

แต่กลายเป็นที่มีแต่ซากปรักหักพัง

ไม่มีกำแพงเมืองเหลืออยู่  ไม่มีความรุ่งเรืองให้เห็นสักนิด

เนหะมีห์เห็นเช่นนั้น  เขายิ่งเสียใจ  แต่เขาตั้งใจว่า จะไม่ให้เมืองเป็นที่ครหา น่าอับอายอีกต่อไป

เขาขอให้พระเจ้าทำงานสำเร็จ

Daily2013_5_17-2

แล้วเขาก็สำรวจทุกอย่างกลางคืน   เขารู้ว่า มีศัตรูไม่ต้องการให้เขาทำกำแพงสำเร็จ

คืนแรก ๆ ที่มาถึง อยู่กับการสำรวจและวางแผนว่าจะทำอย่างไร

ในที่สุดก็จัดคน  จัดหน้าที่อย่างเรียบร้อย

ทุกคนเริ่มต้นทำงาน  น้ำหนึ่งใจเดียวกัน

มุ่งมั่นให้งานสำเร็จ  มีคนทำงาน คนเฝ้ายาม คนทำอาหาร ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มใจ

เนหะมีห์ก็ได้บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้เราได้อ่าน

เป็นตัวอย่างของเหล่าคนที่มุ่งมั่นไม่ปล่อย…วางใจพระเจ้าจนสุดใจ

 

16 พฤษภาคม 2013 ข้าราชการนักเขียน

 คนที่รอดจากการเป็นเชลยและกลับไปยังเยรูซาเล็มนั้น
พบความลำบากและต้องอับอายมาก
กำแพงนครเยรูซาเล็มปรักหักพัง
ประตูเมืองก็ถูกเผา…

ถอดความจากเนหะมีย์ 1:3

 

Daily2013_5_16-2

เนหะมีห์ รับราชการ เป็นผู้เชิญจอกเสวยของพระราชาอารทาเซอร์ซีส
เป็นชาวยิวที่ตกเป็นเชลยของบาบิโลน…

ก่อนหน้านี้ เศรุบบาเบลพาเชลยจากบาบิโลนกลับมาเมื่อปี  538 ก่อนคริสตศักราช

ท่านเอสรา ก็ได้นำพวกที่สองกลับมาสร้างพระวิหารในปี   458 ก่อนคริสตศักราช

แต่ข่าวที่เนหะมีห์ ข้าราชการคนสนิทของพระราชาได้รับคือ

คนที่ไปอยู่นั้นลำบากมาก กำแพงเมืองประตูเมืองเสียหาย

พวกเขาตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ  ….

เมื่อข่าวร้ายขนาดนี้ เนหะมีห์ไม่ได้อยู่เฉย  ท่านกลับที่พัก อธิษฐาน อดอาหาร ร้องไห้ต่อพระเจ้า

ไม่ได้อธิษฐานแค่ชั่วโมงเดียว  วันเดียว แต่.. เขาร้องไห้โศกเศร้าอยู่หลายวัน

Daily2013_5_16-1ลังจากนั้น ก็ไปทำงานตามปกติ   แต่หน้าตาของเนหะมีห์ดูเศร้าหมอง

ไม่เบิกบาน สุขุมเหมือนที่พระราชาเคยเห็น

จึงทรงถามสารทุกข์สุกดิบของเนหะมีห์

พระองค์ทรงหนักพระทัยมาก  เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“เจ้าต้องการจะทำอะไร เนหะมีห์  บอกข้ามาเถิด…”

นี่เป็นคำตรัสที่เปิดโอกาสให้เนหะมีห์ทูลขอกลับไปยังบ้านเมืองเพื่อสร้างกำแพง

และพระราชาก็ทรงอนุญาตเปิดโอกาส  เปิดทาง ให้ความสะดวกทุกอย่าง

เหตุใดพระราชาจึงเมตตาเชลยของพระองค์ขนาดนี้?

มหัศจรรย์  !

 

 

15 พฤษภาคม 2013 ปุโรหิตนักเขียน2

เจ้าจงพูดกับเขาว่า .. พระเจ้าตรัสดังนี้.. เขาจะฟังหรือไม่ฟังก็ตาม

เขาจะได้รับรู้ว่า มีผู้กล่าวคำของพระเจ้าในหมู่พวกเขาแล้ว 

ถอดความจาก เอเสเคียล 2:5

Daily2013_5_15-1

พระเจ้าทรงตักเตือนคนอิสราเอลผ่านปากของเอเสเคียล

เขาต้องพูดกับคนที่พระเจ้าตรัสว่า เป็นคนมักกบฏ และดื้อด้าน

การไปพูดให้คนที่ไม่อยากเชื่อฟังนั้น มันเหมือนเป็นการกระทำที่แพ้กับแพ้

แต่เมื่อพระเจ้าบัญชา  เอเสเคียลก็ไม่ขัดขืน
Daily2013_5_15-2

พระเจ้าตรัสกับเราผ่านพระคัมภีร์   ผ่านคนที่พระองค์ทรงใช้

บางครั้งผ่านคุณพ่อ คุณแม่ หรือพี่น้อง

เราฟังเสียงของพระองค์   หรือว่าดื้อดึงต่อคำของพระองค์

ลองสังเกตตัวเองดู

14 พฤษภาคม 2013 ปุโรหิตนักเขียน

พระดำรัสของพระเจ้ามายังเอเสเคียล ปุโรหิต
บุตรบุซี ในแผ่นดินเคลเดีย  ริมแม่น้ำเคบาร์
ณ ที่นั่น พระหัตถ์ของพระเจ้ามาอยู่เหนือท่าน

ถอดความจากเอเสเคียล 1:3

 

Daily2013_5_14-1
เมื่อชาวยูดาห์ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในบาบิโลน
เอเสเคียลก็อยู่ในคนกลุ่มนั้นด้วย  ดานิเอล และเพื่อน ๆ ก็เช่นกัน
เอเสเคียลเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้ารุ่นเดียวกับเยเรมีห์ และดาเนียล

ถึงแม้พวกเขาไปอยู่ต่างแดน แต่พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งคนของพระองค์เลย
พระองค์ยังทรงใช้บางคนให้กล่าวคำของพระองค์เพื่อให้กำลังใจเชลยเหล่านั้น

 

Daily2013_5_14-2

 

วันที่พระเจ้าทรงเรียกเอเสเคียลให้รับใช้พระองค์นั้น  เขาอยู่ริมแม่น้ำ

มีพายุมาจากทางเหนือ  มีเมฆก้อนใหญ่ที่สว่าง มีไฟลุกวาบขึ้นมาด้วย  ….

เอเสเคียลได้เห็นสัตว์ประหลาดที่น่าตาแปลกมาก

มันเหาะได้  และ… วันนั้นเขาก็เห็นพระสิริของพระเจ้า

พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย  จงยืนขึ้น เราจะพูดกับเจ้า”

และวันนั้นเองพระองค์ก็ทรงส่งให้เขาไปตักเตือนพวกเขา

ไม่ว่าจะฟังหรือไม่  เอเสเคียลก็ต้องพูดเตือนสติไม่หยุด

13 พฤษภาคม 2013 ไม่มีใครนอกจากพระเยซู

 พระเยซูผู้ทรงเป็นพยานที่สัตย์ซื่อ
ทรงเป็นผู้แรกที่ฟื้นจากตาย
และผู้ทรงครอบครองกษัตริย์ทั้งปวงในโลก

ถอดความจาก วิวรณ์ 1:5

 

 

 

 

เพลงชุดนี้ คำไม่ยาก ยากที่จังหวะ และทำนองครับ

Who’s the one who is here today
Leadin’ everybody to the heavenly way?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
Now who’s the one really knows my mind?
Knows the many complicated problems I find?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody,
No one but
Chorus:
Jesus
Jesus, Jesus, Jesus, Jesus
Jesus
Who’s the one is who is on the throne
Every living creature will His glory be shown?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody
No one but
Jesus
Jesus, Jesus, Jesus, Jesus
Jesus
No, no, no, no nobody
No, no, no, nobody like Him
No, no, no, no nobody
No, no, no, no nobody
No, no, no, no nobody
No, no, no, nobody like Him
No one like Jesus
Who’s the one who has walked the earth
Showing everybody what the spirit is worth?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
Though He lived in the distant past
Everything He taught us through the Bible will last
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody
No one but
Chorus
Bridge:
Who’s the one who’s here today
Leadin’ everybody to the heavenly way?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
No one, none else, nobody
No, no, no, no
Jesus

12 พฤษภาคม 2013 แสงสว่างเล็ก ๆ

เมื่อจุดไฟแล้ว จะไม่มีการเอาถังมาครอบไว้

แต่จะตั้งเทียนนั้นไว้บนเชิงเทียน

และมันจะส่องแสงให้กับทุกคนในบ้านนั้น

ถอดความจาก มัทธิว 5:15

ไม่มีแสง ก็อยู่ไม่ได้ จะเป็นแสง ก็ต้องให้ประโยชน์
ไม่มีแสง ก็อยู่ไม่ได้ จะเป็นแสง ก็ต้องให้ประโยชน์

ภาพจาก washingtonpost.com

การเป็นแสงสว่าของดวงอาทิตย์ มีประโยชน์กับคน สัตว์ พืช และทั้งโลกและจักรวาล

การเป็นแสงสว่างของตะเกียง มีประโยชน์ครอบคลุมน้อยยิ่งกว่านัก

พระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลกที่ยิ่งใหญ่กว่าดวงอาทิตย์

คนที่เชื่อฟังพระองค์ ก็เป็นความสว่างของโลกเช่นกัน

จะส่องได้นาน เข้ม มีประโยชน์มากหรือน้อย

ขึ้นอยู่กับว่า เขามีความสว่างของพระเจ้ามากแค่ไหน

อยู่ใกล้ชิดพระเจ้าก็จะมีเชื้อแห่งแสงสว่างมาก ส่องได้นานนะครับ

 

11 พฤษภาคม 2013 ธรรมชาติความสว่าง..

ท่านเป็นแสงสว่างของโลก  

เป็นเมืองที่อยู่บนภูเขา ซึ่งซ่อนไว้ไม่ได้

ถอดความจาก มัทธิว 5:14

images

แสงสว่าง อย่างไรก็เห็น
แสงสว่าง อย่างไรก็เห็น

 

 

พระเยซูทรงบอกว่า เราเป็นแสงสว่างของโลก

เป็นเมืองที่อยู่บนภูเขา ซึ่งซ่อนไว้ไม่ได้

เพื่อน ๆ  คิดอย่างไรครับ?

เป็นแสงได้ ก็ต้องมีพลัง มีต้นตอของแสงนั้น

แต่หากว่าจะเป็นแสงด้วยตัวเอง มันจะริบหรี่ เดี๋ยวก็ดับ

จะเป็นแสงได้  ต้องมีพลัง  มีพระวิญญาณของพระเจ้าในชีวิต

จริงไม๊?

 

10 พฤษภาคม 2013 ธรรมาจารย์นักเขียน

เอสราผู้นี้มาจากบาบิโลน  เป็นธรรมาจารย์เชี่ยวชาญธรรมบัญญัติของโมเสส
…. พระราชาประทานทุกอย่างที่ท่านทูลขอ 

เพราะว่า พระหัตถ์ของพระเจ้าของท่านอยู่กับท่าน

ถอดความจาก เอสรา 7:6

Daily2013_5_10-1

อีกท่านหนึ่งที่เขียนพระธรรมเอสรา คือ ท่านเอสรา

เป็นธรรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญพิเศษ   พระสติปัญญาของพระเจ้าอยู่กับท่าน

และคอยสอนให้ประชาชนรู้จักพระวจนะของพระเจ้า

Daily2013_5_10-2

ยิ่งกว่านั้นท่านเอสรายังเตรียมของสำหรับการสร้างพระวิหาร

และช่วยดูแลการสร้างพระวิหารหลังจากที่อิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลยในบาบิโลนด้วย

พระราชาอารทาเซอร์ซีสทรงหนุนหลังเขาอย่างเต็มที่

พระองค์ตรัสว่า “สิ่งใดที่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ทรงบัญชา

ก็ให้ทำอย่างเต็มขนาดสำหรับพระวิหารของพระองค์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ….

9 พฤษภาคม 2013 อย่าซ้ำเติม

เออ เจ้าไม่ควรยิ้มเมื่อเขาพบกับภัยพิบัติ
ในวันที่เขาถูกทำลาย 

เจ้าไม่ควรเข้าริบทรัพย์สินของเขา
ในวันที่เขาถูกทำลาย

ถอดความจาก โอบาดีห์ 13

Daily2013_5_9-1

 

 

อิสอัคกับราเชล มีลูกชายแฝดสองคน พ่อรักพี่เอซาว  แม่รักน้องยาโคบ

ชาวเอโดม เป็นลูกหลานของเอซาว  ขณะที่อิสราเอลเป็นลูกหลานของยาโคบ

ในวันที่อิสราเอลแสนลำบาก  ขอเพียงเดินผ่านทาง

เอโดม ไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น

ไม่ช่วย ไม่สนใจ แถมเยาะหยัน
Daily2013_5_9-3

ท่านโอบาดีห์ ได้รับคำของพระเจ้ามา เพื่อเตือนเอโดมว่า

เขาอาจคิดว่า ไม่มีใครทำให้เขาล้มลงได้ เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในถ้ำสูง ๆ

แต่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย

พระองค์ให้ท่านโอบาดีห์มาเตือนพวกเขา

อ่านเรื่องของพวกเขาได้ที่นี่

8 พฤษภาคม 2013 ยูดาน้องชาย…

ยูดา ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ และเป็นน้องชายของยากอบ
เรียน… คนทั้งหลายที่พระเจ้าได้ทรงเรียกไว้ …

ถอดความจาก ยูดา 1

Daily2013_5_8-1เมื่อพระเยซูทรงเริ่มราชกิจของพระองค์แรก ๆ นั้น

น้อง ๆ ของพระองค์ก็แปลกใจ  และไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นกับตา

พวกเขาเติบโตมากับพระองค์  เรียกพี่เยซูมาโดยตลอด

คนที่ตระหนักในใจ และรู้ชัดว่า พระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าคือ มารีย์

แต่น้อง ๆ  หาได้รู้เรื่องนี้อย่างชัดเจนเหมือนมารีย์ไม่ ….

ในเวลาต่อมา พวกเขาจึงได้รับพระองค์

และพระเยซูเองก็ทรงปรากฏกับพวกเขาหลังจากที่พระองค์คืนพระชนม์แล้ว

Daily2013_5_8-2

 

ยากอบได้เขียนหนังสือยากอบ  และยูดาน้องชายอีกคนได้เขียนหนังสือยูดา

เขาบอกชัดว่า ตนเองเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์

คำอวยพรตอนจบจดหมาย ทำให้เรารู้ว่า เขาคิดอย่างไรกับพระเยซู

 พระผู้ช่วยให้รอดของเรา…พระเยซูคริสต์  องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

ทั้งในอดีต  ปัจจุบัน และในอนาคตต่อไปเป็นนิตย์

 

 

7 พฤษภาคม 2013 จดหมายท่านยากอบ

ท่านทั้งหลายจงสารภาพบาปต่อกันและกัน 

จงอธิษฐานเผื่อกันและกัน  เพื่อว่าท่านจะได้หายจากโรคต่าง ๆ 

คำอธิษฐานของคนชอบธรรมนั้น มีพลังมาก ทำให้เกิดผล

ถอดความจาก ยากอบ 5:16

Daily2013_5_7-1จดหมายที่ท่านยากอบส่งมาให้พี่น้องที่กระจัดกระจายอยู่นั้น

ได้ทั้งให้กำลังใจ  เตือนสติ  สั่งสอน เพื่อให้พวกเขารักกัน และกัน ห่วงใยกัน

จดหมายของท่านเป็นกำลังให้พวกเขารู้แนวทางที่จะเดินต่อไป

ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตาม

 เขาได้ช่วยกันและอธิษฐานเผื่อกันเสมอ
Daily2013_5_7-2พวกเขาจะอ่านจดหมายกันเมื่อมารวมตัวกัน

คนที่อ่านออก ก็จะอ่านให้คนที่อ่านไม่ออกฟัง

แม้กระทั่งเด็ก ๆ  ก็ได้ฟังจดหมายนั้นด้วย

พวกเขาต่างรับกำลังใจ

รับความสุขกันถ้วนหน้า เมื่อมีผู้ใหญ่เอาใจใส่พวกเขา

6 พฤษภาคม 2013 ให้เรารักกันเถอะ

ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า
ถ้าเราทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน  
พระเจ้าก็สถิตอยู่ในเราทั้งหลาย
และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์เพียบพร้อมในเรา

ถอดความจาก 1 ยอห์น 4:12

 

 

 

เพลงนี้เป็นของวงอาคัพเพลลา

Once there was love long ago
Sweet innocence long ago
Please tell me where did it go
Out of our hearts out of our world
Then Someone came in the night
Came to lead men to the light
Turn us around make us right
Bring love to our hearts love to the world

Chorus:
Let there be peace (around the world)
Let there be joy (around the world)
Let there be hope (around the world)
Let there be love (around the world)

Let there be love

My friend what the world needs now
Truly is love, God’s love
We need to change somehow
Changing our hearts changing our world

I know our God He can do
His love is strong and His word is true
We need to take the Good News
Into our hearts into our world

Repeat Chorus

Chorus 2:
Let freedom ring (all around the world)
Let children sing (all around the world)
Crown Jesus King (all around the world)
Let there be love (all around the world)

Love in our hearts will bring
Change to our world you will see (wait and see)
Setting the captives free
Causing the blind eyes to see (you will see)

Repeat Chorus

Repeat Chorus 2

Let there be peace, yeah (around the world) (let it be, let it be)
Let there be joy, joy (around the world) (let it be, let it be)
Gotta show the world joy and hope, in Christ, ‘Cause He is love (around the world) (let it be, let it be)
Doesn’t matter what you’ve got ‘less you have love (around the world) (let it be, let it be)
Gotta have love just to set you free, yeah, yeah (around the world)
(Let children sing) Let children sing (around the world)
(Crown Jesus King) Crown Jesus King (around the world)
He’s the Lord of lords, He’s the King of kings

Let there be love, oh yeah
Let there be love (let there be love)