16 เมษายน 2013 อิสยาห์เห็นพระเจ้า

บริสุทธิ์  บริสุทธิ์   บริสุทธิ์  คือพระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพ

ทั้งแผ่นดินเต็มด้วยพระสิริของพระองค์ 

ถอดความจาก อิสยาห์ 6:3

Daily2013_4_16_1
อิสยาห์ เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกให้มากล่าวคำของพระองค์ในหลายรัชกาล

ช่วงเวลานั้น ราชาอุสซิยาห์สิ้นพระชนม์

เขาได้เข้าไปในพระวิหารของพระเจ้า

น่าแปลกที่สุด สิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่ที่รู้จักพระเจ้ามา ก็ปรากฏให้เขาเห็น

เขาเห็นพระเจ้าประทับบนพระที่นั่ง สูง และเทิดทูนและชายฉลองพระองค์ก็เต็มพระวิหาร

เสราฟิม ยืนอยู่ และร้องสรรเสริญว่า พระเจ้าทรงบริสุทธิ์

เขาคนนี้เป็นผู้เขียนหนังสืออิสยาห์ที่เรากำลังอ่านประจำวันอยู่

เพื่อน ๆ พอจะนึกออกไหมว่า

เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น  เขารู้สึกอย่างไรกับตัวเอง?

อิสยาห์ 43-1

พระเจ้าองค์เดียวของอิสราเอล
อิสยาห์ 43:1-7
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ผู้ทรงสร้างเจ้ามา โอยาโคบ พระองค์ผู้ทรงปั้นเจ้า พระองค์ตรัสว่า “อย่ากลัวไป เพราะว่า เราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา

เมื่อเจ้าต้องลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อเจ้าข้ามแม่น้ำ มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ เปลวไฟจะไม่ลามเผาเจ้า
back

เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เป็นองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล เป็นพระผู้ช่วยเจ้าให้รอด เราให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ของเจ้า คูช และเศบา เพื่อแลกเปลี่ยนเอาเจ้ามา
เพราะว่าเจ้ามีค่าในสายตาของเรา และมีเกียรติด้วย และเรารักเจ้า เราได้ให้คนอื่นไปเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า
ดูซิ พระเจ้าทรงรักอิสราเอลมาก จนพระองค์ได้ยอมแลกคนอื่น ๆ เพื่อได้เข้ากลับคืนมา! อิสราเอลรู้ไหมนี่?

ดังนั้น อย่ากลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากตะวันออก และจากตะวันตก เราจะรวบรวมพวกเจ้ามา เราจะพูดกับทางเหนือว่า ปล่อยคนของเรา พูดกับทางใต้ว่า อย่ายึดเหนี่ยวพวกเขาไว้ จงนำลูกชายของเรากลับมาจากที่ไกล นำลูกสาวของเรามาจากสุดปลายแผ่นดินโลก
ทุกคนที่ถูกเรียกตามชื่อของเรา คนที่เราได้สร้างขึ้นเพื่อศักดิ์ศรีของเรา คนที่เราได้ปั้นและสร้างขึ้นมา

15 เมษายน 2013

แต่คนที่รอคอยพระเจ้าจะรับกำลังใหม่

พวกเขาจะก้าวขึ้นมาพร้อมกับปีกดั่งอินทรี

พวกเขาจะวิ่ง และไม่อ่อนแรง

พวกเขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง

อิสยาห์ 40:31

อิสยาห์ 42-5

อิสราเอลไม่ได้ยินและไม่เห็น!

อิสยาห์ 42:18-25

จงฟัง เจ้าคนหูหนวก  จงดู เจ้าคนตาบอด เพื่อเจ้าจะได้เห็น!
ใครละที่ตาบอด …ก็เจ้าคนรับใช้ของเรานะซิ?
ใครล่ะที่หูหนวกเหมือนกับผู้สื่อสารที่เราส่งไป?
ใครที่ตาบอดหมือนกับคนที่เราอุตส่าห์ไว้ใจส่งไป?
ใครที่มองไม่เห็นอะไรเหมือนอย่างคนของเรา?

เขาเห็นอะไรตั้งหลายอย่าง แต่ไม่เคยสังเกตอะไร
หูของเขาก็เหมือนฟังอยู่  แต่เขากลับไม่ได้ยิน
พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะให้ความสำคัญแก่พระธรรมของพระองค์  และทำให้มันยิ่งใหญ่ มีเกียรติ เพราะเห็นแก่ความชอบธรรมของพระองค์
แต่นี่กลับกลายเป็นชนชาติที่ถูกปล้น ถูกขโมยไป  พวกเขาต่างติดกับอยู่ในรูและซ่อนอยู่ในที่จองจำ  พวกเขากลายเป็นเหยื่อซึ่งไม่มีใครช่วยได้  เป็นของริบมาที่ไม่มีใครกล่าวว่า “เอากลับคืน!”

เด็กที่ถูกจำจองในค่ายกักกันเอาชวิตซ์
เด็กที่ถูกจำจองในค่ายกักกันเอาชวิตซ์

จะมีใครในพวกเจ้าที่ฟังเรื่องนี้  และจะตั้งใจฟังเรื่องราวของอนาคตที่จะมาถึง?
ใครยกยาโคบให้แก่คนที่มาปล้น ใครยกอิสราเอลให้กับโจร?
ไม่ใช่องค์พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือที่ทรงทำเช่นนั้น?  เราทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์  เราไม่ยอมเดินในหนทางของพระองค์  และไม่ยอมเชื่อฟังบัญญัติของพระองค์ด้วย
ดังนั้น พระองค์จึงเทความโกรธกริ้วของพระองค์มาบนเขาและทรงเทอานุภาพในการสงคราม  มันทำให้เขามีไฟติดลุกรอบด้าน แต่เขาก็ไม่เข้าใจ มันใหม้ลามเลียเขา  แต่เขาก็ยังไม่เอาใจใส่เลย

 

ทั้ง ๆ ที่เป็นคนของพระเจ้า  แต่พวกเขาตั้งใจจะมองไม่เห็น จะไม่ฟังเสียงของพระเจ้าใช่ไหม?    มีคนในโลกนี้ ทั้งที่เป็นคนของพระเจ้าแต่พวกเขาก็ยังไม่ใส่ใจคำของพระองค์  นี่มันน่ากลัวมากเลย 

พระเจ้าทรงเตือนแล้วเตือนเล่า ที่พวกเขาควรจะทำสิ่งที่ถูกต้อง

พระเจ้าทรงเตือนดี ๆ  และทรงเตือนด้วยไม้เรียวที่รุนแรง  ถึงอย่างนั้นพวกเขายังไม่ใส่ใจ   ลูกหลานของพวกเขาต้องรับสิ่งที่น่ากลัวเพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้ามาตั้งแต่ต้น ….

ไม่ว่าพระเจ้าจะทรงเตือนเราอย่างไร  อย่าลืม…. เอาใจใส่คำเตือนของพระองค์   

ลองดูเหตุการณ์ที่น่ากลัวอันนี้ ….. แม้ถึงกระนั้นจนพวกเขาได้ประเทศอิสราเอลมา  คนอิสราเอลส่วนใหญ่ก็ยังไม่ฟังเสียงของพระเจ้าเลย

14 เมษายน 2013 คนหิวได้อิ่ม

ความสุขเป็นของคนที่หิวกระหายความชอบธรรม

เพราะว่า พระเจ้าจะทรงให้เขาอิ่มเต็มที่

ถอดความจาก มัทธิว 5:6

REUTERS/Parth Sanyal ภาพจาก http://odomspeak.wordpress.com/
REUTERS/Parth Sanyal ภาพจาก http://odomspeak.wordpress.com/

เมื่อคนที่อยู่ในพระเจ้าได้สัมผัสชีวิตอ่อนโยน ที่ทำให้เขายินดีเสมอนั้น

สิ่งต่อไปที่จะพบคือ เขาหิว   หิวหาพระเจ้า อยากพบพระองค์

การหิวความชอบธรรม เป็นเหมือนหิวความรอดพ้น

หิวความจริง ความถูกต้องของพระเจ้า

อยากอ่านพระคำของพระองค์  และพระคำของพระองค์เป็นเหมือนอาหารที่ทำให้อิ่ม

ยิ่งหิว ยิ่งหา ยิ่งดื่มด่ำกับพระวจนะของพระเจ้า

เขาก็จะอิ่มบริบูรณ์

อิสยาห์ 42-4

อิสยาห์ 42: 14-17

นานมาแล้วที่เรานิ่งอยู่ เรานิ่งเงียบและสะกดใจเอาไว้

แต่ตอนนี้เราจะร้องออกมาเหมือนกับหญิงที่กำลังคลอดบุตร

เราจะหายใจถี่ ๆ เราจะหอบ

เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาทั้งหลาย และจะทำให้พืชที่ขึ้นนั้นเหี่ยวเฉาไป
เราจะทำให้แม่น้ำกลายเป็นเกาะ และทำให้สระทั้งหลายแห้งไป

เราจะนำคนตาบอดไปตามทางที่พวกเขาไม่รู้จัก  พาไปตามทางที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
เราจะนำพวกเขา และจะทำให้ความมืดต่อหน้าเขากลายเป็นสว่าง

darktolight
ทางที่ขรุขระจะกลายเป็นทางเรียบ
นี่เป็นสิ่งที่เราทำ และเราไม่ทอดทิ้งพวกเขา

 คนที่วางใจในรูปสลัก  คนที่กล่าวกับรูปโลหะว่า “ท่านเป็นพระของเรา”  จะต้องหันกลับและละอายเป็นที่สุด

พระเจ้าตรัสเองว่าพระองค์ทรงนิ่งเงียบอยู่  แต่วันหนึ่งพระองค์จะทรงร้องเสียงดัง คนทั้งโลกจะได้ยินว่า พระองค์ตรัสอะไรบ้าง
ไม่มีอะไรในโลกจะขวางพระองค์ได้   แต่พระองค์จะทรงนำคนของพระองค์ไป  

และเวลานั้นเราจะเห็นความแตกต่างของคนที่วางใจพระเจ้า กับคนที่พึ่งพารูปปั้น

13 เมษายน 2013 คนสุภาพได้มรดก

ความสุขเป็นของคนที่ใจอ่อนโยน

เพราะว่า เขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

ถอดความจาก มัทธิว 5:5

singtoภาพจาก http://www.cherylricker.com

คำสอนบนภูเขาของพระเยซู  มิใช่เป็นบทบัญญัติเป็นข้อ ๆ ที่เราต้องปฏิบัติตาม

แต่หากคนใดได้อยู่ในพระเยซูคริสต์ เขาจะมีชีวิตเช่นนี้

อย่างแรก เขาจะรู้สึกบกพร่องในตัวของเขา

เขาจะรู้สึกเศร้าใจกับชีวิตที่ไม่ได้เป็นอย่างที่พระเจ้าต้องการ

อย่างที่สาม ตามมาก็คือ

เขาจะสุภาพ อ่อนโยน ถ่อมตน ไม่ดึงดัน ไม่คิดว่า ตัวเองเก่งยอดกว่าใคร

เขาจะรู้จักตัวเองว่าอยู่ประมาณไหน

ความสุภาพอ่อนโยนเป็นสิ่งตรงข้ามกับ ความดื้อดึง ความเย่อหยิ่ง เจ้าคิดเจ้าแค้น  ความโหดร้าย

คนที่มีใจอ่อนโยน จึงมีความยินดีในทุกสถานการณ์ได้

เขาจึงไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ขี้อิจฉา  แต่เป็นจิตใจที่มีสันติสุข

และนี่เป็นความหมายหนึ่งของการรับแผ่นดินเป็นมรดก

อิสยาห์ 42-3

อิสยาห์ 42:10-13

ร้องเพลงบทใหม่ถวายพระเจ้า

จงร้องเพลงบทใหม่ถวายพระเจ้า
สรรเสริญแด่พระองค์จากที่สุดปลายแผ่นดินโลก
เจ้าคนที่ลงไปยังทะเล และบรรดาสิ่งที่อยู่ในนั้น แผ่นดินชายทะเล และคนที่อยู่ในนั้น
จงให้ทะเลทรายและเมืองต่าง ๆ ในนั้นส่งเสียงขึ้นมา ให้หมู่บ้านที่ชายเคดาร์อาศัยอยู่
จงให้คนที่อยู่ในเส-ลาร้องเพลงด้วยความยินดี ให้เขาตะโกนก้องมาจากยอดเขา
ให้เขาถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า และประกาศสรรเสริญพระองค์ตามแผ่นดินชายทะเล
พระเจ้าเสด็จออกมาดั่งชายที่มีกำลัง

is42

พระองค์ทรงกระตุ้นความกระตือรือร้นขึ้นมาดั่งนักรบ
พระองค์ทรงร้อง ทรงตะโกนเสียงดัง
พระองค์ทรงทำให้เห็นว่า พระองค์ทรงฤทธิ์ต่อหน้าศัตรูของพระองค์

12 เมษายน 2013 นักเขียนหนุ่มน้อย

ไปตามมาระโกมา  และพาเขามาด้วย

เพราะเขาช่วยปรนนิบัติข้าพเจ้าเป็นอย่างดี 

ถอดความจาก  2 ทิโมธี 4:11

Daily2013_4_12

 

ยอห์นมาร์ก  หรือที่เราเรียกภาษาไทยว่า มาระโก    เป็นชายหนุ่มที่รู้อย่างน้อยสองภาษา

คือภาษากรีก และ ภาษาที่ใช้กันทั่วไปในปาเลสไตน์

มาระโกได้บันทึกเรื่องราวของพระเยซูตั้งแต่ที่พระองค์ทรงเริ่มราชกิจ

จนกระทั่งพระองค์สิ้นพระชนม์และเสด็จสู่สวรรค์

เขาไปไหนมาไหนกับเปโตรบ่อย ๆ  ได้เห็นการทำงานของพระเจ้าผ่านคนของพระองค์

เคยไปกับท่านเปาโล และก็ทำให้ท่านไม่พอใจ

แต่ในที่สุดท่านเปาโลก็เปลี่ยนใจ ยอมรับมาระโกเป็นอย่างดี

มาระโกผู้นี้ ก็ได้รับการบันดาลใจจากพระเจ้าให้เขียนบันทึกเรื่องราวของชีวิตพระเยซู

งานเขียนของมาระโกรวดเร็ว ทันใจ ไม่เยิ่นเย้อเลย

คนที่เริ่มสนใจพระเจ้าใหม่ ๆ มักเริ่มต้นอ่านพระธรรมมาระโกก่อนเล่มอื่น ๆ

เพราะเข้าใจง่าย และเห็นภาพที่รวดเร็วเหมือนกับภาพยนต์…..

อิสยาห์ 42-2

อิสยาห์ 42:5-9

องค์พระเจ้าผู้ทรงสร้างสวรรค์ และขึงมันออกมา ผู้ที่ขยายโลกออกไป และสิ่งที่ออกมาจากโลกนั้นด้วย

พระเจ้าผู้ทรงประทานลมหายใจแก่เหล่ามนุษย์ที่อยู่ในโลกนั้น และประทานจิตวิญญาณแก่ผู้ที่เดินในโลก

พระเจ้าองค์นี้ตรัสว่า

“เราเป็นพระเจ้า เราได้เรียกเจ้ามาในความชอบธรรม
เราจะจูงมือเจ้า และรักษาเจ้าไว้

is42blind ภาพจาก http://christianradiokids.blogspot.com

เราจะให้เจ้าเป็นพันธสัญญาสำหรับประชาชนทั้งหลาย
เจ้าจะเป็นแสงสว่างสำหรับประชาชาติ  เพื่อเปิดตาที่บอด  เพื่อนำนักโทษออกมาจากคุกมืด   พาคนที่นั่งอยู่ในความมืดของที่คุมขัง
เราคือพระเจ้า นี่เป็นนามของเรา
เราจะไม่มอบศักดิ์ศรีของเราให้กับใคร ไม่ให้คำสรรเสริญแก่รูปที่ถูกสลักขึ้นมาก

ดูเถิด สิ่งเก่า ๆ ได้ผ่านไปแล้ว  และเรากำลังประกาศสิ่งใหม่  เราได้บอกเรื่องเหล่านี้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”

11 เมษายน 2013 นักเขียนนักวิชาการ

ที่เรากำลังประกาศอยู่ ก็เรื่องพระองค์นั่นแหละ…
เราเตือนสติและสอนทุกคนให้มีสติปัญญา
เพื่อจะได้ถวายทุกคนให้เป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์

ถอดความจาก โคโลสี 1:28

Daily2013_4_11

 

เซาโล  ฟาริสีผู้ปราชญ์เปรื่อง… มั่นใจว่า พระเยซูไม่ใช่พระผู้ช่วยให้รอด

ดังนั้น หากใครเชื่อพระเยซู เขาก็จะพร้อมที่จะจัดการลงโทษคนเหล่านั้น

แต่แล้ววันหนึ่ง เขาพบพระเยซูกลางทางที่จะเดินไปข่มเหงคริสเตียน

การพบกับพระเยซูอย่างมหัศจรรย์ในวันนั้น ทำให้เขารู้ว่า พระเยซูผู้ที่เขาข่มเหงคือพระเจ้าเที่ยงแท้

จากนั้นมา พระเจ้าทรงใช้เขาออกไปประกาศเรื่องของพระองค์

ตามที่ต่าง ๆ  นอกดินแดนอิสราเอล  ทำให้เขาต้องทนทุกข์เป็นอย่างมาก

เพราะถูกจับ จำคุก ถูกเฆี่ยน ถูกโบย… สารพัด

แต่เขาก็ยังมีความสุขที่ได้รับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้

บั้นปลายของเขานั้น…  แม้ถูกเฝ้าไม่ให้คลาดสายตา

ยังคงเขียนจดหมายฝากเตือนคริสตจักรต่าง ๆ ให้ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าอย่างไม่ท้อแท้

อิสยาห์ 42-1

อิสยาห์ 42:1-4

ผู้รับใช้ที่พระเจ้าทรงเลือก

พระคำตอนนี้ ทำให้เราสงสัยไหมว่า ผู้รับใช้ของพระองค์ผู้นี้ คือใครกัน?….

ดูเถิด ผู้รับใช้ของเรา ผู้ที่เรายกขึ้นให้สูง  เขาเป็นผู้ที่เราเลือก จิตใจของเราก็ยินดีเพราะเขา  เราได้ให้วิญญาณของเราเหนือเขา  และเขาจะนำพาให้เกิดความยุติธรรมท่ามกลางประชาชาติ

พระเจ้าทรงเรียกให้ทุกคนได้สนใจบุคคลผู้หนึ่งที่พระเจ้าทรงยกให้สูง  แต่… ทำไมพระเจ้าจึงทรงบอกทั้ง ๆ ที่คนรุ่นอิสยาห์ยังไม่เห็นเลยว่า เขาคือใคร  

อีก กว่าหกร้อยกว่าปีต่อมา พวกเขาจึงรู้ว่า …. บุคคลผู้นั้นคือ พระเยซูคริสต์   พระเยซูเองเปิดอิสยาห์บทนี้   และได้ตรัสถึงพระองค์เองให้ทุกคนได้รู้  แปลกไหม?

IsaiahJesus

เขาจะไม่ร้องเสียงดัง จะไม่เค้นเสียงขึ้นมา หรือทำให้คนตามถนนได้ยิน

พระเยซูจะไม่ทรงส่งเสียงดังเพื่อทำให้คนรู้จักพระองค์  แต่ทรงดำรงพระองค์เองอย่างถ่อมตน อย่างเหลือเชื่อ 

เขาจะไม่หักไม้อ้อที่ช้ำชอก   และเขาจะไม่ดับใส้ตะเกียงที่ริบหรี่

เขาจะนำความยุติธรรมออกไปด้วยความซื่อตรง
เขาจะไม่เหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้ จนกว่าเขาจะได้สถาปนาความเที่ยงตรงบนแผ่นดินโลก  และบรรดาแผ่นดินชายทะเลก็รอคอยบัญญัติของเขา

พระองค์จะทรงนำความเที่ยงตรงออกไปทั่วโลก ไม่เฉพาะกับคนอิสราเอลเท่านั้น

10 เมษายน 2013 นักเขียนชาวประมง

จำเป็นที่เพื่อน ๆ ต้องทุกข์ทนชั่วระยะหนึ่ง ….

เพื่อเป็นการทดสอบความเชื่อที่ดียิ่งกว่าทองคำ

ถอดความจาก 1 เปโตร 1:6-7

Daily2013_4_10

เปโตร เป็นชาวประมงที่พระเยซูทรงเรียกให้เป็นสาวก

เขาตามพระองค์ตั้งแต่วันแรกที่พระองค์ทรงชักชวนเขา  และหลังจากนั้น

เขาก็ได้ประสบกับความมหัศจรรย์มากมายในชีวิต

พระเยซูทรงรักเขา และทรงรู้จักเขายิ่งกว่าที่เขารู้จักตัวเองเสียอีก

เขารักพระเยซูมาก ถวายชีวิตให้พระองค์ได้ เคยปกป้องพระองค์จนไปฟันหูทาสคนหนึ่งขาด

 แต่แล้ว… ไม่นานนักจากการปกป้องพระองค์   เขากลับกล่าวว่า

“ผมไม่รู้จักพระเยซูคนนั้น”   เพียงเขากลัวว่าจะถูกจับไปลงโทษ …..

เปโตรได้เขียนจดหมายฝากไปยังเพื่อน ๆ ที่เชื่อพระเยซู ซึ่งกระจัดกระจายกันอยู่ตามที่ต่าง  ๆ

และจดหมายที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้านั้น

ยังคงอยู่ให้เราอ่านในทุกวันนี้  แม้เวลาจะผ่านมากว่า 2000 ปี!

อิสยาห์ 41-6

อิสยาห์ 41: 25-29

เราได้เร้าให้ผู้หนึ่งมาจากทางเหนือ และเขาก็มาแล้วด้วย จากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เขาจะเรียกชื่อของเรา เขาจะเหยียบย่ำผู้ปกครองเหมือนกับเหยียบลงบนปูนสอ เหมือนกับที่ช่างปั้นนวดดิน


ภาพถ่ายโดยคุณ ราเชน แนร์ จาก http://twicsy.com/i/sQSa9

ภาพถ่ายโดยคุณ ราเชน แนร์ จาก http://twicsy.com/i/sQSa9

ตรงนี้ พระเจ้าได้ทรงบอกให้คนอิสราเอลรู้ล่วงหน้าว่า กษัตริย์ไซรัสจะมาจากทางเหนืออย่างแน่นอน พิสูจน์ ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ที่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังทรงบอกชัดว่า ทรงเป็นผู้เร้าให้ไซรัสเดินทางมาโจมตีอิสราเอล! และเมื่อตอนที่ไซรัสมา พระองค์ก็อ้างพระนามของพระเจ้าแห่งอิสราเอลเสียด้วยว่า ทรงใช้พระองค์มา ทั้ง ๆ ที่พระองค์ไม่ได้เชื่อวางใจในพระเจ้าเที่ยงแท้องค์นี้
นโยบายในการทำการศึกของไซรัส เป็นส่วนที่พระเจ้าทรงใช้เปิดเผยพระองค์เองให้คนโลกโบราณได้รู้จักพระองค์

มีใครที่ได้แจ้งเรื่องราว(ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์)มาตั้งแต่เวลาเบื้องต้น เพื่อจะให้เรารู้ และแจ้งเรื่องมาตั้งแต่ก่อนมันเกิดขึ้น เพื่อเราจะได้พูดว่า “เออ เขาพูดถูกต้องนะ” ? ไม่มีใครเลยที่เคยบอกอะไรมาล่วงหน้า ไม่มีใครเคยประกาศ ไม่มีใครได้ยินคำของเจ้า

แต่เราเอง เป็นผู้แรกที่กล่าวกับศิโยนว่า “ดูเถิด มันเป็นอย่างนี้นะ” และเราเป็นผู้แจ้งข่าวดีแก่เยรูซาเล็ม
แต่เมื่อเรามองมา ก็ไม่มีใครเลย ไม่มีผู้ให้คำปรึกษาท่ามกลางคนเหล่านี้ คนที่จะให้คำตอบได้เมื่อเราถาม
ดูเถิด ทุกอย่างเป็นแต่เรื่องหลอก งานของพวกเขาเป็นสิ่งไร้ความหมาย รูปปั้นโลหะของพวกเขาก็เป็นเพียงลมพัดไปเปล่า ๆ

เป็นอันว่า ชัดเจน… ไม่มีใครบอกอนาคตอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมาได้นอกจากพระเจ้าเที่ยงแท้

9 เมษายน 2013 ผู้เลี้ยงแกะ..นักเขียน

ฉันจะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระเจ้าเป็นนิตย์

และด้วยปากของฉัน

ฉันจะประกาศความซื่อตรงสุจริตของพระเจ้าตลอดทุกชาติพันธุ์ 

 

ถอดความจาก สดุดี 89:1

Daily2013_4_9

คนที่กล่าวคำข้างบนนี้ คือราชาดาวิด กษัตริย์องค์ที่สองของอิสราเอล

เป็นกษัตริย์ที่เขียนคำสดุดีพระเจ้าไว้มากมาย

สามพันกว่าปีมาแล้ว เรื่องราวที่ทรงเขียนไว้ ยังเป็นกำลังใจของเราทุกคน

แต่ราชาดาวิดไม่ได้เขียนจากความรู้สึกของตนเองเท่านั้น

แต่เป็นความรู้สึก พร้อมแรงบันดาลใจ  พร้อมคำอันงามยิ่ง ที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

จากเด็กเลี้ยงแกะ กลายเป็นนักรบ  และเป็นกษัตริย์ที่กล้าหาญ

พร้อมกับความกล้าหาญ ยังเป็นผู้เดียวที่พระเจ้าตรัสว่า

ชายผู้ซึ่งติดตามหัวใจของเรา…..

อิสยาห์ 41-5

อิสยาห์ 41:21-24
ข้อความตอนนี้ เป็นตอนที่พระเจ้าทรงท้าทายประชาชาติทั้งหลายในโลก พระองค์ทรงเรียกให้เขาเข้ามาใกล้เพื่อพิพากษา ว่าประชาชาติเหล่านั้นได้ให้พระที่เป็นรูปปั้นช่วยพวกเขา พระเจ้าจะทรงให้เห็นว่า พวกเขากำลังเชื่ออะไรอยู่ โดยผ่านคำกล่าวของอิสยาห์ พระองค์ทรงให้เขาเห็นว่า พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าเทวรูปของคานาอัน และอัสซีเรีย (ทั้ง ๆ ที่พวกเขากำลังจะเข้ามาโจมตีคนของพระองค์)
พระเจ้าตรัสว่า จงเตรียมคดีของเจ้าให้พร้อม …
องค์ราชาแห่งยาโคบตรัสว่า จงนำข้อพิสูจน์ของเจ้ามา
ให้พวกเขานำมา และบอกเราว่า จะเกิดอะไรขึ้น
จงบอกสิ่งที่เกิดขึ้นมาในอดีต มันคืออะไร เพื่อเราจะได้พิจารณา เพื่อเราจะได้ทราบของผลที่ได้จากเหตุการณ์เหล่านั้น
หรือเจ้าจะประกาศถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
meso_idol
พระเจ้าทรงถามเขาว่า เทวรูปเหล่านั้น สามารถบอกอนาคตได้หรือ ทั้ง ๆ ที่จะเดินไปไหนมาไหนยังไม่ได้… ต้องให้คนช่วยพาไปตามที่ต่าง ๆ ( พวกเขาเชื่อว่า เทวรูปของเขาสามารถบอกเหตุการณ์ในอนาคตได้)
บอกเราว่าอะไรจะเกิดตามมา เพื่อว่าเราจะได้รู้ว่าพวกเจ้าเป็นเหล่าเทพเจ้า
จงทำดี หรือทำร้ายเพื่อว่าเราจะได้หวาดหวั่น ตกใจ
พระเจ้าตรัสให้เทวรูปเหล่านั้น ทำอะไรขึ้นมาสักอย่างเพื่อให้คนได้รู้พลังของมัน

ดูเถิด เจ้าไม่เป็นอะไรเลย งานของเจ้าก็น้อยยิ่งนั้น ไร้ค่า คนที่เลือกให้เจ้าเป็นพระของเขากลายเป็นสิ่งที่น่าชัง

อิสยาห์ 41-4

อิสยาห์ 41:17-20

คนที่ยากจนไร้บ้าน คนที่ขัดสนแสวงหาน้ำ ลิ้นของพวกเขาแห้งผากเพราะความกระหายอย่างยิ่ง
แต่เรา ผู้เป็นพระเจ้า จะทรงตอบเขา  เราผู้เป็นพระเจ้าแห่งอิสราเอลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา

shkia_big

 

ภาพข้างบน จิตรกร แมนเดลคิดถึงพระคำของพระเจ้าตอนนี้แหละ

เราจะทำให้มีแม่น้ำบนเนินเขาที่แห้งแล้ง  ให้มีน้ำพุท่ามกลางหุบเขา  เราจะทำให้ถิ่นกันดารกลายเป็นบ่อน้ำ และที่แห้งแล้งกลายเป็นน้ำพุ

เราจะปลูกต้นสีดาร์ ต้นกระถินเทศ  ต้นน้ำมันเขียว และต้นมะกอกเทศ

เราจะให้มีต้นสนไซเปรสขึ้นมาในทะเลทราย และยังมีต้นโอ๊ค และต้นสนอีกมากมาย

ทุกคนจะได้เห็น และรู้ และจะค่อย ๆ พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นและเข้าใจไปพร้อมๆ กันว่า

พระหัตถ์ของพระเจ้าได้ทำสิ่งนี้  องค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลได้สร้างมันขึ้นมา

ความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อคนยากจนนั้น ปรากฏชัดในองค์พระเยซูคริสต์   ทุกคนเข้ามาหาพระเจ้าได้  ไม่ว่าเขาจะจนหรือรวย  เงื่อนไขไม่ได้อยู่ที่ฐานะ แต่อยู่ที่ว่า  ใครก็ตามที่มีความเชื่อในพระองค์  ก็จะเป็นที่พอพระทัยของพระองค์ 

และเมื่อมนุษย์ไม่อาจช่วยซึ่งกันและกัน… ยามนั้น เรายังมีพระเจ้า

และหากทุก ๆ คนมองให้ดี ย้อนไปในประวัติศาสตร์โลก  ก็จะเห็นว่า พระเจ้าทรงควบคุมทุกอย่าง และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พระองค์ก็ทรงบอกล่วงหน้าหลายอย่างมากมาย    ถ้าทุกคนพิจารณาให้ดี …จะเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าที่คอยช่วยไว้ 

หากพระองค์ไม่ได้ทรงทำให้  ป่านนี้ โลกไม่เหลือแล้ว… เพราะมนุษย์นี่แหละที่ประหัตประหารกันอย่างไร้ความปราณี  …  แต่จะมีวันหนึ่งที่พระเจ้าทรงจบมันด้วยพระองค์เอง

อิสยาห์ 41-3

อิสยาห์ 41:11-16

ดูเถิด คนที่พยายามต่อต้านเจ้า จะต้องอับอาย และสับสน คนที่ต่อสู้กับเจ้าจะกลายเป็นศูนย์ และจะพินาศไป

เจ้าจะตามหาคนที่สู้กับเจ้า แต่เจ้าจะหาเขาไม่พบ คนที่พยายามทำสงครามกับเจ้า จะกลายเป็นไม่เหลืออะไร

เพราะเรา พระเจ้าของเจ้า จะจับมือขวาของเจ้าว่า เรานี่แหละที่พูดกับเจ้าว่า “อย่ากลัวเลย เราจะเป็นผู้ที่ช่วยเจ้า”

เลื่อนนวดข้าว
เลื่อนนวดข้าว

อย่ากลัวไป เจ้าหนอนยาโคบ  คนแห่งอิสราเอล! เราคือผู้ที่ช่วยเจ้า  พระเจ้าตรัสดังนั้น … ผู้ไถ่ของเจ้าคือ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเป็นเลื่อนนวดข้าว ทั้งใหม่และคมกริบมีฟันเลื่อย

เจ้าจะบดขยี้ทั้งภูเขา และทำให้มันแหลกละเอียด และเจ้าจะทำให้เนินเขาเป็นเหมือนแกลบ

เจ้าจะซัดมัน และลมจะพัดมันไป  พายุจะทำให้มันกระจัดกระจาย กระเจิดกระเจิงไป และเจ้าจะยินดีในพระเจ้า

เจ้าจะถวายเกียรติแด่องค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

เมื่อพระเจ้าตรัสว่า หนอนยาโคบ  พระองค์ทรงบอกให้พวกเขารู้ว่า เขาอ่อนแอ และไม่ได้มีความสำคัญ  

พระผู้ไถ่องค์นี้ คือพระองค์ผู้ทรงมีความตั้งพระทัยที่จะทำให้อิสราเอลได้หลุดจากการเป็นเชลย  ให้เขากลับใจใหม่ และไม่พึ่งพารูปเคารพอีกต่อไป

ลมและพายุในที่นี มีความหมายถึงพลังอำนาจที่ทำลาย ซึ่งเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลก  พระเจ้าทรงจัดให้มันเกิดขึ้นเพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ  

 

อิสยาห์ 41-2

อิสยาห์ 41:5-10

แผ่นดินชายทะเลเห็นและกลัว  ที่สุดปลายแผ่นดินโลกก็ตัวสั่น  พวกเขามาใกล้ และมาจริง ๆ  ทุกคนต่างช่วยเพื่อนบ้านของตน และกล่าวกับพี่น้องของตนว่า “จงเข้มแข็ง!”

cyrus-the-great-2 (2)

ช่างฝีมือให้กำลังใจกับช่างทอง ผู้ที่ทำให้งานเรียบเนียนด้วยค้อนก็ให้กำลังใจกับคนที่ใช้ทั่ง  พูดถึงการที่บัดกรีออกมาว่า “ดีนะ”   แล้วเขาก็เอาตะปูไปตรึงไว้

เมื่อมีศัตรูเข้ามาโจมตี  ดูซิ  แทนที่พวกเขาจะมาหาพระเจ้า  กลับมาปลอบใจกันเอง และพากันสร้างรูปเคารพขึ้นอีก  

แต่เจ้า อิสราเอล  เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา  ยาโคบที่เราได้เลือก  ลูกหลานของอับราฮัมเพื่อนของเรา
เจ้า ผู้ที่เราได้นำมาจากที่สุดปลายแผ่นดินโลก  และเรียกมาจากดินแดนไกลโพ้น

พวกเขาเป็นคนรับใช้ของพระเจ้า… เมื่อเทียบกับชนชาติอื่นที่ไม่ใช่  พวกเขามีสิทธิพิเศษจริง ๆ   และพระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมผู้เป็นบิดาของชาวอิสราเอลว่า “เพื่อน” ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์นั้นแนบแน่นกว่าการเป็นคนรับใช้เสียอีก

ในยุคสุดท้าย พระเจ้าจะทรงเรียกคนของพระองค์กลับมาจากสถานที่ซึ่งพวกเขากระจัดกระจายกันไป…  

และเราพูดกับเจ้าว่า “เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราได้เลือกเจ้าและมิได้เขวี้ยงเจ้าทิ้งไป  อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า  อย่าท้อแท้ เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า  เราจะให้กำลังเจ้า ใช่ เราจะช่วยเจ้า  เราจะยกเจ้าขึ้นด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา”

พระเจ้าทรงให้กำลังใจพวกเขาขนาดนี้  พวกเขารู้ไหมนะว่า คนอื่น ๆ ยังไม่ได้อย่างนี้เลย 

5 เมษายน 2013 ราชานักเขียน

นี่คือสุภาษิตของซาโลมอน พระราชาแห่งอิสราเอล  

โอรสของดาวิด ทรงเขียนไว้…

เพื่อให้มีปัญญาและวินัย เข้าใจคำแห่งความรู้ 

ถอดความจากสุภาษิต 1:1-2

Daily2013_4_5

 

ราชาซาโลมอนเป็นโอรสที่ราชาดาวิดทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้ครองอิสราเอลต่อจากพระองค์

สิ่งที่ราชาซาโลมอนแตกต่างจากคนอื่น ๆ ก็คือ

พระเจ้าได้อวยพระพรให้ทรงปัญญา รอบรู้เหนือกษัตริย์องค์ใดในโลก

ไม่ว่าจะเป็นการปกครอง  วิศวกรรม  การพัฒนาเศรษฐกิจ  หรือแม้กระทั่งการสอน

พระเจ้าทรงอวยพรให้พระองค์เขียนบันทึกสิ่งต่าง ๆ ไว้มากมาย ในสดุดี  สุภาษิต ปัญญาจารย์

และเรื่องของความรัก ในบทเพลงของซาโลมอน

น่าเสียดาย ในวัยชราของพระองค์  ทรงเบี่ยงเบนไปจากสิ่งที่พระองค์เองสอนผู้อื่น

ทำให้เราเห็นว่า

ใครก็ตาม ที่ไม่ระวังตัว  มีโอกาสพลาดได้เสมอ