เยเรมีย์ 32-5 จะได้กลับมา

เยเรมีย์ 32:36-44

ดังนั้น… องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าแห่งอิสราเอล
ตรัสถึงเรื่องเมืองซึ่งเจ้ากล่าวว่า..
”เมืองนี้ถูกมอบไว้ให้ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลน ด้วยดาบ ด้วยความอดอยาก และด้วยโรคระบาด
ดูเถิด เราจะรวบรวมทุกคนจากประเทศต่าง ๆ ที่เราเนรเทศเขาไป
ด้วยความโกรธ พิโรธ และโกรธเกรี้ยว
และเราจะนำพวกเขากลับมาที่นี้ และอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย
และเขาจะเป็นคนของเรา เราจะเป็นพระเจ้าของเขา

nungheart
เราจะให้พวกเขามีใจเดียว มีทางเดียว
เพื่อว่าเขาจะเกรงกลัวเราตลอดไป เพื่อสวัสดิภาพของพวกเขา และลูกหลานของเขาสืบไป
เราจะทำพันธสัญญานิรันดร์กับพวกเขา
เพื่อว่า เราจะไม่หันไปจากการทำดีให้เขา
และเราจะทำให้ใจของเขาเกรงกลัวเรา
เพื่อว่า พวกเขาจะไม่หันไปจากเรา
เราจะยินดีในการทำดีให้พวกเขา
และจะปลูกเขาในแผ่นดินนี้ด้วยความซื่อตรง ด้วยสุดใจ สุดจิตของเรา” 
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เหมือนอย่างที่เรานำหายนะยิ่งใหญ่มาสู่ประชาชน  ดังนั้น เราจะนำสิ่งดีที่เราสัญญาให้เขาไว้มาด้วย
จะมีการซื้อขายที่ดินในแผ่นดินที่พวกเจ้าพูดว่า ..
เป็นแผ่นดินร้างเปล่า ไม่มีมนุษย์หรือสัตว์อาศัยอยู่   มันถูกมอบให้กับชาวเคลเดียแล้ว”
จะมีการใช้เงินซื้อที่นา จะมีการเซ็นสัญญา มีตราประทับ และมีพยานด้วย
พื้นที่ในแผ่นดินเบนยามิน   พื้นที่ต่าง ๆ ในนครเยรูซาเล็ม ในเมืองแถบภูเขา
ในเมืองแห่งเชเฟลาห์  และเมืองแถบเนเกบ  เพราะว่า เราจะรื้อฟื้นเขาให้กลับสู่สภาพเดิม …”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

 

เยเรมีย์ 32-4 ชอบยั่วให้โกรธนัก

เยเรมีย์ 32:26-35

พระวจนะของพระเจ้ามายังเยเรมีย์ว่า
“ดูเถิด  เราเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง มีอะไรที่ยากสำหรับเราหรือ?
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า … ดูเถิด เราจะมอบเมืองนี้ให้กับคนเคลเดีย
และเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน และเขาจะเอาเมืองนี้เป็นเชลย
คนเคลเดียที่สู้กับเมืองนี้ จะมาและจุดไฟเผาเมองให้วอดวาย  พร้อมๆ กับบ้านที่ถวายเครื่องบูชาแก่เจ้าบาอัล และเครื่องดื่มบูชาแก่เจ้าต่าง ๆ เพื่อยั่วยุให้เราโกรธ
เพราะลูกหลานอิสราเอล และยูดาห์ไม่ทำอะไรนอกจากความชั่วร้ายต่อหน้าต่อตาเราตั้งแต่ยังเยาว์  ลูกหลานอิสราเอลไม่ทำอะไรนอกจากยั่วยุให้เราโกรธเกรี้ยวด้วยน้ำมือของพวกเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ ….
เมืองนี้ทำให้เราโกรธเกรี้ยวจากวันที่สร้างมันขึ้นมาจนกระทั่งวันนี้ เพื่อว่า เราจะได้เอามันออกไปจากสายตาของเรา
เพราะความชั่วร้ายของลูกหลานอิสราเอลและยูดาห์ ที่เขาได้ทำให้เราโกรธ ทั้งหล่าเจ้านาย และข้าราชการ  ปุโรหิตและผู้กล่าวคำ บุรุษแห่งยูดาห์ และ เหล่าผู้ที่อาศัยในเยรูซาเล็ม
พวกเขาได้หันหลังให้เรา ไม่ได้หันหน้า แม้ว่าเราจะสอนพวกเขาไม่หยุดหย่อน เขาก็ไม่ฟัง ไม่รับคำสอนเหล่านั้น
พวกเขาได้วางสิ่งน่าเกลียดน่าชังไว้ในบ้านที่เรียกตามชื่อของเรา และทำให้บ้านนั้นเป็นมลทิน
พวกเขาสร้างที่สูงของบาอัลในหุบเขาแห่งลูกชายของฮินโนม  นำลูกชายลูกสาวไปถวายเป็นเครื่องบูชาแก่เจ้าโมเลค  ทั้งที่เราไม่ได้สั่งพวกเขา เราไม่เคยคิดสิ่งเหล่านี้ก่อนว่าพวกเขาจะทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ทำให้ยูดาห์ได้ทำบาปต่อเรา

เยเรมีย์ 32-3 ขอเหตุผลพระเจ้าข้า!

เยเรมีย์ 32:16-
หลังจากที่ได้มอบเอกสารการซื้อที่ดินให้กับบารุคบุตรชายเนริยาห์แล้ว
ข้าก็ได้อธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า.. พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่
ด้วยพระหัตถ์ที่เหยียดออก ไม่มีสิ่งใดที่ยากสำหรับพระองค์
พระองค์ทรงแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อคนเป็นพัน
แต่ได้ทรงตอบสนองความผิดบาปของพวกเขากับลูกหลานของพวกเขา
โอพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
พระนามของพระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระองค์ทรงให้คำปรึกษายิ่งใหญ่ และทรงฤทธิ์ในพระราชกิจทั้งปวง
พระเนตรของพระองค์มองหนทางทั้งหลายของลูกหลานมนุษย์
และทรงตอบแทนพวกเขาตามหนทางเดิน ตามผลแห่งการกระทำของพวกเขา
พระองค์ทรงแสดงหมายสำคัญพร้อมสิ่งอัศจรรย์ในแผ่นดินอียิปต์
และจนกระทั่งวันนี้ยังทรงทำการ ในอิสราเอลและท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย
ทรงทำให้พระนามของพระองค์เลื่องลือไปอย่างทุกวันนี้
พระองค์ได้ทรงนำคนอิสราเอลของพระองค์ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
ด้วยหมายสำคัญและสิ่งอัศจรรย์ ด้วยพระหัตถ์เหยียดออกที่เข้มแข็ง
ด้วยความน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
และพระองค์ได้ประทานแผ่นดินนี้ให้พวกเขา
เป็นแผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา

Illustrator of Henry Davenport Northrop's 1894 "Treasures of the Bible"
Illustrator of Henry Davenport Northrop’s 1894 “Treasures of the Bible”

ดินแดนนี้เต็มด้วยน้ำผึ้งและน้ำนม
และพวกเขาได้เข้ามา และถือกรรมสิทธิ์ในแผ่นดิน
แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อฟังพระดำรัสของพระองค์ ไม่ได้เดินในกฎเกณฑ์ของพระองค์
สิ่งใดที่พระองค์ทรงบัญชา พวกเขาก็ไม่สนใจที่จะกระทำเลย
ดังนั้น พระองค์จึงทรงให้เกิดหายนะขึ้นท่ามกลางพวกเขา
ดูเถิด เชิงเทินก็ได้เข้ามาล้อมเมืองแล้ว
และพวกเขาก็ถูกมอบไว้ในมือของชาวเคลเดียที่พวกเขากำลังสู้อยู่
ด้วยดาบ ความอดหยากและโรคระบาด
สิ่งที่พระองค์ได้ตรัสก็เกิดขึ้นจริง และพระองค์ทรงเห็นทุกอย่าง
แต่…องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงกล่าวกับข้าว่า
“ให้ใช้เงินซื้อที่ดิน และหาพยานมาด้วย”
ทั้ง ๆ ที่เมืองนี้จะถูกมอวบให้กับคนเคลเดีย.
….

เยเรมีย์ 32-2 ปฏิบัติการซื้อที่ดิน

เยเรมีย์ 32:6-15

เยเรมีย์กล่าวว่า “พระดำระสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังข้าว่า
ฮานัมเอล ลูกชายของชัลลูมซึ่งเป็นอาของเจ้าจะมาหาเจ้า
บอกว่า .. ขอให้ท่านซื้อที่นาของข้าพเจ้าในตำบลอานาโธท  เพราะว่า ท่านมีสิทธิในการซื้อไถ่นานั้น”

j32-jeremiah-buys-the-field

ต่อมา ฮานัมเอลลูกพี่ลูกน้องของข้าเองก็ได้มาหาข้าที่บริเวณทหารรักษาพระองค์
ตามพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาพูดกับข้าว่า
“ขอท่านซื้อที่นาของข้าพเจ้าที่ตำบลอานาโธทในแผ่นดินเบนยามิน
เพราะว่า สิทธิในการซื้อไถ่ที่นั่นเป็นของท่าน  ขอให้ท่านซื้อไว้เพื่อตัวท่านเองเถอะนะ..”
ดังนั้นข้าจึงรู้ว่านี่เป็นพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

ข้าจึงซื้อที่นาตำบลอานาโธท จากฮานัมเอลลูกพี่ลูกน้องของข้า
ข้าชั่งเงินให้เขา 17 เชเขล  ข้าเซ็นชื่อ ประทับตรา มีพยาน และชั่งเงินด้วยตาชั่ง
แล้วข้าก็เอาโฉนดที่ประทับตรา พร้อมด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ในการซื้อ
รวมทั้งฉบับที่เปิดอยู่มา
และข้าได้มอบโฉนดนั้นกับบารุค ลูกชายของเนริยาห์ ลูกชายมาอาเสอาห์
ต่อหน้าฮานัมเอลลูกพี่ลูกน้องของข้า   ต่อหน้าพยานซึ่งได้เซ็นรับรู้การซื้อครั้งนี้
และต่อหน้าเหล่าคนยูดาห์ซึ่งนั่งอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์
ข้าสั่งบารุคต่อหน้าคนทั้งหลายว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ
พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า จงเอาโฉนดเหล่านี้ไป
ทั้งฉบับที่ประทับตรา และฉบับที่เปิดอยู่
และเอาไปเก็บไว้ในภาชนะดินเพื่อว่า มันจะอยู่ทนนาน
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า
จะมีการซื้อบ้านและที่นา และสวนองุ่นในแผ่นดินนี้อีกครั้ง”

เยเรมีย์ 32-1 พูดไม่เข้าหู

เยเรมีย์ 32:1-8

พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ในปีที่สิบของราชาเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
ซึ่งเป็นปีที่สิบแปดแห่งรัชกาลของเนบูคัดเนสซาร์
เวลานั้นกองทัพของราชาบาบิโลน กำลังล้อมนครเยรูซาเล็ม

jeremiahinprisonภาพวาดโดย 

 

และเยเรมีย์ผู้กล่าวคำถูกจำจองในบริเวณของทหารรักษาพระองค์  ซึ่งอยู่ในวังของราชาแห่งยูดาห์
ราชาเศเดคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์สั่งจำจองเยเรมียห์ไว้  ตรัสว่า
“เหตุใดท่านจึงกล่าวคำพยากรณ์ว่า .. องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ดูเถิด เราจะมอบเมืองนี้ให้ไว้ในมือแห่งราชาแห่งบาบิโลน และเขาจะยึดเมืองนี้ไว้
ราชาเศเดคียาห์แห่งยูดาห์จะไม่สามารถหนีไปจากเงื้อมมือของชาวเคลเดียได้
แต่จะตกในหัตถ์ของราชาบาบิโลน ทั้งสองจะได้พบกันตัวต่อตัว เห็นกันตาต่อตา
และราชาบาบิโลนจะนำราชาเศเดคียาห์ไปบาบิโลน
และเขาจะอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะเยี่ยมเขา  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ  ..
ถึงแม้ท่านจะสู้กับชาวเคลเดีย แต่ก็จะไม่สำเร็จ”

 

เยเรมีย์ 31-8 จะวัดฟ้าได้หรือ?

เยเรมีย์ 31:37-40
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เมื่อไรที่สามารถวัดฟ้าสวรรค์ได้
และสืบค้นรากฐานพิภพได้จนหมด
นั่นแหละ เราจึงจะเหวี่ยงลูกหลานอิสราเอลออกไป เพราะสิ่งที่เขากระทำ”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เราจะวัดเอกภพและกาแล็กซี่อื่น ๆ ได้หมดจริงหรือ?  ยิ่งค้น ยิ่งเจอ ไม่เคยหมดเลย  ภาพจากนาซา กาแลกซี่แอนโดรมีดา
เราจะวัดเอกภพและกาแล็กซี่อื่น ๆ ได้หมดจริงหรือ? ยิ่งค้น ยิ่งเจอ ไม่เคยหมดเลย ภาพจากนาซา กาแลกซี่แอนโดรมีดา

“ดูเถิด.. วันเวลาจะมาถึง  เมื่อจะมีการสร้างเมืองใหม่เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า จากหอแห่งฮานันเอลไปถึงประตูมุม
และสายวัดนั้นจะยาวไปไกลกว่านั้น ตรงไปยังเนินเขากาเรบ แล้วต่อไปยังบ้านโกอาห์
ทั้งหุบเขาแห่งศพและขี้เถ้า และทุ่งทั้งหมดไปจนถึงลำธารขิดโรน จนถึงมุมประตูม้า ไปทางตะวันออก จะเป็นที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
จะไม่มีการถอนทิ้ง หรือคว่ำอีกต่อไปเลยจวบจนนิรันดร์

เยเรมีย์ 31-7 เจ้าแห่งกฎเอกภพ

เยเรมีย์ 31: 31-35

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศว่า “ดูเถิด วันหนึ่งจะมาถึง เมื่อเราทำพันธสัญญาใหม่กับวงศ์วานอิสราเอลและยูดาห์
ไม่เหมือนพันธสัญญานั้นที่เราได้ทำกับบรรพบุรุษของเขาในวันที่เราจูงเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยมือของเรา
เป็นพันธสัญญาที่พวกเขาหักทิ้งเสียแม้ว่าเราเป็นสามีของเขา … องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส ..
นี่เป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะทำกับวงศ์วานอิสราเอลหลังจากนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศ…
เราจะใส่บัญญัติของเราไว้ในตัวเขา และเราจะเขียนมันลงในใจของพวกเขา
และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา  พวกเขาจะเป็นประชากรของเรา
เขาจะไม่สอนเพื่อนบ้าน และพี่น้องต่อไปว่า .. จงรู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า..
เพราะเขาทุกคนจะรู้จักเรา ตั้งแต่คนเล็กน้อยที่สุด จนถึงคนที่ใหญ่โตที่สุด
..องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ..
เพราะเราจะยกโทษความบาปผิดของพวกเขา
จะไม่จดจำบาปของพวกเขาอีกต่อไป

kotakapop
องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงให้กฏระเบียบว่าดวงอาทิตย์ส่องแสงในเวลากลางวัน
และเป็นกฎตายตัวว่า ดวงจันทร์และดวงดาวส่องแสงในเวลากลางคืน
พระองค์ผู้ทรงกวนน้ำทะเลจนคลื่นคำราม พระนามของพระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

เยเรมีย์ 31-6 เข็ดฟันเอง

เยเรมีย์ 31:27-30

ดูเถิด วันนั้นจะมาถึง.. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
วันนั้นเราจะหว่านเมล็ดแห่งมนุษย์ และเมล็ดแห่งสัตว์ในหมู่วงศ์วานอิสราเอลและยูดาห์
สิ่งที่จะสำเร็จ
คือ.. ขณะที่เราได้เฝ้ามองพวกเขาเพื่อจะถอน และคว่ำลง
เพื่อเหวี่ยงออกไป เพื่อทำลาย และนำเหตุร้ายมาให้
เราก็จะเฝ้ามองพวกเขาเพื่อจะสร้าง และปลูกเช่นกัน  องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ในวันเหล่านั้น เขาจะไม่พูดอีกต่อไปว่า  “พ่อ ๆ กินองุ่นเปรี้ยว และลูก ๆ ก็เข็ดฟัน”
แต่ทุกคนจะต้องตายเพราะบาปของตนเอง  คนที่กินองุ่นเปรี้ยว เขาจะเข็ดฟันangunpreaw

เยเรมีย์ 31-5 ป้ายชี้ทาง

เยเรมีย์ 31:21-26

จงปักป้ายที่ถนนให้กับตัวเจ้าเอง ทำป้ายชี้ทางให้ตัวเอง
พิจารณาทางหลวง คิดให้ดีว่าเจ้าจะไปทางไหน
กลับมาเถิด พรหมจารีอิสราเอล กลับมายังเมืองของเจ้า
เจ้าจะเหยียบเรือสองแคมอยู่ทำไม ลูกสาวที่ไม่ซื่อสัตย์?
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างสิ่งใหม่บนโลกนี้
ผู้หญิงล้อมผู้ชายไว้
Paisheetang
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล
“อีกครั้งหนึ่งที่พวกเขาจะใช้คำเหล่านี้ ในแผ่นดินยูดาห์ และเมืองทั้งหลาย
เมื่อเราได้รื้อฟื้นพวกเขาขึ้น
..ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเจ้า ..
ที่อยู่แห่งความชอบธรรม โอภูเขาอันบริสุทธิ์..
และยูดาห์รวมทั้งเมืองทั้งหลายจะอยู่ร่วมกัน
รวมถึงเกษตรกรและคนที่เลี้ยงสัตว์เร่ร่อนไป
เพราะเราจะทำให้จิตใจที่อ่อนแรงนั้น มีกำลังขึ้น
และจิตใจที่อ่อนล้าก็จะได้อิ่มหนำสำราญ “
พอถึงตอนนี้ ข้าก็ตื่นขึ้น มองดู
เออ… การนอนหลับครั้งนี้ทำให้ข้ารู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น….

เยเรมีย์ 31-4 ลูกรักของเรา

27 ตุลาคม 2013
เยเรมีย์ 31:15-20
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“ได้ยินเสียงร้องจากบ้านรามาห์ เป็นเสียงคร่ำครวญ ร้องไห้อย่างขื่นขม
ราเชลได้ร้องให้เพราะลูก ๆ ของเธอ
เธอไม่ยอมรับคำปลอบใจเพราะว่า ลูก ๆ สิ้นชีวิตไปหมดแล้ว”
rama
วาดโดย ซัลวาดอร์ ดาลิ 1968
ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“อย่าส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญไป อย่าให้น้ำตาไหลต่อไป
เพราะจะมีรางวัลสำหรับงานที่เจ้าได้ทำ.. องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศ
และพวกเขาจะได้กลับมาจากแผ่นดินของศัตรู
มีความหวังสำหรับอนาคต… องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
ลูกหลานของเจ้าจะได้กลับมายังแผ่นดินของพวกเขา

เราได้ยินเสียงเอฟราอิมร่ำไห้ กล่าวว่า
..พระองค์ได้ทรงตีสอนข้า และข้าก็รับการตีสอนนั้น
เหมือนกับลูกวัวที่ไม่ได้ถูกฝึก
ขอพระองค์ทรงนำข้ากลับมา เพื่อว่าจะได้รับการรื้อฟื้นอีก
เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้า
เพราะหลังจากที่ข้าหันไป ข้าก็กลับใจ
และเมื่อข้าได้รับการสอน ข้าก็ทุบตีขาตัวเอง
ข้าละอายใจ และขายหน้า เพราะว่าข้าต้องรับความอับอายที่เคยทำเมื่อยังเด็ก
เอฟราอิมเป็นลูกรักของเราใช่ไหม?
เขาเป็นลูกแสนรักของเราใช่ไหม?
แม้ว่าเราจะพูดต่อต้านเขาเท่าไร เราก็ยังจำเขาได้มากเท่านั้น
ใจของเราจึงห่วงหาเขา
ดังนั้น ใจของเราปรารถนาเขา และเราจะมีความเมตตาต่อเขาเป็นแน่
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 31-3 ความสุขคืนมา

เยเรมีย์ 31:10-14

“โอ ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย จงฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
และประกาศให้กับเหล่าประชาชาติที่อยู่ริมทะเล กล่าวว่า
‘พระองค์ผู้ทรงทำให้อิสราเอลกระจัดกระจายไปนั้นจะทรงรวบรวมพวกเขา และจะทรงเป็นดั่งผู้เลี้ยงที่ดูแลฝูงแกะของเขา‘
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ไถ่ตัวยาโคบ และได้ซื้อพวกเขาคืนมาจากมือที่เข้มแข็งเกินกว่าพวกเขา
เขาจะมาและร้องเพลงเสียงดังบนที่สูงแห่งศิโยน
และเขาจะสดชื่นแจ่มใสเพราะความดีขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ภาพจาก http://commons.wikimedia.org/wiki/File:PikiWiki_Israel_16624_The_Shepherd.jpg
ภาพจาก http://commons.wikimedia.org/wiki/File:PikiWiki_Israel_16624_The_Shepherd.jpg

เพราะธัญพืช  น้ำองุ่นและน้ำมัน เพราะเหล่าฝูงสัตว์ตัวน้อย ๆ ที่เกิดใหม่ในฝูง
ชีวิตของพวกเขาจะเป็นเหมือนสวนที่มีน้ำรดชุ่มฉ่ำ
และพวกเขาจะไม่อ่อนอกอ่อนใจอีกต่อไป
แล้วเหล่าหญิงสาวจะยินดี เต้นรำ
ชายหนุ่มและแก่ก็จะชื่นชมเช่นกัน
เราจะทำให้ความทุกข์ของเขากลายเป็นความยินดี
เราจะปลอบใจเขา และให้ความยินดีแทนความทุกข์
เราจะให้เหล่าปุโรหิตอิ่มบริบูรณ์
และคนของเรานั้น จะมีความชื่นชมพึงใจในความดีของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 31-2 เราจะนำเจ้ากลับมา

เยเรมีย์ 31:7-12

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
“จงร้องเพลงด้วยความยินดีเพื่อยาโคบ
และส่งเสียงร้องให้กับบรรดาผู้ปกครองของประชาชาติ
ประกาศไป ให้สรรเสริญและกล่าวว่า
‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ขอทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดพ้น…
คือเหล่าคนที่หลงเหลืออยู่ในอิสราเอล’

judedest

 

ภาพจาก freestockphotos.com

ดูเถิด เราจะนำพวกเขามาจากประเทศทางเหนือ
และรวบรวมพวกเขามาจากแผ่นดินไกลโพ้น
ในพวกเขามีคนตาบอดและคนขาเสียเดินเขยก…
หญิงมีครรภ์และหญิงที่กำลังคลอดบุตร
พวกเขาไปด้วยกันเป็นกลุ่มชนใหญ่ พวกเขาจะกลับมาที่นี่
จะกลับมาด้วยน้ำตา
และด้วยเสียงร้องขอเมตตา เราจะนำพวกเขากลับมา
เราจะให้พวกเขาเดินข้าง ๆ ลำธารน้ำ
และเป็นทางเรียบที่จะไม่ต้องสะดุดหกล้ม
เพราะเราคือบิดาแห่งอิสราเอล เอฟราอิมคือลูกชายหัวปีของเรา

เยเรมีย์ 31-1 รักนิรันดร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

เยเรมีย์ 31:1-6
“ในเวลานั้น” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส “เราจะเป็นพระเจ้าของทุกเผ่าในอิสราเอล และพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
“คนที่รอดตายจากดาบ ก็ได้พบพระคุณในถิ่นกันดาร
ยามที่อิสราเอลแสวงหาการพัก
องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏแก่เขาจากที่ไกล


tklai

ภาพจากwww.naturewallz.com

เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์
ดังนั้น เราจะยังคงให้ความรักซื่อตรงนี้แก่เจ้าต่อไป
และเราจะสร้างเจ้าขึ้นมา เจ้าจะถูกสร้างขึ้น  พรหมจารีอิสราเอล!
และเจ้าจะตกแต่งตัวเจ้าเองด้วยรำมะนา
จะออกไปเต้นรำในการเต้นรำของผู้ที่กำลังสนุกสนาน
และเจ้าก็จะปลูกสวนองุ่นอีกบนภูเขาแห่งสะมาเรีย
ผู้ที่ปลูกก็จะปลูกไป และเขาจะมีความสุขกับผลองุ่นเหล่านั้น
เพราะว่าจะมีวันที่เหล่าคนเฝ้ายามในเทือกเขาเอฟราอิมร้องเรียกว่า
“ลุกขึ้น ให้เราไปยังศิโยนกันเถอะ
ไปเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

เยเรมีย์ 30-4 สู่สภาพดี

เยเรมีย์ 30:18-24

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า
ดูเถอะ เราจะรื้อฟื้นกระโจมของยาโคบให้กลับสู่สภาพดี
และเราจะมีความสงสารเมตตาในเรื่องที่อยู่อาศัยของเขา
จะมีการสร้างเมืองขึ้นใหม่บนกองซากปรักหักพัก

Ruins-Of-Capernaum
ป้อมเมืองก็จะอยู่บนที่มันเคยอยู่
จะมีเพลงโมทนาพระคุณพระเจ้าออกมาจากสถานที่เหล่านั้น
และจะมีเสียงของการเฉลิมฉลอง
เราจะจำนวนประชากรของพวกเขาอย่างทวีคูณ
และเขาจะไม่มีจำนวนน้อย .. เราจะทำให้เขาได้รับเกียรติและเขาจะไม่เป็นคนเล็กน้อย
ลูกหลานของเขาจะเป็นเหมือนสมัยก่อน
และเราจะยอมรับที่ชุมนุมของพวกเขา
เราจะลงโทษคนที่กดขี่พวกเขา
เจ้าชายที่ปกครองพวกเขาจะออกมาจากพวกเขา
ผู้ปกครองจะออกมาจากท่ามกลางพวกเขา
เราจะทำให้ท่านผู้นั้นมาใกล้
และท่านจะเข้ามาใกล้เรา
เพราะใครเล่า..จะกล้าเข้ามาใกล้เราด้วยตัวเอง?
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
และเจ้าจะได้เป็นประชากรของเรา เราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า..
จงมองดูพายุขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ความพิโรธได้จากไปแล้ว
เป็นพายุหมุนรุนแรง
มันจะไปหมุนกวาดหัวคนชั่วร้าย
พระพิโรธอันแรงกล้าขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่กลับมา
จนกว่าพระองค์จะทรงทำสิ่งที่ทรงประสงค์สำเร็จทุกอย่าง
ในวันแห่งยุคสุดท้ายเจ้าจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้

เยเรมีย์ 30-3 คนนอกคอก

เยเรมีย์ 20:12-17

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
ความเจ็บปวดของเจ้านั้น ไม่อาจรักษาให้หายได้
และบาดแผลของเจ้าก็เหวอะหวะ

ไม่มีใครจะทำคดีให้เจ้า
ไม่มียาที่จะรักษาบาดแผลของเจ้า
ไม่มีการบำบัดสำหรับเจ้า
คนรักทั้งหลายก็ลืมเจ้าไปเสียแล้ว
พวกเขาไม่สนใจเจ้าสักนิด

ภาพจาก http://www.thetruthseeker.co.uk/

 

ภาพจาก http://www.thetruthseeker.co.uk/
ภาพจาก http://www.thetruthseeker.co.uk/

เราได้ตีสอนเจ้ารุนแรงเหมือนการโบยของศัตรู
เป็นการลงโทษที่มาจากศัตรูที่โหดเหี้ยม
เพราะความผิดของเจ้าใหญ่ยิ่งนัก
เพราะความบาปของเจ้าก็ฉาวโฉ่
เหตุใดเจ้าจึงร้องโวยวายเพราะความเจ็บปวดของเจ้า
ความเจ็บปวดของเจ้านั้นรักษาให้หายไม่ได้
บาปมากมายของเจ้านั้นลือกระฉ่อนไปทั่ว
เราได้ทำสิ่งนี้ต่อเจ้า!

ดังนั้น คนที่เขมือบเจ้า ก็จะถูกกิน
เหล่าศัตรูของเจ้า ทุกคน… จะต้องกลายเป็นเชลย
คนที่ปล้นเจ้า จะถูกปล้น
และคนที่ดักเจ้า ก็จะกลายเป็นเหยื่อ
เพราะเราได้รื้อฟื้นสุขภาพของเจ้าขึ้น
และบาดแผลของเจ้าจะได้รับการรักษา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
เพราะเขาทั้งหลายจะเรียกเจ้าว่า คนนอกคอก
คือศิโยน… ที่ไม่มีใครสนใจ

เยเรมีย์ 30-2 อย่ากลัวเลย..ยาโคบ

เยเรมีย์ :8-11

ในวันนั้น จะเกิดอย่างหนึ่งขึ้น
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
เราจะหักแอกออกจากคอของเจ้า

ถ้าคนต้องทำงานเยี่ยงทาส ก็อยากที่จะหลุดจากแอกนี้ยิ่งนัก
ถ้าคนต้องทำงานเยี่ยงทาส ก็อยากที่จะหลุดจากแอกนี้ยิ่งนัก

เราจะทำลายโซ่ตรวนของเจ้า
และคนต่างชาติจะไม่สามารถทำให้เขาเป็นทาสได้อีก
แต่พวกเขาจะปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเขาและของราชาดาวิดผู้ที่เราจะยกขึ้นมาเพื่อเขา

 

ดังนั้น อย่ากลัวไปเลย  ยาโคบ…คนรับใช้ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
อย่าหวาดหวั่นครั่นคร้าม โออิสราเอล
เพราะเราจะช่วยเจ้าจากที่แสนไกล
และลูกหลานของเจ้า เราจะช่วยจากการเป็นเชลย
ยาโคบจะกลับมา จะมีความสงบสุขและได้พักผ่อน
จะไม่มีสิ่งใดทำให้เขากลัวได้อีก
เพราะเราอยู่กับเจ้าเพื่อช่วยเจ้าให้รอด
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
เราจะทำให้ทุกชาติถึงที่สิ้นสุด
บรรดาชาติที่เราไล่เจ้าให้กระจัดกระจายไปอยู่นั้น
แต่สำหรับเจ้า เราจะไม่ให้ถึงที่สิ้นสุด
เราจะตีสอนเจ้าตามขนาดความผิดของเจ้า
เราจะไม่ปล่อยให้เจ้าลอยนวลโดยไม่ต้องรับผิด

เยเรมีย์ 30-1 จะผ่านพ้นไปได้

 

เยเรมีย์ 1-7

พระคำของพระเจ้ามาถึงเยเรมีย์จากองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า
พระเจ้าแห่งอิสราเอล องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า  ..
จงเขียนคำที่เราได้พูดกับเจ้าลงไป เพราะวันหนึ่งจะมาถึง
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ
วันนั้นเราจะให้คนของเราทั้งอิสราเอลและยูดาห์กลับสู่สภาพดี
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส
และเราจะนำเขากลับมายังแผ่นดินที่เราได้ให้แก่บรรพบุรุษ
และพวกเขาจะครอบครองแผ่นดินนั้น

วันที่เขาทุกข์ใจ เขาจะผ่านมันไปได้. ภาพโดย เจมส์ ทิสสอท
วันที่เขาทุกข์ใจ เขาจะผ่านมันไปได้. ภาพโดย เจมส์ ทิสสอท

ต่อไปนี้เป็นพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสเรื่องอิสราเอลและยูดาห์
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้
เราได้ยินเสียงร้องด้วยความหวาดหวั่น เพราะมีสิ่งร้ายเกิดขึ้น ไม่มีสันติสุขเลย
จงถามขึ้นมาเถิด และดูซิ … ผู้ชายจะคลอดบุตรได้หรือ
เหตุใดเราจึงเห็นชายทุกคน เอามือจับท้องเหมือนกับหญิงกำลังคลอด?
เหตุใดใบหน้าของทุกคนซีดเผือด?
อา…วันนั้นใหญ่เหลือเกิน ไม่มีวันไหนเหมือนวันนั้น
เป็นเวลาที่ยาโคบท้อแท้ทุกข์ใจยิ่งนัก  ถึงกระนั้น เขาจะผ่านมันไปได้

เยเรมีย์ 29-5 กล้ามุสาในพระนามพระเจ้า!

เยเรมีย์ 29:24-32

ถึงเชไมยาห์ชาวเนเฮลาม…
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า
เจ้าได้ส่งจดหมายในนามของเจ้าไปยังคนที่อยู่ในนครเยรูซาเล็ม
และส่งไปยังเศฟันยาห์ บุตรมาเสยาห์ผู้เป็นปุโรหิต
รวมถึงเหล่าปุโรหิตทั้งหลาย กล่าวว่า
..องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้เป็นปุโรหิตแทนที่เยโฮยาดาผู้เป็นปุโรหิต
เพื่อว่าท่านจะดูแลพระวิหารของพระเจ้า
และจะได้จับกุมคนบ้าทุกคนที่กล่าวพระคำ เอาไปจำไว้ในขื่อและสวมปลอกคอเหล็ก
Ball_chain
บัดนี้ ทำไมเจ้าจึงไม่ต่อว่าเยเรมีย์ชาวอานาโธทผู้กล่าวพระคำแก่เจ้าเล่า?
เขาได้ส่งจดหมายมาถึงเราที่บาบิโลนว่า “เวลาที่เราจะอยู่เป็นเชลยนั้นยาวนาน
ดังนั้นจงสร้างบ้านเรือน อาศัยในนั้น ปลูกสวนและกินผลจากสวนนั้น”

เศฟันยาห์ผู้เป็นปุโรหิตได้อ่านจดหมายให้เยเรมีย์ฟัง
แล้วจึงมีพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามายังเยเรมีย์ว่า
“จงส่งสารไปยังคนที่ถูกเนรเทศทุกคน กล่าวว่า
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถึงเชไมยาห์ชาวเนเฮลาม
เพราะว่า เขไมยาห์ได้กล่าวคำแก่เจ้าทั้งที่เราไม่ได้ส่งเขาไป
เขาทำให้พวกเจ้าเชื่อในคำมุสาของเขา
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
เราจะลงโทษเขไมยาห์ชาวเนเฮลาม และลูกหลานของเขา
จะไม่มีใครสักคนอยู่ท่ามกลางประชาชน
พวกเขาจะไม่เห็นสิ่งดีที่เราจะทำให้แก่ประชาชนของเรา
เพราะว่าเขาได้กล่าวคำที่กบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 29-4 สองคนที่ทำร้ายอิสราเอล

เยเรมีย์ 29:20-23

จงฟังคำขององค์พระผู้เป็นเจ้า เหล่าผู้ที่ถูกเนรเทศไปจากเยรูซาเล็มถึงบาบิโลน
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล
ทรงกล่าวถึงอาหับบุตรโคลายาห์และเศเดคียาห์บุตรมาอาเสยาห์
ทั้งสองได้กล่าวคำเท็จให้เจ้าฟังในนามของเรา

tej
ดูเถิด เราจะส่งเขาไปให้ราชาเนบูคัดเนสซาร์
เและท่านจะสังหารทั้งสองต่อหน้าต่อตาท่าน
เพราะเขาทั้งสองเป็นอย่างนี้ เหล่าคนที่ถูกเนรเทศจากยูดาห์ไปบาบิโลน
ก็จะแช่งว่า
“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เจ้าเป็นเหมือนเศเดคียาห์และอาหับ
คนที่กษัตริย์แห่งบาบิโลนเผาเสียด้วยไฟ”
เพราะเขาทั้งสองทำสิ่งที่ร้ายกาจในหมู่คนอิสราเอล
ได้เป็นชู้กับภรรยาของเพื่อนบ้าน
ได้กล่าวคำมุสาในนามของเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด
เราเป็นผู้รู้เห็น และเป็นพยาน” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศ

เยเรมีย์ 29-3 มะเดื่อเน่า

เยเรมีย์ 29:15-19

“เพราะเจ้ากล่าวว่า .. พระเจ้าทรงแต่งตั้งผู้กล่าวคำแก่เราในบาบิโลน ..
ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้า จึงตรัสเรื่องของกษัตริย์ที่ขึ้นมาบนบัลลังก์ของดาวิด
และเกี่ยวข้องกับคนที่มาอาสัยอยู่ในเมืองนี้
ญาติของเจ้าที่ไม่ได้ออกไปเป็นเชลยกับพวกเจ้า
..องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสดังนี้
ดูเถิด เราได้ส่งดาบ ความอดอยากและโรคระบาดมา
และเราจะทำให้เขาเป็นเหมือนลูกมะเดื่อเน่า   เน่ามากจนกินไม่ได้

fignao
เราจะตามเขาไปด้วยดาบ ความอดอยากและโรคระบาด
ทำให้เขาเป็นที่สยองขวัญต่อเหล่าอาณาจักรต่าง ๆ ในโลกนี้
กลายเป็นที่แช่งสาป น่ากลัว เป็นที่ซุบซิบและเป็นที่ตำหนิ
ท่ามกลางประชาชาติที่เราได้ไล่พวกเขาเข้าไปอยู่
ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาไม่สนใจถ้อยคำที่เราเฝ้าส่งสื่อสารมาให้เจ้า
โดยเหล่าผู้กล่าวคำ ผู้รับใช้ของเรา
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส