2 พงศาวดาร 6:34-39
“ยังมีอีกเรื่องที่ข้าทาสของพระองค์จะทูลขอ
อาจมีสักวันหนึ่งที่คนอิสราเอลต้องออกไปทำสงครามในที่ไกล ๆ พระองค์เจ้าข้า เมื่อพวกเขาอธิษฐานต่อพระองค์หันหน้ามาทางเมืองเยรูซาเล็มที่พระองค์ทรงเลือกไว้นี้ เมื่อพวกเขาหันตรงมาที่พระวิหารแห่งพระนามของพระองค์ ขอพระองค์ทรงเมตตา
ขอทรงสดับฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ และขอให้สิทธิแห่งความเป็นประชากรของพระองค์นั้น คงอยู่
เมื่อพวกเขาต้องไปเป็นเชลย ถูกปฏิบัติราวสัตว์ใช้งาน……
พระองค์เจ้าข้า มนุษย์ทำบาปเสมอ ดังนั้น หากเขาได้ทำบาปต่อพระองค์ และพระองค์ทรงกริ้ว พระองค์ทรงมอบเขาไว้ในมือของศัตรูกลายเป็นเชลย… ในแผ่นดินของศัตรู
ขอพระเจ้าทรงเมตตา หากเขาสำนึกผิดจากแผ่นดินไกล และกลับใจ
เมื่อพวกเขาสำนึกผิดและวิงวอนต่อพระองค์ จากแผ่นดินที่เขาเป็นเชลยนั้น
เมื่อพวกเขาทูลอ้อนวอนต่อพระองค์ว่า … ข้าทาสทั้งหลายได้ทำบาป ทำชั่วร้าย ทำการอธรรมต่อพระองค์….
เมื่อพวกเขากลับมาหาพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิต สิ้นสุดใจ
และอธิษฐานตรงมาที่แผ่นดินนี้ ตรงมาที่พระวิหารนี้
พระเจ้าข้า ขอทรงโปรดสดับคำอธิษฐานของพวกเขา จากสรวงสวรรค์ จากที่ประทับของพระองค์
ขอพระองค์โปรดให้สิทธิแห่งความเป็นประชากรของพระองค์นั้น ยังคงอยู่
ขอพระองค์เมตตา ประทานอภัยให้พวกเขา”
เมื่อราชาซาโลมอนอธิษฐานเผื่อประชากรของพระองค์แล้ว
พระองค์ทรงหันพระทัยมุ่งมายังที่ ๆ พระองค์ทรงอยู่พร้อมกับประชากรอีกเป็นจำนวนมาก
“ข้าแต่พระเจ้า
ขอพระเนตรทรงดู ขอพระกรรณทรงยินคำอธิษฐานแห่งพระวิหารนี้
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงลุกขึ้นเสด็จไปยังที่ประทับของพระองค์
ทั้งพระองค์ และหีบแห่งอำนาจสูงสุด
ขอให้ปุโรหิตสวมใส่ความรอด
ให้คนของพระองค์ ยินดีในความดีของพระองค์
พระเจ้าข้า ขออย่าทรงหันใบหน้าของผู้ทรงเจิมไปเสีย
ขอทรงระลึกถึงความรักมั่นคงที่ทรงมีต่อดาวิด ผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด!”
ราชาซาโลมอนได้อธิษฐานเพื่อประชากรของพระองค์ คนต่างด้าว และที่สุด พระองค์ทรงเชิญพระเจ้าเสด็จเข้ามาประทับในพระวิหาร คำอธิษฐานที่ได้บันทึกไว้นี้ ทำให้เรารู้ว่า เราควรอธิษฐานเผื่อคนอื่น และห่วงใยผู้อื่นอย่างไร
ราชาซาโลมอนผู้ได้เขียนสุภาษิต และปัญญาจารย์ ผู้ทรงสติปัญญา ไม่ได้อธิษฐานขอความมั่งคั่งเลย
พระองค์ทรงขอเพื่อคนทั้งหลายจะได้ทำสิ่งที่ถูกต้องกับพระเจ้า และยังอธิษฐานขอทางแก้ไขเมื่อพวกเขาทำผิดต่อพระองค์
คำอธิษฐานนี้….. ดีจริง ๆ