อิสยาห์ 53-2 กลายเป็นหนึ่งในคนทรยศ

อิสยาห์ 53:6-12

เราทุกคนเป็นเหมือนแกะที่หลงทางกระเจิดกระเจิงไป  เรา เราทุกคนต่างหันไปตามทางของตัวเอง  และพระเจ้าได้วางความผิด การล่วงละเมิดของเราทุกคนไว้บนตัวเขา

เขาถูกกดดัน ถูกทรมาน แต่เขาก็ไม่ปริปากสักนิด  ราวกับลูกแกะที่ถูกพาไปฆ่า  นิ่งเงียบเหมือนกับแกะที่อยู่ต่อหน้าคนตัดขนแกะ  เขาไม่ปริปากของเขาเลย

 

ภาพวาดโดย Francisco de Zurbaran 1640
ภาพวาดโดย Francisco de Zurbaran 1640

เขาถูกนำไปโดยการกดขี่และพิพากษาลงโทษ  และสำหรับเชื้อสายของเขา ใครจะคิดว่า  เขาถูกตัดออกจากดินแดนของคนที่มีชีวิตอยู่   ต้องถูกลงโทษหนักเพราะการล่วงละเมิดของประชากรของเรา?

มีการจัดถ้ำเก็บศพของเขาพร้อมไปกับคนชั่ว และคนมั่งคั่ง  แม้ว่าเขาไม่ได้ทำสิ่งที่รุนแรง ไม่มีคำหลอกลวงออกจากปากของเขา
แต่ก็เป็นพระทัยของพระเจ้าที่จะบดขยี้เขา และทำให้เขาต้องเศร้าโศกยิ่ง  เมื่อวิญญาณของเขากลายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป  เขาก็จะเห็นพงศ์พันธุ์ของเขา  เขาจะยืดวันเวลาของเขาออกไป และน้ำพระทัยของพระเจ้าจะรุ่งเรืองในมือของเขา    เขาจะเห็นผลจากความเจ็บปวดรวดร้าว  วิญญาณของเขา และเขาจะพอใจ

ผู้รับใช้ของพระเจ้าไม่สมควรจะต้องตาย  แต่พระเจ้าทรงประสงค์ให้เขาต้องตาย เขาเป็นลูกแกะของพระเจ้าที่ถูกนำไปฆ่าเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป

และเครื่องบูชาที่มีชีวิตนี้ เป็นเครื่องบูชาที่ถวายเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเป็นพอ  ไม่ต้องถูกฆ่าแล้วฆ่าอีก

เขาผู้ชอบธรรมคนนี้ ผู้รับใช้ของเราคนนี้ ด้วยความรู้ของเขา จะทำให้คนอื่นอีกมากมายได้ถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรม และเขาจะรับแบกบาปของคนเหล่านั้น และเขาจะแบ่งสิ่งที่ริบมาได้ในหมู่คนเข้มแข็ง

ผู้รับใช้ของพระเจ้ารู้ว่า จะต้องทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องบาปของมนุษยชาติ
เพราะว่า เขาได้เทวิญญาณของเขาลงจนถึงแก่ความตาย และถูกนับรวมเข้ากับคนทรยศ
ถึงกระนั้น เขาได้แบกบาปของคนมากมายและอธิษฐานวิงวอนเพื่อคนที่ล่วงละเมิด

แม้ทุกวันนี้ เขายังคงอธิษฐานเผื่อผู้ที่เป็นคนบาป…. 

22 พฤษภาคม 2013 นักเขียนนิรนาม 2

ฉันจะอดอาหารด้วย … แล้วฉันจะเข้าเฝ้าพระราชา
แม้ว่าจะเป็นการทำผิดกฎหมายของพระราชา 
ถ้าฉันจะต้องตาย  ก็ขอให้ฉันตาย”

ถอดความจากเอสเธอร์ 4:16

Daily2013_5_22-1

พระราชินีเอสเธอร์ส่งขันทีของพระนางไปถามไถ่เรื่องราว
จึงทราบมาว่า ฮามานต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวทั้งหมด
พระนางตะลึง นึกไม่ถึงว่าจะมีคนทำเช่นนั้น
แต่มีหลักฐานมาจากโมรเดคัยด้วย นั่นก็คือสำเนากฤษฎีกาที่สั่งให้ทำลายยิว
ท่านยังบอกจำนวนเงินที่ฮามานถวายพระราชาอีก

“ท่านช่วยทูลพระนางให้เข้าเฝ้าพระราชาด่วน เพื่อจะช่วยให้ชนชาติของเรารอด”
โมรเดคัยกำชับขันที

Daily2013_5_22-2

เมื่อทรงทราบเรื่องราวทั้งหมด  พระนางส่งข่าวไปอีกว่า
หากใครเข้าเฝ้าพระราชาโดยไม่ได้ทรงเรียก จะมีโทษถึงตาย

สิ่งที่โมรเดคัยตอบมาก็คือ “อย่าคิดว่า พระนางจะรอด เพราะพระนางก็เป็นยิว
ถ้าพระนางไม่ทำ ความช่วยเหลือจะมาจากที่อื่น
แต่ที่พระนางได้มาเป็นพระราชินี ทั้ง ๆ ที่เป็นยิว
ใครจะรู้…. อาจเป็นเพราะพระเจ้าทรงเตรียมเธอไว้ ”
ได้ยินดังนั้น ราชินีเอสเธอร์จึงตระหนักว่า ที่เธอได้เป็นราชินีเพราะว่า พระเจ้าทรงส่งมา
“ถ้าอย่างนั้น ให้ยิวทุกคนอธิษฐานอดอาหารสามวันเพื่อฉัน
ฉันจะอดอาหารด้วย … แล้วฉันจะเข้าเฝ้าพระราชา
แม้ว่าจะเป็นการทำผิดกฎหมายของพระราชา
ถ้าฉันจะต้องตาย  ก็ขอให้ฉันตาย”

อิสยาห์ 53-1

อิสยาห์ 53:1-5

แม้คำที่จะอ่านต่อไปนี้  อิสยาห์กำลังกล่าวกับคนยูดาห์…
แต่ก็เหมือนท่านกล่าวกับเราด้วย   เป็นพระคำที่ถือได้ว่า สุดยอด ในอิสยาห์ทั้งหมด
และเป็นพระคำที่พันธสัญญาใหม่กล่าวถึงมากที่สุด  

ใครจะเชื่อสิ่งที่พวกเขาได้ยินจากเราบ้าง?

และพระกรของพระเจ้านั้นได้ปรากฏแก่ใคร?

น่าแปลกที่เมื่อพระเจ้าเปิดเผยแขนคู่นั้น
เป็นแขนธรรมดาของชายผู้หนึ่งที่เป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์ในคนเดียวกัน  เขาเป็นคนที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน

เพราะว่า เขาเติบโตขึ้นมาต่อพระพักตร์พระองค์เหมือนหน่ออ่อน
และเหมือนรากที่งอกขึ้นในดินแห้งผาก

เขาไม่มีรูปร่างหรือความงดงามที่เราจะสนใจมองเขา
ไม่มีความงดงามหล่อเหลาที่จะทำให้เราปรารถนาเขาเลย

เมื่อเขายังเล็ก เติบโตขึ้นมา ก็เป็นภาพที่ธรรมดา เช่นกัน  พระเจ้าไม่ได้ใช้ผู้ที่ดูแข็งแรง กำยำ ล่ำสัน   สิ่งที่อิสยาห์พูดทำให้เรารู้ว่า ผู้รับใช้ของพระเจ้าท่านนี้ เกิดมาอยู่ท่ามกลางผู้คนที่สภาพฝ่ายวิญญาณกำลังแห้งผากเหมือนดินแห้ง 

เขาถูกดูหมิ่นและมนุษย์ต่างปฏิเสธเขา

เขาเป็นบุรุษที่มีความโศกเศร้า คุ้นเคยกับความเสียใจ
คนมองเขาแล้วก็เมินหน้าหนีไป เขาถูกดูหมมิ่น และเราก็ไม่ได้นับถือเขาเลย

ผู้ที่น่าจะมาเป็นคนช่วยให้มนุษย์พ้นจากบาป น่าจะดูแกร่งเหมือนซุปเปอร์แมน  แต่พระเจ้าไม่ได้ส่งผู้ช่วยแบบนั้นมา   ที่เขาถูกดูหมิ่นนั้น เพราะคนมองว่า เขาไร้ค่า!  และก็แปลกจริง ที่พระนามของพระเยซูเป็นพระนามที่ชาวยิวมากมายเกลียดชัง    ตั้งแต่พระองค์ปรากฏ จนกระทั่งทุกวันนี้  ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเป็นคนที่พระเจ้าทรงเลือก

ใช่แล้ว เขาได้รับแบกความเสียใจของเรา
เขาเอาความโศกเศร้าของเราไป
แต่กระนั้น เราก็คิดว่า เขาหาเรื่องใส่ตัวเอง

jesus-crucified

ภาพจากhttp://www.photoinpixel.com/picture/1024×768/jesus-christ-cross-wallpaper-16517.html

และพระเจ้าก็ทรงลงโทษเขาเพราะตัวของเขาเอง

นี่เป็นความคิดของคนทั่ว ๆ ไปใช่ไหม  ที่ใครคนหนึ่งเป็นทุกข์  ต้องทรมาน ก็เป็นเพราะเขาทำตัวเอง  แต่ในกรณีของพระเยซูกลับไม่ใช่ …. พระองค์มาเอาความบาป ชั่ว ความผิดของเราไปและรับโทษทัณฑ์แทนเราทั้งหมด

แต่ที่จริงแล้ว เพราะการล่วงละเมิดของเรานั่นแหละที่ทำให้เขาถูกแทง

เขาถูกบดขยี้เพราะความชั่วร้ายบาปผิดของเราการลงโทษไปตกอยู่ที่เขา

แทง… บดขยี้ ไม่ใช่คำที่ฟังแล้วสบาย แต่เจ็บปวด เป็นการที่ฝ่ายหนึ่งถูกอีกฝ่ายกระทำทารุณกรรม  … พวกเราลองไตร่ตรองและคิดถึงข้อนี้นาน ๆ  อย่าเพิ่งรีบไป ……. 

พระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังการที่พระบุตรของพระองค์ถูกโบย
พระเจ้าทรงยอมให้เกิดขึ้นกับพระบุตรองค์เดียวของพระองค์

ทรงรู้ ทรงเห็นทั้งสิ้น…. พระเจ้าข้า…ขอบคุณที่พระองค์ทรงยอมทำกับพระบุตรที่รักเยี่ยงนี้  เพื่อให้พวกเราได้พ้นบาป

เพื่อให้เรามีสันติสุข
โดยบาดแผลฟกช้ำของเขา ทำให้เราได้รับการรักษา

21 พฤษภาคม 2013 นักเขียนนิรนาม 1

 แต่ฮามานคิดว่า เป็นการเสียหน้า
ที่จะจับกุมโมรเดคัยคนเดียว
จึงหาช่องทางที่จะทำลายคนยิวทั้งหมด
ทั่วราชอาณาจักรของพระราชา!

ถอดความจาก เอสเธอร์ 3:6

Daily2013_5_21-1

ในสมัยที่ราชาเซอร์เซสปกครองในเปอร์เซียที่เมืองป้อมสุสาอยู่นั้น
มีข้าราชการคนหนึ่ง ชื่อฮามาน  เป็นคนโอหังมาก
มีชาวยิวชื่อโมรเดคัย เป็นยามนั่งเฝ้าประตูราชวัง
ไม่เคยก้มหัว ทำความเคารพเขาสักนิด  ทำให้เขาโกรธจัด
ดังนั้น จึงหาทางกำจัดโมรเดคัยอย่างแนบเนียน
ไปทูลขอให้พระราชา สั่งสังหารชาวยิวทุกคนในเปอร์เซีย
ถึงกับถวายสินบนให้กับพระราชาหน้าตาเฉย

ถ้าเป็นที่พอพระทัยพระราชา
ขอทรงออกกฤษฎีกาให้ทำลายล้างเขาเสีย
ข้าบาทจะถวายเงินอีก 10000 ตะลันต์ให้กับข้าราชการผู้ดุแล
เพื่อเขาจะได้ใส่ในคลังของพระองค์ 

ซึ่งหมายถึงว่า โมรเดคัยก็จะไม่พ้นการล้างฆ่าเผ่าพันธุ์ครั้งนี้

Daily2013_5_21-2

เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเมืองร้อนใจไปตาม ๆ กัน
วันนัดหมายที่จะฆ่าคนยิวนั้นคือวันที่ 13 เดือน 12
เขาสั่งทำลายสังหารทั้งเด็กผู้ใหญ่  ผู้หญิงในวันเดียวกันให้หมด!!

โมรเดคัยเองตกใจมากกับเหตุการณ์นี้  เขาฉีกเสื้อตัวเอง สวมผ้ากระสอบ
โรยขี้เถ้าใส่หัวตัวเอง  ร้องไห้คร่ำครวญเสียงดังกลางเมือง
ไม่ว่ากฤษฎีกาฉบับนี้ไปถึงเมืองไหน
ชาวยิวในเมืองนั้นก็จะอดอาหาร ฉีกเสื้อ สวมผ้ากระสอบร้องไห้เช่นกัน
ความนี้ รู้ไปถึงพระราชินีเอสเธอร์……..

อิสยาห์ 52-3 ผู้รับใช้ที่หมดรูปร่าง

อิสยาห์ 52:13-15

สิ่งที่อิสยาห์กล่าวต่อไปนี้ กล่าวล่วงหน้าก่อนที่พระเยซูจะถูกตรึงหลายร้อยปี

พระองค์ทรงถูกแทงเพราะบาปของเรา

 

ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะทรงปัญญา และเขาจะไปในที่สูง ถูกยกเทิดทูนขึ้น จะได้รับการยกย่องอย่างสูง

อิสยาห์กล่าวถึงผู้รับใช้ของพระเจ้าท่านนี้ เหมือนว่า พระองค์จะถูกตรึง  เป็นขึ้นมา และกลับไปยังสวรรค์ที่ประทับของพระเจ้า…… ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากองค์ผู้รับใช้ที่ทรงปัญญาล้ำเลิศ พระองค์ทรงทำทุกอย่างด้วยความสุขุมพร้อมปัญญา  แม้ยามที่ทรงถูกจับไปตรึงบนไม้กางเขน 

 

วาดโดยเจมส์ ทิสสอท
วาดโดยเจมส์ ทิสสอท

แต่จะมีหลายคนประหลาดใจเพราะเขา…
รูปร่างของเขานั้นเสียรูปไปแล้ว ไม่เหมือนมนุษย์
รูปร่างเสียทรงจนแทบไม่เหมือนลูกหลานของมนุษย์

ผู้รับใช้ท่านนี้ จะต้องเผชิญกับความอับอายเป็นที่สุด   แทนที่จะดูว่าเป็นคนที่แข็งแรง เอาชนะได้ทุกอย่าง กลับกลายเป็นผู้ที่ดูเหมือนเป็นผู้แพ้  พระองค์ทรงผ่านการโบย การตี การทำทารุณหลายประการ จนรูปร่างของพระองค์แทบไม่เป็นผู้เป็นคน   อิสยาห์กำลังบอกล่วงหน้าว่า การทนทุกข์ทรมานของพระองค์นั้น เหลือที่จะทนทาน 

เหล่าประชาชาติทั้งหลายจะตกตะลึง (หรือประพรม) ผงะไป
เหล่ากษัตริย์ทั้งหลายจะต้องนิ่งเพราะเขา
เพราะได้เห็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยเล่าขานให้ฟัง
และสิ่งที่เขาไม่ได้ยินนั้น เขาก็เข้าใจ

บนไม้กางเขน ผู้รับใช้ของพระเจ้ายังคงทำหน้าที่เป็นปุโรหิต ที่เอาเลือดประพรมคนทั้งหลาย ด้วยเลือดและน้ำ เพื่อให้พวกเขาได้สะอาดจากบาป  แต่ในเวลานั้น  บาปของคนทั้งโลกก็มาท่วมโถมอยู่ที่พระองค์ 

20 พฤษภาคม 2013

ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าทรงทอดทิ้งฉัน 
ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ขออย่าทรงอยู่ไกลฉัน”

ถอดความจาก สดุดี 38:21

อิสยาห์ 52-2 เท้าผู้นำข่าวดี

อิสยาห์ 52:7-12

ดูซิบนภูเขาต่าง ๆ นั้น เท้าของคนที่นำข่าวดีมาก็งามจริง ๆ  เขาเป็นคนประกาศสันติสุข  นำข่าวดีแห่งความสุข ข่าวดีเรื่องความรอด  เขากล่าวแก่ศิโยนว่า “พระเจ้าของเจ้าทรงครอบครอง”

ที่อิสยาห์ชมว่า เท้าของผู้สื่อข่าวดีนั้นงามนัก เป็นเพราะเขามาบอกข่าวชั้นยอด  คือสันติสุข  ความสุข ความรอด  ซึ่งถ้าเราหันมามองในปัจจุบัน เราไม่ค่อยจะเจอข่าวดีเท่าไรเลย …. ข่าวดีนี้ เป็นข่าวดีที่สุดในโลก ที่สุดของทุกยุคสมัย 

taongamภาพถ่ายโดย  mcandrea  มารีย์ แคล์ร แอนเดรีย
www.marieclaireandrea.com

ได้ยินเสียงของคนยาม  พวกเขาร้องออกมา และเขาร้องเพลงแห่งความยินดีพร้อม ๆ กัน เพราะเขาได้เห็นกับตาของตัวเองว่า พระเจ้าทรงกลับมายังศิโยน

มาร้องเพลงกัน  เจ้าที่รกร้างแห่งเยรูซาเล็ม
มาเถอะเพราะว่า พระเจ้าได้ทรงปลอบใจคนของพระองค์  พระองค์ทรงไถ่นครเยรูซาเล็ม

ตอนนี้ พวกเขาพากันร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน เพราะว่า แทนที่จะเป็นเชลยต่อไป บัดนี้พวกเขาจะได้เป็นอิสระแล้ว 
พระเจ้าทรงพับแขนเสื้อของพระองค์ ต่อหน้าต่อตาเหล่าประชาชาติ พวกเขาเห็นพระกรอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และคนที่อยู่ไกลไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก ก็ได้เห็นความรอดของพระเจ้า

ทั้งโลกจะได้เห็นความรอดของพระเจ้า เมื่อพระองค์ทรงพับแขนเสื้อ พวกเขาจะได้เห็นอำนาจอันสูงสุดที่พระองค์ทรงทำได้ทุกอย่าง

ออกไป  ออกไปจากที่นั่น  อย่าแตะต้องสิ่งที่ไม่สะอาด
ออกมาจากท่ามกลางพวกเขา และชำระตัวให้สะอาด เจ้าผู้ถือภาชนะอันบริสุทธิ์ของพระเจ้า
เพราะว่า เจ้าจะไม่ต้องออกไปอย่างรีบเร่ง
เจ้าจะไม่ต้องหนีออกไป เพราะว่า พระเจ้าจะทรงนำหน้าเจ้าไป  และพระเจ้าแห่งอิสราเอลจะระวังหลังให้เจ้าด้วย!

เขาจะตอบรับความรอดของพระเจ้าด้วยการมีชีวิตที่บริสุทธิ์ สะอาดไม่แตะต้องสิ่งสกปรกในชีวิตต่อไป 

19 พฤษภาคม 2013 มาทำให้สำเร็จ

อย่าคิดว่า เรามาล้มล้างธรรมบัญญัติต่าง ๆ
รวมไปถึงคำของผู้กล่าวคำพระเจ้า

เราไม่ได้มาล้มล้างแม้แต่น้อย
แต่มาทำให้ทุกข้อสมบูรณ์ทุกประการ

ถอดความจากมัทธิว 5:17

ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท
ภาพวาดโดย เจมส์ ทิสสอท

 

มีพวกฟาริสี ธรรมาจารย์ มองว่า พระเยซูทรงต่อต้านธรรมบัญญัติของพระเจ้า

พวกเขามักแปลพระธรรมของพระเจ้าเบี่ยงเบน  เอาประโยชน์เข้าตัวเอง

พวกเขาทำให้คนที่ยากจน ขัดสน แม่ม่าย ลูกกำพร้าถูกกดขี่มากขึ้นไปอีก

เมื่อพระเยซูมา  พระองค์ทรงทำให้พระคำของพระเจ้าชัดเจน

เป็นพระธรรมที่ยุติธรรม ไม่เห็นแก่หน้าผู้ใด

ฟาริสี ธรรมาจารย์จึงไม่ชอบพระเยซู  และพูดให้คนเข้าใจพระองค์ไปผิด ๆ

อีกอย่าง พระคำของพระเจ้าจากพระคัมภีร์เดิมมีมากมายที่ต้องมาสำเร็จด้วยพระเยซู

อิสยาห์ 52-1

อิสยาห์ 52:1-6

โอ ศิโยนเอ๋ย จงตื่นเถิด  ตื่นขึ้นเถอะนะ  จงรวบรวมกำลัง
โอ เยรูซาเล็ม นครที่บริสุทธิ์  จงสวมเสื้อผ้าอันงดงามของเจ้า

เพราะว่า ผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัต และผู้ที่ไม่สะอาด จะไม่มาหาเจ้าอีกต่อไป 

พระเจ้าทรงเรียกคนของพระองค์ออกจากอาการเมา  ให้สวมเสื้อแ่ห่งศักดิ์ศรี  เพราะว่า คนที่เป็นศัตรูจะไม่มาทำลายพวกเขาได้อีกต่อไป  

โอ เยรูซาเล็มเอ๋ย  จงสลัดฝุ่นผงออกจากตัวเจ้า  ลุกขึ้น และก็นั่งลง

โอ ลูกสาวของศิโยนที่เป็นเชลย  จงแกะตัวเจ้าออกจากปลอกคอของเจ้า

เพราะพระเจ้าตรัสว่า “เจ้าถูกขายโดยไม่ได้อะไรเลย  และเจ้าจะได้รับการไถ่โดยไม่ต้องใช้เงิน”

คนอิสราเอลกลายไปเป็นทาสในต่างประเทศ    ทำงานโดยไม่ได้อะไรตอบแทน

เพราะพระเจ้าตรัสด้งนี้ว่า ” ตอนแรก  คนของเราได้ลงไปในอียิปต์เพื่อพักอาศัยอยู่ที่นั่น  และอัสซีเรียก็ได้กดขี่เขาเปล่า ๆ

“ดังนั้น บัดนี้ สิ่งที่เรามีตรงนี้ ” พระเจ้าทรงประกาศ ” เห็นแล้วว่า คนของเราถูกจับไปเป็นเชลยเปล่า ๆ  ผู้ที่ปกครองพวกเขาก็ร้องโหยหวน”

ถกจับไปเป็นเชลยในบาบิโลน
ถกจับไปเป็นเชลยในบาบิโลน

“และพวกเขาหยามเหยียดนามของเราทั้งวันไม่หยุดหย่อน ดังนั้น คนของเราจะรู้จักชื่อของเรา

ดังนั้นในวันนั้น พวกเขาจะรู้ว่า เราเป็นผู้ตรัส และเราก็อยู่ตรงนี้!”

ตราบใดที่อิสราเอลเป็นเชลย  คนที่ปกครองพวกเขาก็จะดูหมิ่นเหยียดหยามพวกเขา และพระเจ้าของพวกเขาไม่ล้มเลิก   พระเจ้าจึงทรงไถ่พวกเขาเพื่อเห็นแก่พระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์  เพื่อพิสูจน์ว่า พระองค์นั้น ทรงเป็นจริง ทรงซื่อตรงต่อพวกเขา ทรงฤทธิ์อำนาจสูงสุด  

ในวันของพระเจ้า เขาจะรู้ว่า พระองค์นี่แหละที่ตรัสว่า เราเป็นซึ่งเราเป็น

 

 

18 พฤษภาคม 2013 สว่างเจิดจ้า

จงให้ความสว่างของเธอส่องเจิดจ้าต่อหน้าคนทั้งหลาย

เพื่อเขาจะได้เห็นการดีของเธอ

และสรรเสริญองค์พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ 

ถอดความจาก มัทธิว 5:16

ภาพถ่ายโดยคุณ susiewrites
ภาพถ่ายโดยคุณ susiewrites

ความสว่างนั้น มีหลายระดับ … สว่างที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่ เจิดจ้ายิ่งกว่าสิ่งใด

แต่พระเจ้าทรงให้เราเป็นแสงสว่างด้วย

สว่างนั้น ต้องมีต้นตอมาจากพระองค์ จึงจะเป็นความสว่างสมบูรณ์แบบ

ไม่มีวันหมด … และประโยชน์ก็มากมายเกินคนเดียวจะเล่าได้

ความดีนั้น ต้องมีต้นตอมาจากพระเยซูคริสต์ จึงจะเป็นความดีสมบูรณ์แบบเช่นกัน

 

 

 

อิสยาห์ 51-5

อิสยาห์ 51:17-22

โอเยรูซาเล็ม  ตื่นขึ้น  ปลุกตัวเอง  ยืนขึ้นเถิด  เจ้าเมาไปแล้วเพราะสิ่งที่พระเจ้าทรงยื่นให้ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง   ถ้วยแห่งพระพิโรธของพระองค์
เจ้าได้ดื่มจนหยดสุดท้าย  เจ้าเดินโซไปเซมา สะเปะสะปะ

ไม่มีใครเลยที่จะพาเจ้าไป แม้จากคนที่เป็นเพื่อน และลูก ๆ ที่เจ้าเกิดพวกเขามา   ไม่มีลูกชายคนไหนที่เธอเลี้ยงดู มาจูงมือเธอเลย

อิสราเอลต้องเจอกับพระพิโรธของพระเจ้า  พวกเขาต้องตกไปเป็นเชลยโดยไม่มีใครช่่วย  แต่พระเจ้าทรงบอกว่า มันจะมีวันจบลง

มีสองอย่างที่เกิดขึ้นกับเจ้า แล้วใครจะปลอบใจเจ้า?
เจ้าถูกทำลายล้าง พินาศ มีทั้งการกันดารอาหาร และดาบสังหาร  ใครจะเป็นคนที่ปลอบโยนเจ้า?

สองอย่างคือ พวกเขาถูกทำลายทรัพย์สิน บ้านเรือน เมือง และยังสูญเสียชีวิตคนด้วย

ลูกชายของเจ้าสลบเหมือน พวกเขาล้มลงอยู่หัวถนน

ราวกับละมั่งติดกับตาข่าย

lamung

ดื่มความโกรธของพระเจ้าจนล้มลง

ผู้คนไม่สามารถช่วยตัวเองได้  ต่างหมดแรง ล้มลง ไม่อาจสู้กับศัตรูได้

ฉะนั้น จงฟัง  เจ้าคนที่กำลังทรมาน  เจ้าเมา แต่ไม่ใช่เพราะเหล้าองุ่น  ดังนั้น พระเจ้าของเจ้า  องค์พระเจ้า พระเจ้าผู้ปกป้องคนของพระองค์  ตรัสว่า

“ดูเถอะ  เราได้เอาถ้วยที่ทำให้เจ้าเดินสะเปะสะปะออกไปจากมือของเจ้า  เจ้าจะไม่ต้องดื่มจากถ้วยของความโกรธของเราอีกต่อไป  และเราจะเอาถ้วยนั้นใส่ในมือของคนที่กดขี่ทรมานเจ้า  คนที่ให้เจ้านอนลงติดดิน เพื่อจะได้เดินย่ำบนตัวเจ้าเหมือนเดินบนถนน”

คำสุดท้ายของพระเจ้านี่น่าสนใจจริง ๆ  ….. ความรักของพระเจ้าดำรงเป็นนิตย์….

17 พฤษภาคม 2013 ข้าราชการนักเขียน 2

ให้พวกเรามาช่วยกันสร้างกำแพงเยรูซาเล็มใหม่เถอะ
เราจะไม่ต้องอับอายขายหน้าใคร ๆ อีกต่อไป

ถอดความจากเนหะมีย์ 2:17

Daily2013_5_17-1

เนหะมีห์เดินทางจากบาบิโลน กลับมาทางตะวันตกจนถึงนครเยรูซาเล็ม

มันไม่ได้เป็นนครที่มีคนมากมาย มีตลาดร้านค้า มีพระวิหาร มีราชวังอีกต่อไป

แต่กลายเป็นที่มีแต่ซากปรักหักพัง

ไม่มีกำแพงเมืองเหลืออยู่  ไม่มีความรุ่งเรืองให้เห็นสักนิด

เนหะมีห์เห็นเช่นนั้น  เขายิ่งเสียใจ  แต่เขาตั้งใจว่า จะไม่ให้เมืองเป็นที่ครหา น่าอับอายอีกต่อไป

เขาขอให้พระเจ้าทำงานสำเร็จ

Daily2013_5_17-2

แล้วเขาก็สำรวจทุกอย่างกลางคืน   เขารู้ว่า มีศัตรูไม่ต้องการให้เขาทำกำแพงสำเร็จ

คืนแรก ๆ ที่มาถึง อยู่กับการสำรวจและวางแผนว่าจะทำอย่างไร

ในที่สุดก็จัดคน  จัดหน้าที่อย่างเรียบร้อย

ทุกคนเริ่มต้นทำงาน  น้ำหนึ่งใจเดียวกัน

มุ่งมั่นให้งานสำเร็จ  มีคนทำงาน คนเฝ้ายาม คนทำอาหาร ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มใจ

เนหะมีห์ก็ได้บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้เราได้อ่าน

เป็นตัวอย่างของเหล่าคนที่มุ่งมั่นไม่ปล่อย…วางใจพระเจ้าจนสุดใจ

 

อิสยาห์ 51-4

อิสยาห์ 51:12-16
เรา เราคือผู้ที่ปลอบใจเจ้า   เจ้าเป็นใคร ทำไมเจ้าจึงต้องกลัวมนุษย์ที่ตายได้ กลัวคนที่ถูกสร้างขึ้นมาเหมือน ๆ กับต้นหญ้า
เจ้าลืมพระเจ้าของเจ้า  ลืมพระองค์ผู้ทรงสร้างเจ้า

พระเจ้าทรงบอกว่า พระองค์คือผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่   พวกเขาจึงไม่ควรกลัว  อย่างไรเสีย มนุษย์เหล่านี้ก็จะตายจากไป
และพระองค์ยังทรงเป็นผู้ปลอบใจเขาด้วย  มันน่าแปลกที่พระเจ้าทรงสั่งให้เขาไม่กลัว
ทรราชย์อยู่ต่อหน้าพวกเขา ….
แต่เมื่อไรที่คนกลัวคน  ความเกรงกลัวพระเจ้าก็อาจหายไปได้เช่นกัน 

พระองค์ผู้ทรงกางท้องฟ้าออก และวางรากฐานแผ่นดินโลก

fahdin

 

และเจ้ากลัวความเกรี้ยวกราดของคนที่ข่มเหงเจ้าทุก ๆ วัน  เมื่อเขาตั้งต้นที่จะทำลาย

แล้วตอนนี้ ความโกรธของคนที่ข่มเหงเจ้าอยู่ที่ไหน?

คนที่เป็นเหยื่อจะได้รับการปล่อยอย่างรวดเร็ว เขาจะไม่ตาย

ไม่ต้องตกลงไปในบ่อลึก  เขาจะไม่ต้องหิวอีก เพราะว่า เราเป็นพระเจ้า   พระเจ้าของเจ้า
เราเป็นผู้กวนน้ำทะเลจนคลื่นใหญ่เกิดขึ้น

พระนามของพระองค์คือ พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

และเราได้ใส่คำของเราไว้ในปากของเจ้า เจ้าจะรู้ว่าควรจะพูดอย่างไร

เราได้ปกป้องเจ้าไว้ใต้เงามือของเรา
แม้กระทั่งตอนที่เรากางฟ้าสวรรค์ออก

ตอนที่เราวางรากฐานของแผ่นดิน และกล่าวกับศิโยนว่า “เจ้าเป็นคนของเรา”

16 พฤษภาคม 2013 ข้าราชการนักเขียน

 คนที่รอดจากการเป็นเชลยและกลับไปยังเยรูซาเล็มนั้น
พบความลำบากและต้องอับอายมาก
กำแพงนครเยรูซาเล็มปรักหักพัง
ประตูเมืองก็ถูกเผา…

ถอดความจากเนหะมีย์ 1:3

 

Daily2013_5_16-2

เนหะมีห์ รับราชการ เป็นผู้เชิญจอกเสวยของพระราชาอารทาเซอร์ซีส
เป็นชาวยิวที่ตกเป็นเชลยของบาบิโลน…

ก่อนหน้านี้ เศรุบบาเบลพาเชลยจากบาบิโลนกลับมาเมื่อปี  538 ก่อนคริสตศักราช

ท่านเอสรา ก็ได้นำพวกที่สองกลับมาสร้างพระวิหารในปี   458 ก่อนคริสตศักราช

แต่ข่าวที่เนหะมีห์ ข้าราชการคนสนิทของพระราชาได้รับคือ

คนที่ไปอยู่นั้นลำบากมาก กำแพงเมืองประตูเมืองเสียหาย

พวกเขาตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ  ….

เมื่อข่าวร้ายขนาดนี้ เนหะมีห์ไม่ได้อยู่เฉย  ท่านกลับที่พัก อธิษฐาน อดอาหาร ร้องไห้ต่อพระเจ้า

ไม่ได้อธิษฐานแค่ชั่วโมงเดียว  วันเดียว แต่.. เขาร้องไห้โศกเศร้าอยู่หลายวัน

Daily2013_5_16-1ลังจากนั้น ก็ไปทำงานตามปกติ   แต่หน้าตาของเนหะมีห์ดูเศร้าหมอง

ไม่เบิกบาน สุขุมเหมือนที่พระราชาเคยเห็น

จึงทรงถามสารทุกข์สุกดิบของเนหะมีห์

พระองค์ทรงหนักพระทัยมาก  เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“เจ้าต้องการจะทำอะไร เนหะมีห์  บอกข้ามาเถิด…”

นี่เป็นคำตรัสที่เปิดโอกาสให้เนหะมีห์ทูลขอกลับไปยังบ้านเมืองเพื่อสร้างกำแพง

และพระราชาก็ทรงอนุญาตเปิดโอกาส  เปิดทาง ให้ความสะดวกทุกอย่าง

เหตุใดพระราชาจึงเมตตาเชลยของพระองค์ขนาดนี้?

มหัศจรรย์  !

 

 

อิสยาห์ 51-3

อิสยาห์ 51:9-11

ข้อความตอนนี้  อิสราเอลเรียกร้องหาพระเจ้า พระองค์ทรงทำการอัศจรรย์ให้กับเขาในอดีต  บัดนี้ เขาขอให้มีการอัศจรรย์แบบนั้นด้วย

ตื่นเถิด จงตืนขึ้นเถิด  รวบรวมกำลัง  โอ พระกรของพระเจ้า

โปรดตื่นขึ้นเมื่อวันในอดีต

เหมือนอย่างที่ทรงทำให้กับคนโบราณ

ไม่ใช่พระองค์หรือที่ทรงฟันราหับเป็นท่อน ๆ?
พระองค์ทรงแทงเจ้ามังกรมิใช่หรือ?

ราหับและมังกร เป็นคำอ้างถึงสิ่งที่ลี้ลับในโลกตะวันออกกลางโบราณ   อิสยาห์กำลังบอกว่า พระเจ้าทรงมีชัยเหนือพระ และเทวรูปต่าง ๆ ที่คนเชื่อถือกัน

ไม่ใช่พระองค์หรือที่ทรงทำให้ทะเลแห้งเหือด  น้ำทะเลในที่ลึกมาก?

ไม่ใช่พระองค์หรือที่ทรงทำทางในทะเลให้คนที่พระองค์ทรงไถ่นั้นได้เดินผ่านไป?

moses_parting_the_red_sea

อิสยาห์บอกเสมอถึงการที่พระเจ้าถางทาง ทำทางให้คนของพระองค์ เพื่อให้พวกเขาเดินไปรับพระพร

คนที่พระเจ้าทรงซื้อไถ่มาแล้วนั้นกลับคืนมา
และกลับมายังศิโยนพร้อมกับร้องเพลงมาด้วย
ความชื่นบานนิรันดร์จะเป็นดั่งมงกุฎสวมหัวของเขา
พวกเขาจะได้รับความยินดี และชื่นบาน
ความทุกข์และการถอนหายใจจะหนีไปจากเขา

พระพรของพระเจ้าคือ พวกเขาจะได้กลับมายังศิโยนด้วยความเบิกบาน

15 พฤษภาคม 2013 ปุโรหิตนักเขียน2

เจ้าจงพูดกับเขาว่า .. พระเจ้าตรัสดังนี้.. เขาจะฟังหรือไม่ฟังก็ตาม

เขาจะได้รับรู้ว่า มีผู้กล่าวคำของพระเจ้าในหมู่พวกเขาแล้ว 

ถอดความจาก เอเสเคียล 2:5

Daily2013_5_15-1

พระเจ้าทรงตักเตือนคนอิสราเอลผ่านปากของเอเสเคียล

เขาต้องพูดกับคนที่พระเจ้าตรัสว่า เป็นคนมักกบฏ และดื้อด้าน

การไปพูดให้คนที่ไม่อยากเชื่อฟังนั้น มันเหมือนเป็นการกระทำที่แพ้กับแพ้

แต่เมื่อพระเจ้าบัญชา  เอเสเคียลก็ไม่ขัดขืน
Daily2013_5_15-2

พระเจ้าตรัสกับเราผ่านพระคัมภีร์   ผ่านคนที่พระองค์ทรงใช้

บางครั้งผ่านคุณพ่อ คุณแม่ หรือพี่น้อง

เราฟังเสียงของพระองค์   หรือว่าดื้อดึงต่อคำของพระองค์

ลองสังเกตตัวเองดู

อิสยาห์ 51-2

ภาพถ่ายโดย John Watson โดย Creative Commons
ภาพถ่ายโดย John Watson โดย Creative Commons

อิสยาห์ 51:6-8

พระเ้จ้าทรงบอกเราล่วงหน้าว่า วันหนึ่งฟ้าสวรรค์ จะไม่มีอีกต่อไป  …  เปโตรเองได้เขียนไว้ด้วยว่า
เมื่อวันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึง  วันนั้น ท้องฟ้าจะหมดไปด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง

และโลกนี้จะสลายไปด้วยไฟ
แผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งในโลกจะไหม้ทั้งหมด

จงเงยหน้ามองที่สวรรค์ และมองที่แผ่นดินเบื้องล่างเพราะว่าฟ้าสวรรค์จะเลือนหายไปเหมือนกับควัน

และแผ่นดินจะเก่าไปเหมือนกับเสื้อผ้า

คนที่อยู่ในนั้นจะตายไปเหมือนแมลง
แต่ความรอดจากเรานั้นจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
ความชอบธรรมของเราจะไม่มีวันหายไป

“จงฟังเรา คนที่รู้จักความดี ความชั่ว
คนที่หัวใจเต็มด้วยบทบัญญัติของเรา
อย่ากลัวการที่มนุษย์เข้ามาดูหมิ่น
อย่ารู้สึกละอายกับคำพูดให้ร้ายของพวกเขา
เพราะว่า มอดจะกินพวกเขาเหมือนกินเสื้อ
และหนอนจะกินเขาเหมือนกับผ้าขนสัตว์
แต่ความชอบธรรมของเราจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
และความรอดของเรามีสำหรับคนทุกรุ่น

แต่คนที่วางใจในพระเจ้าจะมีความหวังที่จะได้รอดพ้น และอยู่กับพระเจ้าตลอดไป!

14 พฤษภาคม 2013 ปุโรหิตนักเขียน

พระดำรัสของพระเจ้ามายังเอเสเคียล ปุโรหิต
บุตรบุซี ในแผ่นดินเคลเดีย  ริมแม่น้ำเคบาร์
ณ ที่นั่น พระหัตถ์ของพระเจ้ามาอยู่เหนือท่าน

ถอดความจากเอเสเคียล 1:3

 

Daily2013_5_14-1
เมื่อชาวยูดาห์ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในบาบิโลน
เอเสเคียลก็อยู่ในคนกลุ่มนั้นด้วย  ดานิเอล และเพื่อน ๆ ก็เช่นกัน
เอเสเคียลเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้ารุ่นเดียวกับเยเรมีห์ และดาเนียล

ถึงแม้พวกเขาไปอยู่ต่างแดน แต่พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งคนของพระองค์เลย
พระองค์ยังทรงใช้บางคนให้กล่าวคำของพระองค์เพื่อให้กำลังใจเชลยเหล่านั้น

 

Daily2013_5_14-2

 

วันที่พระเจ้าทรงเรียกเอเสเคียลให้รับใช้พระองค์นั้น  เขาอยู่ริมแม่น้ำ

มีพายุมาจากทางเหนือ  มีเมฆก้อนใหญ่ที่สว่าง มีไฟลุกวาบขึ้นมาด้วย  ….

เอเสเคียลได้เห็นสัตว์ประหลาดที่น่าตาแปลกมาก

มันเหาะได้  และ… วันนั้นเขาก็เห็นพระสิริของพระเจ้า

พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “ลูกชายของมนุษย์เอ๋ย  จงยืนขึ้น เราจะพูดกับเจ้า”

และวันนั้นเองพระองค์ก็ทรงส่งให้เขาไปตักเตือนพวกเขา

ไม่ว่าจะฟังหรือไม่  เอเสเคียลก็ต้องพูดเตือนสติไม่หยุด

อิสยาห์ 51-1

อิสยาห์ 51:1-5
จงฟังเรา เจ้าผู้ติดตามความชอบธรรม เจ้าผู้แสวงหาพระเจ้า
จงมองดูศิลาที่พระเจ้าทรงสกัดเจ้าออกมา จงมองดูบ่อหินที่เจ้าถูกขุดขึ้นมา
จงมองดูอับราฮัมบรรพบุรุษของเจ้า และมองดูซาราห์ที่ได้ให้กำเนิดเจ้ามา
เมื่อเราได้ร้องเรียกเขาเมื่อมีเขาเพียงคนเดียวเพื่อว่าเราจะได้อวยพรและทวีเขาขึ้น

absah

ให้คนของพระเจ้าหันกลับไปดูพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่ออับราฮัมว่า  มันเป็นความจริงเพียงไร

เพราะว่าพระเจ้าทรงปลอบใจศิโยน พระองค์ทรงปลอบใจที่ร้างทั้งหมดของเธอ
และทำให้ถิ่นกันดารกลายเป็นเหมือนสวนเอเดน
ทะเลทรายกลายเป็นเหมือนพระอุทยานของพระเจ้า
จะได้พบความยินดี ความชื่นชมในตัวของเธอ
รวมไปถึงคำโมทนาพระคุณและเสียงร้องเพลง

พระเจ้าทรงสัญญาจะเปลี่ยนแปลงสิ่งร้ายกลายเป็นดี จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องเพลงแห่งความชื่นบาน 

 

“ประชาชนของเราเอ๋ย จงสนใจคำของเรา
ชาติของเราเอ๋ย จงฟังคำของเรา 

เพราะว่า พระบัญญัติจะออกมาจากเรา
และเราจะวางความยุติธรรมของเราให้เป็นแสงสว่างแก่คนของคนทั้งหลาย
ความชอบธรรมของเรามาใกล้แล้ว
ความรอดของเราออกมาแล้ว และเราจะปกครองคนของเราด้วยแขนของเรา
เหล่าดินแดนชายทะเลจงหวังใจในเรา พวกเขาจงรอคอยพลังจากแขนของเรา….

13 พฤษภาคม 2013 ไม่มีใครนอกจากพระเยซู

 พระเยซูผู้ทรงเป็นพยานที่สัตย์ซื่อ
ทรงเป็นผู้แรกที่ฟื้นจากตาย
และผู้ทรงครอบครองกษัตริย์ทั้งปวงในโลก

ถอดความจาก วิวรณ์ 1:5

 

 

 

 

เพลงชุดนี้ คำไม่ยาก ยากที่จังหวะ และทำนองครับ

Who’s the one who is here today
Leadin’ everybody to the heavenly way?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
Now who’s the one really knows my mind?
Knows the many complicated problems I find?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody,
No one but
Chorus:
Jesus
Jesus, Jesus, Jesus, Jesus
Jesus
Who’s the one is who is on the throne
Every living creature will His glory be shown?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody
No one but
Jesus
Jesus, Jesus, Jesus, Jesus
Jesus
No, no, no, no nobody
No, no, no, nobody like Him
No, no, no, no nobody
No, no, no, no nobody
No, no, no, no nobody
No, no, no, nobody like Him
No one like Jesus
Who’s the one who has walked the earth
Showing everybody what the spirit is worth?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
Though He lived in the distant past
Everything He taught us through the Bible will last
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody
No one but
Chorus
Bridge:
Who’s the one who’s here today
Leadin’ everybody to the heavenly way?
I say no, nobody
Nobody, nobody
Nobody, nobody, no, no
No one, none else, nobody
No, no, no, no
Jesus