เยเรมีย์ 51-3 พระเจ้าเที่ยงแท้กับเทวรูป

 

เยเรมีย์ 51:14-19

โอ เจ้าคนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ  ร่ำรวยทรัพย์สมบัติ
จุดจบของเจ้ามาถึงแล้ว  สายแห่งชีวิตถูกตัดออกไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพได้สาบานด้วยพระองค์เอง
แน่นอน เราจะเติมเจ้าให้เต็มด้วยคนมากมายเหมือนตั๊กแตน
พวกเขาจะส่งเสียงตะโกนมีชัยเหนือเจ้า

พระองค์นั่นแหละคือผู้ทรงสร้างโลกด้วยฤทธานุภาพของพระองค์
พระองค์ทรงสถาปนาแผ่นดินโลกด้วยพระปัญญา
และทรงขึงฟ้าออกด้วยความเข้าใจ
เมื่อพระองค์เปล่าสุรเสียงออกมา ก็มีเสียงครั่นครืนของน้ำในท้องฟ้า
และพระองค์ทรงทำให้เกิดหมอกลอยขึ้นมาจากที่สุดปลายแผ่นดิน

ภาพ creative commons จาก http://farm4.static.flickr.com/
ภาพ creative commons จาก http://farm4.static.flickr.com/

ถ่ายโดยMatthieu Luna

พระองค์ทรงให้เกิดฟ้าแลบเพื่อฝน
และทรงนำลมให้พัดมาจากคลังเก็บของพระองค์
มนุษย์ทุกคนโง่เขลา ไม่มีความรู้

ช่างทองทุกคนก็จะต้องอับอายเพราะรูปเคารพของพวกเขา
เพราะรูปเหล่านั้นเป็นของปลอม  ไม่มีลมหายใจในรูปนั้น
ไม่มีคุณค่าเลย เป็นผลงานแห่งความลุ่มหลง
เมื่อถึงเวลาถูกลงโทษ มันก็จะพินาศไป

ไม่เหมือนพระองค์ผู้ทรงเป็นส่วนของยาโคบ
เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งขึ้นมา
และอิสราเอลเป็นเผ่าแห่งมรดกของพระองค์
พระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

เยเรมีย์ 51-2 แม้เคยเป็นถ้วยทอง

เยเรมีย์ 51:7-13

บาบิโลนเคยเป็นถ้วยทองคำในพระหัตถ์ของพระเจ้า ทำให้โลกทั้งโลกเมาไป
ประชาชาติต่าง ๆ ก็ดื่มเหล้าองุ่นของมัน ดังนั้น พวกเขาจึงกลายเป็นบ้าไป
แล้วทันใด บาบิโลนก็ล้มลง และแตกสลาย
จงคร่ำครวญให้บาบิโลน  เอายามาทาให้หายปวด เผื่อว่าจะรักษาให้หายได้
เราอยากรักษาบาบิโลนให้หายดี แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น
จงละทิ้งพวกเขาไปเสีย ให้เราต่างกลับไปยังบ้านเมืองของตนเองเถอะ
เพราะว่าการพิพากษาพวกเขานั้นไปถึงสวรรค์
และถูกยกขึ้นไปถึงฟ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงนำความยุติธรรมมาให้เรา
ดังนั้นจงประกาศราชกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราในศิโยน

“จงลับลูกธนูให้คม !  จงหยิบโล่ขึ้นมา!

             

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเราจิตใจของกษัตริย์แห่งมีเดีย
เพราะพระองค์ทรงประสงค์จะทำลายบาบิโลน
นั่นเป็นการแก้แค้นของพระองค์   แก้แค้นเพื่อพระวิหารของพระองค์

จงปักธงขึ้นประชิดกำแพงบาบิโลน   จงทำให้คนเฝ้ายามเข้มแข็ง
จงตั้งคนยามขึ้น และเตรียมกองกำลังสำหรับบุก
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงวางแผนงานและทรงกระทำให้สำเร็จ
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบาบิโลนตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้

เยเรมีย์ 51-1 หายนะอย่างสิ้นเชิง

เยเรมีย์ 51:1-6

 

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“ดูเถิด เราจะเร้าจิตใจของคนที่ทำลายเข้ามาต่อสู้บาบิโลน
เข้ามาต่อสู้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในเลบคาไม    

เราจะส่งผู้ฝัดร่อนไปยังบาบิโลน  และเขาจะฝัดร่อนตามที่ถูกส่งมา
จะทำให้แผ่นดินว่างเปล่า เมื่อเข้ามาต่อสู้จากทุกทิศทุกทาง ในวันแห่งความลำบาก
อย่าให้นักแม่นธนูโก่งคันธนูของเขา อย่าให้เขาลุกขึ้นพร้อมกับเสื้อเกราะ
อย่าไว้ชีวิตคนหนุ่ม และจงมุ่งมั่นที่จะทำลายกองทัพของเขาให้หมด
เขาทั้งหลายจะล้มลง ถูกสังหารในแผ่นดินเคลเดีย และบาดเจ็บกลางถนน
เพราะอิสราเอลและยูดาห์ไม่ได้ถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าของพวกเขาทอดทิ้งไป

แต่ดินแดนของเคลเดียเต็มด้วยความผิดบาปต่อองค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
จงหนีออกจากบาบิโลน ให้ทุกคนพยายามเอาชีวิตให้รอด
อย่ายอมให้ตัวเองถูกตัดออกไปเพราะบาบิโลนถูกลงโทษ
เพราะนี่เป็นเวลาที่พระเจ้าทรงแก้แค้น
พระองค์ตอบแทนเขาอย่างนี้

เยเรมีย์ 50-7 หนีเร็ว!

เยเรมีย์ 50:41-46

“ดูเถิด มีคนมาจากทางเหนือ เป็นประเทศที่ทรงพลัง
มีกษัตริย์หลายองค์กำลังมาจากที่ไกลสุดของแผ่นดินโลก
พวกเขาใช้ทั้งธนูและหอก พวกเขาโหดร้าย ไม่มีความเมตตา
เสียงของพวกเขาเป็นเหมือนทะเลคำราม
พวกเขาควบม้ามา เรียงหน้าอย่างนักรบที่ทำสงครามเพื่อต่อสู้เจ้า
โอ้ ลูกสาวแห่งบาบิโลน
“กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ยินเสียงรายงานเรื่องนี้ แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้
พระทัยเต็มด้วยความทุกข์สุดระทม เจ็บปวดเหมือนหญิงกำลังคลอดบุตร”
“ดูเถิด  เราจะให้พวกเขาหนีไปอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับตอนที่สิงโตโจนขึ้นมาโจมตีคอกแกะจากลุ่มน้ำจอร์แดน

lion2
เราจะแต่งตั้งคนที่ครอบครองมันตามที่เราต้องการ
เพราะใครเป็นเหมือนเรา?
ผู้เลี้ยงคนใดยืนอยู่ต่อหน้าเราได้?
ดังนั้น ขอให้ฟังแผนการที่พระเจ้าทรงวางไว้ต่อสู้บาบิโลน
รวมทั้งเป้าหมายของพระองค์ต่อต้านแผ่นดินเคลเดีย
แน่นอนที่ลูกแกะตัวเล็ก ๆ จะถูกลากไป
แน่นอนที่ทั้งคอกจะตกใจในเคราะห์ของตน
ทั้งโลกจะสั่นสะท้านเนื่องด้วยเสียงที่บาบิโลนถูกจับไปเป็นเชลย
เสียงร้องโหยหวนของบาบิโลนจะดังไปทั่วแผ่นดินโลก

เยเรมีย์ 50-6 สภาพของบาบิโลน

เยเรมีย์ 50:33-40

ดังนั้น .. องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ ตรัสว่า
ประชากรอิสราเอลถูกกดขี่ข่มเหง รวมทั้งประชากรยูดาห์ด้วย
ทุกคนที่นำพวกเขาไปเป็นเชลย ยึดไว้ไม่ปล่อย
ไม่ยอมให้พวกเขาได้รับอิสรภาพ
องค์พระผู้ไถ่ของเขานั้น ทรงพลังยิ่งนัก พระนามว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
แน่นอน…พระองค์จะทรงแก้คดีของเขา
เพื่อว่าพระองค์จะประทานการพักสงบให้กับโลกนี้
แต่ชาวเมืองบาบิโลนจะไม่มีการได้พักเลย
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศว่า
ให้มีดาบมาต่อสู้ชาวเคลเดีย และผู้อาศัยในบาบิโลน
ต่อสู้ข้าราชการและนักปราชญ์
ให้มีดาบต่อสู้เหล่าผู้ทำนาย เพื่อพวกเขาจะได้กลายเป็นคนโง่เง่า!
ดาบต่อสู้นักรบ เพื่อพวกเขาจะได้ถูกทำลาย
ดาบต่อสู้เหล่าม้าศึกและรถรบ
ต่อสู้นักรบต่างชาติท่ามกลางพวกเขา
พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนผู้หญิงไป
ต่อสู้ทรัพย์สมบัติทั้งสิ้นที่พวกเขามี
เพื่อว่าพวกเขาจะได้ถูกปล้น

ให้มีความแห้งแล้งสู้กับแหล่งน้ำทั้งหลาย
เพื่อว่ามันจะได้แห้งเหือด

เพราะมันเป็นดินแดนแห่งเทวรูป
และพวกเขาก็คลั่งไคล้รูปเหล่านั้น

mapahayena

“ดังนั้น เหล่าสัตว์ป่าจะอาศัยอยู่กับหมาป่าฮายินาในบาบิโลน
นกกระจอกเทศจะอาศัยอยู่ด้วยกัน

ต่อไปบาบิโลนจะไม่มีคนอยู่
ไม่มีใครเข้ามาพักอาศัยอยู่ตลอดชั่วชาติพันธุ์
เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงทำลาย

เมืองโสโดมและโกโมราห์ และเมืองรอบ ๆ

 

 

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ดังนั้นจะไม่มีใครอาศัยอยู่ในนั้น  ไม่มีคนแม้เข้ามาพักแรม….

เยเรมีย์ 50-5 อย่าให้ใครรอดไปได้!

เยเรมีย์ 50:26-32

จงเข้ามาต่อสู้บาบิโลนจากทุก ๆ ส่วนของแผ่นดินไกล

เปิดยุ้งฉางของเขา และกองมันไว้เหมือนกองเมล็ดข้าว
ทำให้มันหายนะ  อย่าให้มีอะไรเหลือ
จงฆ่าฝูงวัวเสีย  เชือดมันเสียให้หมด
วิบัติมีแก่พวกเขา เพราะเวลาของเขามาถึงแล้ว
เป็นเวลาลงโทษพวกเขา
“เสียงหนึ่ง! พวกเขาหนีและเล็ดลอดออกจากแผ่นดินบาบิโลน
เพื่อประกาศการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราในศิโยน
เป็นการแก้แค้นเพื่อพระวิหารของพระองค์
จงเรียกเหล่านักแม่นธนูเข้ามาสู้บาบิโลน
ทุกคนที่โก่งคันธนู  จงล้อมเมืองไว้ อย่าให้ใครหนีไปได้

 

ภาพจาก  http://en.wikipedia.org/wiki/File:Persepolis_Apadana_noerdliche_Treppe_Detail.jpg
ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/File:Persepolis_Apadana_noerdliche_Treppe_Detail.jpg

จงตอบแทนให้สมกับที่บาบิโลนได้กระทำ
เพราะว่า บาบิโลนได้ท้าทายองค์พระผู้เป็นเจ้า
องค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
ดังนั้น คนหนุ่มจะล้มลงตามสี่แยก
และทาหรก็จะถูกทำลายหมดในวันนั้น
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“ดูเถิด เราสู้กับเจ้า เจ้าผู้หยิ่งยะโส..”
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงประกาศ
“เพราะวันของเจ้ามาถึง… เป็นวันที่เราจะลงโทษเจ้า
เหล่าคนที่เย่อหยิ่งจะสะดุดและล้มลง โดยไม่มีใครจะช่วยพยุงขึ้น
เราจะจุดไฟในหัวเมืองต่าง ๆ  และจะเผาผลาญทุกอย่างที่อยู่รอบเขา”

เยเรมีย์ 50-4 กลับสู่ทุ่งเดิม

เยเรมีย์ 50:18-25

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัส
ดูเถิด เราจะนำการลงโทษมายังกษัตริย์แห่งบาบิโลนและแผ่นดินของเขา
เหมือนอย่างที่เราได้ลงโทษกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย
เราจะรื้อฟื้นให้อิสราเอลกลับไปสู่ทุ่งหญ้าของเขา
และเขาจะได้เล็มหญ้าบนเขาคารเมลและบาชาน

ภาพวาดโดย วิลเลียม ฮันท์ (1827-1910)
ภาพวาดโดย วิลเลียม ฮันท์ (1827-1910)

เขาจะได้อิ่มเอมบนเนินเขาแห่งเอฟราอิมและกิเลอาด
ในวันเหล่านั้น เวลานั้น  องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
จะมีการค้นหาความผิดในอิสราเอล แต่จะไม่พบเลย
จะหาความบาปในยูดาห์ แต่ก็หาไม่พบ
เพราะเราจะยกโทษให้กับคนที่เราทิ้งให้หลงเหลือในแผ่นดิน
“จงขึ้นไปต่อสู้กับแผ่นดินเมาราธาอิม และสู้กับคนที่อาศัยในเปโขด
จงสังหาร และทำให้เขาไปสู่หายนะ  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
และจงทำทุกอย่างที่เราได้บัญชาเจ้า
เสียงของสงครามอยู่ในแผ่นดิน  เป็นหายนะที่ยิ่งใหญ่!
ฆ้อนที่ทำลายคนทั้งโลกก็ถูกทำลายเสียหายไปแล้ว
บาบิโลนได้กลายเป็นความสยดสยองในหมู่ประชาชาติ
เราได้วางกับดักให้เจ้า และเจ้าก็ติดกับนั้น โอ  บาบิโลน
และเจ้าก็ยังไม่รู้ตัวด้วย
เจ้าถูกจับได้ เพราะว่าเจ้าได้ต่อต้านองค์พระผู้เป็นเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้เปิดคลังอาวุธ
และทรงนำเอาอาวุธแห่งพระพิโรธออกมา
เพราะว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงมีราชกิจที่ต้องทำ
ในแผ่นดินของชาวเคลเดีย

เยเรมีย์ 50-3 ล้อมบาบิโลน

เยเรมีย์ 50:14-17

เจ้าทั้งหลายที่โก่งคันธนู
จงยืนเรียงประจำที่ล้อมรอบเพื่อต่อสู้กับบาบิโลนให้รอบ
แล้วระดมยิงเข้าไป ไม่ต้องเสียดายลูกธนู
เพราะบาบิโลนได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
จงส่งเสียงโห่ร้องเข้าใส่บาบิโลนรอบด้าน
เมืองนี้จะสยบ พ่ายแพ้ ป้อมทั้งหลายพังลง
ทั้งกำแพงก็พังราบ

ภาพจากhttp://aboutfacts.net/Ancient/Ancient17/BabylonRuinsFirstGov.jpg
ภาพจากhttp://aboutfacts.net/Ancient/Ancient17/BabylonRuinsFirstGov.jpg

นี่เป็นการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า
จงกระทำต่อบาบิโลน เหมือนที่บาบิโลนเคยทำต่อชาติอื่นๆ
จงตัดผู้หว่านออกไป  ตัดคนที่ถือเคียวเพื่อเก็บเกี่ยวออกไปด้วย
เนื่องด้วยดาบของผู้ที่ข่มเหงคนอื่น
ทุกคนจะหนีไปยังประชากรของตนเอง
ทุกคนจะหนีไปยังบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง
อิสราเอลถูกล่าเหมือนแกะที่ถูกสิงโตไล่
ครั้งแรกกษัตริย์แห่งอัสซีเรียได้เขมือบพวกเขา
และต่อมาเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลนก็ได้ขยี้กระดูกของพวกเขา

เยเรมีย์ 50-2 บาบิโลนร้าง

เยเรมีย์ 50:8-13

จงหนีออกจากกลางบาบิโลน และออกไปจากแผ่นดินเคลเดีย
และจงทำตัวเหมือนแพะผู้นำหน้าฝูง
เพราะดูเถิด เรากำลังเร้าและนำเหล่าประชาชาติที่ยิ่งใหญ่จากทางเหนือมาต่อสู้บาบิโลน
เขาจะเรียงหน้าเข้ามาต่อสู้
และจากนั้นบาบิโลนจะถูกยึด
คันธนูของเขาเป็นเหมือนนักรบเชี่ยวชาญที่จะไม่ยอมกลับไปมือเปล่า
เคลเดียจะถูกปล้น และคนที่ปล้นนั้นจะอิ่มเอมเปรมปรีดิ์
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
โอ เหล่าคนที่เข้ามาปล้นมรดกของเรา  แม้ว่าเจ้าจะยินดี แม้เจ้ารื่นเริง
แม้เจ้าจะสนุกสนานเหมือนกับวัวสาวบนทุ่งหญ้า
และร้องเหมือนม้าตัวผู้
แม่ของเจ้าจะอับอายเป็นอย่างยิ่ง
คนที่คลอดเจ้ามาจะถูกหมิ่นเหยียดหยาม
ดูเถิด เธอจะอยู่เป็นคนสุดท้ายของประชาชาติทั้งหลาย

บาบิโลนจะกลายเป็นที่ร้าง
บาบิโลนจะกลายเป็นที่ร้าง

เป็นถิ่นกันดาร ที่แห้งแล้ง ทะเลทราย
เพราะพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า  เมืองนั้น จะไม่มีคนอาศัย
แต่จะกลายเป็นที่ร้างเปล่าอย่างที่สุด
คนที่ผ่านบาบิโลนไปจะตกตะลึง
และยังซุบซิบกันเพราะบาดแผลของเมืองนั้น

เยเรมีย์ 50-1 คนหลงทางของพระเจ้า

เยเรมีย์ 50:1-7

พระวจนะของพระเจ้าที่ตรัสถึงบาบิโลน  เกี่ยวข้องกับแผ่นดินเคลเดีย โดยเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ

“จงแจ้งไปทั่วประชาชาติ และป่าวประกาศออกไป
จงตั้งธงและประกาศให้รู้ อย่าปิดเอาไว้ และกล่าวว่า
“บาบิโลนถูกยึดไปแล้ว  เจ้าเบลจะต้องอับอาย
เจ้ามาร์ดุคก็หวาดหวั่น  เทวรูปทั้งหลายของบาบิโลนก็กลายเป็นอัปยศ
รูปเคารพทั้งสิ้นก็หวาดผวา”
เพราะจากทางเหนือ จะมีชาติหนึ่งเข้ามาต่อต้านบาบิโลน
ทำให้แผ่นดินนี้ร้างไป และไม่มีใครอาศัยอยู่
ทั้งมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายจะหนีไป

“ในวันเหล่านั้น ในเวลานั้น “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“ประชากรอิสราเอลและยูดาห์จะต่างร่ำไห้มารวมตัวกัน
พวกเขาจะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา
และจะถามหาทางที่จะกลับไปยังศิโยน หันหน้าไปทิศนั้น กล่าวว่า
มาเถิด ให้เราร่วมใจกันหันหาองค์พระผู้เป็นเจ้า
โดยพันธสัญญานิรันดร์ซึ่งจะไม่มีใครลืมเลย”


lostsheep

 

ภาพถ่ายโดย Victor M. Vicente Selvas 
public domain http://commons.wikimedia.org/wiki/File:The_lost_sheep.jpg

“ประชากรของเราเป็นแกะที่หลงทางไป
ผู้เลี้ยงของพวกเขานำเขาไปหลง พาออกไปตามภูเขา
เร่ร่อนจากภูเขานี้ไปยังเนินเขานั้น
พวกเขาลืมคอกของตนเอง
ดังนั้นคนที่พบเจอจึงเขมือบพวกเขา
และศัตรูของเขากล่าวว่า
“เราไม่ผิด  เพราะพวกเขานั่นแหละที่ได้ทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์ผู้ทรงเป็นที่พักพิงอันชอบธรรมของพวกเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นความหวังของบรรพบุรุษ”

เยเรมีย์ 49-6 คำพิพากษาเอลาม

เยเรมีย์ 49:34-39

คำพิพากษาเอลาม
พระคำขององค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับเอลามมาถึงเยเรมีย์ ผู้กล่าวคำ
ในสมัยของเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์

องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า
“ดูเถิด เราจะทำลายคันธนูซึ่งเป็นขุมกำลังของเอลาม
และเราจะนำลมทั้งสี่ทิศจากสวรรค์ลงมา
เราจะทำให้เขากระจัดกระจายไปตามลมเหล่านั้น
และจะไม่มีประชาชาติใดที่ไม่ได้เอลามไปเป็นเชลย

bow

เราจะทำให้เอลามกลัวลานต่อหน้าศัตรู
ต่อหน้าคนที่แสวงหาชีวิตของเขา
เราจะนำหายนะ  ความโกรธเกรี้ยวของเรามาสู่เขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เราจะส่งดาบตามพวกเขาไป จนกระทั่งเราทำลายเขาจนหมด
และเราจะตั้งบัลลังก์ของเราไว้ในเอลาม
และทำลายกษัตริย์ ข้าราชการของพวกเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
แต่ในเวลาต่อมา เราจะรื้อฟื้นเอลามขึ้นใหม่
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 49-5 เคดาร์-ฮาโซร์

เยเรมีย์ 49:28-33

คำพิพากษาสำหรับเผ่าเคดาร์ และฮาโซร์

เกี่ยวกับเผ่าเคดาร์ และอาณาจักรฮาโซร์ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์โจมตี
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้

 “จงลุกขึ้น  ลุกไปสู้กับเผ่าเคดาร์!  จงทำลายประชากรทางตะวันออก!

 กระโจมและฝูงสัตว์ของเขาจะถูกกวาดไป

ทั้งผ้าเต้นท์และทรัพย์สมบัติ  อูฐทั้งหลายจะถูกนำออกไปจากเขา
และผู้คนจะร้องว่า “โอ น่ากลัวไปเสียทุกทิศ!”

 หนี  จงหนีออกไปให้ไกล  อาศัยในที่ลึก  โอประชากรแห่งอาณาจักรฮาโซร์
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

 เพราะเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน มีแผนต่อต้านเจ้า

 มีเป้าหมายที่จะสู้กับเจ้า
“จงลุกขึ้น และต่อสู้กับชาติทางตะวันออกที่อยู่อย่างปลอดภัย”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“เขาไม่มีประตูเมือง ไม่มีกลอนประตู  อยู่แต่ลำพัง
อูฐของพวกเขาจะกลายเป็นของที่ปล้น
ฝูงสัตว์ของเขาจะกลายเป็นของที่ริบมา

mapa

 เราจะกระจายเขาให้กระเจิงไปทุกทิศทางลม
คนที่โกนจอนหูของตัวเอง
เราจะนำภัยพิบัติมาจากทุกด้านของเขา
เมืองฮาโซร์จะกลายเป็นที่พักของหมาป่า เป็นที่ร้างตลอดไป

 ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่  ไม่มีคนที่ค้างแรมในนั้น”

เยเรมีย์ 49-4 หายนะของเบนฮาดัด

เยเรมีย์ 49:23-27

คำพิพากษาดามัสกัส

เกี่ยวกับดามัสกัส  “ฮามัทและอารปัดต่างก็สับสน เพราะพวกเขาได้ข่าวร้าย
พวกเขาละลายไปด้วยความกลัว
ปั่นป่วนเหมือนคลื่นในทะเลที่ไม่อาจทำให้สงบได้
ดามัสกัสกลับมาอ่อนแอ เธอหนีไป และความกลัวก็จับใจเธอ
ความระทมและความทุกข์โศกยึดเธอไว้เหมือนกับหญิงที่กำลังคลอดบุตร

เมืองที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ถูกทอดทิ้งได้อย่างไร คือเมืองที่เราชื่นบาน?
ดังนั้น คนหนุ่มของเมืองจะล้มลงตามสี่แยก
ทหารของเมืองจะถูกทำลายสิ้นในวันนั้น
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
และเราจะก่อไฟขึ้นที่กำแพงเมืองดามัสกัส
และไฟนั้นจะเผาไหม้ป้อมเข้มแข็งของราชาเบนฮาดัดเสีย

 

เยเรมีย์ 49-3 หายนะของเอโดม

เยเรมีย์ 49:14-22

ข้าได้ยินข่าวสารจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
มีทูตคนหนึ่งถูกส่งไปยังประเทศต่าง ๆ
“จงรวบรวมพวกเจ้าเข้าด้วยกัน และมาต่อต้านเมืองนั้น
ลุกขึ้นทำสงคราม!

 เพราะดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเล็กน้อยท่ามกลางประชาชาติ
เป็นที่ดูหมิ่นในหมู่มนุษยชาติ
ความสยดสยองที่เจ้าสร้างขึ้นนั้นได้มาลวงเจ้า
และยังมีความเย่อหยิ่งในใจของเจ้าอีก
เจ้าผู้อาศัยท่ามกลางซอกตามภูเขา
แม้เจ้าจะอยู่สูงราวกับนกอินทรี เราจะนำเจ้าลงมาจากที่นั่น
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เอโดมจะกลายเป็นความสยดสยอง
ทุกคนที่ผ่านไปจะหวาดหวั่นและเยาะหยันกับหายนะที่เกิดขึ้น
ก็เหมือนกับตอนที่โสโดม และโกโมราห์และเมืองใกล้เคียงถูกทำลาย
จะไม่มีใครอาศัยในนั้น  แม้พักชั่วคราวก็ยังไม่มีใครไปพัก

ดูเถิด เราจะทำให้พวกเขาหนีไปจากมันอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับสิงโตจากป่าลุ่มน้ำจอร์แดนกระโจนหาทุ่งเขียวสด
และเราจะแต่งตั้งคนที่เราเลือกให้ปกครองเหนือมัน
เพราะว่า มีใครเหมือนอย่างเรา?
ใครจะมาเรียกเรา?
มีผู้เลี้ยงคนไหนบ้างที่จะยืนอยู่ต่อหน้าเราได้?
ดังนั้น จงฟังแผนการขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงทำเพื่อต่อต้านเอโดม
และเป้าหมายที่พระองค์ทรงทำขึ้นมาเพื่อต่อต้านคนที่อาศัยในเทมาน

ตัวเล็กที่สุดในฝูงยังต้องถูกลากไป
ดังนั้นคอกสัตว์ของพวกเขาก็จะต้องกลัวลานกับหายนะของตนเอง

เมื่อเขาล้มลง แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือน
เสียงร้องของพวกเขาได้ยินไปถึงทะเลแดง
ดูเถิด   จะมีผู้หนึ่งบินขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เหมือนนกอินทรี และกางปีกของเขาออกสู้โบสราห์
ในวันนั้น จิตใจของนักรบผู้กล้าแห่งเอโดม
จะกลายเป็นเหมือนใจของหญิงที่กำลังเจ็บครรภ์เพื่อคลอดบุตร

 

เยเรมีย์ 49-2 คำพิพากษาเอโดม

เยเรมีย์ 49:7-13

(ชาวเอโดมเป็นเชื้อสายของเอซาว คู่แฝดพี่ของยาโคบซึ่งเป็นต้นตระกูลของอิสราเอล)

เกี่ยวข้องกับเอโดม .. องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้ว่า
“ไม่มีปัญญาเหลือในเทมานแล้วหรือ?
คำปรึกษาไม่เหลืออยู่ในคนที่ฉลาดเฉลียวใช่ไหม?
สติปัญญาของเขาหายไปแล้วหรือ

จงหนี… หันไป อาศัยอยู่ในที่ลึก
โอ เหล่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเดดาน
เพราะเราจะนำความหายนะของเอซาวมาเหนือเขา
เวลาที่เราจะลงโทษเขา
หากคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า พวกเขาจะไม่ทิ้งไว้สักหน่อยหรือ?
หากขโมยมากลางคืน พวกเขาจะไม่ทำลายไปเท่าที่เขาต้องการจนพอหรือ?
แต่เราทำให้เอซาวโล่งเตียนไปหมด เราเปิดเผยที่ซ่อนของพวกเขา
และเขาก็ไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกต่อไป
ลูกหลานของเขาถูกทำลาย และพี่น้องของเขา เพื่อนบ้านของเขาไม่มีอีกต่อไป
ตัวเขาก็สิ้นไปด้วย

จงทิ้งลูกกำพร้าของเจ้าไว้เถิด เราจะให้เขามีชีวิตอยู่
แม่ม่ายของเขาก็ให้วางใจในเรา

 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“หากคนที่ไม่สมควรจะต้องดื่มจากถ้วยแห่งการลงโทษนี้ ยังต้องดื่ม
แล้วอย่างเจ้าจะลอยนวลไปได้หรือ?
เจ้าไม่มีทางหลุดพ้นการลงโทษ  แต่เจ้าจะต้องดื่มมันลงไป
เพราะเราได้ปฏิญาณโดยอ้างตัวเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ว่าโบสราห์จะกลายเป็นความสยดสยอง เป็นที่รังเกียจ เป็นที่ร้างเปล่าและเป็นคำสาปแช่ง
เมืองต่าง ๆ ของโบสราห์จะกลายเป็นที่ร้างปรักหักพังตลอดไป….

เยเรมีย์ 49-1 คำพิพากษาเหนืออัมโมน

เยเรมีย์ 49:1-6

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “อิสราเอลไม่มีลูกชายหรือ?
เขาไม่มีผู้รับมรดกหรือ?
เหตุใดพระมิลโคม (โมเลค) จึงเข้ามายึดแผ่นดินกาด?
เหตุใดชนชาติของเขาจึงเข้ามาอาศัยในถิ่นของเขา?

ดังนั้น ดูเถอะ วันหนึ่งจะมาถึง… องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เมื่อเราจะทำให้เสียงร้องออกสงครามเป็นที่ได้ยิน
ต่อสู้รับบาห์ของชาวอัมโมน
มันจะกลายเป็นซากกองปรักหักพัง
หมู่บ้านทั้งหลายจะถูกเผาด้วยไฟ  แล้วอิสราเอลก็จะยึดครองผู้ที่เคยยึดครองเขา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
“จงคร่ำครวญ โอ เฮชโบน เพราะอัยกลายเป็นที่ร้างเปล่า
ร้องออกมา โอลูกสาวของรับบาห์  จงสวมเสื้อกระสอบ
และคร่ำครวญ วิ่งไปมาตามรั้ว
เพราะพระมิลโคม จะต้องถูกจับไปเป็นเชลย รวมทั้งปุโรหิตและข้าราชการของเขา

เหตุใดเจ้าจึงร้องโอ้อวดหุบเขาทั้งหลายของเจ้า
โอ ลูกสาวที่ไม่ซื่้อสัตย์  คนที่วางใจในทรัพย์สมบัติของตน
กล่าวว่า “ใครจะมาสู้กับฉันหรือ?”
“ดูเถิด.. เราจะนำความสยดสยองมาสู่เจ้า ”
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพทรงประกาศ
“จากคนที่อยู่ล้อมรอบเจ้า  เจ้าจะถูกไล่ออกไป  ทุกๆคน…
โดยไม่มีใครจะรวบรวมเหล่าคนลี้ภัยได้”

“แต่หลังจากนั้น เราจะรื้อฟื้นให้ชาวอัมโมนกลับสู่สภาพดี”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 48-6 เราจะรื้อฟื้นเจ้า

เยเรมีย์ 48:40-47

ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด คนหนึ่งจะบินเร็วอย่างอินทรี
และขยายปีกของเขาสู้โมอับ   เมืองต่าง ๆ จะถูกริบไป และเหล่าป้อมปราการจะถูกยึด
ในวันนั้น ใจของนักรบชาวโมอับจะเป็นเหมือนใจของหญิงที่กำลังเจ็บครรภ์คลอดบุตร
โมอับจะถูกทำลาย และจะไม่เหลือใครเลย
ที่เป็นอย่างนี้ เพราะเขาได้ตั้งตนต่อสู้องค์พระผู้เป็นเจ้า
ความน่ากลัว หลุม และบ่วงอยู่ต่อหน้าเจ้า… โอ ผู้อาศัยในโมอับ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

คนที่หนีจากความสยดสยอง จะัตกลงไปในหลุม
และคนที่ปีนขึ้นมาจากหลุมได้ก็จะติดบ่วงแร้วบ
เราเป็นผู้นำสิ่งนี้มายังโมอับ เป็นปีที่พวกเขาต้องรับโทษ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

ใต้เงาของเฮชโบน เหล่าคนลี้ภัยต่างหมดแรง
เพราะมีไฟออกมาจากเฮชโบน เป็นเปลวไฟจากบ้านของสิโหน
มันได้ทำลายหน้าผากของโมอับ  มงกุฎลูกชายแห่งความสับสนอลหม่าน
วิบัติแก่เจ้า โอ โมอับ
เหล่าคนจากพระเคโมชก็วอดวาย เพราะลูกชายของเจ้าถูกจับไปเป็นเชล
ลูกสาวก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ชนะ
ถึงกระนั้น เราจะรื้อฟื้นโมอับขึ้นมาอีกครั้ง  ในยุคต่อไป
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ”

คำพิพากษาโมอับมีอยู่เท่านี้

เยเรมีย์ 48-5 เหลือแต่เสียงร้องครวญ

เยเรมีย์ 48:36-39

ดังนั้น ใจของเราจึงคร่ำครวญเพื่อโมอับ เหมือนกับขลุ่ย
และใจของเราคร่ำครวญคนแห่งคีร์เฮเรส
ดังนั้น ความมั่งคั่งที่เขาได้มา กลับหายไปจนหมดสิ้น
ทุกหัวถูกโกน ทุกหน้าถูกโกนหนวดเครา
ที่มือก็มีรอยเฉือนเนื้อ  ผ้ากระสอบคาดเอวอยู่
บนหลังคาบ้านของชาวโมอับและตามสี่แยก ไม่มีอะไรนอกจากการร้องครวญ
เพราะเราได้ทำให้โมอับแตกเหมือนกับภาพชนะที่ไม่มีใครสนใจ
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

มันแตกจริง ๆ นะ  ดูที่เขาคร่ำครวญซิ
โมอับต้องหันหลังให้ด้วยความอับอาย
ดังนั้นโมอับจึงกลายเป็นที่เยาะหยัน และหวาดเสียวแก่คนที่อยู่รอบข้างเขา

เยเรมีย์ 48-4 ผู้ให้โมอับพบจุดจบ

เยเรมีย์ 48:28-35

จงออกไปจากเมือง  และอาศัยอยู่ในหินเถิด โอ คนที่อยู่ในโมอับ!
จงเป็นเหมือนนกพิราบที่มีรังอยู่ข้าง ๆ หินผา
เราได้ยินเรื่องความเย่อหยิ่งของโมอับ
เขาหยิ่งมาก ในเรื่องของความสูงส่งของตัวเขา ความทะนงและความก้าวร้าวของเขา
รวมไปถึงความโอหังในใจของเขา
เรารู้จักความอวดดีของเขา  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
การโอ้อวดของเขาก็จอมปลอม  การกระทำก็จอมปลอม
ดังนั้น เราจะคร่ำครวญเพื่อโมอับ  ร้องออกมาเพื่อชาวโมอับทั้งสิ้น
เราเสียใจแทนเหล่าคนจากคีรหะเรเสท
เราร้องไห้ให้เจ้ามากกว่าที่ยาเซอร์ร้องให้เจ้า โอองุ่นแห่งสิบมาห์
กิ่งก้านของเจ้านั้นไปไกลข้ามทะเล ไปถึงทะเลแห่งยาเซอร์
เหล่าผู้ทำลายได้ทำลายเถาองุ่นและผลไม้ฤดูร้อนของเจ้าแล้ว

ความสุขและความยินดีก็ถูกเอาออกไปจากดินแดนโมอับที่อุดมสมบูรณ์
เราได้ทำให้น้ำองุ่นหยุดไหลจากบ่อย่ำองุ่น
ไม่มีใครจะย่ำองุ่นด้วยเสียงแห่งความยินดี
เสียงตะโกนนั้นไม่ใช่เสียงแห่งความร่าเริง

เสียงร้องไห้จากเฮชโบน ถึงเอเลอาเล์ และยาฮาส
จากโศอาร์ไปถึง โฮโรนาอิม และเอกลัทเชลิชิยาห์
เพราะแม่น้ำแห่งนิมริมยังกลายเป็นที่แห้ง
และเราจะนำจุดจบมาสู่โมอับ  ผู้ที่ถวายเครื่องบูชาในที่สูง
และถวายเครื่องบูชาให้กับเทพเจ้าของเขา  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 48-3 ศักดิ์ศรีที่หายไป

เยเรมีย์ 48:18- 27

โอ.. จงลงมาจากความรุ่งเรืองของเจ้า และมานั่งอยู่บนดินแห้งแล้ง
ชาวเมืองดีโบน…
เพราะว่า ผู้ที่จะทำลายโมอับกำลังมาต่อสู้กับเจ้า
เขาได้ทำลายที่มั่นของเจ้าไปแล้ว

จงยืนอยู่ข้างทาง และมองดู  โอชาวเมืองอาโรเออร์
ถามคนที่หนีมา ถามหญิงที่หลบมาว่า
..เกิดอะไรขึ้นกันนี่?

โมอับต้องอับอาย เพราะโมอับแตกเสียแล้ว
จงคร่ำครวญ และร้องไห้
บอกคนแถวแม่น้ำอารโนนว่า โมอับถูกทิ้งร้างเสียแล้ว
การพิพากษาได้มาถึงที่ราบเหนือเมืองโฮโลน ยาซาห์ และเมฟาอาท
รวมทั้งดีโบน เนโบ และเบธดิบลาธาอิม
คีริยาธาอิม เบธกามุล และเบธเมโอน
และเคริโอท โบสราห์ รวมไปถึงหัวเมืองทั้งสิ้นของโมอับ ทั้งไกล และใกล้

เขาของโมอับถูกตัดออกเสียแล้ว  แขนก็หัก องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
“จงทำให้เขาเมา  เพราะเขาได้ยกตัวเองต่อสู้องค์พระผู้เป็นเจ้า
เพื่อว่า โมอับจะกลิ้งเกลือกอยู่ในอาเจียรของตนเอง
และเขาเองก็จะถูกเย้ยหยัน
เจ้าเคยเยาะเย้ยอิสราเอลมิใช่รึ?
ไปพบพวกเขาอยู่กับพวกโจรอย่างนั้นหรือ
เพราะพอเจ้าพูดถึงเขาทีไร เจ้าก็สั่นหัวทุกทีไป?”